อาถรรพ์แชมป์โลก เยอรมัน-เมกซิโก 0-1

ก่อนแข่งก็พูดกันไปทั่วว่าปีนี้ทีมเราชวดแชมป์แน่ เพราะเจออาถรรพ์ถึง 2 เด้ง อาถรรพ์แรกที่ว่าแชมป์โลกจะตกรอบแรกก็เกิดขึ้นกับฝรั่งเศส อิตาลีและเสปน มีบราซิลที่รอดไปได้ ไหนจะอาถรรพ์คอนเฟดอีก แชมป์คอนเฟดไม่มีทีมไหนได้แชมป์โลก ถึงแฟนๆจะอ้อมแอ้มว่าไม่สน แต่มันก็ผลทางจิตวิทยามั่งแหละ แต่เราก็เคยล้างอาถรพ์จนได้แชมป์โลกที่บราซิลเมื่อ 4 ปีก่อนมาแล้ว เพราะงั้นเลิฟและนักเตะของเราจึงบอกว่าไม่กลัว อาถรรพ์มีไว้ให้ทำลาย

แต่เกมกับเมกซิโกเมื่อคืนนี้มันไม่เกี่ยวกับอาถรรพ์แต่อย่างใด เราแพ้เพราะเราเล่นโคตรห่วยยกทีม สื่อเยอรมันพร้อมใจกันตำหนิอย่างไม่ไว้หน้าว่า นักเตะของเราเล่นครึ่งแรกแบบไม่มีความสามัคคี ต่างคนต่างเล่น ไม่มีอารมณ์ ไม่มีไฟ ผิดพลาดอย่างไม่น่าอภัย ทำให้เมกซิโกสวนกลับครั้งแล้วครั้งเล่า เราไม่ใช้สมองแก้ไขข้อผิดพลาด กลับสะเปะสะปะไร้จุดหมาย ทำเหมือนเล่นให้มันจบๆเกมไปงั้นเอง ความเป็น"ทีม"ที่ใครๆกลัวเหลือแต่เงา ให้ทั่วโลกสมเพชเวทนา

ครึ่งหลังเราเล่นดีขึ้นแต่ก็มาอีหรอบเดิมคือจบเกมไม่ได้ ได้แต่ป้อไปป้อมายิ่งกว่าไก่แจ้ น่าเสียดายที่ยูเลียน บรันด์ ยิงในนาทีที่ 89 ไปโดนคานและกระดอนออก ไม่งั้นเราจะยังพอกู้หน้าได้นิดนึง แต่บางทีแพ้ก็ดีแล้ว จะได้ตื่นซะที หลับลึกมานานแล้ว นี่ปี 2018 แล้ว ทีมอื่นเขาพัฒนากันไปถึงไหนแล้ว แต่เรายังจมอยู่กับตำแหน่งแชมป์เก่าไม่เลิกไม่รา

หลังจบเกมเลิฟก็อ้อมแอ้มว่าเราเล่นไม่ดีอย่างที่หวัง นักเตะโทษกันเอง ลืมว่าตัวเองคือหนึ่งในทีมที่สอบตกยกชั้น มัทส์ว่า เราเล่นเหมือนตอนแข่งกับซาอุ คือสุดห่วยนั่นแหละ แต่เผอิญคราวนี้คู่แข่งเก่งกว่า ผลก็เลยเป็นอย่างที่เห็น ตัวเขากับบัวเต็งโดนทอดทิ้งโดกเดก ฯลฯ รอยส์ว่าที่เขาไม่ได้ลงเป็นตัวจริงเพราะเลิฟบอกว่าเรายังต้องเล่นอีกนาน เลยต้องถนอมตัวไว้ในเกมที่จำเป็น คุณพระ มองไปซะไกลแทนที่จะคิดสู้เกมต่อเกม ถึงจะอยู่ข้างเลิฟมาตลอด ครั้งนี้ยกความผิดให้ส่วนหนึ่ง

