เราถูกน้อง อายุใกล้เคียงกัน พูดตัดพี่ตัดน้องมาแล้ว 3-4 ครั้งแต่ละครั้งก็ไม่ติดต่อเลย 10 เดือน ถึง 2-3ปี ทุกครั้งเราจะเป็นเริ่มกลับไปพูดเริ่มติดต่อก่อน เราไม่เคยเป็นคนพูดตัดพี่ตัดน้องแต่ ณวันนี้ เราหมดใจไปเอง และอยากตัดพี่ตัดน้องจากใจ ไม่ใช่เพราะอารมณ์และยังไม่เคยพูดออกไป เป็นการสมควรไหม
ตลอดที่ผ่านมาเราเป็นคนให้ความช่วยเหลือ เป็นผู้ให้ เราไม่เดือดร้อนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาน้อง แต่ตรงข้ามน้องยังต้องการความช่วยเหลือ โน้นนี้นั้น อยู่เรื่อยๆ
เรามีพี่น้อง 5 คน น้องคนนี้ตัดขาดพี่ชาย น้องชาย และเรา ตอนนี้ยังพูดกับอีกคนๆสุดท้าย ซึ่งก่อนหน้าก็เคยสบถด่าแรงๆ ไม่ติดต่อกันเป็น10ปีมาแล้ว แต่เราเป็นคนเกลี่ยกล่อมให้เขาเลิกเกลียดน้องคนสุดท้ายคนนี้แล้วกลับมาคุยกัน
ความเจ็บปวดครั้งที่ 1
น้องตื้อให้เราดาวน์รถให้ สองแสนบาท แต่จะผ่อนเอง โดยน้องจะค้าขาย ตอนนั้นเราเช่าบ้านให้น้องคนนี้ และให้เงินใช้เดือนล่ะ 2200 บาททุกเดือนอยู่แล้ว เพราะน้องออกจากงานอ้างว่าไม่ถูกกับญาติเจ้าของ เราก็นึกว่าน้องถูกกดดัน เลยช่วยเรื่องบ้านเช่า เรื่องเงิน แต่น้องไปบอกพ่อเราว่า อยู่ๆก็มาดาวน์รถให้ทำให้เขามีภาระ เราฉุนมากแต่พอถามน้อง เขาบอกเขาไม่ได้พูด แต่เราเชื่อพ่อเรา100% พ่อไม่อยากเราทะเลาะกันหรอก แต่ท่านคงสงสารเรา หลายปีต่อมา น้องขายรถคันนี้แต่เอาเงินทั้งหมดให้แฟน ไม่คืนเราสักบาท ระหว่างนั้น เราเคยทำของสิ่งหนึ่งมูลค่า200 บาทของน้องเสีย จริงๆเพื่อนบ้นมายืมแล้วทำเสีย น้องด่าเราแรงมากๆๆๆๆๆ จนเราต้องพูดว่า ต่อให้เราทำเครื่องซักผ้าน้องเสีย น้องก็ไม่สมควรด่าเราแรงขนาดนี้เลย นี่แค่ 200 บาท
ความเจ็บปวดครั้งที่ 2
เราซื้อทาวน์เฮ่าส์เงินสดให้น้อง 8.5แสนบาท แต่น้องเอาไปเข้าธนาคารทำการค้าแล้วเจ๋ง มาขอให้เรายื่นกู้ใหม่แต่เขาจะผ่อน เราไม่ยอม เพราะถ้าเขาผ่อนไม่ไหวเท่ากับเราซื้อบ้านหลังนี้ให้เขา 2 ครั้ง น้องโกรธเรามาก
ความเจ็บปวดครั้งที่ 3
เราซื้อคอนโดให้เราเองใกล้ๆบ้านพ่อ เลยโทรไปถามน้องว่าอยากได้ด้วยไหม น้องบอกอยากได้เราเลยจองให้ 5 พันบาทแต่หลังจากนั้น ชั่วโมงหนึ่ง น้องโทรมาบอกเราว่าไม่เอาล่ะ เราก็โวยว่าจ่ายไป5พันแล้ว น้องพูดแบบไม่สะทกสะท้านว่าก็หาทางขายต่อสิ อ้าวงานเข้า เราเดือดร้อนคนเดียวเลย
