นายกฯ ลุงตู่อาจทำงานปิดทองหลังพระ แต่อีกไม่นาน สักวันหนึ่ง ทองที่ปิดหลังพระล้นออกมาข้างหน้าให้ทุกคนได้เห็นอย่างแน่นอนค่ะ"
'ประยุทธ์วันนั้น-กับลุงตู่วันนี้'
14 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 00:01 น.
ตอน "ครม.สัญจร" ไปบุรีรัมย์ คนนินทากันอื้อ!
แต่วานซืน (๑๑-๑๒ มิ.ย.๖๑).........
นายกฯ ลุงตู่ ครม.สัญจรไป "ภาคเหนือตอนล่าง" พิจิตร-นครสวรรค์
คนชมกันตรึม!?
เลือดเนื้อเชื้อไขพิจิตรคนหนึ่ง เป็นใหญ่-เป็นโตอยู่ในกรุงเทพฯ เขาโทร.มาพูดกะผม ชนิดเป็นปลาบ-เป็นปลื้ม
ถามเขา "ปลื้มตรงไหน?"
เขาตอบว่า นายกฯ ตั้งใจทำงาน จริงใจ ไม่เสแสร้ง เป็นธรรมชาติ เป็นกันเองกับชาวบ้านดี
ไม่ต้องให้นักการเมืองจัดฉากต้อนรับ อย่างคราวที่แล้ว!
ที่ได้ใจคนภาคเหนือตอนล่าง "นครสวรรค์-กำแพงเพชร-พิจิตร-อุทัยธานี" เที่ยวนี้เอามากๆ
คือนอกจากแผน "บริหาร-จัดการน้ำ" ที่ไหลผ่านทั้ง ปิง-ยม-น่าน-เจ้าพระยา-สะแกกรัง แล้ว
ที่สั่ง ฟื้นฟู-พัฒนา.........
"บึงสีไฟ" ที่พิจิตร "บึงบอระเพ็ด" ที่นครสวรรค์ ชนิด "ยกเครื่อง" ครั้งใหญ่ นี่แหละ!
ถูกใจชาวบ้าน-ชาวเมืองยิ่งนัก!
บึงสีไฟและบึงบอระเพ็ด ไม่ใช่สมบัติเฉพาะคนพิจิตร-นครสวรรค์
หากแต่เป็น "ธรรมชาติสมบัติ" ของประเทศไทย เพื่อมวลมนุษยชาติโดยตรง
บึงสีไฟ นอกจากเป็นแหล่งน้ำใหญ่อันดับ ๕ ของประเทศ ขนาด ๕ พันไร่แล้ว
ยังเป็นแหล่งดูและศึกษาพันธุ์ "นกหายาก" กว่าร้อยชนิด ที่อพยพมาอาศัย
ปลายปี "พฤศจิกา-ธันวา" บัวจะชูดอกเต่งตึงทั้งบึงสะพรั่ง เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว แหล่งเพาะพันธุ์ปลา
ที่สำคัญ เป็น "แก้มลิง" ด้วย!
"บึงบอระเพ็ด" นั้น เป็นทะเลสาบน้ำจืดใหญ่ที่สุดในประเทศ ขนาดกว่าแสนไร่
เป็น "บึงคู่ชาติ" คงไม่มีใคร ที่ไม่รู้จัก ใครไม่เคยไป ต้องหาโอกาสไป "สักครั้งหนึ่ง" ในชีวิต
เราตักตวงประโยชน์จากบึงบอระเพ็ดกันเป็นร้อยปี แต่แทบไม่มีใครเห็นความสำคัญจะ ฟื้นฟู-พัฒนา-รักษาสภาพ
มันโทรม เสื่อมสภาพ และตื้นเขิน น่าสงสาร
การที่นายกฯ เห็นความสำคัญต้อง "ฟื้นฟูสภาพ" ครั้งนี้ นับเป็นอเนกอนันตคุณเลยเชียว
นายกฯ งานเยอะ..........
