สวัสดีครับ
ตั้งแต่ มี.ค. - พ.ค. ที่ผ่านมาครับพยายามจัดการสกินแคร์ที่มีอยู่ คัดตัวที่ถูกกับผิวเอาไว้ใช้เอง เอาตัวที่ยังไม่ใช่ไปให้คนอื่น และพยายามไม่ซื้อของใหม่เพิ่ม
แต่กระนั้นอันนี้ก็เป็นสกินแคร์ที่ซื้อมาช่วง มี.ค. - พ.ค.
อันนี้ไปโตเกียวมาครับ เลยซื้อมานิดหน่อย
1. อันนี้เป็นผงซักฟอก + น้ำยาปรับผ้านุ่ม รูปแบบเม็ดเจล เวลาใช้ก็ใส่เม็ดเจลนี้ลงไปในโถผ้าเลย (ไม่ได้ใส่ตรงที่เค้าให้ใส่ผงซักฟองและน้ำยาปรับผ้านุ่มนะ) และใส่ผ้าตามลงไป จากนั้นกดซัก
ที่ซื้อมาเพราะอ่านเจอว่ากลิ่นหอม แม้ตากในที่อับก็ไม่มีกลิ่นอับผ้า
หลังจากใช้ครั้งแรกก็บอกตัวเองว่า เฮ้ยผ้ามีกลิ่นหอมมาก แม้ไม่ได้ตากแดดก็ไม่มีกลิ่นอับเลย มันเป็นสินค้าญี่ปุ่น มันดี แต่จริง ๆ ก็ได้กลิ่นอับหน่อย ๆ ละ แต่กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มมันกลบไว้ วิธีแก้ของผมก็คือใช้โปรแกรมซัก+อบแห้ง ผ้าที่ออกมามันจะแห้งสนิท แต่กลิ่นหอมของน้ำยาปรับผ้านุ่มยังติดอยู่
คงไม่ซื้อต่อ
2. ครีมกันแดดบีโอเรเด็ก อันนี้ใช้ดีมาก ซื้อมาตุนไว้ ใช้แล้วสิวไม่ขึ้น หน้าไม่เป็น bump ล้างออกง่าย ใช้แล้วหน้าไม่วอก
3. Hyaluronic อันนี้เป็นไซส์ใหญ่ + แถมไซส์เล็กมา 2 ขวด เค้าโฆษณาว่าได้รางวัล cosme และเป็นสินค้านิยม ใช้ทาหน้าเพียว ๆ หรือผสมครีม ทาปาก ทาผม ทาตัว ผมเลยซื้อมาลอง ก็ดีนะครับ เอามาหยดใส่ครีมก่อนทาหน้า และทาผมแทนเจลใส่ผม
4. ลิปมันของ DHC อันนี้ยังไม่ได้ลอง ให้น้องไปละ
5. ที่แปะเท้าก่อนนอน ทำให้นอนหลับสบายขึ้น มีหลายกลิ่นให้เลือก อันนี้ยังไม่ได้ลองเลย
6. อันนี้สะดวกมาก หลังจากใช้ห้องน้ำเสร็จและมีกลิ่น ไม่อยากให้คนมาใช้ต่อได้กลิ่น ก็หยดอันนี้ลงไปที่โถ มันจะกำจัดกลิ่น
จริง ๆ สินค้าลักษณะนี้ที่ผมรู้มี 2 แบบคือ 1. หยดบนขอบโถ + ในโถเพื่อฆ่าเชื้อ กับ 2 คืออันนี้ที่ผมซื้อมา คือหยดหลังจากกดชักโครกเพื่อดับกลิ่น
7. พลาสเตอร์ยาแบบเจล เคยใช้แบบสเปรย์ของเยอรมันแล้วชอบ พอเห็นอันนี้ที่ญี่ป่นเลยซื้อมาลอง อันนี้ก็เหมือนที่ทาเล็บมั๊งเป็นหัวแปรง จุ่มเจลทาแผล มันจะเป็นเหมือนพลาสเตอร์ยา ที่สำคัญคือเคลือบแผลไว้ โดนน้ำได้ไม่หลุดง่ายๆ
8. ยาหยอดตา ใช้ไม่เคยหมดสักที แต่ก็ซื้อมาไว้เรื่อยๆ
อันนี้คือราคาที่ซื้อสินค้าที่กล่าวมาข้างต้นครับ
9. ข้ามมาที่ฝรั่งเศสมั่ง ซื้อ Yves Rocher มาลอง อันนี้เป็นตัวเติมน้ำสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่มีน้ำหอมแอลกอฮอล์ประมาณนี้ ก็ใช้ดีนะครับ แต่คงไม่ซื้อต่อ ราคา 400 บาทแน่ะ
