“เมื่อเหล่าอาชญากรต่างพรรคต่างพวก รวมตัวกันในสถานที่เดียวกัน!”
ประโยคข้างต้นเป็นหัวใจสำคัญของ Hotel Artemis ที่นำไปต่อยอดเเละเล่นกับสถานการณ์ชิงไหวชิงพริบ การต่อสู้ฆ่าฟันกันเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง โดย 7 ตัวละครหลักก็ประกอบด้วย
- 'เดอะเนิร์ส' (โจดี้ ฟอสเตอร์) นางพยาบาลผู้คุมกฎในโรงแรมมหาโจร
- 'ไวกิกิ' (สเตอร์ลิ่ง เค. บราวน์) บอสใหญ่แก๊งปล้นใต้หน้ากาก
- 'นีซ' (โซเฟีย โบเทลลา) เจ้าหญิงนักฆ่าตามใบสั่ง
- 'ครอสบี้' (แซกคารี่ ควินโต้) ลูกเจ้าพ่อจอมหัวร้อน
- 'อะคาพัลโก' (ชาร์ลี เดย์) วายร้ายนักวางเเผน
- 'เดอะ วูล์ฟ คิง' (เจฟฟ์ โกลด์บลัม) มาเฟียตัวพ่อที่ทุกคนต้องยำเกรง
- 'เอเวอเรสต์' (เดฟ บาติสต้า) บุรุษพยาบาลจอมพลัง
หนังเข้าฉาย 14 มิถุนายนนี้
https://www.youtube.com/watch?v=EVV79LTN6wU&feature=youtu.be
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
7. Dave Bautista / Guardians of the Galaxy (2014)
จากอดีตนักมวยปล้ำชื่อดัง Dave Bautista ที่ปัจจุบันกลายเป็นที่คุ้นชินในบทบาทนักแสดงจากหนังซุปเปอร์ฮีโร่ค่ายมาร์เวลอย่าง Guardians of the Galaxy โดยเขาต้องรับบทเป็นแดร็กซ์ชายผู้มาจากเผ่าพันธุ์ฮิวแมนนอยซึ่งอยู่ในสปีชีส์เดียวกับมนุษย์ แต่มีร่างกายที่แข็งแกร่งและพละกำลังที่เหนือกว่า ซึ่งเขาเองก็ดึงคาแรคเตอร์ของแดร็กซ์ออกมาได้ดีและกลายเป็นขวัญใจของแฟนมาร์เวลได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยเนื้อหาของภาคนี้จะเป็นการรวมทีมเหล่าการ์เดี้ยนที่ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน สตาร์ลอร์ด ร็อคเกต กรู๊ท แดร็กซ์ และกาโมร่า ก่อนต้องพบกับภารกิจสําคัญบางอย่างที่นำไปสู่การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่
6. Jeff Goldblum / Independence Day (1996)
หลายคนคงรู้จัก Jeff Goldblum จากบทบาทนักวิทยาศาสตร์ในหนังไซไฟระดับตำนานที่คอหนังต่างรู้จัก นิยมชมชอบ และบางคนก็ยกให้เป็นเบอร์หนึ่งของหนังแนวเอเลี่ยนบุกโลก เพราะด้วยเนื้อหาที่แปลกใหม่ของยุคสมัยนั้นกับหนังวันสิ้นโลกที่ปมเรื่องไม่ได้เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติแต่เป็นการคุกคามของเอเลี่ยนนอกโลก ทั้งยังใส่ประเด็นการเมืองและสอดแทรกอุดมการณ์ความรักชาติเพื่อให้เนื้อหามีมิติและดูน่าเชื่อถือ แต่ความสนุกแท้จริงของคนดูคือการต้องลุ้นไปกับชะตากรรมการอยู่รอดของมนุษย์โลกและการหาทางรับมือเหล่าเอเลี่ยนสุดร้ายกาจด้วยวิธีต่างๆ และแน่นอนว่าคนดูจะต้องตื่นตาไปกับการเต็มฉากแอคชั่นวินาศสันตะโร