แต่เรื่องนี้ จำแม่นๆ หน่อยนะท่าน ช่วยติดตามด้วย "ฝ่ายปฏิบัติ" ทำไปถึงไหน
สักแต่ว่าทำ หรือทำกันจริงจัง ด้วยเข้าใจ?
แต่ผมว่า ท่านจริงจังนะ เท่าที่ทราบ ไม่เพียง "บึงสีไฟ-บึงบอระเพ็ด" เท่านั้น
"กว๊านพะเยา" ที่จังหวัดพะเยา ทะเลสาบน้ำจืดใหญ่อันดับ ๔ ของประเทศ
และ "หนองหาน" ที่กุมภวาปี อุดรธานี อันได้ชื่อว่า "ทะเลบัวแดง" ตอนปลายปี บัวแดงจะบานเต็มหนอง
๔ แห่งนี้ "บึงสีไฟ-บึงบอระเพ็ด-กว๊านพะเยา-หนองหาน"
นายกฯ สั่งการเป็นเรื่อง-เป็นราวไปแล้ว.....
ให้ฟื้นฟู "คืนสภาพสมบูรณ์" เพื่อเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว แหล่งศึกษาธรรมชาติพันธุ์พืช-พันธุ์สัตว์ และเป็น "แก้มลิง"
อันที่จริง.........
ครม.สัญจร "นครสวรรค์-พิจิตร" ของนายกฯ เที่ยวนี้ ก็เป็นอย่างที่ "คนพิจิตร" เขาโทร.มาชม
ผมก็ดูข่าวตลอด สัมผัสความรู้สึกได้ว่า นายกฯ จริงใจ-จริงจัง กับงาน ด้วยตั้งหวัง ให้เป็น "ทางอนาคต" เพื่อชาวบ้านมาก
ก็เป็นธรรมดา อะไรที่จริงใจ-ตั้งหวังมาก เมื่อพบกับคนที่จ้อง ลบล้าง-ทำลาย ย่อมผิดหวัง-น้อยใจบ้าง
แต่แววตานายกฯ จะฉายประกายสุขและผ่อนคลายเป็นธรรมชาติมาก เมื่อแวดล้อมด้วยชาวบ้านผู้เฒ่า-สาวแก่
ได้พูด-ได้คุย-ได้หยอกล้อ ได้อธิบายเรื่องนั้น-เรื่องนี้ให้ชาวบ้านฟัง
โดยเฉพาะได้อยู่กับเด็กๆ ได้เป็น "ลุงตู่" ของหลานๆ
๔ ปี.........
ไม่มีใครทำให้นายกฯ อารมณ์ดี "ยิ้มบริสุทธิ์" ได้เท่าตอนมีเด็กๆ มาหา ได้อยู่กับเด็กๆ
เด็กๆ รักลุงตู่ และลุงตู่ก็รักเด็กๆ ผมว่าเป็น "จุดเด่น" ลงตัวที่สุดของท่านนายกฯ!
อย่างตอนพบประชาชนที่บึงสีไฟ พิจิตร.......
นักเรียนในเครื่องแบบชั้นประถม โรงเรียนไหน ผมก็อยากรู้เหมือนกัน แต่ไม่มีใครบอกให้รู้
เธอยืนเรียงแถว ต่อหน้านายกฯ และคณะรัฐมนตรี แล้วนักเรียนหญิงคนหนึ่ง เก่ง ฉลาด ฉาดฉาน และมาดมั่น
เธอถือไมค์ แล้วกล่าวประโยคต่อไปนี้...........
"นายกฯ ลุงตู่อาจทำงานปิดทองหลังพระ แต่อีกไม่นาน สักวันหนึ่ง ทองที่ปิดหลังพระล้นออกมาข้างหน้าให้ทุกคนได้เห็นอย่างแน่นอนค่ะ"
แค่ท้ายคำ "ปิดทองหลังพระ...."
ลุงตู่ "นักสู้ ๑๐ ทิศ"....น้ำตาก็ร่วงผล็อย!
