ไม่ยุติธรรมต่อชาวเชียงใหม่ ประกาศ! ให้เวลา 10 วัน ย้าย-ยุติ 'บ้านพักตุลาการ'
https://www.matichon.co.th/region/news_1002302

แกนนำเครือข่ายประกาศให้เวลา 10 วัน ย้าย-ยุติ ‘บ้านพักตุลาการ’ วงเสวนานัดแรก ชาว ต.ดอนแก้ว-แม่ริมชี้ทำลายแหล่งอาหาร-ป่าต้นน้ำ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 มิถุนายน ภายในวิหารวัดพระนอนขอนม่วง ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ นำโดยนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่าย นายชัชวาล ทองดีเลิศ นายบัณรส บัวคลี่ และ น.ส.ลักขณา ศรีหงส์ ร่วมเปิดเวทีเสวนาเรื่อง “บ้านป่าแหว่ง” กรณีการก่อสร้างโครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ ต.ดอนแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการดังกล่าวได้ซักถามและแสดงความคิดเห็นในฐานะเจ้าของพื้นที่

นายธีระศักดิ์กล่าวว่า ต้องการมาบอกกล่าวให้ประชาชนได้รับทราบเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมด และชาวบ้านอยากทราบข้อเท็จจริงหลังการเจรจาที่ผ่านมาว่า ภาคประชาชนได้ยื่นข้อเสนอไว้ว่าจะต้องไม่มีผู้อยู่อาศัยและยุติสัญญาการก่อสร้าง แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าเงื่อนไขดังกล่าวเริ่มไม่จริงจึงสัญจรมาพบประชาชนเพื่อบอกกล่าวปัญหาที่กำลังจะเกิดและถือโอกาสระดมมวลชนเพื่อร่วมเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เป็นการจุดประกายครั้งแรกไปตามอำเภอต่างๆ

“สิ่งที่เกิดถือว่าไม่ยุติธรรมต่อชาวเชียงใหม่ ที่เรียกว่า ขึดหลวง หรือผิดจารีตประเพณีที่ดีงามมาแต่โบราณ วันนี้จึงมาบอกว่าประชาชนให้เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการออกไปเคลื่อนไหวร่วมแรงร่วมใจกันครั้งใหญ่ ส่วนบ่ายวันที่ 18 มิถุนายน เราจะไปหน้าศาลอุทธรณ์เพื่อปักป้าย No man’s Land เพราะถือว่าหมดเวลาของบ้านป่าแหว่งแล้ว และเช้าวันที่ 19 มิถุนายนนี้ เราจะเข้าไปยื่นหนังสือต่อประธานศาลอุทธรณ์ขอให้ยุติสัญญาการก่อสร้าง และต้องไม่มีคนอยู่อาศัยในอาคารที่รุกล้ำเขตป่าดั้งเดิม และส่งพื้นที่คืนธนารักษ์โดยเร็ว เราจะให้เวลา 10 วัน หากไม่มีคำตอบจะรวมตัวเคลื่อนไหวใหญ่อย่างแน่นอน”

นายธีระศักดิ์กล่าวอีกว่า ทราบว่าจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการในส่วนของสิ่งปลูกสร้างและฟื้นฟูป่าให้กลับมาสมบูรณ์ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ซึ่งก็ถือว่าเร็วขึ้นหลังการเข้าเก็บข้อมูลของอนุกรรมการภาครัฐและนักวิชาการบางส่วน เพื่อสรุปแนวทางเสนอแนะต่อที่ประชุมคณะกรรมการระดับจังหวัดและประเทศต่อไป