แต่ต่อมา น้องต้องการมาอยู่คอนโดเรา เราก็ไม่เข็ด ยินดีจะให้มาอยู่แต่ต้องติดมุ้งลวด ซื้อของเข้าเพราะเป็นห้องเปล่า ตอนนั้นเรายังทำงานต่างจังหวัด จะว่างเฉพาะเสาร์อาทิตย์ น้องก็บีบเราให้ยืนยันว่าเขาจะมาอยู่ได้เมื่อไร เราก็ไม่แน่ใจเพราะนัดช่างมุ้งลวดแล้วไม่มา น้องก็ด่าเราสาดเสียเทเสีย เออใจดีแล้วทำให้โดนด่าอีกล่ะ สรุปไม่มาอยู่แล้วเราก็รู้สึกโล่งไม่ต้องเสี่ยงถูกด่า และมีคนมาขอเช่าเราเลยปล่อยเช่า น้องก็โทรมาถามเราแบหวนๆไม่พอใจว่า ปล่อยเช่าไปเท่าไร เราไม่บอก
ความเจ็บปวดครั้งที่ 4
เราพี่น้องได้เงินมรดกมาก้อนหนึ่ง ก็เลยคิดจะซื้อบ้านเดี่ยว ชื่อร่วม แต่พอดูบ้านแล้วเราก็ยังกังวลว่าจะมีปัญหากับน้องคนนี้อีก เลยบอกขอคิดดูก่อน แต่น้องไม่ยอมจะเอาให้ได้ เรายื้อจน สนง ขายจะปิดแล้ว น้องก็โวยวาย เรายอมรับว่าตอนนั้นเราไม่กล้าขัดใจน้อง เราโง่เองจริงๆ จำต้องวางเงินจอง แล้วผ่อนดาวน์ มา2-3 งวด อยู่ดีๆน้องโทรมาบอกว่าไม่เอาล่ะ ให้เรารับไปคนเดียว เราบอกกำลังเราไม่ไหว น้องโมโหมากๆๆ ตัดขาดพี่น้อง ไม่ติดต่อกัน 2-3ปีเลย งงจริงๆตรูผิดตรงไหน แถมต้องไปวิ่งเรื่องคนเดียวขอเงินคืนบางส่วน และคืนส่วนของน้องไปผ่านทางพ่อ
ความเจ็บปวดครั้งที่ 5
เราเคยป่วยเป็นมะเร็ง กำลังจะเริ่มรักษา แต่มาเถียงกันเรื่องไร้สาระแล้วน้องก็บอกตัดพี่ตัดน้องอีก ไม่ติดต่อมาเลย 9-10 เดือน มาติดต่อเพราะพ่อเราเสีย เลยมาคุยกันในงานศพพ่อ เราก็ยังน้อยใจว่าไม่ถามสารทุกข์เราเลย จะตายหรือป่าว ใจดำไหมเนี่ย
ความเจ็บปวดอื่นๆเล็กๆอีกเยอะ
เช่น เราไม่อยากให้น้องเสียเงินค่าถ่ายเอกสารทะเบียนบ้านเยอะ เราเลยเอาไปถ่ายที่ทำงานให้ 3-4ชุดเผื่อใช้ น้องเก็บไว้หลายเดือน แล้วเกิดต้องใช้เรื่องอะไรไม่รู้ แต่ไม่เช็คว่าสำเนามีครบที่จำเป็นใช้ไหม พอไปถึงที่ขาดบางหน้า น้องโทรไปด่าเราสาดเสียเทเสีย แรงมากๆๆๆๆๆ เราเหวอเลย แค่ได้พูดว่า คิดบ้างสิว่าเราจะแกล้งทำไม เราแค่อยากประหยัดให้
ยังมีอีกหลายเคส ที่น้องไม่พอใจ ทำให้วันนี้เรามาวิเคราะห์ได้ว่า ถ้าเราไม่ห่วง ไม่ไปช่วย ไม่ไปยุ่ง กับน้องคนนี้ เราก็ไม่เสียเงิน ไม่เสียเวลา ไม่โดนตะคอกใส่ เราถอดใจลึกๆขึ้นมา อยากถามความเห็นเพื่อนว่า เราสมควรตัดขาดน้องคนนี้ อย่างที่เขาพูด มาก3-4ครั้งไหม เขาชอบพูดว่าเวลาจะช่วยเหลือ หรือหวังดีกับเขา ต้องดูด้วยว่าเขาว่างรับไหม
