The Dream Team
ทุกคนย่อมมีฝัน ฝันเล็ก ฝันใหญ่ ฝันอยากเป็นโน้น ฝันอยากเป็นนี่ แต่ความฝันที่เราจะกล่าวถึงนั้น เป็นทีมในฝันของคนดู ซึ่งชื่นชอบกีฬา โดยเฉพาะบาสเก็ตบอล นับเป็นครั้งแรก และครั้งเดียวในประวัติศาสตร์วงการกีฬาทีม ที่มีสุดยอดซุปเปอร์สตาร์จาก NBA รวมตัวกันเล่นให้ทีมชาติในโอลิมปิก นั้นคือ US Basketball Olympic Team 1992 หรือ ที่ทุกคนรู้จักรู้จักกันในนาม The Dream Team หลายๆอย่างถือกำเนิดขึ้นในยุค '80 สมาชิกของ Dream Team ก็เช่นกัน
แล้ว Dream Team มาเกี่ยวอะไรกับกับโอลิมปิก?
ขอเท้าความไปโอลิมปิก 1988 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลี ทีมบาสชายสหรัฐ ยุคนั้นถึงจะไม่ใช่ Dream Team แต่ก็เป็นขวัญใจมหาชนมาตลอด โดยเฉพาะแฟนๆชาวมะกัน เนื่องจากเป็นกีฬาประจำชาติ เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ทั้งด้านการกีฬา และการเมืองในยุคนั้น ในรอบรองชนะเลิศสหรัฐแพ้โซเวียต (สมัยนั้นยังไม่แตก ยังเป็น USSR อยู่) ไปแบบน่าอับอายขายขี้หน้า ได้แค่เหรียญทองแดง จากสถิติที่ผ่านมา ชนะถึง 84-1 คือแพ้โซเวียดครั้งเดียว เมื่อโอลิมปิก 1972 ที่มิวนิค เยอรมัน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 จากกฏข้อห้ามนักบาสจากลีก NBA ทีมบาสชายสหรัฐชุดโอลิมปิก 1988 เลยต้องประกอบด้วยสตาร์จากมหาลัย โดยใช้บริการโค้ชจาก Georgetown นามว่า John Thompson โดยมีสตาร์ทติ้งไลน์อัพดังต่อไปนี้
PG - Charles Smith : Georgetown
SG - Mitch Richmond : Kansas
SF - Dan Majerle : Central Michigan
PF - Danny Manning : Kansas
C - David Robinson : โรงเรียนนายเรือ
ทีมโซเวียต ขอกล่าวถึงผู้เล่นที่เราๆรู้จักกัน ซึ่งต่อมาได้มาเล่นใน NBA
SG - Sarunas Marciulionis : Golden State Warriors
PF - Alexander Volkov : Atlanta Hawks
C - Arvydas Sabonis : Portland Trail Blazers
เกมวันนั้นต้องยอมรับว่า โซเวียตเตรียมทีมมาดี ผู้เล่นมีความได้เปรียบหลายประการ ทั้งสูงทั้งใหญ่กว่า (Sabonis 7'3") แข่งแกร่งกว่า เล่นในลีกอาชีพประสบการ์ณมากกว่า มีโค้ชดีกรีแชมป์ยุโรป 7 สมัยอีกต่างหาก ส่วนทางสหรัฐมีแต่เด็กๆอายุ 19-20 ปี มือปืนซึ่งมีอยู่คนเดียวเจ็บไม่ได้ลงเล่น เตรียมทีมมาไม่ดีออกแนวประมาท การ์ดจ่าย เพลย์เมกเกอร์ Smith เล่นได้แย่มาก ต่อมาถึงขนาดไม่ได้เกิด ดีที่ยังมี Robinson กับ Majerle เล่นดีช่วยทีมไว้ไม่ให้สกอร์บู้บี้ ผล คือ แพ้ไป 76-82 แต้ม สกอร์ตามตลอดทั้งเกม
เป็นเรื่องเป็นราวเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมาถึงความพ่ายแพ้วันนั้น มีคำถามตามมามากมาย เช่น สหรัฐห่วยลง หรือคนอื่นๆเก่ง
