ตอนอายุ11ปี เรากำลังทำอะไรอยู่? จำได้ไหมครับ?

บางคนอาจจะกำลังตั้งใจเรียน
บางคนก็กำลังสนุกกับเพื่อนที่โรงเรียน
บางคนก็เตรียมตัวสอบเข้าโรงเรียนมัธยมที่ตนสนใจ

แต่ตอนอายุ11ปีของเด็กผู้หญิงชั้นประถม6คนหนึ่ง จากจังหวัดไอจิ เริ่มออกเดินทางตามความฝัน

ด้วยความที่เธอชื่นชอบวงไอดอลAKB48อยู่แล้ว ดังนั้นพอAKB48มีการประกาศจัดตั้งวงน้องสาวขึ้นเป็นครั้งแรกที่เขตซากาเอะ เมืองนาโงย่า จังหวัดไอจิ ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของเธอ วงนั้นคือ SKE48

เธอก็ไม่รอช้าที่จะไปสมัครเข้าร่วมการออดิชั่นทันที

ในวันออดิชั่น ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เพลงที่เธอเตรียมซ้อมไป ไม่มีอยู่ใน Backing Track list ของทีมงาน เพราะเพลงนั้นใหม่เกินไป

ทีมงานบอกให้เธอเลือกเพลงใหม่ ให้เธอเลือกเพลงที่อยู่ในลิสต์ แล้วก็ย้ายเธอให้ไปออดิชั่นเป็นลำดับสุดท้าย เพื่อให้เธอมีเวลาเตรียมตัว

แม้จะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยเพลงที่ไม่ได้ซ้อมมาก่อน แต่เธอก็ทำออกมาได้ดี

แล้วเธอก็ได้รับเลือก

เป็นคนแรกของ48group ที่ได้เป็นเมมเบอร์ตั้งแต่อายุ11ปี

อากิพีผู้ก่อตั้ง48group ถึงกับกล่าวไว้ในวันที่เธอมาออดิชั่นว่า จูรินะคือเพชรเม็ดงามที่หาตัวจับได้ยาก 10ปีจะหาได้ซักคน

หลังจากการออดิชั่นของ SKE48 ผ่านพ้นไปได้ไม่ถึง 2 เดือน ก็มีการประกาศว่า จะมีการทำซิงเกิ้ลเพลงของAKB48ที่ให้วงน้องสาวอย่างSKE48เข้ามามีส่วนร่วมด้วย

นี่เป็นครั้งแรกที่ซิงเกิ้ลของAKB48จะไม่ได้มีแต่เมมเบอร์ของAKB48

ด้วยความที่ตอนนั้นเหล่าเมมเบอร์ของSKE48เพิ่งเริ่มต้นฝึกฝนกับวงมาได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคนจากวงน้องสาวสามารถเข้ามาจับจองพื้นที่ตัวจริงในเพลงได้ ถ้าเทียบกับเมมเบอร์ของAKB48ที่เดบิวต์มาแล้วกว่า 2 ปี มีผลงานมาแล้วกว่า 10 ซิงเกิ้ล

แต่ผลจากการคัดเลือกในครั้งนั้น กลับมีเด็กผู้หญิงอายุเพียง11ปี จากSKE48 ติดเข้าไปเป็น1ในเซมบัตสึของเพลงนี้ได้

และได้เป็นถึงตำแหน่งเซ็นเตอร์

ไม่รู้ว่าเป็นโชคของเธอที่คว้าความฝันได้เร็วกว่าที่คิด หรือเป็นคราวเคราะห์ที่ฝันนั้น..อาจจะมาเร็วเกินไป..

การที่เด็กผู้หญิงหน้าใหม่ ซ้ำยังอายุน้อยที่สุดใน48groupอย่างเธอได้เป็นเซ็นเตอร์ ทั้งๆที่รุ่นพี่ในAKB48หลายคนไม่เคยได้เป็น ทำให้เกิดบรรยากาศในการทำงานที่กดดันยิ่ง

ไม่ว่าใครก็เกิดคำถามว่า เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงได้มาอยู่ตรงนี้?