ขอบคุณทุกความเห็น และน้อมรับคำตำหนิ จากเพื่อนๆพันทิบล่วงหน้านะค่ะ
สายเลือดเดียวกัน ควรตัดขาดไหม
ตลอดที่ผ่านมาเราเป็นคนให้ความช่วยเหลือ เป็นผู้ให้ เราไม่เดือดร้อนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาน้อง แต่ตรงข้ามน้องยังต้องการความช่วยเหลือ โน้นนี้นั้น อยู่เรื่อยๆ
เรามีพี่น้อง 5 คน น้องคนนี้ตัดขาดพี่ชาย น้องชาย และเรา ตอนนี้ยังพูดกับอีกคนๆสุดท้าย ซึ่งก่อนหน้าก็เคยสบถด่าแรงๆ ไม่ติดต่อกันเป็น10ปีมาแล้ว แต่เราเป็นคนเกลี่ยกล่อมให้เขาเลิกเกลียดน้องคนสุดท้ายคนนี้แล้วกลับมาคุยกัน
ความเจ็บปวดครั้งที่ 1
น้องตื้อให้เราดาวน์รถให้ สองแสนบาท แต่จะผ่อนเอง โดยน้องจะค้าขาย ตอนนั้นเราเช่าบ้านให้น้องคนนี้ และให้เงินใช้เดือนล่ะ 2200 บาททุกเดือนอยู่แล้ว เพราะน้องออกจากงานอ้างว่าไม่ถูกกับญาติเจ้าของ เราก็นึกว่าน้องถูกกดดัน เลยช่วยเรื่องบ้านเช่า เรื่องเงิน แต่น้องไปบอกพ่อเราว่า อยู่ๆก็มาดาวน์รถให้ทำให้เขามีภาระ เราฉุนมากแต่พอถามน้อง เขาบอกเขาไม่ได้พูด แต่เราเชื่อพ่อเรา100% พ่อไม่อยากเราทะเลาะกันหรอก แต่ท่านคงสงสารเรา หลายปีต่อมา น้องขายรถคันนี้แต่เอาเงินทั้งหมดให้แฟน ไม่คืนเราสักบาท ระหว่างนั้น เราเคยทำของสิ่งหนึ่งมูลค่า200 บาทของน้องเสีย จริงๆเพื่อนบ้นมายืมแล้วทำเสีย น้องด่าเราแรงมากๆๆๆๆๆ จนเราต้องพูดว่า ต่อให้เราทำเครื่องซักผ้าน้องเสีย น้องก็ไม่สมควรด่าเราแรงขนาดนี้เลย นี่แค่ 200 บาท
ความเจ็บปวดครั้งที่ 2
เราซื้อทาวน์เฮ่าส์เงินสดให้น้อง 8.5แสนบาท แต่น้องเอาไปเข้าธนาคารทำการค้าแล้วเจ๋ง มาขอให้เรายื่นกู้ใหม่แต่เขาจะผ่อน เราไม่ยอม เพราะถ้าเขาผ่อนไม่ไหวเท่ากับเราซื้อบ้านหลังนี้ให้เขา 2 ครั้ง น้องโกรธเรามาก
ความเจ็บปวดครั้งที่ 3
เราซื้อคอนโดให้เราเองใกล้ๆบ้านพ่อ เลยโทรไปถามน้องว่าอยากได้ด้วยไหม น้องบอกอยากได้เราเลยจองให้ 5 พันบาทแต่หลังจากนั้น ชั่วโมงหนึ่ง น้องโทรมาบอกเราว่าไม่เอาล่ะ เราก็โวยว่าจ่ายไป5พันแล้ว น้องพูดแบบไม่สะทกสะท้านว่าก็หาทางขายต่อสิ อ้าวงานเข้า เราเดือดร้อนคนเดียวเลย