“ในแง่ของการเก็บข้อมูลสัปดาห์นี้เราพบการตัดต้นไม้เพิ่มเพื่อทำแนวรั้ว นักวิชาการระบุว่าที่ผ่านมาพบรอยเท้าหมูป่า แมวป่า และเห็ดจำนวนมากในพื้นที่ แต่ปัจจุบันพื้นที่ถูกถากยาวกว่า 10 เมตร กองขยะกองอยู่ทั้งในและนอกโครงการก่อสร้าง และที่น่าแปลกใจในจำนวนบ้านประธานศาลหนึ่งในนั้นคือ ประธานศาลคดีสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่ทราบว่าหากท่านเข้าพักอาศัยจะตัดสินคดีอย่างไร กรณีบ้านเดี่ยว 45 หลัง พื้นที่ 45 ไร่ ซึ่งใหญ่โตและหรูหราเกินไปนั้น หลังใหญ่สุดของท่านประธานศาลราคา 30 ล้าน หากเทียบกับบ้านจัดสรรปกติจะปลูกได้ถึง 235 หลัง แสดงถึงการไม่มีหลักธรรมาจริยาตามที่ ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ ที่เคยสอนไว้ว่านักกฎหมายต้องไม่ทำตัวเป็นโจรเสียเอง” นายธีระศักดิ์กล่าว

ในขณะที่นายชัชวาลกล่าวว่า ดอยสุเทพคือสัญลักษณ์ของเชียงใหม่ การออกมาเคลื่อนไหวในวันนี้คือการสู้เพื่อจิตวิญญาณที่มีคุณค่ามหาศาล เพราะการตัดสันปันน้ำออกไปเท่ากับการทำลายจารีตประเพณี จะก่อให้เกิดความวินาศต่อผู้เข้าไปอยู่อาศัย และจะส่งผลกระทบต่อชาวเชียงใหม่ทั้งปวง ไม่ว่าจะน้ำท่วมและดินถล่ม ชาวเชียงใหม่จึงต้องสู้จนกว่าจะรื้อบ้านพักตุลาการออกไป แต่จะเป็นการต่อสู้ด้วยเหตุและผลไม่ทำผิดกฎหมาย

หลังจากนั้นตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น โดย พ.ท.ปิยรัฐ ศรีสวัสดิ์ จากบ้านพักสวัสดิการทหารบก กล่าวว่า อยู่กับคุณตาคุณยายที่เป็นชาวเชียงใหม่จึงเห็นดอยสุเทพมาตั้งแต่เด็ก เคยฝันอยากมีบ้านที่อยู่ใกล้ๆ ธรรมชาติดอยสุเทพ จนกระทั่งได้มาอยู่ในหมู่บ้านสวัสดิการทหารบกในลักษณะเช่ารายปี ไม่ใช่เจ้าของที่ดินแต่เพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของอะไรอย่างแท้จริง และเพราะอยู่ใกล้ที่สุดจึงเห็นการก่อสร้างโครงการนี้มาตั้งแต่เริ่ม รู้สึกเสียใจและเกิดคำถามในใจตลอดมาว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นกับสภาพป่า ยิ่งนานวันก็ยิ่งถากและไถสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จึงรู้สึกดีใจที่มีการเคลื่อนไหวต่อต้าน

“ผมเห็นด้วยตาตนเองทุกวันแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะศาลแถลงว่าทุกอย่างถูกกฎหมายและขู่จะฟ้อง แต่ไม่เหมาะสมทั้งจากภาพถ่ายและด้วยตา เรียกว่าไม่ต้องชี้แจงแต่ภาพชัดเจนมาก ในฐานะคนหมู่ 4 บ้านดอนแก้ว ขอขอบคุณเครือข่ายที่ออกมาคัดค้านและเอาใจช่วยที่ทำสิ่งที่ถูกต้อง และจะประสบความสำเร็จแน่นอน” พ.ท.ปิยรัฐกล่าว

ส่วน ดร.ธรรมพร ตันตรา นักวิชาการมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ชาวบ้านหมู่ 4 ต.ดอนแก้ว กล่าวว่า เกิดและโตในพื้นที่ เคยเดินตามพ่อแม่ไปหาเห็ดบริเวณด้านบนสุดที่เรียกว่า หัวเรือ เพราะมีหินที่มีรูปร่างคล้ายเรือ จุดนี้เป็นตาน้ำหรือต้นน้ำที่ไหลลงมาหล่อเลี้ยงชีวิตประชาชน วันนี้เกิดคำถามคาใจว่าเกิดการก่อสร้างขนาดใหญ่ได้อย่างไร ทำอะไรกันนักหนา ในที่สุดก็ทราบว่ามีการก่อสร้างบ้านพักตุลาการ แสดงว่ากฎหมายมีไว้เพื่อเอื้อคนรวย ส่วนคนหาเห็ดต้องติดคุกเช่นนั้นหรือ เพราะทุกวันนี้ชาวบ้านเข้าไปหาของป่าตามวิถีไม่ได้แล้ว

