[CR] รีวิว การเรียน "คณะการแพทย์แผนจีน" ทั้ง 3 ปีที่ผ่านมา

       สวัสดีค่ะ ชื่อณินค่ะ เป็นนักศึกษาคณะการแพทย์แผนจีน กำลังขึ้นชั้นปีที่ 4 (ตามจำนวนปีที่เรียน) หรือ ปี 3 (ตามหลักสูตร)
วันนี้ณินจะมารีวิวประสบการณ์การเรียนที่ผ่านมาทั้ง 3 ปีของณิน เพื่อเป็นข้อมูลให้กับน้องๆที่สนใจคณะการแพทย์แผนจีนนะคะ ขอแทนตัวเองว่าพี่แล้วกันเนอะ ในการเขียนรีวิวครั้งนี้พี่อยากโฟกัสไปที่เนื้อหาการเรียน กิจกรรมต่างๆ เหตุการณ์ที่น้องๆจะต้องเจอ ต้องบอกก่อนว่าพี่เรียนที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียวฯนะคะ จริงๆอยากจะแนะนำเกี่ยวกับคณะ แต่ก็ต้องยึดมหาวิทยาลัยตัวเองเนอะ เพราะว่าพี่เรียนอยู่ มหาวิทยาลัยอื่นๆที่เปิดแพทย์แผนจีน พี่เองก็มีเพื่อนๆพี่ๆที่น่ารักมากๆเรียนอยู่ แต่พี่อาจจะไม่รู้ในรายละเอียดลึกๆ จึงต้องอิงสถานศึกษาของพี่นะคะ
.
.


มาเริ่มกันเลยดีกว่า
              พี่เข้าเมื่อตอนปี 58 พี่จึงอิงวิชาตามหลักสูตร 58 เนอะ จะได้ให้ข้อมูลได้ดีกว่า ..... มา เริ่มเลย
พี่เข้ามารอบก่อน admission รอบที่ 1 โดยการสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ ข้อสอบไม่ยากนะคะ ตอนสัมภาษณ์ก็รู้สึกดีมากๆ อาจารย์พี่แนนน่ารักและใจดีมากค่ะ จากเกร็งๆก็หายเลย ตอนนั้นพี่ยื่นแฟ้มสะสมผลงานด้วยค่ะ จริงๆมีไม่มีก็ได้ แต่พี่เป็นนักเรียนกิจกรรมเลยมีรูปทำผลงานเยอะหน่อยเลยยื่นแฟ้มค่ะ พอประกาศผลว่าได้ก็นั่นแหละค่ะสบายใจละ 55555
             ทำความเข้าใจคร่าวๆเกี่ยวกับหลักสูตรนะคะ ตามหลักสูตรจริงๆคือ 5 ปี แต่เรียนจริงๆ 6 ปีค่ะ จะมีปีปรับพื้นฐานภาษาจีนซึ่งตามหลักสูตรไม่นับว่าเป็นปี 1 ค่ะ แต่พวกพี่ๆจะนับตัวเองว่าฉันเรียนปี 1 อยู่เพราะอยากให้มันดูมีความคืบหน้าในชีวิต ฮาาาา ซึ่งในรีวิวนี้พี่จะนับแบบ 6 ปีแล้วกันนะคะ อย่างที่พี่บอกค่ะ น้องต้องเรียนภาษาจีนและไม่ใช่แค่ 1 ปีนะคะ เรียนไปตลอด เรียนจบแล้วก็ต้องใช้ อยู่กับมันไปยาวๆ ถ้าน้องที่สนใจคณะแพทย์แผนจีนแต่ไม่มีพื้นฐานก็ไม่ต้องกลัวนะคะ ยังไงทางคณะมีการเริ่มเรียนพื้นฐานตั้งแต่ต้นกันใหม่ทุกคน แต่อาจจะมีบางครั้งที่เพื่อนข้างๆเก่งกว่า เก่งมาก เก่งเว่อร์ๆ เก่งแบบจีเนียส ไม่ต้องกลัวไปค่ะ ขอแค่เราพยายามและตั้งใจทุกอย่างจะผ่านไปได้ แต่ถ้าน้องๆไม่รักหรือไม่ชอบภาษาจีนจริงๆ คือทำยังไงก็ไม่กระดิกเลย ถ้าน้องจะเรียนก็ทำได้นะคะ แต่น้องๆต้องเจอกับมันไปตลอด ชั่งน้ำหนักเอาว่าน้องๆจะทนกับมันได้ไหม ในมุมมองของพี่คือถ้าไม่ชอบแล้วฝืนต่อน้องๆจะไม่มีความสุขกับการเรียนค่ะ พอไปเรียนรวมกับเพื่อน บางทีเราอาจจะทำได้ไม่ดี เกรดพัง อันนี้ก็เป็นข้อสำคัญที่น้องจะต้องพิจารณาให้ดีนะคะ
.
