วันนี้มีคลิปนี้เด้งขึ้นมา เลยได้กลับมาดูอีกครับ เลยเข้าใจอะไรมากขึ้น (หรืออาจมโนว่าเข้าใจเอง )
รวมไปถึงคำแนะนำที่โค้ชเคอร์บอก KD ให้ส่งบอลให้เพื่อนๆให้เชื่อใจเพื่อนร่วมทีม มีที่มาจากนี้นี่เอง

โค้ชเคอร์ได้รับโอกาสจาก MJ ให้เป็นผู้ยิงลูกท้ายเกม (ถ้าทุกอย่างเข้าเงื่อนไขที่คาดการณ์ไว้)
ซึ่งเข้าเงื่อนไขพอดี
1. MJ โดนเข้าประกบสอง
2. เคอร์ว่างวิ่งเข้ามารับ
3.MJ ส่งบอลให้เคอร์
4.เคอร์ยิง
5.ลง! และถือเป็น Winning Shot (แม้หลังจากนั้น Pippen จะ steal และส่งให้คูโคชดังก์ปิดเกมไปก็ตาม)

แต่ไม่รู้ในคลิปเคอร์แซวอะไร MJ ครับ ขำอร่อยกันเลย

เคอร์ได้รับโอกาสที่สำคัญและได้จากมือ MJ และที่สำคัญเคอร์ยิงมันลงไปด้วย สุดยอดดดดดครับ
ได้รับโอกาสจากซุปเปอร์สตาร์ ได้เห็นว่า MJ เชื่อใจเพื่อนร่วมทีมอย่างมากในนัดสำคัญเวลาสำคัญขนาดนี้
(แม้แพ้เกมนั้น ก็ยังไม่แพ้ Final ก็ตาม / แม้ยิงไม่ลงก็ยังมี Rodman เตรียมพร้อมรีบาวด์ก็ตาม >>> แต่มันเป็นเกม Final มันกดดันมาก ถ้าไม่นิ่งจริงก็อาจไม่ลงได้ ซึ่งเคอร์ทำมันสำเร็จ)

(ลองดูล่าสุด Kyle korver นัดสุดท้ายยิงไม่ลงเลย 0-6 จริงอยู่ระยะยิง 3 แต้มมันไกลกว่า ของ เคอร์ แต่จะสื่อว่าเกมไฟนอลมันกดดันมาก ขนาดมือปืน 3 แต้มอย่าง Kyle korver ยังยิงไม่ลงเลย มีลูกนึงเลย์ใต้แป้นเด้งแป้นซะแรงเลย)

แค่เสียดายเกม 5 กับ Rockets ที่ Quinn Qook ได้รับโอกาสให้ยิง 3 ท้ายเกมแต่ยิงไม่ลง (จับบอลแรกยังหลุดเลย บีบสุดๆ)
(ก่อนหน้าในคลิปก็มีในท้าย Q2 ที่ KD ส่งให้ยิง 3 แต้มก็ไม่ลง)

ซึ่งแสดงถึงความกดดันมหาศาลทีเดียว ทั้งๆที่ยิงไม่ลงก็ยังไม่แพ้ในซีรีย์
เพราะถ้าลง อาจจะเป็น moment ที่น่าประทับใจสำหรับ Quinn Qook ไปในตลอดอาชีพนี้เลยก็ได้
ที่สามารถยิงลูกสำคัญให้ทีมขึ้นนำ 3-2 แล้วไปปิดจ็อบในบ้านเป็น 4-2 ก่อนตบท้ายด้วยได้แชมป์ Final แม้จะไม่ได้ลงเลยก็ตาม
แม้คลาด Winning Shot สำคัญไป ก็มีวาสนาให้ได้แชมป์นะเฮ้ย Quinn Qook ไม่ได้กล่าวไว้
(ส่วน คริส พอล ไร้วาสนาโดยแท้ทรู)