10. น้ำมันอาบน้ำของไบโอเดอมา อันนี้เพื่อนฝากซื้อเพราะบอกว่าใช้ดีมาก ผมเอามาลงเผื่อมีคนอยากรู้ราคา ราคาถือว่ากลาง ๆ นะ 1 ลิตร ราคา 400 บาทนิด ๆ
11. Bioderma Sebium H2O สีเขียว อันนี้มีน้ำหอมนะ สำหรับผิวผสม ผิวมัน เป็นสิว ตัวนี้ก็เป็นเคล็นซิ่งน้ำไว้เช็ดหน้า ปกติผมจะใช้สีชมพูนะ เพราะเลี่ยงน้ำหอม
12. Embryolisse อันนี้ครีมอเนกประสงค์ชื่อดังของฝรั่งเศส อันนี้มีน้ำหอมนะ ดูส่วนผสมแล้วก็รู้เลยว่าผมคงใช้ไม่ได้หรอก แต่ทนกระแสไม่ไหว อยากลองเลยซื้อมา
13. CicaBiafine อันนี้ก็ครีมทาผิวอีกตัวนึง ตัวนี้ไม่มีน้ำหอม ผมใช้แล้วเหนอะหน้า ตื่นมาหน้าแอบเป็น bump ๆ หน่อย (อารมณ์ประมาณสิวเตรียมขึ้น) อันนี้ดูส่วนผสมตอนแรกก็เดาแล้วว่าไม่น่าเหมาะกับผม แต่อยากลองไงเลยซื้อมา
เวลาเสริชหาว่าจะซื้อสกินแคร์ดรักสโตร์อะไรดีที่ฝรั่งเศส ผลค้นหาก็มักจะมี bioderma cleansing water , Embrolisse และ cicabiafine อันนี้ขึ้นมา นอกจากนั้นก็มี LRP, Avene และก็อื่นๆ อีกมากมายขึ้นมา อันนี้ผมหมายถึงสกินแคร์ drug store นะ
สามรูปบนเป็นของแถม และรูปหลังเป็นราคาสินค้า
ย้ายมาสินค้าเกาหลีบ้าง ผมชอบ Cosrx มากเลยนะ ถ้าเป็นสินค้าของเกาหลีเนี่ย ผมจะชอบ cosrx , klairs , atopalm
แต่อันนี้ผมไปซื้อที่สิงคโปร์นะ เป็น authorized shop ของ cosrx ที่สิงคโปร์ อยู่ที่ lucky plaza ห้างจะอารมณ์บ้าน ๆ หน่อย อยู่ตรง Orchard road
14. Cosrx ตัว overnight mask สูตร rice เมื่อก่อนลองเทสเตอร์ที่เค้าแถมมาตอนซื้อ cosrx ครั้งก่อน ใช้แล้วดีมาก หน้านุ่มสุด ๆ คราวนี้เลยซื้อขนาดใหญ่เลย ตอนแรกกะซื้อ 2 อันคือสูตรข้าวอันนี้กับสูตรน้ำผึ้งอีกอัน แต่สูตรน้ำผึ้งมันหมดอายุปีหน้า เลยไม่ได้ซื้อมา
คราวนี้ใช้แล้วสิวขึ้น คืออะไรก็ตามที่เหนอะ ๆ หน้าผมจะไม่ชอบ หลังจากใช้หน้าจะไม่สบาย ผลก็คือสิวขึ้นหรือหน้าเป็น bump ๆ แต่หน้าก็นุ่มนะ เลยให้คนอื่นไปละ
15. Cosrx ตัว snail power essense อันนี้ชอบมาก หนืด ๆ หน่อย ซึมผิวเร็วดี
16. Cosrx เจลล้างหน้า Low pH อยากลองตัวนี้มาตั้งนานแล้ว คราวนี้เลยซื้อมาลอง แต่หลังจากใช้แล้ว เฉย ๆ ไม่ได้ปลื้มมาก คือมันล้างสะอาดนะ แต่หน้าออกจะแห้งนิดนึงเลยไม่ชอบ ถ้าคนผิวมันอาจจะชอบ แต่สำหรับผมผิวผสมและไม่ชอบอะไรที่แห้งไป หรือมีอะไรลื่น ๆ ติดผิวหลังล้างหน้า มันทำให้หน้าไม่สบาย จากนั้นผิวมันจะประพฤติแย่ ตอนนี้ที่ชอบมาก ๆ คือ Korres ของกรีซ กับ Ixxi ของฝรั่งเศส 2 อันนี้ล้างดีมาก ล้างสะอาด สัมผัสที่ได้ดูแพงดี แม้อันแรกจะมีน้ำหอม และอันที่สองจะมีทั้งน้ำหอมและแอลกอฮอล์ก็ตาม
