เราสูญเสียการได้ยินมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ
เป็นโรคประสาทหูเทียม
พอเราได้มีโอกาสใช้เครื่องช่วยฟังจากแพทย์โรงพยาบาล ตอนเราได้ยินเสียงครั้งแรก
เรามีความสุขมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเสียงนก ดนตรี ทีวี เสียงคนพูด เสียงคนหัวเราะ
เรามีความสุขมากๆกับการได้ยินเสียงเป็นครั้งแรก เป็นเรื่องที่ดีมากๆสำหรับเราเลย
แต่
ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ดีกับเรา
มีวันนึงที่เราไม่ได้ยิน เวลาคนอื่นพูด
เราถึงกับต้อง " อะไรนะ พูดใหม่อีกที "
แต่แล้วทำไมคนอื่นถึงต้องเมิน บางทีก็หัวเราะ
แล้วก็ไม่พูดให้เราฟังซ้ำๆ
ทั้งที่เราแค่ต้องการความชัดเจนกับเสียงอีก
ครั้ง
ตอนเราอยู่ป.3 เราไม่ค่อยมีเพื่อน
เรียนไม่รู้เรื่อง แถมยังต้องโดนเพื่อนล้อตลอด
แทบไม่มีใครคอยช่วยเราเลย และยังต้องเกลียดขี้หน้าเราด้วยซ้ำ
พอเราขึ้นป.5 ทุกอย่างก็เหมือนเดิม
ไม่ว่าจะทำอะไร ไปไหน ก็มักโดนมองด้วยสายตาที่ทิ่มแทง แถมยังต้องโดนเพื่อนตีออกห่างจากเรา ไม่เคยเข้าใกล้เราแม้แต่นิดเดียว
ทำอย่างกะเราสกปรก เหมือนไม่ได้อาบน้ำมาโรงเรียน
จริงๆเราก็มีเพื่อนอยู่ มีแค่ไม่กี่คน
มักเลิกเรียนแล้วไปบ้านเราบ่อยๆ
แต่บ้านเราไม่สวยนะ บ้านโทรมๆ เก่ามาก
คือเราไม่คิดเลยว่าเพื่อนจะกล้ามาบ้านเรา
พอหลังๆนี่ เพื่อนเริ่มทำตัวแปลกๆ
เหมือนว่าเราไม่สนิทกัน เราว่าแล้วเชียว
มันต้องเป็นแบบนี้
ไปโรงเรียนก็ไม่มีเพื่อน อยู่คนเดียวตลอด
ไม่ค่อยไปโรงเรียน
ทั้งรู้สึกโดดเดี่ยว ทั้งอาย
ไปไหนก็อาย ที่คนมองว่าทำไมเราอยู่คนเดียว
พอเราขึ้นม.3 ทุกอย่างที่ผ่านมายังเหมือนเดิม
ไม่มีเพื่อนเหมือนเดิม
พอใกล้จบม.3 เราก็เรียนไม่จบ ลาออกด้วยตัวเอง โดยไม่ลาเพื่อน ไม่ลาครู
ในเฟสบุ๊คก็มีเพื่อนเยอะ แต่ไม่มีใครรู้จักเราเลย บางทีก็จำเราไม่ได้ด้วยซ้ำ
เพื่อนบางคนก็แทบจะไม่ได้คุยกัน
ส่วนเรื่องคนในบ้านก็ไม่ต่างกันกับเพื่อน
เราไม่ค่อยพึ่งพาใครได้ ต่างคนต่างก็ไม่ค่อยเข้าใจกัน
มีปัญหา ทะเลาะกัน
ตอนเราได้ยินเสียง เรามีความส
สุขมาก แต่มีวันนึงเราไม่ควรได้ยินเสียงเลย
เป็นเสียงที่ไม่ควรได้ยิน เพราะมันกระทบต่อจิตใจเราซ้ำๆ เป็นเสียงคำพูดคน ที่ใครๆก็ไม่อยากได้ยิน
จนเราท้อ อยากเลิกที่จะถอดเครื่องช่วยฟัง
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม พอเราไม่ไหว
เราก็ทำร้ายตัวเอง ฆ่าตัวตายกี่ครั้งก็ไม่สำเร็จ
นอนโรงพยาบาลก็บ่อย เข้าๆออกๆ จนจะสิงอยู่ในโรงพยาบาล นัดจิตแพทย์เดือนละครั้ง
ตอนนี้เราอายุ 19 แล้ว
เรายังเรียนไม่จบม.3เลย
แต่เรายังจะเรียนต่ออีกทีนะ
อยากจะเข้าสู่โลกใบใหม่