ขึ้น คงต้องตอบว่าคนอื่นๆเก่งขึ้น และเตรียมทีมมาเพื่อเจอกับสหรัฐโดยเฉพาะ แล้วเล่นที่ยุโรปได้เงิน ไม่ถือว่าเป็นอาชีพ แต่เล่นที่สหรัฐได้เงินถือว่าเป็นอาชีพ อย่างนี้ไม่แฟร์ ต่อมา..มหาอำนาจทางการกีฬาอย่างสหรัฐเดินเกมล็อบบี้นาๆประเทศอย่างหนัก สุดท้ายก็ชนะโหวต เปลื่ยนกฎ FIBA ให้มืออาชีพจากทุกลีกเข้าร่วมโอลิมปิกได้
ปัญหาแรกจบไป ปัญหาต่อมา คือ พวกสุดยอดผู้เล่นจาก NBA อยากจะเล่นให้หรือไม่ หลังจากจบฤดูกาล ซึ่งอยู่ในช่วงพักผ่อน โดยเฉพาะ Michael Jordan ที่ช่วงซัมเมอร์จะออกรอบตีกอล์ฟทุกวัน พยายามหาทางหลีกเลี่ยง เขาเคยสอยเหรียญทองโอลิมปิก 1984 กับ Patrick Ewing, Chris Mullin และ Sam Perkins มาแล้ว ทำไปทำมา MJ เป็นคนแรกที่ถูกโทรถาม แต่ยังไม่ตกลง เขาถามก่อนว่ามีใครมั่ง เขาจะไม่เล่นคนเดียว ต่อมาโทรหา Magic Johnson กับ Larry Bird พอสองคนนี้ตอบตกลง ทุกคนก็ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล Patrick Ewing, David Robinson, Charles Barkley, Clyde Drexler, Scottie Pippen, Chris Mullin, Christian Laettner, John Stockton และ Karl Malone Malone พูดถึงวันที่รับโทรศัพท์ว่า ถึงโทรหาเขาเป็นคนสุดท้าย เขาไม่สน...โทรเหมือนกัน ทาง Pippen ถ่อมตัวมากๆ บอกว่าเขาไม่คู่ควร ตอนนี้ได้ซุปเปอร์สตาร์จาก NBA 11 คน กับอีก 1 ซุปเปอร์สตาร์จาก NCAA โดยมีสุดยอดโค้ช Chuck Daly จาก The Bad Boys คุมทีม พูดถึงโค้ชคนนี้แล้ว Isiah Thomas ละ? (Isiah ถือว่าเป็น Magic ไซส์มินิ) เนื่องจากวีรกรรมที่ผ่านเมื่อไม่นาน MJ และ Pippen ยังรับไม่ได้ ถ้ามี Isiah ต้องไม่มี MJ
คนเก่งๆ และคนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดระดับตำนานย่อมต้องมีอีโก้สูง คนมีอีโก้สูงๆมารวมกัน ถ้าบริหารจัดการไม่ดี วุ่นวายพอดู อย่าง Malone บอกว่าเขาเป็นสุดยอดฟอร์เวิร์ด Barkley ก็บอกเช่นกัน งานนี้ขึ้นอยู่ที่กึ๋นของโค้ช ต้องทำทีม All Star ให้เป็นทีมบาสปรกติ เล่นเป็นระบบ เล่นเป็นทีม ไม่เอาแบบวันแมนโชว์ เกมแรกปิดโรงยิมเล่น โค้ชให้ลองเจอกับสตาร์จากมหาลัย มี Chris Webber อยู่ในทีมตอนนั้น Dream Team ยังไม่รู้ว่าจะเล่นกันยังไง ปรากฏว่าโดนเด็กสอนมวยไป 54-62 แต้ม ตลอดทั้งเกมโค้ชไม่ปรับ ไม่ทำอะไรเลย แกล้งไม่ให้ MJ ลงอีกต่างหาก เป็นแผนของโค้ชที่อยากให้พวกนั้นรู้ว่า "แพ้ได้เหมือนกัน" ให้เห็นกันจะๆโดยไม่ต้องใช้คำพุด เป็นการแก้นิสัยส่วนตัวที่มีอีโก้สูงๆด้วย สกอร์ถูกปิดเป็นความลับ เพื่อไม่ให้เป็นขี้ปากนักข่าว ทุกคนในทีมไม่รู้เกิดอะไรขึ้นถึงแพ้ อยากจะเล่นต่อแต่โค้ชบอกให้เลิก พรุ่งนี้ค่อยเล่นใหม่ หลังโดนเด็กสอนมวย ทำให้ทุกคนเชื่อฟังโค้ชมากขึ้น วันต่อมา MJ ได้ลงมากขึ้น ชนะขาดกระจุย
ลองนึกภาพดูว่า มีทั้ง Bird ทั้ง Magic ทั้ง MJ เทพๆจากยุค '80 กับเทพจากยุค '90 ไม่มีใครยอมใครแน่ ระหว่าง