ต้องก้มหน้า ไม่ข่ม หากแต่ "ซ่อนน้ำตา" ซึ้งที่ทะลักทำนบใจฉับพลัน
และเมื่อแม่หนูคนนั้นกล่าวจบ นักเรียนที่ยืนเรียงแถวทั้งหมด ก็ประสานเสียงก้อง......
"ชีวิตที่เกิดมา เธอคือสิ่งที่ยึดมั่น ทั้งรักทั้งผูกพัน ยิ่งสิ่งใด เพราะเธอนั้น คือ ประเทศไทย..........."
โอ๊ะ....
นั่น เพลง "เพราะเธอคือประเทศไทย" ที่นายกฯ แต่งตอนปีใหม่
กินทั้งเนื้อ-ทั้งตัวและ "กินทั้งใจ" นายกฯ ไปทั้งหมดเลย!
เรียกว่า ทุกคนในที่นั้น "คอแข็ง" ตีบตัน ด้วยความรู้สึกดาลใจพลุ่งทะลุ
ไม่ทราบว่าจากโรงเรียนไหน ใครเป็นครู-อาจารย์ แต่ผมไม่ได้ฟังโดยตรงหรอก ดูและฟังจากคลิปข่าวน่ะ
ถึงกระนั้น ต้องบอกว่า "อิน" จริงๆ!
อิน เพราะความรู้สึกตอบสนองว่า เด็กๆ เธอตั้งใจ ไม่ใช่เพราะครู-อาจารย์ "ไขลาน" ประจบ-เอาใจนายกฯ
นายกฯ "ลงพื้นที่" กี่ครั้งแล้ว ผมก็จำไม่ได้..........
แต่บอกได้ว่า ประยุทธ์ตอนเป็นทหาร กับประยุทธ์ตอนนี้ ที่เป็นนายกฯ เหมือนก้อนหินกะเทาะกลิ้งจากยอดเขาสูง
หินตะปุ่ม-ตะป่ำ "จากยอดเขา"...........
กระเด็นกระดอนลงมา กระแทกกระทั้นหิน จากตรงนั้น กระเด็นไปตรงนี้
๔ ปี ในความเป็น "นายกฯ ทหาร".............
ตะปุ่ม-ตะป่ำในความกร้านแข็งของทหาร ค่อยๆ กร่อนจากแรงกระแทกหายไปทีละน้อย..ทีละน้อย
จนถึงเวลานี้ ริมๆ สู่สภาพ "ก้อนหินกลม" เหมือนถูกกลึงแล้ว!
ทหาร ฝึกมา ๒ แบบ
-แบบ "นาย" ชินกับพูดให้คนอื่นฟัง และ สั่งให้คนอื่นทำ
ไม่ชิน ที่จะฟังคนอื่นพูด และไม่ชอบ ที่จะให้ใครมาสั่ง
-แบบ "ลูกน้อง" ชินกับ ครับ..รับทราบ ปฏิบัติ
ในสมอง คิดได้ แต่ "ทำไม่ได้" และไม่พอใจได้ แต่ "ขัดขืนไม่ได้"
เมื่อพลเอกประยุทธ์ จากบล็อก "นาย" มาเป็นนายกฯ
แรกๆ คงเข้าใจคำว่านายกฯ หมายถึง "ผู้นำ"
ขึ้นเวที, ประชุม ครม., ตอบคำถามสื่อ นายกฯ จึงถนัดเป็นฝ่ายพูดๆๆๆๆ และสั่งๆๆๆๆๆ
ใครถาม ใครแย้ง จะโกรธ!
หลังจากเป็นนายกฯ ครบ ๔ ปี เริ่มเข้าใจแล้ว คำว่านายกฯ ตามศัพท์น่ะ ใช่..."ผู้นำ"
แต่ความหมายจริงทางปฏิบัติ "นายกฯ" คือ........
"ผู้ถูกนำ..โดยประชาชน"
หรือเอากันตรงๆ "ขี้ข้าประชาชน" นั่นแหละ ตรงเป๊ะ!