5. Charlie Day / Pacific Rim (2013)
หนังบล็อกบัสเตอร์แนวหุ่นยนต์ในวิสัยทัศน์ของ Guillermo del Toro ผู้ที่นิยมชมชอบในเรื่องราวของสัตว์ประหลาด อสูรกายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเขานำมันไปผสมกับสไตล์อนิเมะหุ่นยนต์ฝั่งญี่ปุ่นอย่างพวก Gundam, Great Mazinger, Evangelion ในแง่ของการดีไซน์รูปลักษณ์หุ่นยนต์ เหล่าสัตว์ประหลาด รวมไปถึงตัวของเส้นเรื่องที่ไม่สลับซับซ้อน และเน้นฉากแอคชั่นเพื่อเอนเตอร์เทนคนดู อีกทั้งยังสอดแทรกบทดราม่า ใส่ปมเบื้องหลังเพื่อให้ตัวละครดูมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น แน่นอนว่าพล็อตก็เดินตามสูตรสำเร็จกับโลกอนาคตอันสงบสุข ที่อยู่ๆกลับถูกคุกคามด้วยเหล่าสัตว์ประหลาดไคจู และทางฝั่งมนุษย์ต้องใช้หุ่นยนต์เยเกอร์เพื่อเข้ารับมือกับมัน โดย Charlie Day ผู้รับบทเป็นนักวิทยาศาสตร์สมองเฟื่อง ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี สร้างโมเม้นท์ชวนขบขันให้เกิดขึ้นเป็นระยะๆเพื่อผ่อนคลายจากสภาวะตึงเครียดในหนัง
4. Zachary Quinto / Star Trek: Into Darkness (2013)
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า Star Trek เป็นหนึ่งในหนังไซไฟอวกาศที่มีความเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของหนังกลุ่มนี้นับตั้งแต่ยุค 60s ทั้งถูกฉายในละครโทรทัศน์ ถูกดัดแปลงเป็นหนังหลายภาค กระทั่งปี 2009 มีการรีบู้ทใหม่ผ่านฝีมือของ J.J. Abrams และสี่ปีต่อมาก็ได้สานต่อความสำเร็จโดยใช้ชื่อว่า Into Darkness ที่ตัวหนังยังคงความเป็นไซไฟปรัชญาที่สะท้อนความหมายของสิ่งมีชีวิตผ่านการผจญภัยอันน่าทึ่ง และที่สำคัญเนื้อหาภาคนี้ยังลงเข้าไปสำรวจสภาวะจิตใจอันมืดหม่น ที่มาพร้อมการตัดสินใจครั้งสำคัญ ขณะเดียวกันก็ยังสอดแทรกอารมณ์ขับเพื่อไม่ให้หนังดูตึงเครียดจนเกินไป แน่นอนว่า Zachary Quinto กับบทบาทสป็อคตัวละครที่ใครหลายคนต่างหลงรัก เขายังแสดงออกถึงความเฉลียว บุคลิกเนิร์ดๆ และจังหวะการรับส่งกับเคิร์กได้อย่างยอดเยี่ยม
3. Sofia Boutella / Kingsman: The Secret Service (2014)
