การคลุมถุงชน กับการจัดการความผิดหวัง

"ลูกพี่ลูกน้อง ที่บ้านถูกจับแต่งงาน สมัยนี้ยังมีการคลุมถุงชนอยู่อีกหรอ ถ้าเป็นเรา เราไม่ยอมหรอก คนไม่ได้รักกันจะมาจับแต่งานกันได้ไง ..ชีวิตเรา เราควรเลือกคู่ครองเองป่ะ.."
นี่เลยอดีตแฟนมันพูดกับผมแบบนี้เลย.. 18:23 น.ของวันที่ 09june,18 ข้อความก็ถูกส่งมาทางไลน์ ตามรูปที่แนบมา สุดท้ายเค้าก็ไปคบกับคนที่บ้านเค้าหาไว้ให้ 5ปีที่ผ่านมา มันแพ้ สองเดือน.ที่เค้ารู้จักกันฐานะเดียวกัน ผู้ใหญ่เห็นดีเห็นงามกัน..นึกว่าตัวเองอยู่ในละครช่อง 7 ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาเจอกับตัวเอง..และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนทิ้ง..มันปลอบใจตัวเองมาตลอด เรารู้ว่าเราจะจัดการกับความรู้สึกแบบนี้ยังไง..ดูข่าวฆ่ากันตาย ฆ่าตัวตายเพราะไม่สมหวังในความรัก ..โง่ปะฆ่าตัวตายเพราะเรื่องแค่นี้หรอ .. ผมด่าทุกครั้งที่เจอข่าวแบบนี้  แต่วันนี้ความรู้สึกนั้นมันดันมาเกิดกับตัวผมเอง เฮ้ย..ยิ้มมาหว่ะ อารมณ์ไม่อยากอยู่ คิดเรื่องแบบนี้แล้วมันเศร้าอยากลืมแต่ลืมไม่ได้.สุดท้ายความคิดโง่ๆก็เข้ามาในหัว "อยากตายๆยิ้ม" โมโห อดีตคนรักกันที่เอาแต่ร้องไห้ขอโทษๆๆ..ไม่พูดอย่างอื่นบ้างวะ..
ย้อนกลับมาคิด นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกของกูนะโว้ย..มันโดนทิ้งมากี่ครั้ง ทิ้งใครมาก็เยอะ เล่นๆกับคนอื่นมาก็ไม่ใช่น้อย .. แค่นี้เองกูไหว.
เพื่อนๆแต่ละคนถาโถมเข้ามาปลอบใจบนเฟสบุ๊คที่ผมโพสข้อความโดนบอกเลิก.. บางคนโมโห แทนด่าผู้หญิง..เราก็ได้แต่พูดไปเหมือนบทละครที่พระเอกโดนทิ้ง "อย่าไปว่าน้องเค้าเลย น้องเค้าคงไม่อยากให้เป็นแบบนี้ " ถุ๊ย..พระเอกณเดชยังชิดซ้ย มาริโอ้ชิดขวาไปดิ  เจอ คำพูดกูแบบนี้
เสียใจแต่ไม่มีน้ำตา นี่เราเสียใจแบบไหนวะ..หรือว่ามันชินกับการโดนทิ้งหรอ..
บุหรี่มวนสุดท้ายถูกจุดสูบในบรรดา 20 มวน ระหว่างที่พิมพ์ระบายความรู้สึก สองนิ้วคีบบุหรี่เพย์ออฟ เขียวซองแข็ง ควันขาวๆมัวๆลอยเข้าเบ้าตา มันทำให้รู้ว่า บางสิ่งบนโลกไม่แน่นอน อกหักอยากร้องแต่ยิ้มไม่ร้อง ควันบุรี่เข้าตา ยิ้มน้ำตาไหล ทั้งๆที่ยิ้มไม่อยากให้ไหล
ผมระบายรู้สึกลงบนมือถือ..ผ่านแอฟพันทิป ผมตัดสินใจจะลืมความรู้สึกนี้ไปให้ไวที่สุด จริงๆพึ่งผ่านมาแค่ๆไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ..(ให้โอกาสได้ลิ้มรสความผิดหวัฝนิดนึงน่า)
ผมโพสกระทู้ลงพันทิปไว้สองกระทู้ เรื่องรถ อย่างเดียว นี่เป็นทู้แรกที่โพสเรื่องความรักและการศูนย์เสีย ความไว้ใจ ความเชื่อใจ มัยหายไปหมด แต่ผมจะไม่หยุดเรื่องความรัก แต่จะไม่คาดหวังอะไรมาก (จริงๆมันควรคิดได้ตั้งนานนะ)
เข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันมีทั้งสมหวังและการศูนย์เสีย แต่เชื่อเถอะ ไอ้คนที่บอกจะไม่คบใครอีกเลย มันไม่มีจริงหรอก ผมเชื่อว่าคนอย่างผม ต้องไปถูกใจใครสักคนบ้างแหล่ะ
เพื่อนๆหลายคนที่ได้เข้ามาอ่าน อาจจะคิดว่ามันคือนิยายที่ผมแต่ขึ้นมา แต่เชื่อเถอะ ชีวิตจริงมันยิ่งกว่านิยายเหมือนที่ใครหลายๆคนบอกไว้
สำหรับผมแล้วอยากให้มันจบแบบ ดีๆมากกว่า
และที่พร่ำมาทั้งหมดมันคือเรื่องจริงที่เกิดกับตัวเอง จริงๆมันมีบทสนทนาระหว่างผม กับ ผู้ชายคนนั้น แต่ไม่ขอเอ่ยถึงดีกว่า....
แค่อยากได้คำปลอบใจดีๆ กำลังใจดีๆ
ด่าได้ แต่อย่าแรงสำนึกผิดไม่ทัน ...ใครมีประสบการณ์แบบนี้มาแชร์กันหน่อย จะได้รู้ว่าบนโลกนี้มีคนที่เป็นเหมือนผมมากน้อยแค่ไหน...และคุณผ่านมันไปยังไง.หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ถ้าใครได้เจอกับตัวคุณจะไม่พูดแบบนี้..
**ผมไม่รู้ว่ากระทู้แบบนี้ต้องไปแปะอยู่ห้องไหนผิดห้องขออภัยด้วย **
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่