ซ้อม Magic บอก MJ ว่า พี่ยังอยู่ NBA ยังไม่ใช่ของน้อง ส่วน MJ บอก NBA ยุค '90 เป็นของเขาแล้ว Bird ซึ่งนอนพักหลังอยู่ข้างสนามบอกว่า พี่ต่างหากตัวจริง เหมือนพวกเราคุยกันว่าใครเก่งกว่าใคร แต่อันนี้ของจริง มีการพิสูจน์กันด้วยการท้าแข่งยิงลูกโทษ 50 ลูก แข่งยิงระยะกลาง แข่งยิงสกายฮุค ปรากฏว่า เรื่องเบสิกๆแบบนี้ MJ สู้ Magic ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นระดับแอดวานซ์ก็อีกเรื่อง ตลอดมา MJ พยายามโชว์ให้พี่ๆเห็นว่าน้องคนนี้เทพตัวจริง
รอบคัดเลือกโอลิมปิก จัดขึ้นที่เมือง Portland รัฐ Oregon Dream Team เล่นต่อหน้าผู้ชมครั้งแรก พบกับ Cuba และเอาชนะไปถึง 77 แต้ม ผู้เล่น Cuba ไม่สนใจอยากจะเล่น อยากขอถ่ายรูป อยากขอลายเซ็นมากกว่า ผลรอบคัดเลือก Dream Team ชนะรวด 6 เกม เฉลี่ยกว่า 50 แต้ม
อีกหนึ่งสัปดาห์ก่อนโอลิมปิกจะเริ่มขึ้น Dream Team บินไปเก็บตัวที่เมืองตากอากาศ มอนเตการ์โล (เหมือนไปเที่ยวมากกว่า) ทุกคนชอบมากๆ โดยเฉพาะหนุ่มโสดอย่าง Barkley กับ Pippen เดินดูนมแถวชายหาดทุกวัน สาวๆที่นั้นไม่นิยมใส่ท่อนบน ส่วน MJ กับ Daly ออกรอบตีกอล์ฟเกือบทุกวันเหมือนกัน ทำให้ความสัมพันธ์ทั้งสองมากขึ้น ตอนกลางคืนก็ไม่หลับไม่นอนกัน เล่นไพ่ห้อง Magic ยันเช้า ระหว่างนั้นมีเกมพบกับฝรั่งเศส รูปเกมดูไม่ดี เสียเทรินโอเวอร์มากเกิน แต่ก็ชนะมาแบบไม่ประทับใจโค้ช วันต่อมาเอาอีก เอาให้เหมือนแข่งจริง โดยแบ่งเป็น 2 ทีม Magic กับทีม MJ เกมนี้ Magic เล่นเต็มที่ พอเครื่องติดก็แพร่มไม่หยุด แหย่ MJ ตลอด แหย่ไปแหย่มาดันไปโดนปุ่ม Air Jordan เท่านั้นแหละ MJ เครื่องติดเหมือนกัน แต่โหดกว่าเยอะ Pippen ยังหนาว เพราะรู้ดีว่าโหมดเอาจริงของเพื่อนซี้เป็นไง สักพักทีม MJ นำขาด เกมเริ่มหนักขึ้นจนโค้ชต้องบอกให้เลิก แต่ Magic ไม่ยากเลิก หลังจบเกม Magic และ Bird คุยกันต่อหน้า MJ ยอมรับความสามารถของน้องใหม่ว่าเหนือกว่าจริงๆ
สัปดาห์ต่อมา Dream Team ถึงบาเซร์โลน่า ประเทศสเปน ขณะลงรถทุกคนแปลกใจมาก แฟนๆมาต้อนรับมหาสารเหมือน Beatles กับ Elvis รวมกัน ไม่น่าเชื่อ ไม่เคยคิด ไม่เคยเจอมาก่อน เป็นครั้งแรกที่รับรู้ว่าพวกเขาดังแค่ไหน และแล้วเวลาเอาจริงก็มาถึงทุกคนเข้าโหมดโอลิมปิก สตาร์ทติ้งไลน์อัพเกมแรกมี
PG : Magic Johnson
SG : Michael Jordan
SF : Larry Bird
PF : Karl Malone
C : Patrick Ewing
รอบแรกชนะรวด 5 เกม เกมแรกสอย Angola ขาด 48-116 แต้ม เจอรัน 46-1 ด้วย เกมสองชนะ Croatia 70-103 (มี Toni Kukoc SF 6’11” อยู่ในทีม)ช่วงนั้นมีประเด็น ระหว่าง Kukoc กับ Pippen คือว่า Kukoc ถูก Bulls ดราฟไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังไม่ได้มาเล่น Pippen เกิดอาการน้อยใจ เรื่องค่าตัวที่เขาได้รับน้อยกว่าทั้งๆที่อยู่ทีมมานาน เลยร่วมกันกับ MJ จัดการต้อนรับน้องใหม่ เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การกลั้นแกล้ง Kukoc เป้าหมายอยู่ที่ GM ของ Bulls