เพราะอย่างนี้ การลงพื้นที่พบประชาชนระยะหลังๆ ของนายกฯ ลุงตู่ จะปรับสภาพ "เข้าพระ-เข้านาง" ได้นวลเนียนและกลมกลืน
ตอนนี้ พลเอกประยุทธ์ น่าจะซึ้ง ถึงขั้น "ศรัทธา-เข้าถึง" แล้ว ว่า
การเป็น "ขี้ข้าประชาชน" ในตำแหน่งนายกฯ นั้น การเป็นนายกฯ ที่ดี ที่ประชาชนพอใจ ควรทำอย่างไร?
คนส่วนใหญ่ถึงชม......
ว่าสัญจร "พิจิตร-นครสวรรค์" เที่ยวนี้ พลเอกประยุทธ์ทำหน้าที่ "นายกฯ" ได้ถึง
จึงเป็นที่รัก-เป็นที่เรียกหาของประชาชน ทั้งหนุ่มสาว-เฒ่าแก่ ยันเด็กๆ!
ฉะนั้น อะไรจะเกิดใน "เวทีการเมือง" ต่อจากนี้ ก็ให้นึกเสียว่า
เป็น "กระท้อน"........
ต้องถูก "ทุบ" ก่อน ถึงจะ "หวาน" ก็แล้วกัน
https://www.thaipost.net/main/detail/11324
อ่านบทความนี้แล้วก็ตรงใจที่คิดไว้ทุกตัวอักษร เหมือนอ่านใจกันเลยนะคะ
ใครจะว่าอวยลุงตู่ก็ไม่ถือสา เพราะการอวยคนทำงานเพื่อแผ่นดินและประชาชนเป็นเรื่องที่ดี
ไปหาประชาชนคราวนี้ ลุงตู่ได้รับทราบว่าประชาชนมีความรู้สึกต่อท่านอย่างไร
รู้ว่า...ประชาชนทั้งรักและศรัทธาท่านขนาดไหน ท่านคงมีพลังใจทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
รู้สึกปลาบปลื้มไปกับลุงตู่จริงๆค่ะ
💟~มาลาริน~ลุงตู่อาจทำงานปิดทองหลังพระ แต่สักวันหนึ่ง ทองที่ปิดหลังพระล้นออกมาข้างหน้าให้ทุกคนได้เห็นอย่างแน่นอน
นายกฯ ลุงตู่อาจทำงานปิดทองหลังพระ แต่อีกไม่นาน สักวันหนึ่ง ทองที่ปิดหลังพระล้นออกมาข้างหน้าให้ทุกคนได้เห็นอย่างแน่นอนค่ะ"
'ประยุทธ์วันนั้น-กับลุงตู่วันนี้'
14 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 00:01 น.
ตอน "ครม.สัญจร" ไปบุรีรัมย์ คนนินทากันอื้อ!
แต่วานซืน (๑๑-๑๒ มิ.ย.๖๑).........
นายกฯ ลุงตู่ ครม.สัญจรไป "ภาคเหนือตอนล่าง" พิจิตร-นครสวรรค์
คนชมกันตรึม!?
เลือดเนื้อเชื้อไขพิจิตรคนหนึ่ง เป็นใหญ่-เป็นโตอยู่ในกรุงเทพฯ เขาโทร.มาพูดกะผม ชนิดเป็นปลาบ-เป็นปลื้ม
ถามเขา "ปลื้มตรงไหน?"
เขาตอบว่า นายกฯ ตั้งใจทำงาน จริงใจ ไม่เสแสร้ง เป็นธรรมชาติ เป็นกันเองกับชาวบ้านดี
ไม่ต้องให้นักการเมืองจัดฉากต้อนรับ อย่างคราวที่แล้ว!
ที่ได้ใจคนภาคเหนือตอนล่าง "นครสวรรค์-กำแพงเพชร-พิจิตร-อุทัยธานี" เที่ยวนี้เอามากๆ
คือนอกจากแผน "บริหาร-จัดการน้ำ" ที่ไหลผ่านทั้ง ปิง-ยม-น่าน-เจ้าพระยา-สะแกกรัง แล้ว
ที่สั่ง ฟื้นฟู-พัฒนา.........