แต่ต่อมา น้องต้องการมาอยู่คอนโดเรา เราก็ไม่เข็ด ยินดีจะให้มาอยู่แต่ต้องติดมุ้งลวด ซื้อของเข้าเพราะเป็นห้องเปล่า ตอนนั้นเรายังทำงานต่างจังหวัด จะว่างเฉพาะเสาร์อาทิตย์ น้องก็บีบเราให้ยืนยันว่าเขาจะมาอยู่ได้เมื่อไร เราก็ไม่แน่ใจเพราะนัดช่างมุ้งลวดแล้วไม่มา น้องก็ด่าเราสาดเสียเทเสีย เออใจดีแล้วทำให้โดนด่าอีกล่ะ สรุปไม่มาอยู่แล้วเราก็รู้สึกโล่งไม่ต้องเสี่ยงถูกด่า และมีคนมาขอเช่าเราเลยปล่อยเช่า น้องก็โทรมาถามเราแบหวนๆไม่พอใจว่า ปล่อยเช่าไปเท่าไร เราไม่บอก
ความเจ็บปวดครั้งที่ 4
เราพี่น้องได้เงินมรดกมาก้อนหนึ่ง ก็เลยคิดจะซื้อบ้านเดี่ยว ชื่อร่วม แต่พอดูบ้านแล้วเราก็ยังกังวลว่าจะมีปัญหากับน้องคนนี้อีก เลยบอกขอคิดดูก่อน แต่น้องไม่ยอมจะเอาให้ได้ เรายื้อจน สนง ขายจะปิดแล้ว น้องก็โวยวาย เรายอมรับว่าตอนนั้นเราไม่กล้าขัดใจน้อง เราโง่เองจริงๆ จำต้องวางเงินจอง แล้วผ่อนดาวน์ มา2-3 งวด อยู่ดีๆน้องโทรมาบอกว่าไม่เอาล่ะ ให้เรารับไปคนเดียว เราบอกกำลังเราไม่ไหว น้องโมโหมากๆๆ ตัดขาดพี่น้อง ไม่ติดต่อกัน 2-3ปีเลย งงจริงๆตรูผิดตรงไหน แถมต้องไปวิ่งเรื่องคนเดียวขอเงินคืนบางส่วน และคืนส่วนของน้องไปผ่านทางพ่อ
ความเจ็บปวดครั้งที่ 5
เราเคยป่วยเป็นมะเร็ง กำลังจะเริ่มรักษา แต่มาเถียงกันเรื่องไร้สาระแล้วน้องก็บอกตัดพี่ตัดน้องอีก ไม่ติดต่อมาเลย 9-10 เดือน มาติดต่อเพราะพ่อเราเสีย เลยมาคุยกันในงานศพพ่อ เราก็ยังน้อยใจว่าไม่ถามสารทุกข์เราเลย จะตายหรือป่าว ใจดำไหมเนี่ย
ความเจ็บปวดอื่นๆเล็กๆอีกเยอะ
เช่น เราไม่อยากให้น้องเสียเงินค่าถ่ายเอกสารทะเบียนบ้านเยอะ เราเลยเอาไปถ่ายที่ทำงานให้ 3-4ชุดเผื่อใช้ น้องเก็บไว้หลายเดือน แล้วเกิดต้องใช้เรื่องอะไรไม่รู้ แต่ไม่เช็คว่าสำเนามีครบที่จำเป็นใช้ไหม พอไปถึงที่ขาดบางหน้า น้องโทรไปด่าเราสาดเสียเทเสีย แรงมากๆๆๆๆๆ เราเหวอเลย แค่ได้พูดว่า คิดบ้างสิว่าเราจะแกล้งทำไม เราแค่อยากประหยัดให้
ยังมีอีกหลายเคส ที่น้องไม่พอใจ ทำให้วันนี้เรามาวิเคราะห์ได้ว่า ถ้าเราไม่ห่วง ไม่ไปช่วย ไม่ไปยุ่ง กับน้องคนนี้ เราก็ไม่เสียเงิน ไม่เสียเวลา ไม่โดนตะคอกใส่ เราถอดใจลึกๆขึ้นมา อยากถามความเห็นเพื่อนว่า เราสมควรตัดขาดน้องคนนี้ อย่างที่เขาพูด มาก3-4ครั้งไหม เขาชอบพูดว่าเวลาจะช่วยเหลือ หรือหวังดีกับเขา ต้องดูด้วยว่าเขาว่างรับไหม
ขอบคุณทุกความเห็น และน้อมรับคำตำหนิ จากเพื่อนๆพันทิบล่วงหน้านะค่ะ