17. Cosrx centella blemish cream อันนี้ดีมาก ชอบมาก ใช้แล้วสภาพผิวดี สิวที่กำลังขึ้น หรือกำลังจะขึ้นนี่คือแบบดีขึ้นมากเลยหลังตื่นนอน แต่ข้อเสียคือ ต้องใช้ก่อนนอน เพราะหน้าจะขาว คือจะทายังไงหน้าก็ขาว ให้นึกสภาพเหมือนคนทาครีมกันแดดและหน้าขาว ๆ แบบนั้นน่ะ แต่อันนี้แปลกคือแม้หน้าจะขาวแต่มันไม่หนักหน้า เหมือนครีมมันซึมไปแล้วแต่มันมีคราบขาว ๆ แต่ไม่ใช่คราบขาว ๆ แล้วหน้าแห้ง ๆ มันไม่ใช่แบบนั้น
18. Coxrx แผ่นแปะสิว อันนี้ชอบสุดตั้งแต่ใช้แผ่นแปะสิวมา
อันนี้คือของแถมที่ได้มา และราคาของแต่ละอัน
สินค้าข้างบนซื้อตอนต้นเดือน พอปลายเดือนไปสิงคโปร์อีกเลยไปซื้ออันนี้มาเพิ่ม คือกะจะเปลี่ยน regimen เลย
19. Klairs rich moist soothing serum อันนี้คือเซรั่มให้ความชุ่มชื่น ผมเชื่อว่าถ้าผิวชุ่มชื้นอะไรก็ดี ตอนแรกตัดสินใจหลายตัวเลยระหว่าง Cosrx centella ampoule (หลังจากใช้ centella cream แล้วชอบมาก เลยจะไปถอย ampoul มา) แต่ดูวันหมดอายุแล้วมันปีหน้าเลยไม่ได้ซื้อมา และ Coxrx ตัว propolis กับ Tosowoong ตัว propolis และ Klairs supple preparation facial toner ตัวใหม่ที่ไม่ใส่ essential oil มา ซึ่งแต่ละอย่างมันดูแลต่างจุดกัน แต่ผมก็เลือก Klairs rich moist serum ตัวนี้มา มาลองดูกันสักตั้งว่าจะดีไหม
20. Cosrx oil free moisturizer ตัวนี้ใส่ birch sap มา เคยใช้แล้วชอบ คือสัมผัสเบามากแต่ให้ความชุ่มชื่นดี
ตอนนี้ regimen ที่ใช้อยู่คือ Bioderma เช็ดตอนเช้าและไม่ล้างหน้าต่อ หรือ เช็ดตอนเย็นจากนั้นตามด้วยครีมล้างหน้า
ครีมล้างหน้า Jack black (ของเมกา) อันนี้ใช้หลัง Bioderma หรือบางทีก็ใช้เดี่ยว ๆ
Cosrx snail power essence , Eucerin ultra sensitive
กันแดด Biore kids
ทั้งหมดนี้ผมใช้แล้วโอเคนะ แต่ของบางอย่างใกล้หมด และเพิ่งซื้อของใหม่มาในสต๊อค
เดี๋ยวจะปรับเพิ่ม/ลดบางอย่างใน regimen
Bioderma
ที่ล้างหน้าจะเป็น Korres (ของกรีซ) , Derma E (ของเมกา) , Cosrx low pH (ของเกาหลี) อยู่ที่ว่าหยิบอะไรได้ก็ใช้อันนั้น (ส่วน ixxi หมดแล้วเลยไม่ได้อยู่ใน regimen)
จากนั้นจะทา Klairs rich moist serum ตามด้วย Cosrx oil free moisturizer ถ้าลืมหรือขี้เกียจก็ทาอย่างใดอย่างนึงหรือไม่ก็ไม่ทาเลยสักอย่าง