และอยากให้ทุกคนเห็นว่าสตาร์จากยุโรปดีกรีมากมายคนนี้เก่งแค่ไหน สมกับค่าตัวหรือไม่ จบครึ่งแรกของเกม ปืนขัดลำกล้อง ทำแค่ 2 แต้ม พอ Pippen พัก MJ จองกฐินต่อ ซวยแล้วสิเจอกับใครไม่เจอ ดันเจอกับผู้เล่นป้องกันดีที่สุดในโลกถึง 2 คน พอเกมต่อๆมายิ่งเล่นยิ่งดูดี ดูสนุกมากๆ ไม่ใช่วันแมนโชว์ มีลูกโชว์แอร์รีฮูบเด็ดๆที่เป็นเครื่องหมายการค้าของพวกเขาให้ดูหลายครั้ง ตั๋วเต็มทุกรอบ โดยเฉพาะรอบ Final ราคาตั๋วพุ่งกระฉูดถึง ใบ 120,000 บาท
รอบน็อคเอาท์ ชนะรวดกว่า 40 แต้มแบบห่างชั้นทุกเกม พอรอบ Final เข้าไปเจอกับ Croatia เอาชนะไป 117-85 ได้กู้หน้าสหรัฐ ได้เหรียญทองโอลิมปิกสมความตั้งใจ แถมได้มิตรภาพระหว่างเพื่อนร่วมทีมอย่างไม่เคยมีมาก่อน คนทำแต้มสูงสุดของทีมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ไม่ใช่ MJ ทั้งๆที่อยู่ในช่วงพีคสุดๆของเขา แต่เป็น Barkley ช่วงรับเหรียญ รู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ได้ หลายๆคนผ่านจุดนี้มาแล้ว ได้เหรียญทอง ได้แชมป์ ได้รางวัลเกียรติยศมากมายกายกอง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ครั้งนี้พิเศษกว่า ได้เหรียญ ได้กู้หน้า แล้วยังได้มิตรภาพที่แท้จริงเงินซื้อไม่ได้ แทบทุกคนอดร้องไห้ไม่ได้ MJ ยังร้องและบอกว่าเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต Pippen กับ Barkley ก็บอกเช่นนั้น
สุดท้ายทุกคนกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง Magic กับ Bird กำศึกมาเยอะร่ายกายไม่สมบูรณ์ ถือโอกาสสิ้นสุดอาชีพอย่างสวยหรู, MJ กับ Pippen ได้แชมป์อีก 4 สมัย, Drexler ได้แชมป์กับ Rockets, Robinson แชมป์ 2 สมัย, ทั้ง 11 คนได้เข้า Hall of Fame และท้ายสุดสิ่งที่ได้มาที่มีค่าที่สุดคงหนีไม่พ้นกับกระแสการตื่นตัว การเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดของวงการบาสเก็ตบอลโลก สร้างแรงบัลดานใจให้นักบาสรุ่นใหม่ และนักบาสต่างชาติหลายต่อหลายคน ประวัติศาสตร์ได้บัญทึกไว้แล้วว่า ครั้งหนึ่งเคยมี Dream Team ทีมที่ไม่เหมือนใคร ทีมที่ไม่มีใครเหมือน ทีมนี้มีหนึ่งเดียว และจะไม่มีทีมอย่างนี้อีกตลอดไป
โดยเพจ Thai NBA Fanclub
https://www.facebook.com/ThaiNbaFanclub
USA VS Angola
USA VS Croatia
The Dream Team
ทุกคนย่อมมีฝัน ฝันเล็ก ฝันใหญ่ ฝันอยากเป็นโน้น ฝันอยากเป็นนี่ แต่ความฝันที่เราจะกล่าวถึงนั้น เป็นทีมในฝันของคนดู ซึ่งชื่นชอบกีฬา โดยเฉพาะบาสเก็ตบอล นับเป็นครั้งแรก และครั้งเดียวในประวัติศาสตร์วงการกีฬาทีม ที่มีสุดยอดซุปเปอร์สตาร์จาก NBA รวมตัวกันเล่นให้ทีมชาติในโอลิมปิก นั้นคือ US Basketball Olympic Team 1992 หรือ ที่ทุกคนรู้จักรู้จักกันในนาม The Dream Team หลายๆอย่างถือกำเนิดขึ้นในยุค '80 สมาชิกของ Dream Team ก็เช่นกัน
แล้ว Dream Team มาเกี่ยวอะไรกับกับโอลิมปิก?