"บึงสีไฟ" ที่พิจิตร "บึงบอระเพ็ด" ที่นครสวรรค์ ชนิด "ยกเครื่อง" ครั้งใหญ่ นี่แหละ!
ถูกใจชาวบ้าน-ชาวเมืองยิ่งนัก!
บึงสีไฟและบึงบอระเพ็ด ไม่ใช่สมบัติเฉพาะคนพิจิตร-นครสวรรค์
หากแต่เป็น "ธรรมชาติสมบัติ" ของประเทศไทย เพื่อมวลมนุษยชาติโดยตรง
บึงสีไฟ นอกจากเป็นแหล่งน้ำใหญ่อันดับ ๕ ของประเทศ ขนาด ๕ พันไร่แล้ว
ยังเป็นแหล่งดูและศึกษาพันธุ์ "นกหายาก" กว่าร้อยชนิด ที่อพยพมาอาศัย
ปลายปี "พฤศจิกา-ธันวา" บัวจะชูดอกเต่งตึงทั้งบึงสะพรั่ง เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว แหล่งเพาะพันธุ์ปลา
ที่สำคัญ เป็น "แก้มลิง" ด้วย!
"บึงบอระเพ็ด" นั้น เป็นทะเลสาบน้ำจืดใหญ่ที่สุดในประเทศ ขนาดกว่าแสนไร่
เป็น "บึงคู่ชาติ" คงไม่มีใคร ที่ไม่รู้จัก ใครไม่เคยไป ต้องหาโอกาสไป "สักครั้งหนึ่ง" ในชีวิต
เราตักตวงประโยชน์จากบึงบอระเพ็ดกันเป็นร้อยปี แต่แทบไม่มีใครเห็นความสำคัญจะ ฟื้นฟู-พัฒนา-รักษาสภาพ
มันโทรม เสื่อมสภาพ และตื้นเขิน น่าสงสาร
การที่นายกฯ เห็นความสำคัญต้อง "ฟื้นฟูสภาพ" ครั้งนี้ นับเป็นอเนกอนันตคุณเลยเชียว
นายกฯ งานเยอะ..........
แต่เรื่องนี้ จำแม่นๆ หน่อยนะท่าน ช่วยติดตามด้วย "ฝ่ายปฏิบัติ" ทำไปถึงไหน
สักแต่ว่าทำ หรือทำกันจริงจัง ด้วยเข้าใจ?
แต่ผมว่า ท่านจริงจังนะ เท่าที่ทราบ ไม่เพียง "บึงสีไฟ-บึงบอระเพ็ด" เท่านั้น
"กว๊านพะเยา" ที่จังหวัดพะเยา ทะเลสาบน้ำจืดใหญ่อันดับ ๔ ของประเทศ
และ "หนองหาน" ที่กุมภวาปี อุดรธานี อันได้ชื่อว่า "ทะเลบัวแดง" ตอนปลายปี บัวแดงจะบานเต็มหนอง
๔ แห่งนี้ "บึงสีไฟ-บึงบอระเพ็ด-กว๊านพะเยา-หนองหาน"
นายกฯ สั่งการเป็นเรื่อง-เป็นราวไปแล้ว.....
ให้ฟื้นฟู "คืนสภาพสมบูรณ์" เพื่อเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว แหล่งศึกษาธรรมชาติพันธุ์พืช-พันธุ์สัตว์ และเป็น "แก้มลิง"
อันที่จริง.........
ครม.สัญจร "นครสวรรค์-พิจิตร" ของนายกฯ เที่ยวนี้ ก็เป็นอย่างที่ "คนพิจิตร" เขาโทร.มาชม
ผมก็ดูข่าวตลอด สัมผัสความรู้สึกได้ว่า นายกฯ จริงใจ-จริงจัง กับงาน ด้วยตั้งหวัง ให้เป็น "ทางอนาคต" เพื่อชาวบ้านมาก
ก็เป็นธรรมดา อะไรที่จริงใจ-ตั้งหวังมาก เมื่อพบกับคนที่จ้อง ลบล้าง-ทำลาย ย่อมผิดหวัง-น้อยใจบ้าง
แต่แววตานายกฯ จะฉายประกายสุขและผ่อนคลายเป็นธรรมชาติมาก เมื่อแวดล้อมด้วยชาวบ้านผู้เฒ่า-สาวแก่
ได้พูด-ได้คุย-ได้หยอกล้อ ได้อธิบายเรื่องนั้น-เรื่องนี้ให้ชาวบ้านฟัง
โดยเฉพาะได้อยู่กับเด็กๆ ได้เป็น "ลุงตู่" ของหลานๆ
๔ ปี.........