ในขณะที่นายตา เรือนทอง อายุ 83 ปี ชาวบ้านดอนแก้วบอกว่า เป็นห่วงสภาพป่าธรรมชาติที่จะต้องถูกทำลาย บริเวณนั้นเคยถูกเรียกว่า สันต้นดู่ เพราะเป็นสันปันน้ำ เป็นป่าต้นน้ำของเมือง แหล่งอาหารธรรมชาติของชาวบ้านในพื้นที่ นอกจากน้ำดี ยังมีป่า มีเห็ดนานาชนิดที่หายากทั้งเห็ดลม เห็ดแดง เห็ดไข่หิน และดอกอาว แต่การก่อสร้างจะทำลายธรรมชาตินับพันปี ซึ่งไม่เคยมีใครกล้ารุกล้ำ

---

'ษัษฐรัมย์' ชี้ พรรคการเมืองยุคใหม่ไร้วงใน-นอก เปรียบ 'บก.ลายจุด' เหมือนนกที่บินสุดกรง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1002481

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 มิถุนายน ที่ร้านบุหลันดั้นเมฆ ตรงข้ามวัดช่องนนทรี ถนนพระราม 3 ภายในร้านจัดงานเปิดตัวหนังสือ “ปรัชญาเกรียน สมบัติ บุญงามอนงค์” ผลงานโดย นายธิติ มีแต้ม นักข่าวผู้ติดตามความเคลื่อนไหวของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ภายในงานยังมีนายกิตติชัย งามชัยพิสิฐ ตัวแทนพรรคสามัญชน นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี ตัวแทนพรรคอนาคตใหม่ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ตัวแทนพรรคเกรียน ร่วมเสวนาเกี่ยวกับแนวคิดพรรคการเมืองใหม่ด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย และมีผู้สนใจร่วมงานจำนวนมาก

นายษัษฐรัมย์กล่าวว่า ย้อนไปตั้งแต่การทำรัฐประหารปี พ.ศ.2549 ซึ่งตนยังเป็นนักศึกษาอยู่ และไม่ได้มี บก.ลายจุด เป็นแรงบันดาลใจหรืออย่างไร แต่จากวันนั้นเป็นต้นมา ตนเห็นบางสิ่งบางอย่างจากตัว บก.ลายจุด เห็นความเป็นนักต่อสู้ทางการเมือง ที่เปรียบเสมือน บก.ลายจุดเป็นนก ซึ่งนกทุกตัวที่เกิดขึ้นในกรง มักคิดว่านกที่บินได้นั้นป่วย เปรียบเทียบกับการที่ บก.ลายจุดเป็นนกที่อยู่ในกรง พยายามบินจนสุดกรง แล้วหันมาบอกนกในกรงเดียวกันว่า การอยู่ในกรงเป็นสิ่งผิดปกติ

“มีคนถามผมว่า ต้องทำอย่างไรถึงจะเข้ามาเป็นวงในของพรรคอนาคตใหม่ได้ ซึ่งเป็นการยึดติดของการตั้งพรรคการเมืองแบบเก่า เพราะอุดมคติของพรรคการเมืองยุคใหม่ไม่มีวงนอกวงใน และไม่ใช่พรรคการเมืองของใครเพียงคนเดียว หากแต่เป็นพรรคของทุกคน พร้อมทั้งสามารถทำให้คนทุกคนผลักดันนโยบายของรัฐไปพร้อมกัน และทำไมถึงไม่ควรเลือกพรรคเกรียนนั้น ผมเปรียบเทียบพรรคเกรียนเป็นนกตัวแรกที่กล้าบินแหวกกรงนี้ออกไป แต่เราไม่ได้ต้องการนกเพียงตัวเดียว เราต้องการนกทั้งฝูงที่กล้าบินออกจากกรงนี้ และชี้ให้เห็นว่า การบินได้เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ การมีส่วนร่วมทางการเมืองก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์เช่นเดียวกัน” นายษัษฐรัมย์กล่าว