ขอเท้าความไปโอลิมปิก 1988 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลี ทีมบาสชายสหรัฐ ยุคนั้นถึงจะไม่ใช่ Dream Team แต่ก็เป็นขวัญใจมหาชนมาตลอด โดยเฉพาะแฟนๆชาวมะกัน เนื่องจากเป็นกีฬาประจำชาติ เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ทั้งด้านการกีฬา และการเมืองในยุคนั้น ในรอบรองชนะเลิศสหรัฐแพ้โซเวียต (สมัยนั้นยังไม่แตก ยังเป็น USSR อยู่) ไปแบบน่าอับอายขายขี้หน้า ได้แค่เหรียญทองแดง จากสถิติที่ผ่านมา ชนะถึง 84-1 คือแพ้โซเวียดครั้งเดียว เมื่อโอลิมปิก 1972 ที่มิวนิค เยอรมัน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 จากกฏข้อห้ามนักบาสจากลีก NBA ทีมบาสชายสหรัฐชุดโอลิมปิก 1988 เลยต้องประกอบด้วยสตาร์จากมหาลัย โดยใช้บริการโค้ชจาก Georgetown นามว่า John Thompson โดยมีสตาร์ทติ้งไลน์อัพดังต่อไปนี้
PG - Charles Smith : Georgetown
SG - Mitch Richmond : Kansas
SF - Dan Majerle : Central Michigan
PF - Danny Manning : Kansas
C - David Robinson : โรงเรียนนายเรือ
ทีมโซเวียต ขอกล่าวถึงผู้เล่นที่เราๆรู้จักกัน ซึ่งต่อมาได้มาเล่นใน NBA
SG - Sarunas Marciulionis : Golden State Warriors
PF - Alexander Volkov : Atlanta Hawks
C - Arvydas Sabonis : Portland Trail Blazers
เกมวันนั้นต้องยอมรับว่า โซเวียตเตรียมทีมมาดี ผู้เล่นมีความได้เปรียบหลายประการ ทั้งสูงทั้งใหญ่กว่า (Sabonis 7'3") แข่งแกร่งกว่า เล่นในลีกอาชีพประสบการ์ณมากกว่า มีโค้ชดีกรีแชมป์ยุโรป 7 สมัยอีกต่างหาก ส่วนทางสหรัฐมีแต่เด็กๆอายุ 19-20 ปี มือปืนซึ่งมีอยู่คนเดียวเจ็บไม่ได้ลงเล่น เตรียมทีมมาไม่ดีออกแนวประมาท การ์ดจ่าย เพลย์เมกเกอร์ Smith เล่นได้แย่มาก ต่อมาถึงขนาดไม่ได้เกิด ดีที่ยังมี Robinson กับ Majerle เล่นดีช่วยทีมไว้ไม่ให้สกอร์บู้บี้ ผล คือ แพ้ไป 76-82 แต้ม สกอร์ตามตลอดทั้งเกม
เป็นเรื่องเป็นราวเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมาถึงความพ่ายแพ้วันนั้น มีคำถามตามมามากมาย เช่น สหรัฐห่วยลง หรือคนอื่นๆเก่ง
ขึ้น คงต้องตอบว่าคนอื่นๆเก่งขึ้น และเตรียมทีมมาเพื่อเจอกับสหรัฐโดยเฉพาะ แล้วเล่นที่ยุโรปได้เงิน ไม่ถือว่าเป็นอาชีพ แต่เล่นที่สหรัฐได้เงินถือว่าเป็นอาชีพ อย่างนี้ไม่แฟร์ ต่อมา..มหาอำนาจทางการกีฬาอย่างสหรัฐเดินเกมล็อบบี้นาๆประเทศอย่างหนัก สุดท้ายก็ชนะโหวต เปลื่ยนกฎ FIBA ให้มืออาชีพจากทุกลีกเข้าร่วมโอลิมปิกได้
