สวัสดีครับ
ก่อนหน้านี้ผมเคยได้รีวิว รถ Mazda2 Diesel มาก่อนหน้านี้ ตั้งแต่กลางปี 2016 ตอนรับรถมาใหม่ๆ เรื่องเกี่ยวกับอัตราสิ้นเปลืองในระยะแรกๆ ที่ใช้รถ
เก็บข้อมูลการเตมน้ำมัน เก็บไปเก็บมา....จนถึงปัจจุบัน
และรถขาดประกันแล้วครับ เพราะพึ่งจะวิ่งครบแสนกิโลเมตรไปไม่กี่วันนี้เอง เป็นระยะเวลา
2 ปี กับอีก เกือบๆ เดือน

ไหนๆ ก็เก็บข้อมูลมาแล้ว ผมก็เลยจะมาแชร์อัตราสิ้นเปลืองกันอีกที ในระยะ 100,288 km.  
สำหรับตัวผมเอง ผมก็อยากจะรู้ว่า เมื่อใช้รถไปแล้วการสึกหรอของเครื่องยนต์ที่เสื่อมไปตามระยะทางการใช้งาน และกาลเวลา
จะทำให้อัตราสิ้นเปลืองมันเปลื่ยนแปลงจากตอนใช้รถใหม่ๆ หรือไม่ อย่างไร นะครับ

ไปดูกันเลยนะครับ

ภาพการเก็บข้อมูลของผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้




สำหรับรายละเอียดการคำนวณ ยังคงเหมือนเดิม ผมใช้ Excel ตัวเดิมต่อเนื่องกันมา
https://ppantip.com/topic/35974937

อัตราสิ้นเปลืองต่อถัง คือ ระยะทางที่วิ่งได้ หารด้วย จำนวนลิตรน้ำมันที่เติม ในครั้งนั้น หน่วย km/L
อัตรสิ้นเปลืองเฉลี่ยสะสม คือ ระยทางที่วิ่งได้ ตั้งแต่ซื้อรถมาจนถึงปัจจุบัน หารด้วย น้ำมันทั้งหมดที่เติมตั้งแต่ซื้อรถมา หน่วย km/L
สิ้นเปลืองเฉลี่ยสะสม(ช่องสุดท้าย) คือ เงินค่าน้ำมันที่จ่ายไปทั้งหมด ตั้งแต่ซื้อรถมา จนถึงปัจจุบัน หารด้วย ระยะทางที่วิ่งได้ทั้งหมด หน่วย บาท/กิโลเมตร

สรุป รถวิ่งมาทั้งหมด 100,288 กิโลเมตร อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่  20.85 กิโลเมตร/ลิตร และ คิดเป็นเงินได้ 1.28  บาท/กิโลเมตร

ส่วนใหญ่ผมจะเติมดีเซลธรรมดา นะครับ  น้ำมันดีเซลพรีเมี่ยม เติมไปทั้งหมดแค่ 12 ครั้ง

ผมใช้รถส่วนใหญ่ วิ่ง กทม. เหนือ อีสาน นะครับ  วิ่งสลับๆ ไปเรื่อยๆ แบบนั้น
โดยปกตินิสัยการขับรถของผม ก็ขับแบบคนทั่วๆไปนะครับ ไม่ซิ่งมาก ไม่แรงมาก
หากขับ ต่างจังหวัด ผมก็จะขับราวๆ 105-120 km/h หากทางสะดวก
แต่บางที ขับกลางคืนเส้นทางระหว่างจังหวัด ถนนกว้างๆ 4-6 เลน โล่งๆ ก็มี 130-140 km/h บ้าง เป็นช่วงๆ แต่ไม่บ่อย ครับ


มีค่าตัวเลข จากอัตราสิ้นเปลืองต่อถัง น่าสนใจดังนี้ครับ
-ค่าตัวเลขที่เห็น ในช่องสี่เหลี่ยมสีชมพู 17.6  km/L  เป็นค่าเฉลี่ยที่น้อยที่สุด คือผมใช้รถใน กทม. อย่างเดียว และไปในพื้นที่ที่รถติดหนักๆ ในช่วงๆ นั้นนะครับ
-ค่าตัวเลขที่เห็น ในช่องสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน 26.55 km/L เป็นค่าเฉลี่ยที่มากที่สุด คือ ครั้งที่เติมน้ำมันครั้งนั้น หัวจ่ายของปั๊มคาลเท็กซ์ มีปัญหาเกี่ยวกับ หัวจ่ายมันตัดบ่อยมากๆ ต้องกดหัวจ่ายบ่อยมากๆ มีความยากลำบากในการเติมครั้งนั้น มันก็เลย อาจไม่เต็มถังจริงๆ ค่าเฉลี่ยมันก็เลยได้มากเกินกว่าปกติครับ
-ค่าตัวเลขที่เห็น ในช่องสีฟ้า 23.95 km/L คือ ผมใช้รถที่ ต่างจังหวัด ในอำเภอเล็กๆ วิ่งในหมู่บ้าน ความเร็วที่ใช้ก็ 25-50 km/L กดคันเร่งเบาๆ ค่อยๆ วิ่งแบบนี้จนหมดถังครับ