และตามด้วยกันแดด Biore kids หรือไม่ก็ LRP (มีของในสต็อคยังไม่ได้ใช้เลยจะเอามาใช้ให้หมด) อันนี้จะทาตอนออกไปข้างนอก อยู่บ้านไม่ทา (อันนี้ไม่ดีนะ เพราะครีมกันแดดต้องทาทุกวัน ไม่ว่าอยู่บ้านหรือออกไปข้างนอก)
ตอนนี้อยากลองใช้ Cream de latex มากครับ แต่ติดที่ว่าสำหรับผมราคาแพงมาก ตัวเซรั่ม 30ml 1,550 บาทแน่ะ คือประมาณ 50 USD หรือ 38 ยูโร ตอนนี้ใจสับสน ใจนึงก็คิดว่าจะให้โอกาสตัวเองลองสั่ง cream de latex มาใช้ดีไหม แต่อีกใจนึงก็ติดที่ราคา พาคิดไปว่าราคานี้ หรือเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยไปใช้ Filorga , caudalie , osmosis ได้เลยนะ
จบแล้วครับ ใครมีคำถามอะไร หรือมีคำแนะนำอะไรบอกได้นะครับ
ปล. ของทุกอย่างผมไปซื้อเองกับมือ ใช้เงินตัวเองที่ได้จากการทำงานของตัวเองซื้อครับ สินค้าญี่ปุ่นก็ซื้อตอนไปญี่ปุ่น สินค้าฝรั่งเศสก็ซื้อตอนไปฝรั่งเศส ส่วนสินค้าเกาหลีซื้อตอนไปสิงคโปร์ครับ
ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันนี้นะครับ สวัสดีครับ
[CR] รีวิว สกินแคร์ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และเกาหลี
ตั้งแต่ มี.ค. - พ.ค. ที่ผ่านมาครับพยายามจัดการสกินแคร์ที่มีอยู่ คัดตัวที่ถูกกับผิวเอาไว้ใช้เอง เอาตัวที่ยังไม่ใช่ไปให้คนอื่น และพยายามไม่ซื้อของใหม่เพิ่ม
แต่กระนั้นอันนี้ก็เป็นสกินแคร์ที่ซื้อมาช่วง มี.ค. - พ.ค.
อันนี้ไปโตเกียวมาครับ เลยซื้อมานิดหน่อย
1. อันนี้เป็นผงซักฟอก + น้ำยาปรับผ้านุ่ม รูปแบบเม็ดเจล เวลาใช้ก็ใส่เม็ดเจลนี้ลงไปในโถผ้าเลย (ไม่ได้ใส่ตรงที่เค้าให้ใส่ผงซักฟองและน้ำยาปรับผ้านุ่มนะ) และใส่ผ้าตามลงไป จากนั้นกดซัก
ที่ซื้อมาเพราะอ่านเจอว่ากลิ่นหอม แม้ตากในที่อับก็ไม่มีกลิ่นอับผ้า
หลังจากใช้ครั้งแรกก็บอกตัวเองว่า เฮ้ยผ้ามีกลิ่นหอมมาก แม้ไม่ได้ตากแดดก็ไม่มีกลิ่นอับเลย มันเป็นสินค้าญี่ปุ่น มันดี แต่จริง ๆ ก็ได้กลิ่นอับหน่อย ๆ ละ แต่กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มมันกลบไว้ วิธีแก้ของผมก็คือใช้โปรแกรมซัก+อบแห้ง ผ้าที่ออกมามันจะแห้งสนิท แต่กลิ่นหอมของน้ำยาปรับผ้านุ่มยังติดอยู่
คงไม่ซื้อต่อ
2. ครีมกันแดดบีโอเรเด็ก อันนี้ใช้ดีมาก ซื้อมาตุนไว้ ใช้แล้วสิวไม่ขึ้น หน้าไม่เป็น bump ล้างออกง่าย ใช้แล้วหน้าไม่วอก