ปัญหาแรกจบไป ปัญหาต่อมา คือ พวกสุดยอดผู้เล่นจาก NBA อยากจะเล่นให้หรือไม่ หลังจากจบฤดูกาล ซึ่งอยู่ในช่วงพักผ่อน โดยเฉพาะ Michael Jordan ที่ช่วงซัมเมอร์จะออกรอบตีกอล์ฟทุกวัน พยายามหาทางหลีกเลี่ยง เขาเคยสอยเหรียญทองโอลิมปิก 1984 กับ Patrick Ewing, Chris Mullin และ Sam Perkins มาแล้ว ทำไปทำมา MJ เป็นคนแรกที่ถูกโทรถาม แต่ยังไม่ตกลง เขาถามก่อนว่ามีใครมั่ง เขาจะไม่เล่นคนเดียว ต่อมาโทรหา Magic Johnson กับ Larry Bird พอสองคนนี้ตอบตกลง ทุกคนก็ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล Patrick Ewing, David Robinson, Charles Barkley, Clyde Drexler, Scottie Pippen, Chris Mullin, Christian Laettner, John Stockton และ Karl Malone Malone พูดถึงวันที่รับโทรศัพท์ว่า ถึงโทรหาเขาเป็นคนสุดท้าย เขาไม่สน...โทรเหมือนกัน ทาง Pippen ถ่อมตัวมากๆ บอกว่าเขาไม่คู่ควร ตอนนี้ได้ซุปเปอร์สตาร์จาก NBA 11 คน กับอีก 1 ซุปเปอร์สตาร์จาก NCAA โดยมีสุดยอดโค้ช Chuck Daly จาก The Bad Boys คุมทีม พูดถึงโค้ชคนนี้แล้ว Isiah Thomas ละ? (Isiah ถือว่าเป็น Magic ไซส์มินิ) เนื่องจากวีรกรรมที่ผ่านเมื่อไม่นาน MJ และ Pippen ยังรับไม่ได้ ถ้ามี Isiah ต้องไม่มี MJ
คนเก่งๆ และคนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดระดับตำนานย่อมต้องมีอีโก้สูง คนมีอีโก้สูงๆมารวมกัน ถ้าบริหารจัดการไม่ดี วุ่นวายพอดู อย่าง Malone บอกว่าเขาเป็นสุดยอดฟอร์เวิร์ด Barkley ก็บอกเช่นกัน งานนี้ขึ้นอยู่ที่กึ๋นของโค้ช ต้องทำทีม All Star ให้เป็นทีมบาสปรกติ เล่นเป็นระบบ เล่นเป็นทีม ไม่เอาแบบวันแมนโชว์ เกมแรกปิดโรงยิมเล่น โค้ชให้ลองเจอกับสตาร์จากมหาลัย มี Chris Webber อยู่ในทีมตอนนั้น Dream Team ยังไม่รู้ว่าจะเล่นกันยังไง ปรากฏว่าโดนเด็กสอนมวยไป 54-62 แต้ม ตลอดทั้งเกมโค้ชไม่ปรับ ไม่ทำอะไรเลย แกล้งไม่ให้ MJ ลงอีกต่างหาก เป็นแผนของโค้ชที่อยากให้พวกนั้นรู้ว่า "แพ้ได้เหมือนกัน" ให้เห็นกันจะๆโดยไม่ต้องใช้คำพุด เป็นการแก้นิสัยส่วนตัวที่มีอีโก้สูงๆด้วย สกอร์ถูกปิดเป็นความลับ เพื่อไม่ให้เป็นขี้ปากนักข่าว ทุกคนในทีมไม่รู้เกิดอะไรขึ้นถึงแพ้ อยากจะเล่นต่อแต่โค้ชบอกให้เลิก พรุ่งนี้ค่อยเล่นใหม่ หลังโดนเด็กสอนมวย ทำให้ทุกคนเชื่อฟังโค้ชมากขึ้น วันต่อมา MJ ได้ลงมากขึ้น ชนะขาดกระจุย
ลองนึกภาพดูว่า มีทั้ง Bird ทั้ง Magic ทั้ง MJ เทพๆจากยุค '80 กับเทพจากยุค '90 ไม่มีใครยอมใครแน่ ระหว่าง