ส่วนใหญ่ หากค่าเฉลี่ยนต่ำกว่า 20 km/L คือ ผมวิ่งใน กทม. เยอะหน่อยครับ
แต่หากอยู่ ราวๆ 22 km/L  คือ ผมวิ่งระหว่างจังหวัดย่านภาคกลาง หรือช่วง ลงใต้ ย่านๆ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นะครับ


สำหรับแถบเหลือง มี 2 แถบ คือ เป็นการเติมน้ำมัน 2 ครั้ง แต่ผมรวมเป็นรายการเดียว คือ บางทีอยู่ ต่างอำเภอ ปั๊มน้ำมันในพื้นที่ที่ว่า มันไม่มีปั๊มใหญ่ ผมก็ไม่ได้เติมเยอะ เติมแค่ 200-300 บาท นะครับ และไปเติมปั๊มใหญ่ในตัวจังหวัด, จำนวนน้ำมันที่เติมมันก็เลยเกิน 44 ลิตร (ขนาดถังน้ำมันของรถ) นะครับ


สำหรับเรื่องอื่นๆ แบบที่มีการเรียกร้องกันมาปัญหาของรถ เครื่องสั่นเร่งไม่ขึ้น พวกนั้น ผมไม่เคยมีอาการใดๆ แบบนั้นปรากฏเลยครับ และไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ปรากฏให้เห็นเลยครับผม
รถผมใช้ทำตามคู่มือของบริษัทมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และไม่เคยไปปรับแต่งใดๆ ที่นอกเหนือจากการเข้ารับบริการจากศูนย์มาสด้าทั้งสิ้น
รถเข้าศูนย์มาสด้า ตลอด ไม่เคยเข้าอู่นอก เว้นแต่ อู่ประกันซ่อมตัวถัง และ เปลี่ยนยางรถทั้งชุด
รถเข้าศูนย์ค่อนข้างตามระยะ แต่เกินทุกๆ ครั้ง สะสมกันมา ตอนถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งที่ 9 ปกติ ต้องทำที่ระยะ 90000 กิโลเมตร แต่ของผมมันเกินสะสมกันมา ระยะที่เข้ารับบริการไมล์ผมอยู่ที่ 99,5xx กิโลเมตรครับ

ประวัติเพิ่มเติมก็คือ
- เข้ารับการเปลี่ยนวาล์วสปริงฟรี ที่ระยะ 5x,xxx km. ตามคำแนะนำของบริษัท
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ ที่ระยะเวลา 19 เดือน หมดประกัน (ระยะ 71,xxx km) จ่ายเอง เปลี่ยนที่ศูนย์มาสด้าครับ
- เปลี่ยนยาง ตามสเปคเดิม dunlop ensave 185/60/R16 ที่ระยะ 85,xxx km. ครับ
- เคลมเปลี่ยนช่องแอร์ ด้านซ้ายสุด เนื่องจากปุ่มชัตเตอร์หักจากการใช้งานในสภาพปกติ

ปัญหาจากศูนย์บริการมาสด้า ก็มีบ้างครับ เจอบ้างที่พูดปัดความรับผิดชอบ ในสิ่งผิดพลาดที่เกิดจากตัวศูนย์, หลอกให้เปลี่ยนแบต แบบเสียเงิน ทั้งที่มาสด้าเขาประกันให้เปลี่ยนฟรี (อยู่ในประกัน)
แต่แบบนี้ก็เจอแค่ 2 ครั้ง ครับ (ผมเข้าหลายศูนย์เปลี่ยนไปเรื่อย แล้วแต่โอกาส) รวมๆ ก็ OK ครับ ไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็ดีครับ


สุดท้าย มาสด้า2 ดีเซล มันเป็นรถที่ประหยัดน้ำมัน มากสำหรับผม ใช้งานดีมากๆ ครับ, ส่วนเรื่องปัญหาใดๆ ตามข่าว หรือตามกระทู้ ผมไม่เคยเจอแม้แต่อาการเดียวครับ

รถรุ่นนี้ตอนจะตัดสินใจซื้อ ผมก็หาข้อมูลมาพอสมควร และผมก็เห็นว่ามันดี และมันก็ดีจริงๆ สำหรับผม ไม่เคยเปลี่ยนในความรู้สึกครับ
รถใครๆก็รัก ไม่อยากให้มันมีปัญหาอะไรวุ่นวายใจ หรือ ซื้อมาแล้วไม่คุ้มค่ากับเงิน สิ่งนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ส่วนคนที่มีปัญหา ผมก็เสียใจด้วยครับ

ส่วนผมเอง ยังไม่เคยผิดหวังกับ มาสด้า 2 เลยครับ