ต้องบอกว่าเป็นหนังสายลับที่เอนเตอร์เทนคนดูได้ดีมากๆ ด้วยการนำความเป็นหนังสายลับคลาสสิกอย่าง James Bond 007 มาปรุงแต่งให้เข้ากับยุคสมัย และยังคงภาพลักษณ์เดิมทั้งการใส่สูทผูกไทเนี้ยบๆ ครบครันด้วยอาวุธเสริมสุดไฮเทค เหล่าสาวบอนด์ที่สวยเซ็กซี่บาดใจ อุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของตัวร้าย และที่สำคัญตัวผู้กำกับ Matthew Vaughn ได้นำส่วนผสมของผลงานเก่าอย่าง Kick-Ass ในแง่ของฉากแอคชั่นที่รุนแรง หนักหน่วง เวอร์วังมาผสมเข้าไปได้อย่างลงตัว โดย Sofia Boutella ในบทของตัวร้ายที่เป็นมือขวาของบอสใหญ่ ก็เข้าปะทะกับตัวเอกในฉากไคลแม็กซ์ได้อย่างสนุกสุดมันส์
2. Sterling K. Brown / Black Panther (2018)
นิมิตหมายที่ดีในการเปิดกว้างให้กับพื้นที่แสดงศักยภาพของเหล่าคนผิวสี เมื่อทางมาร์เวลได้ให้กำเนิดหนังซุเปอร์ฮีโร่ที่เป็นคนผิวสีคนแรกสู่จอภาพยนตร์ ทั้งยังขนทีมนักแสดงผิวสีคุณภาพมาอย่างคับคั่งไล่ตั้งแต่ Chadwick Boseman, Michael B. Jordan, Lupita Nyong'o, Danai Gurira เเละ Sterling K. Brown โดยเล่าผ่านวิสัยทัศน์ Ryan Coogler ผู้กำกับซึ่งเป็นคนผิวสีเช่นเดียวกัน ส่วนเนื้อเรื่องจะโฟกัสไปยังวากานด้าเมืองแห่งวิทยาการล้ำสมัยที่ผสมเอกลักษณ์แบบชนเผ่าแอฟริกาได้อย่างน่าสนใจ และปมของเรื่องจะวนเวียนอยู่กับประเด็นภายในครอบครัว การแก่งแย่งบัลลังก์เพื่อครอบครองอำนาจ โดยรวมนับเป็นหนังฮีโร่ที่ยอดเยี่ยมลำดับต้นๆของค่ายมาร์เวล ทั้งจังหวะการเล่าเรื่องที่ชวนติดตาม การกระจายบทเพื่อสร้างมิติให้กับทุกตัวละคร และที่สำคัญองค์ประกอบงานศิลป์นับว่าไร้ที่ติมากๆ
1. Jodie Foster / The Silence of the Lambs (1991)
คงไม่มีใครที่ชอบหนังฆาตกรโรคจิตหรือหนังแนวสืบสวนแล้วไม่รู้จัก Hannibal Lecter ฆาตกรที่เต็มไปด้วยจิตมุ่งร้าย โหดเหี้ยมอำมหิต และยังเปี่ยมด้วยสมองที่ฉลาดเป็นกรด ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จอย่างแท้จริงของหนังชุดฆาตกรรายนี้ เพราะมันการันตีด้วยการคว้า 5 รางวัลใหญ่จากเวทีออสการ์ และหนึ่งในนั้นคือสาขานำหญิงที่ Jodie Foster เข้าถึงบทการแสดงที่ของเอฟบีไอสาวมือใหม่ได้อย่างไร้ที่ติ ค่อยๆแสดงถึงพัฒนาการของตัวละคร จากความกลัวสู่ความเข้มแข็ง และนำไปสู่การเผชิญหน้ากับฆาตกรต่อเนื่องของฉากไคลแม็กซ์ที่ทรงพลัง
.
.
.
.
.
.
.
ทวิตเตอร์เพจ @Review_Me_ พูดคุยหนังทั่วไปเเละซีรีส์(โดยเฉพาะฝั่งเกาหลี)
ขออนุญาตฝากเพจนะครับ
https://www.facebook.com/Criticalme
เเละขออนุญาตฝากไอจีเพจด้วยนะครับ @review_me__
เป็นพื้นที่สำหรับรีวิวหนังสือนิยายต่างๆโดยเฉพาะแนวสืบสวน
7 หนังคุณภาพ จากทีมหนังอาชญากรรมโคตรโจร 'Hotel Artemis'
“เมื่อเหล่าอาชญากรต่างพรรคต่างพวก รวมตัวกันในสถานที่เดียวกัน!”