กลับมาที่โค้ชเคอร์ เลยไม่น่าแปลกใจ ที่มีข่าวว่ามีดราม่าใน Locker Room แต่ก็ยังสามารถเอาอยู่จนได้แชมป์ในที่สุด
แสดงว่าโค้ชเคอร์ต้องมีของ ไม่ก็เล่นของ ที่เห็นๆ ก็คือ
3 แชมป์กับ Bulls + 1 Winning Shot + อยู่ในช่วงนาทีสำคัญๆท้ายเกมส์ไฟนอลตลอด + 1 แชมป์ 3 แต้ม
2 แชมป์กับ Spur + 1 เกม T้he Iceman กลบ Steve Nash ไปเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คือไม่ใช่มีวาสนาให้ได้ 5 แชมป์แบบตัวสำรองทั่วๆไป แต่มีส่วนสำคัญพอสมควรมากเลย
เท่านี้ก็คงเป็นบารมีในระดับที่พอจะเอาซุปเปร์สตาร์อยู่ทีเดียว >>> นึกถึงซีดานเลย ทั้งแชมป์โลก แชมป์ยุโรป แชมป์ UEFA ได้หมดแบบนำทีมด้วย

ซูฮกโค้ชเคอร์ ยิงอ่านประวัติยิ่งทึ่งปนเศร้าและประทับใจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โพสต์ล่าสุดจากเพจ NBA Thailand หรือคุณ Dan 23 ประจำบอร์ดเราครับ ขออนุญาติเอามาลงให้เพื่อนๆในห้องอ่านก่อนนะครับ ถ้าหากคุณแดนมาโพสต์เองขอจัดเต็มรูปเยอะๆนะครับ ส่วนรูปภาพเครดิตมาจาก espn นะครับ แต่ผมดึงมาจากเพจของคุณไทซอนครับ

สตีเฟ่น ดักกลาส เคอร์ หรือสตีฟ เคอร์ โค้ชที่ได้แชมป์มา 6 สมัย ผู้เล่น 5 สมัย และในฐานะโค้ชรุกกี้ที่พาทีมได้แชมป์อีก 1 สมัย จริงๆแล้วเคอร์เกิดที่เลบานอน เป็นลูกชายของนักวิชาการอเมริกันที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องประวัติศาสตร์ตะวันออกกลาง เมื่อตอนที่เค้าอยู่ในช่วงมหาวิทยาลัยนั้นพ่อของเค้าได้ถูกฆ่าตายในงานที่เป็นประธานในพิธีที่มหาวิทยาลัยและถูกยิงซ้ำ เคอร์ในตอนนั้นอายุ 18 ปีเสียใจมากเค้าและแม่ฟ้องรัฐบาลอิหร่านในช่วงเวลานั้นเพื่อเอาผิดแก่คนที่ฆ่าพ่อเค้าด้วย
เคอร์เรียนที่มหาวิทยาลัยอริโซน่า เค้าเล่นบาสอยู่ที่นั่นด้วยและเชี่ยวชาญการยิง 3 คะแนน มีครั้งนึงในระหว่างการแข่งขัน เค้าถูกเยาะเย้ยเกี่ยวกับพ่อ เชิงเหยียดหยาย “พ่อคุณอยู่ไหนละ” มันทำให้เค้ามุ่งมั่นในเกมส์นั้นมาก ยิง 3 คะแนนไปถึง 6 ลูก และเบ็ดเสร็จกดไป 20 คะแนน
ในช่วงที่เค้าเล่นอยู่ที่อริโซน่าเคอร์ถูกคัดเลือกให้ติดทีมชาติในปี 1986 ด้วย เคอร์ได้รับความนิยมและชื่นชอบจากแฟนๆบาสเพราะการยิงไกลของเค้า รวมถึงสถิติการยิง 3 คะแนนในอริโซน่าก็มหัศจรรย์มากถึง 57.3% เลยทีเดียว (สถิติ NCAA) และเบอร์เสื้อหมายเลข 25 ของเค้าก็ถูกอริโซนารีไทร์ให้ด้วย
เคอร์ถูกดราฟเข้ามาโดยฟีนิกส์ ซันส์ ในรอบที่ 2 ตัวเลือกลำดับที่ 50 แม้ว่าจะไม่ใช่อันดับที่สูงก็ตาม แต่เคอร์นั้นมีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม เคอร์เคยไปเล่นทั้งคลีฟแลนด์ / แมจิค / ก่อนที่เค้าจะมาคว้าแชมป์ 3 สมัยกับชิคาโก้ ยุคของไมเคิล จอร์แดน ซึ่งในแชมป์ครั้งที่ 2 ปี 1997 นั้นเค้าเป็นผู้ชู๊ตลูกในช่วงท้ายทำให้ทีมชนะ โดยก่อนหน้าที่บูลส์ขอเวลานอก จอร์แดนบอกกับเคอร์ว่า “เดี๋ยวสต๊อคตันกับรัสเซลจะต้องมาประกบที่ผมคุณจะว่างนะสตีฟ ผมจะส่งบอลให้คุณ” และสตีฟบอกกับไมเคิล จอร์แดนว่า “ไว้ใจผม ส่งมาผมจะทำมันให้ได้ !! ” ในปีนั้นเคอร์คว้าแชมป์การยิง 3 คะแนนในออลสตาร์ด้วย หลังจากนั้นเมื่อบูลส์แตกเคอรืได้มาอยู่กับสเปอร์และสามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ได้อีก 2 สมัย และหลังจากนั้นเค้ามาอยู่ที่พอร์ตแลนด์ และเมื่อปี 2003 ก็ตัดสินใจรีไทร์
เคอร์ครองสถิติการชู๊ต 3 คะแนนในปี 1994-95 ไว้ที่ 52.4% และถ้านับทั้งชีวิตแล้วเคอร์เป็นผู้ถือครองสถิติยิงสามคะแนนที่แม่นที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยทำไว้ที่ 45.4% (อันดับที่ 3 คือเคอรี่ลูกทีมของเค้านั่นเอง)
หลังจากที่เลิกเล่นแล้วปี 2003 เค้าได้มาทำหน้าที่เป็นผู้วิเคราะห์เกมส์ NBA ของ TNT รวมถึงให้เสียงซีรีย์เกมส์ใน NBA Live และ NBA 2K อีกด้วย และในปี 2003 เค้าได้อยู่ในกลุ่มผู้ถือหุ้นของซันส์ หลังจากนั้น 4 ปีให้หลังเจ้าตัวรับหน้าที่มาเป็น GM ของฟีนิกส์ ซันส์ และผลงานของเคอร์คือการไปเอาแชคคิล โอนีลเข้ามาเล่นให้กับฟีนิกส์ และเมื่อปี 2010 เค้าก้าวลงจากตำแหน่ง GM แต่ก็ยังถือหุ้นทีมไว้ 1% จนกระทั่งปี 2014 จึงได้เทขายเพราะต้องมารับหน้าที่โค้ชให้กับวอริเออร์
เมื่อเคอร์มารับหน้าที่โค้ชให้กับวอริเออร์สิ่งที่เค้าทำคือคุยกับผู้บริหารในการเลือกผู้ช่วยโค้ช เค้ารับฟังคำแนะนำของผู้บริหาร และทำให้ไม่ขัดใจเหมือนที่โค้ชเก่ามาร์ค แจคสันทำไว้ เคอร์นำเอาความรู้ของการเล่นภายใต้โค้ชฟิล แจ๊คสันในเรื่องแผนไทรแองเกิ้ล และแผนการรันเพลย์อัพเทมโปของโค้ชป๊อปมาใช้ผสมผสานกัน และช่วยให้ทีมวอริเออร์มีสถิติชนะ 67-15 ในฤดุกาลปกติ ซึ่งถือว่าดีที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมที่มีมาเลยทีเดียว และล่าสุดเคอร์ก็สามารถทำทีมคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 40 ปี นำแชมป์ครั้งที่ 4 มาสู่วอริเออรืได้