ซ้อม Magic บอก MJ ว่า พี่ยังอยู่ NBA ยังไม่ใช่ของน้อง ส่วน MJ บอก NBA ยุค '90 เป็นของเขาแล้ว Bird ซึ่งนอนพักหลังอยู่ข้างสนามบอกว่า พี่ต่างหากตัวจริง เหมือนพวกเราคุยกันว่าใครเก่งกว่าใคร แต่อันนี้ของจริง มีการพิสูจน์กันด้วยการท้าแข่งยิงลูกโทษ 50 ลูก แข่งยิงระยะกลาง แข่งยิงสกายฮุค ปรากฏว่า เรื่องเบสิกๆแบบนี้ MJ สู้ Magic ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นระดับแอดวานซ์ก็อีกเรื่อง ตลอดมา MJ พยายามโชว์ให้พี่ๆเห็นว่าน้องคนนี้เทพตัวจริง
รอบคัดเลือกโอลิมปิก จัดขึ้นที่เมือง Portland รัฐ Oregon Dream Team เล่นต่อหน้าผู้ชมครั้งแรก พบกับ Cuba และเอาชนะไปถึง 77 แต้ม ผู้เล่น Cuba ไม่สนใจอยากจะเล่น อยากขอถ่ายรูป อยากขอลายเซ็นมากกว่า ผลรอบคัดเลือก Dream Team ชนะรวด 6 เกม เฉลี่ยกว่า 50 แต้ม
อีกหนึ่งสัปดาห์ก่อนโอลิมปิกจะเริ่มขึ้น Dream Team บินไปเก็บตัวที่เมืองตากอากาศ มอนเตการ์โล (เหมือนไปเที่ยวมากกว่า) ทุกคนชอบมากๆ โดยเฉพาะหนุ่มโสดอย่าง Barkley กับ Pippen เดินดูนมแถวชายหาดทุกวัน สาวๆที่นั้นไม่นิยมใส่ท่อนบน ส่วน MJ กับ Daly ออกรอบตีกอล์ฟเกือบทุกวันเหมือนกัน ทำให้ความสัมพันธ์ทั้งสองมากขึ้น ตอนกลางคืนก็ไม่หลับไม่นอนกัน เล่นไพ่ห้อง Magic ยันเช้า ระหว่างนั้นมีเกมพบกับฝรั่งเศส รูปเกมดูไม่ดี เสียเทรินโอเวอร์มากเกิน แต่ก็ชนะมาแบบไม่ประทับใจโค้ช วันต่อมาเอาอีก เอาให้เหมือนแข่งจริง โดยแบ่งเป็น 2 ทีม Magic กับทีม MJ เกมนี้ Magic เล่นเต็มที่ พอเครื่องติดก็แพร่มไม่หยุด แหย่ MJ ตลอด แหย่ไปแหย่มาดันไปโดนปุ่ม Air Jordan เท่านั้นแหละ MJ เครื่องติดเหมือนกัน แต่โหดกว่าเยอะ Pippen ยังหนาว เพราะรู้ดีว่าโหมดเอาจริงของเพื่อนซี้เป็นไง สักพักทีม MJ นำขาด เกมเริ่มหนักขึ้นจนโค้ชต้องบอกให้เลิก แต่ Magic ไม่ยากเลิก หลังจบเกม Magic และ Bird คุยกันต่อหน้า MJ ยอมรับความสามารถของน้องใหม่ว่าเหนือกว่าจริงๆ
สัปดาห์ต่อมา Dream Team ถึงบาเซร์โลน่า ประเทศสเปน ขณะลงรถทุกคนแปลกใจมาก แฟนๆมาต้อนรับมหาสารเหมือน Beatles กับ Elvis รวมกัน ไม่น่าเชื่อ ไม่เคยคิด ไม่เคยเจอมาก่อน เป็นครั้งแรกที่รับรู้ว่าพวกเขาดังแค่ไหน และแล้วเวลาเอาจริงก็มาถึงทุกคนเข้าโหมดโอลิมปิก สตาร์ทติ้งไลน์อัพเกมแรกมี
PG : Magic Johnson
SG : Michael Jordan
SF : Larry Bird
PF : Karl Malone
C : Patrick Ewing