โครสเป็นอะไรไป จอมทัพของเราเล่นเหมือนคนป่วยหนัก ประสานงานกับเคดีราไม่ได้ เลอะเทอะเประเปรื้อนอย่างน่าเศร้า ได้ตำแหนงเยอะแยะเลยหมดไฟโดยสิ้นเชิง มุลเลอร์แก่เกินไปเรอะไงถึงมั่วซั่วน่าสงสาร ดรักซเลอร์หวังแจ้งเกิดแต่แทบไม่ได้ได้รับบอล ไม่มีใครกล้าส่งบอลให้น้องใหม่ มาร์วิน พลัทเทนฮาร์ด ทางฝั่งซ้าย มาร์วินเลยไม่รู้จะเอาลูกบอลที่ไหนส่งไปให้ดรักซเลอร์ คิมมิคก็ยังตะบี้ตะบันนึกว่าตัวเองเป็นกองหน้า อยากจะยิงซะจังแต่มันไม่ไได้ประตูซะที แวร์นเนอร์ น้องใหม่ ยังไม่เข้าที่เข้าทาง โอซิลก็ดีมั่งแย่มั่งและยังไม่ชอบที่จะปะทะกับใครเหมือนเคย ยังดีที่นอยเออร์เล่นดีเหมือนไม่เคยเจ็บมานาน แต่นอยเออร์เองก็เริ่มล้าเเหมือนกัน โอย อธิบายไม่ไหว สรุปสั้นๆว่า เมกซิโกทำการบ้านมาดี ไม่กลัวตำแหน่งแชมป์โลกและบุกเต็มที่ สมควรแล้วที่ชนะไป เป็นประวัติศาสตร์ที่ชนะเราเป็นครั้งแรกในบอลโลก

การแพ้ของเราครั้งนี้ก็เป็นประวัติศาสตร์เหมือนกัน คือแพ้เกมแรกในบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี (ปกติเราจะมีอาถรรพ์แพ้ในเกมที่ 2) จริงๆมันก็ไม่ได้เหลือเชื่อ เพราะมันมีเค้ามานานแล้วแต่เราแก้ไขไม่ทัน ครั้งนี้เลิฟรวมนักเตะให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวไม่ได้ นักเตะเคืองสองหนุ่มเติร์ก โอซิลและกุนโดกันมากที่ไปถ่ายรูปเชิงช่วยประธานาธิบดีจอมเผด็จการตุรกีหาเสียงเลือกตั้ง ปากก็บอกไม่เป็นไร แต่ในคำสัมภาษณ์มันมีคำว่าแต่ให้คนฟังจับสังเกตุได้ ไหนจะแฟนบอลที่จนแม้นาทีก่อนแข่งก็ไม่ยอมให้อภัย การรวมใจของนักเตะและแฟนบอลยังทำไม่ได้ แฟนไมล์หรือ public viewing ที่เคยมีทั่วประเทศมีแค่ที่เบอร์ลินหรือบางแห่งแบบไม่เต็มที่ มันกระทบถึงนักเตะทุกคน มันทำให้ความเป็นทีมขาดสะบั้น

เราต้องแข่งชี้ตายกับสวีเดนเสาร์นี้ เหมือนถูกเชือกคล้องคอไว้แล้ว เหลือแค่จะโดนถีบเก้าอี้รึเปล่า เราจะตกรอบหรือรอดชีวิต คำตอบอยู่ในสายลม

ในฐานะแฟนพันธ์แท้ เคืองมากที่เราไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวเหมือนเคย แพ้ก็ให้อภัยมาตลอด แต่แพ้แบบไม่สู้คือสิ่งที่ทำใจลำบาก แต่ยังไงก็ขอเอาใจช่วยให้เราชนะทั้งสวีเดนและเกาหลีใต้ละกัน

รึว่าอาถรรพ์แชมป์กับอาถรรพ์คอนเฟดมันมีจริง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่