เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมาช่วงบ่าย ผมขับรถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านเพื่อไปทำธุระ เมื่อใกล้ถึงจุดเกิดเหตุผมเห็นรถเก๋งเลี้ยวเข้าซอยมา ผมจึงขับรถหลบไปทางซ้ายมือ เพื่อให้รถเก๋งขับสวนต่อไปได้ แต่แล้วอุบัติเหตุก็เกิดขึ้น เนื่องจากร้านอาหารตามสั่งนำสิ่งของมาตั้งบนพื้นถนน (ซอยเข้าออกบ้าน) มีถังแช่ของสด ร่มแม่ค้าทั่วไปที่พบเห็นได้ตามท้องตลาดซึ่งมีเชือกห้อยระโยงระยาง และมีตัวแม่ค้าที่เป็นลูกจ้างยื่นหั่นของอยู่ (ตัวร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับของที่นำมาตั้งบนถนน) ผมกำลังขับผ่านไป ปรากฎว่าเชือกที่ห้อยระโยงระยางอยู่กับร่มคันนั้นมาพันกับกระจกรถมอเตอร์ไซค์ของผม เป็นเหตุให้ร่มล้มทับแม่ค้า แต่ดีที่ผมประคองรถไว้อยู่ไม่เช่นนั้นผมก็คงรถล้มไปด้วย (ผมไม่ได้ขับไปเฉี่ยวชนร่มเลย)
          ผมรีบไปแจ้งความที่ สน. ปรากฎว่าผมต้องเสียค่าปรับ 400 บาท ข้อหาขับรถโดยประมาท และการแจ้งความครั้งนี้ก็เพื่อให้แม่ค้านำใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลมาเบิกประกัน พ.ร.บ. ด้วย
          แม่ค้าไปหาหมอที่โรงพยาบาลของรัฐ กลับมาถึงร้านก็เกือบเย็น ผมกลับมาพอดีเห็นแม่ค้ายืนผัดข้าวปกติ จอดรถแวะสอบถามอาการสักหน่อย
ผม : เป็นอย่างไรบ้างครับ
แม่ค้า : เข้าอุโมงค์มา จ่ายไป 4,100
ผม : ขอใบเสร็จด้วยครับ จะนำไปเบิก พ.ร.บ.
แม่ค้า : ไม่ได้ใบเสร็จมา ใช้สิทธิประกันสังคม
ผม : ^_^ ต้องไปขอใบเสร็จมานะครับ
   
           วันรุ่งขึ้นผมขับรถผ่านเห็นยืนผัดข้าว ล้างจาน ดูเป็นปกติ จอดรถแวะสอบถามอาการสักหน่อย
ผม : วันนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ
แม่ค้า :  ไปหาหมอมา เอ็กซเรย์หลัง หมอบอกว่า
             คอเคล็ด
ผม : ^_^ ค่ารักษาเบิก พ.ร.บ. ได้เลยนะครับ
ผม : แล้วใบเสร็จของวันก่อน 4,100 ละครับ
แม่ค้า : โรงพยาบาลบอกให้ตำรวจเจ้าของคดี
             มาขอ
ผม ^_^ ครับ

แต่ผมเห็นใบรับรองแพทย์ แพทย์ก็เขียนให้ความเห็นว่า หัวกระแทกนะครับ

             เวลาผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ ตำรวจเรียกผมให้มาพบที่ สน. เนื่องจากแม่ค้าขอเรียกค่าเสียหายผม 15,000 บาท แต่ผมไม่ยอมจ่ายครับ คุยได้สักพักลดค่าเสียหายให้ผมเหลือ 3,000 บาท ซึ่งผมก็ไม่ยอมจ่ายให้อยู่ดีครับ เนื่องจากผมคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นผมไม่ได้ผิดฝ่ายเดียวครับ และอีกเหตุผมที่ไม่จ่ายคือ แม่ค้าจะคอยพูดป่าวประกาศไปทั่วเหมือนทำนองว่าผมไม่รับผิดชอบและของมันก็วางอยู่เฉยๆไปทำมันล้ม ผมจึงพูดไปว่าถ้าเชือกนั้นมันไม่ได้ไปพันกระจกรถผมแต่มันมาพันคอผมแทนละครับ ... เห้อ! ตำรวจจึงแนะนำให้มาตกลงกันดูก่อน และให้คำแนะนำว่าทางนี้ไม่มีสิทธิบังคับอะไร ถ้าคู่กรณียังต้องการค่าเสียหายอยู่ก็สามารถดำเนินเรื่องที่ศาลฟ้องเอาค่าเสียหายได้ และแม่ค้ายังบอกผมอีกว่าตัวเขาทำงานได้ไม่เต็มที่เลยได้ค่าแรงน้อยลง

       วันนี้มีผู้ใหญ่มาพูดขอให้ผมไปจ่ายคู่กรณี 3,000 ซึ่งเขาเป็นคนกลางนะครับ ผมก็เลยตกลงจะจ่ายให้ 3,000 แต่ไปๆมาๆคู่กรณีบอกจะเอาผม 5,000 ผมก็ไม่ยอมเลยบอกให้ไปฟ้องศาลเอาครับ
  

ผมอยากทราบว่า

1 คู่กรณีไปฟ้องศาลเเพ่งเพื่อเรียกเอาค่าเสียหายจากผม ผมมีสิทธิชนะคดีไหมครับ เพราะผมคิดว่ากรณีดังกล่าวผมไม่ผิดฝ่ายเดียว

2 ผมสามารถเอาผิดกับคู่กรณีและเรียกค่าเสียหายบางได้ไหมครับ

นี้คือภาพจำลองนะครับ


ขอบคุณทุกคนล่วงหน้าที่ให้คำแนะนำครับ