รอบแรกชนะรวด 5 เกม เกมแรกสอย Angola ขาด 48-116 แต้ม เจอรัน 46-1 ด้วย เกมสองชนะ Croatia 70-103 (มี Toni Kukoc SF 6’11” อยู่ในทีม)ช่วงนั้นมีประเด็น ระหว่าง Kukoc กับ Pippen คือว่า Kukoc ถูก Bulls ดราฟไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังไม่ได้มาเล่น Pippen เกิดอาการน้อยใจ เรื่องค่าตัวที่เขาได้รับน้อยกว่าทั้งๆที่อยู่ทีมมานาน เลยร่วมกันกับ MJ จัดการต้อนรับน้องใหม่ เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การกลั้นแกล้ง Kukoc เป้าหมายอยู่ที่ GM ของ Bulls และอยากให้ทุกคนเห็นว่าสตาร์จากยุโรปดีกรีมากมายคนนี้เก่งแค่ไหน สมกับค่าตัวหรือไม่ จบครึ่งแรกของเกม ปืนขัดลำกล้อง ทำแค่ 2 แต้ม พอ Pippen พัก MJ จองกฐินต่อ ซวยแล้วสิเจอกับใครไม่เจอ ดันเจอกับผู้เล่นป้องกันดีที่สุดในโลกถึง 2 คน พอเกมต่อๆมายิ่งเล่นยิ่งดูดี ดูสนุกมากๆ ไม่ใช่วันแมนโชว์ มีลูกโชว์แอร์รีฮูบเด็ดๆที่เป็นเครื่องหมายการค้าของพวกเขาให้ดูหลายครั้ง ตั๋วเต็มทุกรอบ โดยเฉพาะรอบ Final ราคาตั๋วพุ่งกระฉูดถึง ใบ 120,000 บาท
รอบน็อคเอาท์ ชนะรวดกว่า 40 แต้มแบบห่างชั้นทุกเกม พอรอบ Final เข้าไปเจอกับ Croatia เอาชนะไป 117-85 ได้กู้หน้าสหรัฐ ได้เหรียญทองโอลิมปิกสมความตั้งใจ แถมได้มิตรภาพระหว่างเพื่อนร่วมทีมอย่างไม่เคยมีมาก่อน คนทำแต้มสูงสุดของทีมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ไม่ใช่ MJ ทั้งๆที่อยู่ในช่วงพีคสุดๆของเขา แต่เป็น Barkley ช่วงรับเหรียญ รู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ได้ หลายๆคนผ่านจุดนี้มาแล้ว ได้เหรียญทอง ได้แชมป์ ได้รางวัลเกียรติยศมากมายกายกอง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ครั้งนี้พิเศษกว่า ได้เหรียญ ได้กู้หน้า แล้วยังได้มิตรภาพที่แท้จริงเงินซื้อไม่ได้ แทบทุกคนอดร้องไห้ไม่ได้ MJ ยังร้องและบอกว่าเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต Pippen กับ Barkley ก็บอกเช่นนั้น
สุดท้ายทุกคนกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง Magic กับ Bird กำศึกมาเยอะร่ายกายไม่สมบูรณ์ ถือโอกาสสิ้นสุดอาชีพอย่างสวยหรู, MJ กับ Pippen ได้แชมป์อีก 4 สมัย, Drexler ได้แชมป์กับ Rockets, Robinson แชมป์ 2 สมัย, ทั้ง 11 คนได้เข้า Hall of Fame และท้ายสุดสิ่งที่ได้มาที่มีค่าที่สุดคงหนีไม่พ้นกับกระแสการตื่นตัว การเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดของวงการบาสเก็ตบอลโลก สร้างแรงบัลดานใจให้นักบาสรุ่นใหม่ และนักบาสต่างชาติหลายต่อหลายคน ประวัติศาสตร์ได้บัญทึกไว้แล้วว่า ครั้งหนึ่งเคยมี Dream Team ทีมที่ไม่เหมือนใคร ทีมที่ไม่มีใครเหมือน ทีมนี้มีหนึ่งเดียว และจะไม่มีทีมอย่างนี้อีกตลอดไป
โดยเพจ Thai NBA Fanclub
https://www.facebook.com/ThaiNbaFanclub
USA VS Angola
USA VS Croatia