ตัวอย่างการออกแบบบัตรสมาร์ทการ์ด สำหรับพระภิกษุสงฆ์
จากการที่ระยะหลังมานี้ มีข่าวคราวเรื่อง เงินทอง กับพระสงฆ์ อยู่บ่อยครั้ง และในห้องศาสนาแห่งพันทิป ก็มีการสนทนาเรื่องนี้มาหลายกระทู้มากมาย จึงพยายามคิดว่า ควรทำอย่างไรดี ให้พระสงฆ์ไม่ต้องรับเงินทอง โดยตรง และไม่ต้องใช้เงินทองในการเดินทางไปไหนมาไหน
ประกอบกับ จำได้ว่า รัฐบาลมีโครงการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ด สำหรับพระภิกษุสงฆ์ เมื่อปีที่แล้ว
http://www.komchadluek.net/news/regional/286178
และส่วนตัวคิดว่า บัตรสมาร์ทการ์ด สำหรับพระภิกษุสงฆ์ ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี และแก้ปัญหาในหลายๆ เรื่อง (ไม่ใช่ทุกเรื่อง) เช่น
1) จัดเก็บข้อมูล พระภิกษุสงฆ์ รูปนั้นๆ ได้มากขึ้นกว่าที่เก็บลงในหนังสือใบสุทธิ รูปแบบกระดาษ
2) มีความทนทานมากกว่ากระดาษ และข้อมูลไม่หายไปไหน
3) สามารถเรียกดูข้อมูลโดยละเอียดของพระรูปนั้นๆได้ เช่น บวชเมื่อไหร่ ที่ไหน ใครเป็นอุปัชฌาย์ ใครเป็นพระกรรมวาจาจารย์ สังกัดวัดไหน ย้ายไปอยู่วัดไหน ตอนนี้อยู่วัดไหนแล้ว และมีประวัติต้องอาบัติร้ายแรงใดๆ หรือไม่.. หรือมีประวัติอาชญากรรมหรือไม่
4) รูปแบบเหมือนกับบัตรประชาชน หรือใบขับขี่ สะดวกต่อการจัดเก็บ
5) อาจประยุกต์ใช้กับนโยบาย Thailand 4.0 ในเรื่องของสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เอื้อให้สงฆ์ไม่ต้องใช้เงินทอง
5.1) บัตรด้านหน้า ทางซ้าย จะมีแถบ Barcode ซึ่งสามารถ Scan เพื่อตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกของสงฆ์รูปนั้นๆได้ โดย จนท. อาจจะมี Application สำหรับ Scan Barcode เพื่อตรวจสอบผ่านโทรศัพท์มือถือได้เลย
5.2) ตัวบัตร จะมี Smart Chip เพื่อเก็บข้อมูลของสงฆ์เช่นเดียวกัน โดยสามารถอ่านได้ผ่านเครื่องอ่านบัตรสมาร์ทการ์ด
5.3) ด้านหลังบัตร จะมี QR Code ไว้ใช้สำหรับ รับการบริจาคเงินของญาติโยม ผ่านระบบ PromptPay โดยสงฆ์ไม่ต้องรับเงินทองโดยตรง และไม่ทราบว่า โยมถวายเงินเข้าวัดให้กี่บาท และการโอนเงินผ่านระบบออนไลน์แบบนี้ สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา รวมถึงโยมคนนั้นจะได้รับใบอนุโมทนาบัตร จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
5.4) ด้านหลังบัตร ยังมีแถบแม่เหล็ก เพื่ออ่านข้อมูล ในกรณีที่ใช้กับเครื่องอ่านบัตรแถบแม่เหล็ก