ประโยคข้างต้นเป็นหัวใจสำคัญของ Hotel Artemis ที่นำไปต่อยอดเเละเล่นกับสถานการณ์ชิงไหวชิงพริบ การต่อสู้ฆ่าฟันกันเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง โดย 7 ตัวละครหลักก็ประกอบด้วย
- 'เดอะเนิร์ส' (โจดี้ ฟอสเตอร์) นางพยาบาลผู้คุมกฎในโรงแรมมหาโจร
- 'ไวกิกิ' (สเตอร์ลิ่ง เค. บราวน์) บอสใหญ่แก๊งปล้นใต้หน้ากาก
- 'นีซ' (โซเฟีย โบเทลลา) เจ้าหญิงนักฆ่าตามใบสั่ง
- 'ครอสบี้' (แซกคารี่ ควินโต้) ลูกเจ้าพ่อจอมหัวร้อน
- 'อะคาพัลโก' (ชาร์ลี เดย์) วายร้ายนักวางเเผน
- 'เดอะ วูล์ฟ คิง' (เจฟฟ์ โกลด์บลัม) มาเฟียตัวพ่อที่ทุกคนต้องยำเกรง
- 'เอเวอเรสต์' (เดฟ บาติสต้า) บุรุษพยาบาลจอมพลัง
หนังเข้าฉาย 14 มิถุนายนนี้
https://www.youtube.com/watch?v=EVV79LTN6wU&feature=youtu.be
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
7. Dave Bautista / Guardians of the Galaxy (2014)
จากอดีตนักมวยปล้ำชื่อดัง Dave Bautista ที่ปัจจุบันกลายเป็นที่คุ้นชินในบทบาทนักแสดงจากหนังซุปเปอร์ฮีโร่ค่ายมาร์เวลอย่าง Guardians of the Galaxy โดยเขาต้องรับบทเป็นแดร็กซ์ชายผู้มาจากเผ่าพันธุ์ฮิวแมนนอยซึ่งอยู่ในสปีชีส์เดียวกับมนุษย์ แต่มีร่างกายที่แข็งแกร่งและพละกำลังที่เหนือกว่า ซึ่งเขาเองก็ดึงคาแรคเตอร์ของแดร็กซ์ออกมาได้ดีและกลายเป็นขวัญใจของแฟนมาร์เวลได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยเนื้อหาของภาคนี้จะเป็นการรวมทีมเหล่าการ์เดี้ยนที่ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน สตาร์ลอร์ด ร็อคเกต กรู๊ท แดร็กซ์ และกาโมร่า ก่อนต้องพบกับภารกิจสําคัญบางอย่างที่นำไปสู่การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่
6. Jeff Goldblum / Independence Day (1996)
หลายคนคงรู้จัก Jeff Goldblum จากบทบาทนักวิทยาศาสตร์ในหนังไซไฟระดับตำนานที่คอหนังต่างรู้จัก นิยมชมชอบ และบางคนก็ยกให้เป็นเบอร์หนึ่งของหนังแนวเอเลี่ยนบุกโลก เพราะด้วยเนื้อหาที่แปลกใหม่ของยุคสมัยนั้นกับหนังวันสิ้นโลกที่ปมเรื่องไม่ได้เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติแต่เป็นการคุกคามของเอเลี่ยนนอกโลก ทั้งยังใส่ประเด็นการเมืองและสอดแทรกอุดมการณ์ความรักชาติเพื่อให้เนื้อหามีมิติและดูน่าเชื่อถือ แต่ความสนุกแท้จริงของคนดูคือการต้องลุ้นไปกับชะตากรรมการอยู่รอดของมนุษย์โลกและการหาทางรับมือเหล่าเอเลี่ยนสุดร้ายกาจด้วยวิธีต่างๆ และแน่นอนว่าคนดูจะต้องตื่นตาไปกับการเต็มฉากแอคชั่นวินาศสันตะโร