.

ชั้นปี 1 ประตูสู่ภาษาจีนและการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว CM (chinese medicine)
        เมื่อน้องๆผ่านด่านการสอบต่างๆเข้ามาแล้วน้องจะเข้าสู่ชั้นปี 1 ปีนี้ของน้องๆ จะเป็นปีที่รุ่นพี่การันตีมาแล้วว่า 'สบาย' ที่สุด ในความคิดของพี่มันเป็นปีที่สบายเรื่องเนื้อหาการเรียน แต่ว่าหนักหน่วงด้านความกดดัน เนื่องจากทางคณะมีเกณฑ์ว่าน้องๆจะเรียนวิชาคณะได้ก็ต่อเมื่อสอบผ่าน HSK ระดับ 5 บางคนอาจตกใจว่า อ้าวเฮ้ย เรียนปีเดียวทำไมเอาถึงระดับ 5 ในความเป็นจริงมันไม่ได้ยากเลยค่ะ พี่จะบอกเทคนิคของพี่ให้อีกทีเนอะ
       การเรียนปี 1 น้องจะเปิดเทอมที่ไทยประมาณเดือนสิงหาคม เรียนยาวไปจีนถึงเดือนพฤศจิกายนก็จะสอบปลายภาค แอบกระซิบว่าปี 1 ไม่มีเกรดนะคะ มีแค่ผ่าน/ไม่ผ่าน ไม่น่ากลัวเลยใช่มั้ยยย >< ในระหว่างที่เรียนที่ไทยน้องๆจะได้ทำกิจกรรมที่รุ่นพี่หรือมหาวิทยาลัยจัดให้ร่วม บางอย่างน้องชอบ บางอย่างน้องไม่ชอบ พี่เองก็รู้สึกค่ะว่าตอนที่ตัวเองต้องทำเนี่ย มันก็มีเครียดบ้าง หนักใจบ้าง แต่พอผ่านมาแล้วมันรู้สึกถึงคุณค่าของการมาอยู่คณะนี้ค่ะ มันทำให้ปี 1 ของพี่มีเรื่องราวให้เล่าเยอะแยะ แต่ช่วงปีหลังๆนี้ เด็กๆรุ่นใหม่มักจะมีสไตล์ที่ต่างจากรุ่นของพี่ จึงมีการปรับกิจกรรมบ้าง ก็ต้องยอมรับสภาพเนอะ กิจกรรมที่น้องไม่ชอบ ไม่อยากทำ พี่ก็จะพยายามลดมันลงมา แต่พี่ก็แอบเสียดายแทน เพราะบางกิจกรรมมันก้สร้างอะไรดีๆให้กับพวกเราจริงๆ (แอบดราม่า ปาดน้ำตาแปป) อ้ะ ลืมไป ในระหว่างที่อยู่ไทย น้องๆจะได้เลือกนะคะว่าจะไปเรียนภาษาจีนอีก 7 เดือนที่มหาวิทยาลัยไหนของประเทศจีน ซึ่งในแต่ละปีรายชื่อมหาวิทยาลัยที่เข้าชิงก็อาจจะต่างกันค่ะ ส่วนตัวพี่เลือก มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และการเงินยูนนาน ตอนนั้นเลือกเพราะเมืองนี้มีหิมะค่ะ แค่นี้เลยจริงๆ 555 จากนั้นน้องๆจะได้บินไปที่จีนประมาณต้นเดือน ธันวาคมค่ะ
       เมื่อน้องๆมาถึงประเทศจีน น้องๆจะต้องปรับตัวค่อนข้างมากกับสภาพแวดล้อม อาการ อากาศ การเรียน เพื่อน โอ้ย เยอะไปหมด มาเรียนที่การเรียนแล้วกัน สิ่งที่พี่รีวิวนี้พี่อิงจากสิ่งที่พี่เจอในมหาวิทยาลัยที่พี่เลือกนะคะ มหาลัยอื่นที่เพื่อนๆของพี่ไปก็มีรูปแบบต่างกันต่างกันไปค่ะ (พี่เป็นหัวหน้าห้องค่ะ เสนอหน้าเอง 5555)
