ขออนุญาตสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการฟ้องร้องคู่กรณี และข้อมูลอื่นๆที่จำเป็นในการดำเนินการหลังเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากรถเราถูกชนท้ายโดยเรามีประกันภัยชั้น 1 กับกรุงเทพประกันภัย ระบุซ่อมศูนย์ เพราะรถยังใหม่อายุ 1 ปี 5 เดิอน ไม่อยากซ่อมอู่ ยินดีจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มมาหน่อย และคู่กรณีมีประกันภัยชั้น 1 กับอาคเนย์ คู่กรณีไม่รับผิดชอบอะไรเลย บอกแค่ให้ไปเรียกเอากับประกันชั้น 1 หลังเกิดเหตุไม่เคยสนใจโทรถามไถ่เราเลย เราเลยหาข้อมูลแล้วได้อ่านกระทู้ของคุณพ่อบัวจัง https://ppantip.com/topic/30974353 เมื่ออ่านจบก็เห็นเป็นจริงตามนั้น 100% เลยอยากจะถามเป็นประเด็นดังต่อไปนี้

1. ศูนย์ระบุเสียหายหนัก ตีค่าซ่อมคร่าวๆ ประมาณ 200,000 บาทหรืออาจจะมากว่าเพราะยังไม่ได้รื้อรถออกมาประเมินราคา แต่ยังไม่ถึง 70% ของทุนประกัน คืนทุนไม่ได้ ระยะเวลาซ่อม 4-6 เดือน ต้องรอซ่อม 2 เดือน เนื่องจากรถไม่ใช่ยี่ห้อรถตลาด มีคิวอื่นๆ ก่อนเรามากกว่า 10 คัน ในระหว่างสัปดาห์เรามีความจำเป็นต้องใช้รถ เพราะทำงานประจำเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ อยู่ต่างจังหวัด เย็นวันศุกร์ต้องใช้รถไปรับแฟนที่สนามบิน วันอาทิตย์ก็ต้องเอาแฟนไปส่งที่สนามบิน เราแจ้งประกันเราตอนที่อยู่ที่สถานีตำรวจหลังลงบันทึกประจำวันเสร็จ เขาบอกว่าต้องไปเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถจากประกันคู่กรณี โดยให้รายการเอกสารมาเพื่อไปดำเนินการเอง เช้าวันถัดมาหลังเกิดเหตุ เราเข้าไปติดต่อกับอาคเนย์ เค้าบอกจะเรียกร้องได้ก็ต่อเมื่อรถเราซ่อมเสร็จ และก็ไม่มีเรทการเช่ารถตายตัว แล้วแต่บริษัทพิจารณา รวมถึงระหว่างรอซ่อม 2 เดือน อาจจะไม่จ่ายค่าเช่ารถให้ ตอนนี้เราเช่ารถอยู่ที่วันละ 834 บาท เดือนละ 25,020 บาท นอกจากนี้ก็จ่ายค่างวดรถ 11,000 บาท ตอนนี้แก้ปัญหาด้วยการยืมเงินเพื่อนไปก่อน  เลยอยากจะถามว่าประกันมีสิทธิ์ไม่จ่ายค่าเช่ารถตามใบเสร็จที่นำไปเบิกจริงได้หรือเปล่า ถ้าประกันจ่ายไม่หมดสามารถฟ้องคู่กรณีต่อได้หรือไม่ ตอนนี้เช่ารถสองเดิอนมีใบเสร็จสำหรับเบิกแล้ว ทำเรื่องเบิกกับประกันคู่กรณีก่อนซ่อมเสร็จได้ไหม ไม่อยากเป็นหนี้เพื่อนนานๆ เกรงใจเขา

2. ต่อจากประเด็นแรก ประกันคู่กรณีคืออาคเนย์และตัวคู่กรณีเองแนะนำให้ไปเข้าอู่มาตรฐานของเขา รถจะได้ซ่อมเสร็จไวๆ ได้ใช้งานเร็วๆ แต่ว่าเรากำลังชั่งใจว่าเราจะไว้ใจอู่มาตรฐานของเขาได้หรือ รถมันเสียหายหนัก ถ้าเสียหายเล็กน้อยคงพอได้ เราจ่ายประกันชั้น 1 เข้าศูนย์ทำไมให้เราไปเข้าอู่ เราเป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ขับรถคนเดียว เกิดเขาเอาอะไหล่ไม่ดีมาเปลี่ยนให้ เราก็ไม่รู้ เกิดขับไปแล้วรถพัง มันก็เกิดความกังวลเพราะซ่อมอู่กับซ่อมศูนย์เบี้ยประกันมันต่างกัน คิดแบบเมคเซ้น ความต่างนี้มันต้องมีที่มา เลยไม่อยากเอาเข้าอู่ รวมถึงบนท้องถนนเราก็เสี่ยงต่ออุบัติเหตุอยู่แล้ว เรายังเสี่ยงต่อคุณภาพของรถที่ซ่อมมา เสี่ยงต่อคู่กรณีที่ไม่มีความรับผิดชอบอีก เลยยืนยันจะเข้าศูนย์ไปก่อน อยากถามความเห็นเพื่อนๆ ว่าควรฟังคำแนะนำของเขาหรือยืนกรานซ่อมศูนย์ ถ้าเขาไม่จ่ายไปฟ้องกันต่อ