5. Charlie Day / Pacific Rim (2013)
หนังบล็อกบัสเตอร์แนวหุ่นยนต์ในวิสัยทัศน์ของ Guillermo del Toro ผู้ที่นิยมชมชอบในเรื่องราวของสัตว์ประหลาด อสูรกายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเขานำมันไปผสมกับสไตล์อนิเมะหุ่นยนต์ฝั่งญี่ปุ่นอย่างพวก Gundam, Great Mazinger, Evangelion ในแง่ของการดีไซน์รูปลักษณ์หุ่นยนต์ เหล่าสัตว์ประหลาด รวมไปถึงตัวของเส้นเรื่องที่ไม่สลับซับซ้อน และเน้นฉากแอคชั่นเพื่อเอนเตอร์เทนคนดู อีกทั้งยังสอดแทรกบทดราม่า ใส่ปมเบื้องหลังเพื่อให้ตัวละครดูมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น แน่นอนว่าพล็อตก็เดินตามสูตรสำเร็จกับโลกอนาคตอันสงบสุข ที่อยู่ๆกลับถูกคุกคามด้วยเหล่าสัตว์ประหลาดไคจู และทางฝั่งมนุษย์ต้องใช้หุ่นยนต์เยเกอร์เพื่อเข้ารับมือกับมัน โดย Charlie Day ผู้รับบทเป็นนักวิทยาศาสตร์สมองเฟื่อง ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี สร้างโมเม้นท์ชวนขบขันให้เกิดขึ้นเป็นระยะๆเพื่อผ่อนคลายจากสภาวะตึงเครียดในหนัง
4. Zachary Quinto / Star Trek: Into Darkness (2013)
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า Star Trek เป็นหนึ่งในหนังไซไฟอวกาศที่มีความเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของหนังกลุ่มนี้นับตั้งแต่ยุค 60s ทั้งถูกฉายในละครโทรทัศน์ ถูกดัดแปลงเป็นหนังหลายภาค กระทั่งปี 2009 มีการรีบู้ทใหม่ผ่านฝีมือของ J.J. Abrams และสี่ปีต่อมาก็ได้สานต่อความสำเร็จโดยใช้ชื่อว่า Into Darkness ที่ตัวหนังยังคงความเป็นไซไฟปรัชญาที่สะท้อนความหมายของสิ่งมีชีวิตผ่านการผจญภัยอันน่าทึ่ง และที่สำคัญเนื้อหาภาคนี้ยังลงเข้าไปสำรวจสภาวะจิตใจอันมืดหม่น ที่มาพร้อมการตัดสินใจครั้งสำคัญ ขณะเดียวกันก็ยังสอดแทรกอารมณ์ขับเพื่อไม่ให้หนังดูตึงเครียดจนเกินไป แน่นอนว่า Zachary Quinto กับบทบาทสป็อคตัวละครที่ใครหลายคนต่างหลงรัก เขายังแสดงออกถึงความเฉลียว บุคลิกเนิร์ดๆ และจังหวะการรับส่งกับเคิร์กได้อย่างยอดเยี่ยม
3. Sofia Boutella / Kingsman: The Secret Service (2014)