แก้ไขข้อความเมื่อ 17 มิถุนายน 2558 เวลา 22:32 น.
ตอบกลับ 15   
Phavit  
17 มิถุนายน 2558 เวลา 22:29 น.
https://ppantip.com/topic/33804124

อยากให้โค้ชเคอร์คุมอีกอย่างน้อย 1 ปี แล้วพาทีม GSW คว้าแชมป์ จะได้เป็นโค้ชแชมป์ 3 ปีติด
ได้แบบ 3 ปีติด ทั้งในฐานะผู้เล่นและโค้ช มันจะเท่ห์สุดๆไปเลยครับ

ปล.ก่อนจบ ในคลิปที่ MJ ส่งบอลให้เคอร์ ช่วงที่บอกตอนพัก
สายตา MJ ดูมั่นใจดูน่าเกรงขามมากจริงๆ เหมือนจินตนาการไว้แล้ว ว่า play นี้จะเกิดขึ้น
แล้วก็ทำมันสำเร็จ สุดยอด GOAT สุดยอดจริงๆครับ

(นึกไปถึงรอนนี่ Rocket Man ที่ยิงสนุกลง 1 แดง 1 ดำ ไปแล้ว คงจินตนาการว่าจะทำ Maximum Break 147
แล้วก็ทำมันสำเร็จซะอย่างนั้น มหัศจรรย์ที่แท้ทรู)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้