3. Hyaluronic อันนี้เป็นไซส์ใหญ่ + แถมไซส์เล็กมา 2 ขวด เค้าโฆษณาว่าได้รางวัล cosme และเป็นสินค้านิยม ใช้ทาหน้าเพียว ๆ หรือผสมครีม ทาปาก ทาผม ทาตัว ผมเลยซื้อมาลอง ก็ดีนะครับ เอามาหยดใส่ครีมก่อนทาหน้า และทาผมแทนเจลใส่ผม
4. ลิปมันของ DHC อันนี้ยังไม่ได้ลอง ให้น้องไปละ
5. ที่แปะเท้าก่อนนอน ทำให้นอนหลับสบายขึ้น มีหลายกลิ่นให้เลือก อันนี้ยังไม่ได้ลองเลย
6. อันนี้สะดวกมาก หลังจากใช้ห้องน้ำเสร็จและมีกลิ่น ไม่อยากให้คนมาใช้ต่อได้กลิ่น ก็หยดอันนี้ลงไปที่โถ มันจะกำจัดกลิ่น
จริง ๆ สินค้าลักษณะนี้ที่ผมรู้มี 2 แบบคือ 1. หยดบนขอบโถ + ในโถเพื่อฆ่าเชื้อ กับ 2 คืออันนี้ที่ผมซื้อมา คือหยดหลังจากกดชักโครกเพื่อดับกลิ่น
7. พลาสเตอร์ยาแบบเจล เคยใช้แบบสเปรย์ของเยอรมันแล้วชอบ พอเห็นอันนี้ที่ญี่ป่นเลยซื้อมาลอง อันนี้ก็เหมือนที่ทาเล็บมั๊งเป็นหัวแปรง จุ่มเจลทาแผล มันจะเป็นเหมือนพลาสเตอร์ยา ที่สำคัญคือเคลือบแผลไว้ โดนน้ำได้ไม่หลุดง่ายๆ
8. ยาหยอดตา ใช้ไม่เคยหมดสักที แต่ก็ซื้อมาไว้เรื่อยๆ
อันนี้คือราคาที่ซื้อสินค้าที่กล่าวมาข้างต้นครับ
9. ข้ามมาที่ฝรั่งเศสมั่ง ซื้อ Yves Rocher มาลอง อันนี้เป็นตัวเติมน้ำสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่มีน้ำหอมแอลกอฮอล์ประมาณนี้ ก็ใช้ดีนะครับ แต่คงไม่ซื้อต่อ ราคา 400 บาทแน่ะ
10. น้ำมันอาบน้ำของไบโอเดอมา อันนี้เพื่อนฝากซื้อเพราะบอกว่าใช้ดีมาก ผมเอามาลงเผื่อมีคนอยากรู้ราคา ราคาถือว่ากลาง ๆ นะ 1 ลิตร ราคา 400 บาทนิด ๆ
11. Bioderma Sebium H2O สีเขียว อันนี้มีน้ำหอมนะ สำหรับผิวผสม ผิวมัน เป็นสิว ตัวนี้ก็เป็นเคล็นซิ่งน้ำไว้เช็ดหน้า ปกติผมจะใช้สีชมพูนะ เพราะเลี่ยงน้ำหอม
12. Embryolisse อันนี้ครีมอเนกประสงค์ชื่อดังของฝรั่งเศส อันนี้มีน้ำหอมนะ ดูส่วนผสมแล้วก็รู้เลยว่าผมคงใช้ไม่ได้หรอก แต่ทนกระแสไม่ไหว อยากลองเลยซื้อมา
13. CicaBiafine อันนี้ก็ครีมทาผิวอีกตัวนึง ตัวนี้ไม่มีน้ำหอม ผมใช้แล้วเหนอะหน้า ตื่นมาหน้าแอบเป็น bump ๆ หน่อย (อารมณ์ประมาณสิวเตรียมขึ้น) อันนี้ดูส่วนผสมตอนแรกก็เดาแล้วว่าไม่น่าเหมาะกับผม แต่อยากลองไงเลยซื้อมา
เวลาเสริชหาว่าจะซื้อสกินแคร์ดรักสโตร์อะไรดีที่ฝรั่งเศส ผลค้นหาก็มักจะมี bioderma cleansing water , Embrolisse และ cicabiafine อันนี้ขึ้นมา นอกจากนั้นก็มี LRP, Avene และก็อื่นๆ อีกมากมายขึ้นมา อันนี้ผมหมายถึงสกินแคร์ drug store นะ
สามรูปบนเป็นของแถม และรูปหลังเป็นราคาสินค้า