ต้องบอกว่าเป็นหนังสายลับที่เอนเตอร์เทนคนดูได้ดีมากๆ ด้วยการนำความเป็นหนังสายลับคลาสสิกอย่าง James Bond 007 มาปรุงแต่งให้เข้ากับยุคสมัย และยังคงภาพลักษณ์เดิมทั้งการใส่สูทผูกไทเนี้ยบๆ ครบครันด้วยอาวุธเสริมสุดไฮเทค เหล่าสาวบอนด์ที่สวยเซ็กซี่บาดใจ อุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของตัวร้าย และที่สำคัญตัวผู้กำกับ Matthew Vaughn ได้นำส่วนผสมของผลงานเก่าอย่าง Kick-Ass ในแง่ของฉากแอคชั่นที่รุนแรง หนักหน่วง เวอร์วังมาผสมเข้าไปได้อย่างลงตัว โดย Sofia Boutella ในบทของตัวร้ายที่เป็นมือขวาของบอสใหญ่ ก็เข้าปะทะกับตัวเอกในฉากไคลแม็กซ์ได้อย่างสนุกสุดมันส์
2. Sterling K. Brown / Black Panther (2018)
นิมิตหมายที่ดีในการเปิดกว้างให้กับพื้นที่แสดงศักยภาพของเหล่าคนผิวสี เมื่อทางมาร์เวลได้ให้กำเนิดหนังซุเปอร์ฮีโร่ที่เป็นคนผิวสีคนแรกสู่จอภาพยนตร์ ทั้งยังขนทีมนักแสดงผิวสีคุณภาพมาอย่างคับคั่งไล่ตั้งแต่ Chadwick Boseman, Michael B. Jordan, Lupita Nyong'o, Danai Gurira เเละ Sterling K. Brown โดยเล่าผ่านวิสัยทัศน์ Ryan Coogler ผู้กำกับซึ่งเป็นคนผิวสีเช่นเดียวกัน ส่วนเนื้อเรื่องจะโฟกัสไปยังวากานด้าเมืองแห่งวิทยาการล้ำสมัยที่ผสมเอกลักษณ์แบบชนเผ่าแอฟริกาได้อย่างน่าสนใจ และปมของเรื่องจะวนเวียนอยู่กับประเด็นภายในครอบครัว การแก่งแย่งบัลลังก์เพื่อครอบครองอำนาจ โดยรวมนับเป็นหนังฮีโร่ที่ยอดเยี่ยมลำดับต้นๆของค่ายมาร์เวล ทั้งจังหวะการเล่าเรื่องที่ชวนติดตาม การกระจายบทเพื่อสร้างมิติให้กับทุกตัวละคร และที่สำคัญองค์ประกอบงานศิลป์นับว่าไร้ที่ติมากๆ
1. Jodie Foster / The Silence of the Lambs (1991)
คงไม่มีใครที่ชอบหนังฆาตกรโรคจิตหรือหนังแนวสืบสวนแล้วไม่รู้จัก Hannibal Lecter ฆาตกรที่เต็มไปด้วยจิตมุ่งร้าย โหดเหี้ยมอำมหิต และยังเปี่ยมด้วยสมองที่ฉลาดเป็นกรด ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จอย่างแท้จริงของหนังชุดฆาตกรรายนี้ เพราะมันการันตีด้วยการคว้า 5 รางวัลใหญ่จากเวทีออสการ์ และหนึ่งในนั้นคือสาขานำหญิงที่ Jodie Foster เข้าถึงบทการแสดงที่ของเอฟบีไอสาวมือใหม่ได้อย่างไร้ที่ติ ค่อยๆแสดงถึงพัฒนาการของตัวละคร จากความกลัวสู่ความเข้มแข็ง และนำไปสู่การเผชิญหน้ากับฆาตกรต่อเนื่องของฉากไคลแม็กซ์ที่ทรงพลัง
.
.
.
.
.
.
.
ทวิตเตอร์เพจ @Review_Me_ พูดคุยหนังทั่วไปเเละซีรีส์(โดยเฉพาะฝั่งเกาหลี)
ขออนุญาตฝากเพจนะครับ
https://www.facebook.com/Criticalme
เเละขออนุญาตฝากไอจีเพจด้วยนะครับ @review_me__
เป็นพื้นที่สำหรับรีวิวหนังสือนิยายต่างๆโดยเฉพาะแนวสืบสวน