ไม่มีใครทำให้นายกฯ อารมณ์ดี "ยิ้มบริสุทธิ์" ได้เท่าตอนมีเด็กๆ มาหา ได้อยู่กับเด็กๆ
เด็กๆ รักลุงตู่ และลุงตู่ก็รักเด็กๆ ผมว่าเป็น "จุดเด่น" ลงตัวที่สุดของท่านนายกฯ!
อย่างตอนพบประชาชนที่บึงสีไฟ พิจิตร.......
นักเรียนในเครื่องแบบชั้นประถม โรงเรียนไหน ผมก็อยากรู้เหมือนกัน แต่ไม่มีใครบอกให้รู้
เธอยืนเรียงแถว ต่อหน้านายกฯ และคณะรัฐมนตรี แล้วนักเรียนหญิงคนหนึ่ง เก่ง ฉลาด ฉาดฉาน และมาดมั่น
เธอถือไมค์ แล้วกล่าวประโยคต่อไปนี้...........
"นายกฯ ลุงตู่อาจทำงานปิดทองหลังพระ แต่อีกไม่นาน สักวันหนึ่ง ทองที่ปิดหลังพระล้นออกมาข้างหน้าให้ทุกคนได้เห็นอย่างแน่นอนค่ะ"
แค่ท้ายคำ "ปิดทองหลังพระ...."
ลุงตู่ "นักสู้ ๑๐ ทิศ"....น้ำตาก็ร่วงผล็อย!
ต้องก้มหน้า ไม่ข่ม หากแต่ "ซ่อนน้ำตา" ซึ้งที่ทะลักทำนบใจฉับพลัน
และเมื่อแม่หนูคนนั้นกล่าวจบ นักเรียนที่ยืนเรียงแถวทั้งหมด ก็ประสานเสียงก้อง......
"ชีวิตที่เกิดมา เธอคือสิ่งที่ยึดมั่น ทั้งรักทั้งผูกพัน ยิ่งสิ่งใด เพราะเธอนั้น คือ ประเทศไทย..........."
โอ๊ะ....
นั่น เพลง "เพราะเธอคือประเทศไทย" ที่นายกฯ แต่งตอนปีใหม่
กินทั้งเนื้อ-ทั้งตัวและ "กินทั้งใจ" นายกฯ ไปทั้งหมดเลย!
เรียกว่า ทุกคนในที่นั้น "คอแข็ง" ตีบตัน ด้วยความรู้สึกดาลใจพลุ่งทะลุ
ไม่ทราบว่าจากโรงเรียนไหน ใครเป็นครู-อาจารย์ แต่ผมไม่ได้ฟังโดยตรงหรอก ดูและฟังจากคลิปข่าวน่ะ
ถึงกระนั้น ต้องบอกว่า "อิน" จริงๆ!
อิน เพราะความรู้สึกตอบสนองว่า เด็กๆ เธอตั้งใจ ไม่ใช่เพราะครู-อาจารย์ "ไขลาน" ประจบ-เอาใจนายกฯ
นายกฯ "ลงพื้นที่" กี่ครั้งแล้ว ผมก็จำไม่ได้..........
แต่บอกได้ว่า ประยุทธ์ตอนเป็นทหาร กับประยุทธ์ตอนนี้ ที่เป็นนายกฯ เหมือนก้อนหินกะเทาะกลิ้งจากยอดเขาสูง
หินตะปุ่ม-ตะป่ำ "จากยอดเขา"...........