ย้ายมาสินค้าเกาหลีบ้าง ผมชอบ Cosrx มากเลยนะ ถ้าเป็นสินค้าของเกาหลีเนี่ย ผมจะชอบ cosrx , klairs , atopalm
แต่อันนี้ผมไปซื้อที่สิงคโปร์นะ เป็น authorized shop ของ cosrx ที่สิงคโปร์ อยู่ที่ lucky plaza ห้างจะอารมณ์บ้าน ๆ หน่อย อยู่ตรง Orchard road
14. Cosrx ตัว overnight mask สูตร rice เมื่อก่อนลองเทสเตอร์ที่เค้าแถมมาตอนซื้อ cosrx ครั้งก่อน ใช้แล้วดีมาก หน้านุ่มสุด ๆ คราวนี้เลยซื้อขนาดใหญ่เลย ตอนแรกกะซื้อ 2 อันคือสูตรข้าวอันนี้กับสูตรน้ำผึ้งอีกอัน แต่สูตรน้ำผึ้งมันหมดอายุปีหน้า เลยไม่ได้ซื้อมา
คราวนี้ใช้แล้วสิวขึ้น คืออะไรก็ตามที่เหนอะ ๆ หน้าผมจะไม่ชอบ หลังจากใช้หน้าจะไม่สบาย ผลก็คือสิวขึ้นหรือหน้าเป็น bump ๆ แต่หน้าก็นุ่มนะ เลยให้คนอื่นไปละ
15. Cosrx ตัว snail power essense อันนี้ชอบมาก หนืด ๆ หน่อย ซึมผิวเร็วดี
16. Cosrx เจลล้างหน้า Low pH อยากลองตัวนี้มาตั้งนานแล้ว คราวนี้เลยซื้อมาลอง แต่หลังจากใช้แล้ว เฉย ๆ ไม่ได้ปลื้มมาก คือมันล้างสะอาดนะ แต่หน้าออกจะแห้งนิดนึงเลยไม่ชอบ ถ้าคนผิวมันอาจจะชอบ แต่สำหรับผมผิวผสมและไม่ชอบอะไรที่แห้งไป หรือมีอะไรลื่น ๆ ติดผิวหลังล้างหน้า มันทำให้หน้าไม่สบาย จากนั้นผิวมันจะประพฤติแย่ ตอนนี้ที่ชอบมาก ๆ คือ Korres ของกรีซ กับ Ixxi ของฝรั่งเศส 2 อันนี้ล้างดีมาก ล้างสะอาด สัมผัสที่ได้ดูแพงดี แม้อันแรกจะมีน้ำหอม และอันที่สองจะมีทั้งน้ำหอมและแอลกอฮอล์ก็ตาม
17. Cosrx centella blemish cream อันนี้ดีมาก ชอบมาก ใช้แล้วสภาพผิวดี สิวที่กำลังขึ้น หรือกำลังจะขึ้นนี่คือแบบดีขึ้นมากเลยหลังตื่นนอน แต่ข้อเสียคือ ต้องใช้ก่อนนอน เพราะหน้าจะขาว คือจะทายังไงหน้าก็ขาว ให้นึกสภาพเหมือนคนทาครีมกันแดดและหน้าขาว ๆ แบบนั้นน่ะ แต่อันนี้แปลกคือแม้หน้าจะขาวแต่มันไม่หนักหน้า เหมือนครีมมันซึมไปแล้วแต่มันมีคราบขาว ๆ แต่ไม่ใช่คราบขาว ๆ แล้วหน้าแห้ง ๆ มันไม่ใช่แบบนั้น
18. Coxrx แผ่นแปะสิว อันนี้ชอบสุดตั้งแต่ใช้แผ่นแปะสิวมา
อันนี้คือของแถมที่ได้มา และราคาของแต่ละอัน
สินค้าข้างบนซื้อตอนต้นเดือน พอปลายเดือนไปสิงคโปร์อีกเลยไปซื้ออันนี้มาเพิ่ม คือกะจะเปลี่ยน regimen เลย