-การเรียน  เข้าเรียนค่อนข้างตรงเวลา เลิกตรงเวลา ห้องเรียนเป็นอะไรที่เย็นมากกกก บางวันต้องพกถุงน้ำร้อนไปเรียน
             --> อาจารย์ค่อนข้างเข้มงวดค่ะ เรียน 4 วิชา วิชาHSK การอ่าน หลักพื้นฐาน การพูด การฟัง เสริมด้วยไทเก๊ก(ที่โดดกันบ่อยมาก เพราะเรียนเช้ามาก) วิชาที่ยากพี่ว่าน่าจะเป็นวิชา HSKค่ะ การบ้านเยอะ ท่องศัพท์เยอะ ทำข้อสอบบ่อย แต่อาจารย์ใจดีมาก ใจเย็นมาก ดีมากๆ
             --> วิชาที่พี่ไม่ชอบคือ หลักพื้นฐาน หรือ จงเหอค่ะ มันหลายๆปัจจัยเนอะ อาจารย์ดุ เนื้อหาไม่ยากแต่ไวยกรณ์เยอะ แอบมีน่าเบื่อบ้าง แต่วิชานี้แหละค่ะที่จะทำให้น้องๆผ่าน HSK มีการให้ทำ power point นำเสนอเรื่องต่างๆบ้าง สนุกตรงนี้แหละ
             --> วิชาที่ง่ายมากกกกกกก การฟังค่ะ ง่ายตั้งแต่ตอนเรียนไปยันข้อสอบ ถือว่าพาร์ทการฟังเป็นพาร์ทเก็บคะแนนเลยนะ ต้องตั้งใจเรียนดีๆ อาจารย์ใจดีอีกแล้ววว ดีต่อใจมาก แรกๆอาจฟังไม่ทัน แปลไม่ออกบ้าง แต่พออยู่ไปสักเดือน 2 เดือน ก็ง่ายแล้วค่ะ บางคาบเรียนเสร็จเร็วก็เปิดการ์ตูนให้ดู ฝึกการฟังไปอีกกก
             -->วิชาที่พี่ไม่รู้ว่าชอบดีหรือไม่ชอบดี รู้สึกกลางๆค่อนไปทางแอบเบื่อ คือการอ่าน ด้วยความที่คาบเรียนมันเช้ากว่าวิชาอื่นมั้ง เลยรู้สึกง่วงๆ อึนๆไปบ้าง ข้อดีคือเป็นการฝึก skill ค่ะ
             -->วิชาการพูด เป็นวิชาที่รักมากกกก เพราะเรียนสบาย เรียนวันศุกร์ อาจารย์ใจดี กิจกรรมในห้องก็สนุก มีให้เล่นเกมส์ โอ้ยยย ดีไปหมด
* เริ่มเรียนธันวา ปิดเทอมตรุษจีนช่วงกุมภาฯ น้องๆก็เลือกเอาว่าจะกลับไทยไหมหรือจะเที่ยว พี่เลือกกลับไทยค่ะ เพราะร้านค้าปิดเกือบหมด กลัวอด กลัวน้ำหนักลด 5555
-การกิน การอยู่
             --> หอพัก เป็นหอต่างชาติค่ะ จริงๆก็มีแค่พวกเพื่อนๆเราก็เต็มหอแล้ว อาจมีชาติอื่นแซมมาบ้างแต่ก็อยู่คนละห้องกันค่ะ สภาพหอพี่คือชั้นนึงจะมี 2 ห้องใหญ่ ซอยเป็น 3 ห้องย่อย อยู่ได้ 5  สวัสดีค่ะ ชื่อณินค่ะ เป็นนักศึกษาคณะการแพทย์แผนจีน กำลังขึ้นชั้นปีที่ 4 (ตามจำนวนปีที่เรียน) หรือ ปี 3 (ตามหลักสูตร)
ชื่อสินค้า:   คณะการแพทย์แผนจีนที่หลายๆคนอยากทำความรู้จัก และกำลังสนใจจะเข้าศึกษา
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่