เธอต้องทำงานมากยิ่งกว่าใคร เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ต้องซ้อมต่อ แม้จะเป็นช่วงเวลาพัก ต้องฝึกหนัก แม้จะต้องทำเพียงคนเดียว

และด้วยผลของความพยายามอย่างหนัก เธอก็ผ่านกำแพงนั้นมาได้ เมมเบอร์ในวงก็ค่อยๆยอมรับเธอในที่สุด

แต่อุปสรรคของเธอไม่หมดเพียงเท่านั้น

ไม่รู้ว่าเป็นโชคของเธอที่ได้เป็นเมมเบอร์คนเดียวที่ได้ขึ้นปกของแผ่นซีดีซิงเกิ้ล หรือเป็นคราวเคราะห์ที่ไม่เคยมีปกซิงเกิ้ลใดของAKB48ที่มีรูปเมมเบอร์เพียงคนเดียวบนปกมาก่อน..

นั่นทำให้เกิดแรงสะท้อนกลับอย่างรุนแรงจากเหล่าแฟนคลับของAKB48

ไม่ว่าใครก็เกิดคำถามว่า เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงได้มาอยู่ตรงนี้?

โอชิใครใครก็รัก คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าบริษัทให้เด็กที่ไหนก็ไม่รู้ มาเป็นเซ็นเตอร์ของเพลง ซ้ำยังให้ขึ้นปกของแผ่นซีดีแบบเดี่ยว แทนที่คนๆนั้น ควรจะเป็นไอดอลที่เราเชียร์

ผลของความเด่นที่ออกจะเกินตัวในครั้งนี้ ทำให้ในงานจับมือครั้งแรกของเธอ มีแอนตี้แฟนจำนวนมากที่ไม่พอใจเธอ และแสดงความไม่พอใจนั้นออกมาอย่างรุนแรง

มีแอนตี้แฟนของเธอกลุ่มหนึ่ง เข้าแถวเพื่อไปจับมือเธอ แต่ในขณะที่เธอยื่นมือออกมานั้น มือของเธอกลับโดนปัดทิ้งอย่างไม่ไยดี แล้วยังถูกด่าทอด้วยคำพูดในทำนองที่แสดงถึงความเกลียดชังในตัวเธอ

เป็นอยู่อย่างนี้ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า รอบแล้ว รอบเล่า

แต่ในจุดที่ร้ายที่สุดก็ยังมีสิ่งที่ดีเกิดขึ้น

มีแฟนคลับอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ตอนแรกก็ไม่เคยรู้จักหรือชื่นชอบเธอมาก่อน พวกเขามางานนี้เพื่อจับมือเมมเบอร์คนอื่น

แต่หลังจากเห็นภาพที่เลวร้ายเกิดจะรับไหวขึ้นกับเธอ พวกเขาตัดสินใจใช้บัตรจับมือที่ตัวเองเตรียมมา เพื่อไปให้กำลังใจเธอแทนที่จะไปจับมือโอชิเมมของตัวเอง

พวกเขาเข้าไปให้กำลังใจเธอ บอกกับเธอว่าให้สู้ต่อไป อย่ายอมแพ้ ให้รู้ไว้ว่าเธอไม่ได้ตัวคนเดียว ให้รู้ไว้ว่าเธอไม่ได้มีแต่คนเกลียด

น้ำตารื้นขอบตา...เธอร้องไห้

ภายหลังเธอให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า

ในวันนั้น ถึงจะมีแอนตี้แฟนจำนวนมาก เข้ามาทำกริยาเกลียดชังใส่เธอ แม้เธอจะเสียใจแค่ไหน แต่เธอจะไม่ร้องไห้ เธอจะไม่เสียน้ำตาให้กับเรื่องเหล่านั้นเป็นอันขาด

แต่น้ำตาที่ไหลออกมาในวันนั้น เป็นเพราะความตื้นตัน ตื้นตันที่รู้ว่ายังมีคนที่รักเธอ และคอยสนับสนุนเธออยู่ และเธอก็จะสู้เพื่อแฟนคลับเหล่านั้น

เพลงแห่งเรื่องราวในวันนั้นก็คือ เพลง Oogoe Diamond หรือในเวอร์ชั่นภาษาไทยของBNK48คือเพลง ก็ชอบให้รู้ว่าชอบ

และเด็กผู้หญิงคนนั้นชื่อ

มัตสึอิ จูรินะ