19. Klairs rich moist soothing serum อันนี้คือเซรั่มให้ความชุ่มชื่น ผมเชื่อว่าถ้าผิวชุ่มชื้นอะไรก็ดี ตอนแรกตัดสินใจหลายตัวเลยระหว่าง Cosrx centella ampoule (หลังจากใช้ centella cream แล้วชอบมาก เลยจะไปถอย ampoul มา) แต่ดูวันหมดอายุแล้วมันปีหน้าเลยไม่ได้ซื้อมา และ Coxrx ตัว propolis กับ Tosowoong ตัว propolis และ Klairs supple preparation facial toner ตัวใหม่ที่ไม่ใส่ essential oil มา ซึ่งแต่ละอย่างมันดูแลต่างจุดกัน แต่ผมก็เลือก Klairs rich moist serum ตัวนี้มา มาลองดูกันสักตั้งว่าจะดีไหม
20. Cosrx oil free moisturizer ตัวนี้ใส่ birch sap มา เคยใช้แล้วชอบ คือสัมผัสเบามากแต่ให้ความชุ่มชื่นดี
ตอนนี้ regimen ที่ใช้อยู่คือ Bioderma เช็ดตอนเช้าและไม่ล้างหน้าต่อ หรือ เช็ดตอนเย็นจากนั้นตามด้วยครีมล้างหน้า
ครีมล้างหน้า Jack black (ของเมกา) อันนี้ใช้หลัง Bioderma หรือบางทีก็ใช้เดี่ยว ๆ
Cosrx snail power essence , Eucerin ultra sensitive
กันแดด Biore kids
ทั้งหมดนี้ผมใช้แล้วโอเคนะ แต่ของบางอย่างใกล้หมด และเพิ่งซื้อของใหม่มาในสต๊อค
เดี๋ยวจะปรับเพิ่ม/ลดบางอย่างใน regimen
Bioderma
ที่ล้างหน้าจะเป็น Korres (ของกรีซ) , Derma E (ของเมกา) , Cosrx low pH (ของเกาหลี) อยู่ที่ว่าหยิบอะไรได้ก็ใช้อันนั้น (ส่วน ixxi หมดแล้วเลยไม่ได้อยู่ใน regimen)
จากนั้นจะทา Klairs rich moist serum ตามด้วย Cosrx oil free moisturizer ถ้าลืมหรือขี้เกียจก็ทาอย่างใดอย่างนึงหรือไม่ก็ไม่ทาเลยสักอย่าง
และตามด้วยกันแดด Biore kids หรือไม่ก็ LRP (มีของในสต็อคยังไม่ได้ใช้เลยจะเอามาใช้ให้หมด) อันนี้จะทาตอนออกไปข้างนอก อยู่บ้านไม่ทา (อันนี้ไม่ดีนะ เพราะครีมกันแดดต้องทาทุกวัน ไม่ว่าอยู่บ้านหรือออกไปข้างนอก)
ตอนนี้อยากลองใช้ Cream de latex มากครับ แต่ติดที่ว่าสำหรับผมราคาแพงมาก ตัวเซรั่ม 30ml 1,550 บาทแน่ะ คือประมาณ 50 USD หรือ 38 ยูโร ตอนนี้ใจสับสน ใจนึงก็คิดว่าจะให้โอกาสตัวเองลองสั่ง cream de latex มาใช้ดีไหม แต่อีกใจนึงก็ติดที่ราคา พาคิดไปว่าราคานี้ หรือเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยไปใช้ Filorga , caudalie , osmosis ได้เลยนะ
จบแล้วครับ ใครมีคำถามอะไร หรือมีคำแนะนำอะไรบอกได้นะครับ
ปล. ของทุกอย่างผมไปซื้อเองกับมือ ใช้เงินตัวเองที่ได้จากการทำงานของตัวเองซื้อครับ สินค้าญี่ปุ่นก็ซื้อตอนไปญี่ปุ่น สินค้าฝรั่งเศสก็ซื้อตอนไปฝรั่งเศส ส่วนสินค้าเกาหลีซื้อตอนไปสิงคโปร์ครับ
ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันนี้นะครับ สวัสดีครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้