** ทั้งนี้ ต้องประกอบไปด้วยการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ ให้พุทธศาสนิกชน ทราบถึงพระวินัยในข้อที่ว่า "ห้ามสงฆ์รับเงินทอง" ไปด้วย ซึ่งหากมีโยมคนใด จะถวายเงินให้พระโดยตรง ควรต้องให้พระรูปนั้นๆ บอกโยมว่า "อาตมาไม่รับเงินทอง หากโยมต้องการถวายปัจจัย สามารถให้ไว้กับไวยาวัจกร หรือเด็กวัด หรือหากไม่มี ก็ให้โยมไปถวายที่สำนักงานของวัด หรือโอนผ่านระบบ PromptPay ผ่าน QR Code นี้ได้เลย"
6) ทั้งนี้ หากเป็นไปได้ รัฐ อาจมอบสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านบัตรใบนี้ได้ เช่น เมื่อสงฆ์ต้องเดินทางไปไหนมาไหน ก็ไม่ต้องใช้เงิน เพราะใช้การจ่ายเงินผ่านระบบ QR Code หรือ Smart Card ได้เลย โดยระบบ จะไปตัดเงินที่ระบบบัญชีกลางของวัดนั้นๆ โดยอัตโนมัติ
7) รวมถึง การรักษาพยาบาลต่างๆ นั้นก็สามารถกระทำการเบิกจ่าย ผ่านบัตรสมาร์ทการ์ดใบนี้ ได้เช่นกัน
8) ข้อมูลบนบัตรสมาร์ทการ์ดใบนี้ จะแจ้งว่า ขณะนี้สงฆ์รูปนี้ สังกัดอยู่วัดใด นิกายใด รวมถึงด้านหลังบัตร จะแจ้งข้อมูลเบื้องต้นของวัดนั้นๆ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทร และพิกัด GPS ของวัดนั้นๆ เพื่อประโยชน์ในกรณีที่เดินทาง แล้วไม่ทราบว่าจะอธิบายทางอย่างไร ก็อาจจะ Mapping GPS Coordination แล้วให้ระบบนำทางไปให้ หรือผ่าน App บนมือถือ เช่น Google Map เป็นต้น
9) หากผู้ใดเก็บบัตรใบนี้ได้ กรุณานำส่งคืน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ : 25/25 อาคารหลวงพ่อวัดปากน้ำ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 73170
------------------
ประเด็นที่ยังค้างคา และไม่แน่ชัด เกี่ยวกับ พระธรรมวินัย และอื่นๆ เช่น
ก) การใช้บัตร เพื่อโดยสารเดินทาง จะถือว่าเป็นการ ซื้อขาย หรือไม่? อาจต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ได้
ข) การให้โยมถวายเงินผ่านระบบ QR Code จะถูกมองว่าเป็นการรับเงินทองหรือไม่? แต่สงฆ์ก็ไม่ได้รับเข้าตัวเอง แต่โอนเข้าบัญชีกลางของวัดโดยตรง
ค) หากเป็นโยมตามต่างจังหวัด อาจจะไม่สะดวกเนื่องจาก ประชากรส่วนใหญ่ไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือที่สามารถ Scan QR Code ได้
ง) ต่อเนื่องจากข้อ ค) โยมอาจจะสะดวกที่จะให้เงินโดยตรงเลย ซึ่งโยมอาจไม่สะดวกเดินทางไปถวายที่วัด หรือไม่มีเด็กวัด หรือไวยาวัจกรติดตามพระอยู่
จ) ระบบการตรวจสอบข้อมูลนั้น จะตรวจสอบผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งหากอยู่ในที่ห่างไกลทุรกันดาร สัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณอินเตอร์เน็ตอาจไม่ดี
ฉ) รัฐต้องสร้างระบบรองรับไว้มากมาย รวมถึงการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้คุณค่าและการใช้งานบัตรสมาร์ทการ์ดใบนี้ สัมฤทธิ์ผล
ช) รวมถึง ต้องใช้งบประมาณอีกค่อนข้างมาก ในการจัดทำระบบให้รองรับนี้ทั้งหมด เช่น การทำบัตรสมาร์ทการ์ดให้สงฆ์ทั่วประเทศราวๆ 3xx,xxx รูป
------------------
ใน คห1 เป็น ข้อแสดงความคิดเห็นของผม ในเรื่องของการหาทางออกในเรื่อง สงฆ์รับเงินทอง ในประเด็นต่างๆ
