พรุ่งนี้ชีวิตจะเปลี่ยนเป็นเช่นไร...

กระทู้สนทนา
เลื่อนอ่านข้อความในฟีดข่าวในเฟสบุ๊ค เจอแคปชั่นของเพื่อนที่เคยสนิทมากๆ คนหนึ่ง บอกว่า "ปาฎิหาริย์ไม่มีจริง..." พร้อมด้วยสีพื้นด้านหลังเป็นสีเทาหม่น มีคอมเม้นท์ให้กำลังใจมากมาย และเพื่อนก็ตอบขอบคุณด้วยอารมณ์ลั้ลลามาก ไล่อ่านไปจนเจอเม้นท์ที่เพื่อนตอบไขความข้องใจ "เพื่อนเป๊นมะเร็ง" ช็อคไปชั่วขณะ แล้วก็เกิดคำถามมากมายปะดังเข้ามาในหัว  เพื่อนเป็นได้ยังไง เป็นที่ไหน ทำไมรู้ว่าเป็น อยากโทรไปหาถามไถ่ แต่จากเม้นท์ตอบคนอื่นของเพื่อน ทำให้ไม่รู้สึก "ทำตัวไม่ถูก" จะให้กำลังใจ, ปลอบใจ หรืออย่างไรดี ก็เลยเม้นท์ไปว่า "สู้ๆ นะที่รัก ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว" เพื่อนตอบมาอย่างไว บอกว่า "แน่นอนจ้าดาร์ลิ้ง สู้ๆ อยู่แล้ว" บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง เป็นห่วง หน่วง งง ทำไมมะเร็งมันช่างอยู่รอบตัวเสียนี่กระไร ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนจริงๆ บนโลกใบนี้

ก่อนหน้านี้ 4-5 ปี มีน้องสนิทมากๆ คนหนึ่ง  ส่งข้อความมาทางไลน์ เชิญเข้ากลุ่มคนสนิทในชีวิตน้องและส่งข้อความมาว่า "วันนี้ตอนเช้า หนูต้องผ่าสมองด่วน" น้องอยู่คอนโดคนเดียว แต่มีเพื่อนร่วมคอนโดที่สนิทหลายๆ คน ตอนที่น้องมีอาการปวดหัวจนเดินแทบไม่ได้ แทบจะคลานไปชั้นล่างให้ รปภ เรียกแท็กซี่ไปโรงพยาบาลให้ พอถึงโรงพยาบาลก็บอกหมอว่า "ไม่ไหวแล้ว ปวดหัว อาเจียน อยากให้หมอเอ็กซ์เรย์สมอง" พอผลออกมา หมอบอกว่าต้องผ่าตัดสมองด่วน เพราะเส้นเลือดในสมองแตก มารู้ทีหลังว่าเป็นความผิดปกติของเส้นเลือดในสมองตั้งแต่เกิด น้องได้ทำการรักษาโดยการอุดรอยแตกของเส้นเลือดในสมอง และต้องอยู่ในห้อง ICU หมอบอกว่าอาจมีความเสี่ยงเดินไม่ได้ หรือ ตาบอด โชคดีที่น้องปลอดภัยดี กลับมาพักฟื้นก่อนจะกลับมาทำงานได้เหมือนเดิม แต่ในปีต่อมาก็ต้องมาทำการรักษาแบบเดิมอีก จนล่าสุดที่น้องต้องทำการผ่าตัดเปิดสมอง ผ่าตัดเส้นเลือดในสมองเป็นการปิดเคส  ก็ยังคงมีความเสี่ยงเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา หลังจากผ่าตัดน้องกำลังใจดีมาก และโชคดีที่ไม่มีอาการต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคกับการทำงาน หมอบอกว่าหายดีแล้ว ไปใช้ชีวิตได้ ยกเว้นการขับขี่ทุกชนิด เพราะการมองเห็นไม่เต็มร้อย ร่วมยินดีกับข่าวดีของน้อง หลังจากรักษามา 4 ปี

แต่พอได้รับข่าวดีของน้องไม่นาน ก็ได้รับข่าวร้ายของเพื่อนสนิทอีกคน ทำให้รู้สึกว่า โรคภัยต่างๆ มันช่างใกล้ตัว บางครั้งเป็นมาแต่เกิดแต่เราไม่รู้ตัว บางครั้งก็เพิ่งเกิดขึ้นมาจากการใช้ชีวิต หรือเหตุผลที่อาจคาดเดาได้ยาก แต่เมื่อสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมาแล้ว ก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำใจยอมรับมัน และใช้ชีวิตอยู่กับมันให้ได้ อยู่การเลือกว่าจะใช้เวลาในช่วงนั้นจมจ่อมกับความเศร้า หรือลุกขึ้นยอมรับและต่อสู้อย่างกล้าหาญ

วันถัดมา หลังตั้งสติได้ โทรหาเพื่อนสนิท ได้พูดคุยกัน น้ำเสียงยังสดใสร่าเริง เพื่อนเล่าอาการและลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ให้ฟังอย่างรีแลกซ์ คุยกันด้วยเสียงหัวเราะ แอบบอกเพื่อนว่า "ตอนแรกอ่านเม้นท์แล้วทำตัวไม่ถูก ดูลั้ลลามากๆ" เพื่อนบอกว่ามีจิตตกตอนแรก แอบร้องไห้นิดหน่อย เพราะทุกอย่างผิดแผน แล้วก็กลัวแม่จะเป็นห่วง ต่อมาก็ตั้งสติและวางแผนรอรับการรักษา ได้แต่ให้กำลังใจและเล่าเคสต่างๆ ที่หายขาดจากกำลังใจที่ดี บอกเพื่อนว่าจริงๆ แล้วตัวเราเองก็อาจจะมีมะเร็งในตัวเหมือนกัน แต่ยังไม่รู้ตัว สิ่งที่พูดออกไปคือสิ่งที่คิดจริงๆ เพื่อนบอกว่า ถ้าเริ่มกระบวนการรักษาจริงๆ อาจจะไม่ลั้ลลาแบบนี้เพราะผลข้างเคียงของการรักษา แต่ไม่รู้จะกังวลล่วงหน้าไปทำไม ดีใจที่เพื่อนกำลังใจดี และบอกเพื่อนว่าพร้อมเป็นกำลังใจให้เสมอ

คืนนี้นอนไม่หลับ เกิดคำถามเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในชีวิต อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ ไม่ว่ากับใครวัยไหน สิ่งที่ทำได้คือ ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ดูแลคนที่รัก และใช้ชีวิตในแบบที่อยากเป็น โดยไม่เดือดร้อนใคร เพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ ชีวิตจะเปลี่ยนเป็นเช่นไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่