3. เท่าที่หาข้อมูลมา อ่านในกระทู้ของพันทิปบ้างและจากเวปประกัน เวปทนาย เวป คปภ พบว่า เราสามารเรียกร้องค่าเสียหายอื่นๆ นอกจากค่าเช่ารถได้ดังนี้
    3.1 ค่าเสื่อมราคาของรถที่ถูกชน ซึ่งมีการตีความกันอยู่ 2 แบบ คือ ค่าอะไหล่ที่เสียหาย แต่ประกันประเมินว่าให้ซ่อม แต่ลูกค้าต้องการเปลี่ยนแต่ไม่เปลี่ยนให้ และ สองหมายถึงราคาของรถหลังซ่อมที่จะถูกกว่ารถแบบเดียวกันที่ไม่เคยถูกชน เลยอยากทราบความหมายจริงๆ ของค่าเสื่อมราคาของรถที่ถูกชนเพื่อใช้ในการเขียนเอกสารเรียกร้องค่าเสียหายให้ถูกต้อง นอกจากนี้หากเราต้องการเรียกค่าเสื่อมราคาของรถหากต้องนำไปขายหลังซ่อม เราสามารถหาหลักฐานอะไรมายืนยันว่ารถมันราคาตกเพราะชน เข้าใจว่าราคาตกเพราะชนกับราคาตกเพราะใช้งาน มันต่างกัน
   3.2 อยากทราบว่ามีค่าเสียหายอื่นๆ อีกไหมที่สามารถเรียกได้ เช่น ค่าดำเนินการต่างๆ ทั้งค่าเตรียมเอกสาร ค่าน้ำมันไปศูนย์ ค่าทนาย  ...etc เพราะเราไม่พอใจคู่กรณีอย่างมากที่ไม่เคยสนใจที่จะรับผิดชอบเลย ประเมินจากรถที่ใช้ชนราคาหลายล้านซึ่งคู่กรณีสามารถรับผิดชอบได้

4. ประเด็นสุดท้ายเรื่องการฟ้องร้อง  ขออนุญาตสอบถามว่าค่าเสียหายทั้งหมด ที่จะเรียกร้องทั้งที่มีใบเสร็จและวัตถุพยานหลักฐานอื่นๆ เช่น ภาพถ่ายรถที่เสียหาย เอกสารรับรองระยะเวลาการซ่อมจากศูนย์ บิลค่าเช่ารถ  บันทึกประจำวันของตำรวจ สามารถดำเนินการรวบรวมและฟ้องร้องได้เลยหรือไม่ เนื่องจากคดีมีอายุความแค่ 1 ปี ถ้ารถต้องซ่อม 6 เดือนกลัวจะไม่ทันการณ์  หากรถซ่อมเสร็จค่อยเอาหลักฐานมาเพิ่มเติม เพราะเท่าที่คุยกับประกันมีโอกาศได้ค่าเสียหายกับประกันคู่กรณีแต่ไม่ทั้งหมด เค้าบอกเค้าแค่บรรเทาความเสียหาย ส่วนคู่กรณีไม่จ่ายให้ไปถามเอากับประกันเขาเอง เราต้องการดำเนินการฟ้องคู่กรณีให้มารับผิดชอบสิ่งที่ประกันเค้าไม่ยอมจ่ายด้วย ในบันทึกประจำวันเขียนว่าเค้าประมาท เลยขับรถชนท้ายรถเรา เสียค่าปรับไป 400 บาท แต่มีติ่งท้ายว่าประกันเค้าจะรับผิดชอบโดยไปเรียกร้องกันภายหลัง ตรงนี้เราพลาดเองที่ไม่ได้ให้เขียนติ่งท้ายไปว่าในกรณีที่ประกันเค้าจ่ายไม่หมด ให้คู่กรณีจ่ายแทน

ขอบพระคุณคำตอบของทุกท่านล่วงหน้านะคะ สุดท้ายนี้อยากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนขับรถด้วยความระมัดระวัง หากมีอุบัติเหตุและคุณผิดชัดเจนกรุณารับผิดชอบด้วย ไม่อยากให้มันเป็นแค่เรื่องของการฟาดเคราะห์ มันควรเป็นสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งประกันเรา  ประกันคู่กรณี และคู่กรณี รับทั้งผิดทั้งชอบ ประเทศเราจะได้มีบรรทัดฐานในการดูแลผู้เสียหายบ้าง