ตัวอย่างการออกแบบบัตรสมาร์ทการ์ด สำหรับพระภิกษุสงฆ์
ตัวอย่างการออกแบบบัตรสมาร์ทการ์ด สำหรับพระภิกษุสงฆ์
จากการที่ระยะหลังมานี้ มีข่าวคราวเรื่อง เงินทอง กับพระสงฆ์ อยู่บ่อยครั้ง และในห้องศาสนาแห่งพันทิป ก็มีการสนทนาเรื่องนี้มาหลายกระทู้มากมาย จึงพยายามคิดว่า ควรทำอย่างไรดี ให้พระสงฆ์ไม่ต้องรับเงินทอง โดยตรง และไม่ต้องใช้เงินทองในการเดินทางไปไหนมาไหน
ประกอบกับ จำได้ว่า รัฐบาลมีโครงการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ด สำหรับพระภิกษุสงฆ์ เมื่อปีที่แล้ว http://www.komchadluek.net/news/regional/286178
และส่วนตัวคิดว่า บัตรสมาร์ทการ์ด สำหรับพระภิกษุสงฆ์ ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี และแก้ปัญหาในหลายๆ เรื่อง (ไม่ใช่ทุกเรื่อง) เช่น
1) จัดเก็บข้อมูล พระภิกษุสงฆ์ รูปนั้นๆ ได้มากขึ้นกว่าที่เก็บลงในหนังสือใบสุทธิ รูปแบบกระดาษ
2) มีความทนทานมากกว่ากระดาษ และข้อมูลไม่หายไปไหน
3) สามารถเรียกดูข้อมูลโดยละเอียดของพระรูปนั้นๆได้ เช่น บวชเมื่อไหร่ ที่ไหน ใครเป็นอุปัชฌาย์ ใครเป็นพระกรรมวาจาจารย์ สังกัดวัดไหน ย้ายไปอยู่วัดไหน ตอนนี้อยู่วัดไหนแล้ว และมีประวัติต้องอาบัติร้ายแรงใดๆ หรือไม่.. หรือมีประวัติอาชญากรรมหรือไม่
4) รูปแบบเหมือนกับบัตรประชาชน หรือใบขับขี่ สะดวกต่อการจัดเก็บ
5) อาจประยุกต์ใช้กับนโยบาย Thailand 4.0 ในเรื่องของสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เอื้อให้สงฆ์ไม่ต้องใช้เงินทอง
5.1) บัตรด้านหน้า ทางซ้าย จะมีแถบ Barcode ซึ่งสามารถ Scan เพื่อตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกของสงฆ์รูปนั้นๆได้ โดย จนท. อาจจะมี Application สำหรับ Scan Barcode เพื่อตรวจสอบผ่านโทรศัพท์มือถือได้เลย
5.2) ตัวบัตร จะมี Smart Chip เพื่อเก็บข้อมูลของสงฆ์เช่นเดียวกัน โดยสามารถอ่านได้ผ่านเครื่องอ่านบัตรสมาร์ทการ์ด
5.3) ด้านหลังบัตร จะมี QR Code ไว้ใช้สำหรับ รับการบริจาคเงินของญาติโยม ผ่านระบบ PromptPay โดยสงฆ์ไม่ต้องรับเงินทองโดยตรง และไม่ทราบว่า โยมถวายเงินเข้าวัดให้กี่บาท และการโอนเงินผ่านระบบออนไลน์แบบนี้ สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา รวมถึงโยมคนนั้นจะได้รับใบอนุโมทนาบัตร จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
5.4) ด้านหลังบัตร ยังมีแถบแม่เหล็ก เพื่ออ่านข้อมูล ในกรณีที่ใช้กับเครื่องอ่านบัตรแถบแม่เหล็ก