หวังว่าจะได้เจอเพื่อนดีๆ
คิดยังไงกับเรื่องราวคนหูหนวกคะ
เป็นโรคประสาทหูเทียม
พอเราได้มีโอกาสใช้เครื่องช่วยฟังจากแพทย์โรงพยาบาล ตอนเราได้ยินเสียงครั้งแรก
เรามีความสุขมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเสียงนก ดนตรี ทีวี เสียงคนพูด เสียงคนหัวเราะ
เรามีความสุขมากๆกับการได้ยินเสียงเป็นครั้งแรก เป็นเรื่องที่ดีมากๆสำหรับเราเลย
แต่
ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ดีกับเรา
มีวันนึงที่เราไม่ได้ยิน เวลาคนอื่นพูด
เราถึงกับต้อง " อะไรนะ พูดใหม่อีกที "
แต่แล้วทำไมคนอื่นถึงต้องเมิน บางทีก็หัวเราะ
แล้วก็ไม่พูดให้เราฟังซ้ำๆ
ทั้งที่เราแค่ต้องการความชัดเจนกับเสียงอีก
ครั้ง
ตอนเราอยู่ป.3 เราไม่ค่อยมีเพื่อน
เรียนไม่รู้เรื่อง แถมยังต้องโดนเพื่อนล้อตลอด
แทบไม่มีใครคอยช่วยเราเลย และยังต้องเกลียดขี้หน้าเราด้วยซ้ำ
พอเราขึ้นป.5 ทุกอย่างก็เหมือนเดิม
ไม่ว่าจะทำอะไร ไปไหน ก็มักโดนมองด้วยสายตาที่ทิ่มแทง แถมยังต้องโดนเพื่อนตีออกห่างจากเรา ไม่เคยเข้าใกล้เราแม้แต่นิดเดียว
ทำอย่างกะเราสกปรก เหมือนไม่ได้อาบน้ำมาโรงเรียน
จริงๆเราก็มีเพื่อนอยู่ มีแค่ไม่กี่คน
มักเลิกเรียนแล้วไปบ้านเราบ่อยๆ
แต่บ้านเราไม่สวยนะ บ้านโทรมๆ เก่ามาก
คือเราไม่คิดเลยว่าเพื่อนจะกล้ามาบ้านเรา
พอหลังๆนี่ เพื่อนเริ่มทำตัวแปลกๆ
เหมือนว่าเราไม่สนิทกัน เราว่าแล้วเชียว
มันต้องเป็นแบบนี้
ไปโรงเรียนก็ไม่มีเพื่อน อยู่คนเดียวตลอด
ไม่ค่อยไปโรงเรียน
ทั้งรู้สึกโดดเดี่ยว ทั้งอาย
ไปไหนก็อาย ที่คนมองว่าทำไมเราอยู่คนเดียว
พอเราขึ้นม.3 ทุกอย่างที่ผ่านมายังเหมือนเดิม
ไม่มีเพื่อนเหมือนเดิม
พอใกล้จบม.3 เราก็เรียนไม่จบ ลาออกด้วยตัวเอง โดยไม่ลาเพื่อน ไม่ลาครู
ในเฟสบุ๊คก็มีเพื่อนเยอะ แต่ไม่มีใครรู้จักเราเลย บางทีก็จำเราไม่ได้ด้วยซ้ำ
เพื่อนบางคนก็แทบจะไม่ได้คุยกัน
ส่วนเรื่องคนในบ้านก็ไม่ต่างกันกับเพื่อน
เราไม่ค่อยพึ่งพาใครได้ ต่างคนต่างก็ไม่ค่อยเข้าใจกัน
มีปัญหา ทะเลาะกัน
ตอนเราได้ยินเสียง เรามีความส
สุขมาก แต่มีวันนึงเราไม่ควรได้ยินเสียงเลย
เป็นเสียงที่ไม่ควรได้ยิน เพราะมันกระทบต่อจิตใจเราซ้ำๆ เป็นเสียงคำพูดคน ที่ใครๆก็ไม่อยากได้ยิน
จนเราท้อ อยากเลิกที่จะถอดเครื่องช่วยฟัง
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม พอเราไม่ไหว
เราก็ทำร้ายตัวเอง ฆ่าตัวตายกี่ครั้งก็ไม่สำเร็จ
นอนโรงพยาบาลก็บ่อย เข้าๆออกๆ จนจะสิงอยู่ในโรงพยาบาล นัดจิตแพทย์เดือนละครั้ง
ตอนนี้เราอายุ 19 แล้ว
เรายังเรียนไม่จบม.3เลย
แต่เรายังจะเรียนต่ออีกทีนะ
อยากจะเข้าสู่โลกใบใหม่
หวังว่าจะได้เจอเพื่อนดีๆ