กระเด็นกระดอนลงมา กระแทกกระทั้นหิน จากตรงนั้น กระเด็นไปตรงนี้
๔ ปี ในความเป็น "นายกฯ ทหาร".............
ตะปุ่ม-ตะป่ำในความกร้านแข็งของทหาร ค่อยๆ กร่อนจากแรงกระแทกหายไปทีละน้อย..ทีละน้อย
จนถึงเวลานี้ ริมๆ สู่สภาพ "ก้อนหินกลม" เหมือนถูกกลึงแล้ว!
ทหาร ฝึกมา ๒ แบบ
-แบบ "นาย" ชินกับพูดให้คนอื่นฟัง และ สั่งให้คนอื่นทำ
ไม่ชิน ที่จะฟังคนอื่นพูด และไม่ชอบ ที่จะให้ใครมาสั่ง
-แบบ "ลูกน้อง" ชินกับ ครับ..รับทราบ ปฏิบัติ
ในสมอง คิดได้ แต่ "ทำไม่ได้" และไม่พอใจได้ แต่ "ขัดขืนไม่ได้"
เมื่อพลเอกประยุทธ์ จากบล็อก "นาย" มาเป็นนายกฯ
แรกๆ คงเข้าใจคำว่านายกฯ หมายถึง "ผู้นำ"
ขึ้นเวที, ประชุม ครม., ตอบคำถามสื่อ นายกฯ จึงถนัดเป็นฝ่ายพูดๆๆๆๆ และสั่งๆๆๆๆๆ
ใครถาม ใครแย้ง จะโกรธ!
หลังจากเป็นนายกฯ ครบ ๔ ปี เริ่มเข้าใจแล้ว คำว่านายกฯ ตามศัพท์น่ะ ใช่..."ผู้นำ"
แต่ความหมายจริงทางปฏิบัติ "นายกฯ" คือ........
"ผู้ถูกนำ..โดยประชาชน"
หรือเอากันตรงๆ "ขี้ข้าประชาชน" นั่นแหละ ตรงเป๊ะ!
เพราะอย่างนี้ การลงพื้นที่พบประชาชนระยะหลังๆ ของนายกฯ ลุงตู่ จะปรับสภาพ "เข้าพระ-เข้านาง" ได้นวลเนียนและกลมกลืน
ตอนนี้ พลเอกประยุทธ์ น่าจะซึ้ง ถึงขั้น "ศรัทธา-เข้าถึง" แล้ว ว่า
การเป็น "ขี้ข้าประชาชน" ในตำแหน่งนายกฯ นั้น การเป็นนายกฯ ที่ดี ที่ประชาชนพอใจ ควรทำอย่างไร?
คนส่วนใหญ่ถึงชม......
ว่าสัญจร "พิจิตร-นครสวรรค์" เที่ยวนี้ พลเอกประยุทธ์ทำหน้าที่ "นายกฯ" ได้ถึง
จึงเป็นที่รัก-เป็นที่เรียกหาของประชาชน ทั้งหนุ่มสาว-เฒ่าแก่ ยันเด็กๆ!
ฉะนั้น อะไรจะเกิดใน "เวทีการเมือง" ต่อจากนี้ ก็ให้นึกเสียว่า
เป็น "กระท้อน"........
ต้องถูก "ทุบ" ก่อน ถึงจะ "หวาน" ก็แล้วกัน
https://www.thaipost.net/main/detail/11324
อ่านบทความนี้แล้วก็ตรงใจที่คิดไว้ทุกตัวอักษร เหมือนอ่านใจกันเลยนะคะ
ใครจะว่าอวยลุงตู่ก็ไม่ถือสา เพราะการอวยคนทำงานเพื่อแผ่นดินและประชาชนเป็นเรื่องที่ดี
ไปหาประชาชนคราวนี้ ลุงตู่ได้รับทราบว่าประชาชนมีความรู้สึกต่อท่านอย่างไร
รู้ว่า...ประชาชนทั้งรักและศรัทธาท่านขนาดไหน ท่านคงมีพลังใจทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
รู้สึกปลาบปลื้มไปกับลุงตู่จริงๆค่ะ