** ทั้งนี้ ต้องประกอบไปด้วยการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ ให้พุทธศาสนิกชน ทราบถึงพระวินัยในข้อที่ว่า "ห้ามสงฆ์รับเงินทอง" ไปด้วย ซึ่งหากมีโยมคนใด จะถวายเงินให้พระโดยตรง ควรต้องให้พระรูปนั้นๆ บอกโยมว่า "อาตมาไม่รับเงินทอง หากโยมต้องการถวายปัจจัย สามารถให้ไว้กับไวยาวัจกร หรือเด็กวัด หรือหากไม่มี ก็ให้โยมไปถวายที่สำนักงานของวัด หรือโอนผ่านระบบ PromptPay ผ่าน QR Code นี้ได้เลย"
6) ทั้งนี้ หากเป็นไปได้ รัฐ อาจมอบสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านบัตรใบนี้ได้ เช่น เมื่อสงฆ์ต้องเดินทางไปไหนมาไหน ก็ไม่ต้องใช้เงิน เพราะใช้การจ่ายเงินผ่านระบบ QR Code หรือ Smart Card ได้เลย โดยระบบ จะไปตัดเงินที่ระบบบัญชีกลางของวัดนั้นๆ โดยอัตโนมัติ
7) รวมถึง การรักษาพยาบาลต่างๆ นั้นก็สามารถกระทำการเบิกจ่าย ผ่านบัตรสมาร์ทการ์ดใบนี้ ได้เช่นกัน
8) ข้อมูลบนบัตรสมาร์ทการ์ดใบนี้ จะแจ้งว่า ขณะนี้สงฆ์รูปนี้ สังกัดอยู่วัดใด นิกายใด รวมถึงด้านหลังบัตร จะแจ้งข้อมูลเบื้องต้นของวัดนั้นๆ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทร และพิกัด GPS ของวัดนั้นๆ เพื่อประโยชน์ในกรณีที่เดินทาง แล้วไม่ทราบว่าจะอธิบายทางอย่างไร ก็อาจจะ Mapping GPS Coordination แล้วให้ระบบนำทางไปให้ หรือผ่าน App บนมือถือ เช่น Google Map เป็นต้น
9) หากผู้ใดเก็บบัตรใบนี้ได้ กรุณานำส่งคืน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ : 25/25 อาคารหลวงพ่อวัดปากน้ำ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 73170
------------------
ประเด็นที่ยังค้างคา และไม่แน่ชัด เกี่ยวกับ พระธรรมวินัย และอื่นๆ เช่น
ก) การใช้บัตร เพื่อโดยสารเดินทาง จะถือว่าเป็นการ ซื้อขาย หรือไม่? อาจต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ได้
ข) การให้โยมถวายเงินผ่านระบบ QR Code จะถูกมองว่าเป็นการรับเงินทองหรือไม่? แต่สงฆ์ก็ไม่ได้รับเข้าตัวเอง แต่โอนเข้าบัญชีกลางของวัดโดยตรง
ค) หากเป็นโยมตามต่างจังหวัด อาจจะไม่สะดวกเนื่องจาก ประชากรส่วนใหญ่ไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือที่สามารถ Scan QR Code ได้
ง) ต่อเนื่องจากข้อ ค) โยมอาจจะสะดวกที่จะให้เงินโดยตรงเลย ซึ่งโยมอาจไม่สะดวกเดินทางไปถวายที่วัด หรือไม่มีเด็กวัด หรือไวยาวัจกรติดตามพระอยู่
จ) ระบบการตรวจสอบข้อมูลนั้น จะตรวจสอบผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งหากอยู่ในที่ห่างไกลทุรกันดาร สัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณอินเตอร์เน็ตอาจไม่ดี
ฉ) รัฐต้องสร้างระบบรองรับไว้มากมาย รวมถึงการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้คุณค่าและการใช้งานบัตรสมาร์ทการ์ดใบนี้ สัมฤทธิ์ผล
ช) รวมถึง ต้องใช้งบประมาณอีกค่อนข้างมาก ในการจัดทำระบบให้รองรับนี้ทั้งหมด เช่น การทำบัตรสมาร์ทการ์ดให้สงฆ์ทั่วประเทศราวๆ 3xx,xxx รูป
------------------
ใน คห1 เป็น ข้อแสดงความคิดเห็นของผม ในเรื่องของการหาทางออกในเรื่อง สงฆ์รับเงินทอง ในประเด็นต่างๆ