"สัมปทานหัวใจ คือ อีกมิติของละครไทยที่หาดูได้ยาก ผ่านการถ่ายทอดจากคู่ขวัญทางม้าลาย"
ถ้าพูดถึงละครไทย เราคงชินกับการดูละครแนวตบจูบ นางเอกรันทน หลังๆ มาก็เริ่มมีสู้คนบ้าง หรือจะเป็นแนวประวัติศาสตร์ แนวบู้ คอมเมดี้
ซึ่งส่วนใหญ่การแสดงออกของตัวละครหรือพระนางในละคร ก็จะเป็นในรูปแบบของหนุ่มสาว ซึ่งน้อยเรื่องมากที่พระนางจะผ่านการแต่งงาน
โดยเฉพาะนางเอกที่มีลูก มีสามี มิหนำซ้ำยังไม่ได้หย่ากับสามีอีก ส่วนหนึ่งเพราะนิยายที่จะหยิบมาทำมีน้อยด้วย
แล้วมันก็ค่อนข้างยากที่จะสื่อสารกับคนดูออกมายังไงให้คนดูอิน ฟิน ร่วมไปกับตัวละครได้อย่างพอดี ไม่เยอะ ไม่น้อยเกินไป
ซึ่งละครเรื่องสัมปทานหัวใจ มาพร้อมกับเรื่องราวของนางเอกหรือคุณนายรัตตวัลย์ มีลูก มีสามี อีกทั้งยังเป็นผู้ดีเก่า
มีความรักให้กับนายหัวนาบุญ ทั้งคู่รักกัน แม้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทั้งคู่จะหล่อหลอมให้ความรักนี้ซึมลึกมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่สิ่งที่ตามมาคู่กันก็คือคำว่า
"ศีลธรรม" เป็นพ้อยหลักของความรัก ที่ทำให้การแสดงออกของพระนางมีความพอดีได้อย่างดีงาม
ที่แฟนๆ ฟินกันจะเป็นจะตายขนาดนี้ คนไม่รู้จะนึกว่าพระนางแสดงความรักกันหวือหวานักหนา แต่ความจริงไม่ใช่เลย
การแสดงออกของนายหัวและคุณนาย มีพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน เริ่มหึงหวงกัน ห่วงใยกัน ใส่ใจกัน
แต่ทั้งหมดถูกแสดงออกบนพื้นฐานของศีลธรรมอันดี ไม่มีการล่วงเกินหรือได้เสีย (แม้แฟนๆ หลายคนจะลุ้นจนตัวโก่งก็ตาม)
คุณนายและนายหัว ไม่ได้แสดงความรักกันเกินงาม ออกจะน้อยกว่าหลายๆ เรื่องด้วยซ้ำ เน้นการถ่ายทอดทั้งสีหน้า แววตา..
ถ้อยคำที่แฝงความนัย แม้ไม่ได้บอกว่า
"รัก" แต่มันก็หมายถึงรัก รวมทั้งการห่วงใย ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของกันและกัน
การสัมผัสแตะต้องที่พอดี หรือแม้แต่ฉากจูบ ก็จะเป็นการสัมผัสจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่ไม่ได้ เฮ้ย พร้อมใจกันจูบ
ซึ่งจุดสำคัญมันอยู่ที่นักแสดงถ่ายทอดทั้งหมดนั้นออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แล้วมันส่งมาถึงใจถึงอารมณ์คนดู
ทำให้เรามีอารมณ์ร่วม อิน ฟิน ไปกับสิ่งที่พวกเขาแสดงออกต่อกัน ให้มากกว่าที่ควรจะให้ด้วยซ้ำ
รวมทั้ง เมื่อสถานะของตัวละคร ที่มันมีกำแพงกั้นพวกเขาอยู่ มันยิ่งเป็นตัวเสริมให้คนดูลุ้นหนักไปอีก ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะลงเอยกันซะที
แต่ในความลุ้นนี้ คนดูก็ยังเข้าใจในสิ่งที่ละครสื่อให้เห็นถึงเรื่องของศีลธรรม คนดูจึงเอาใจช่วยในแบบที่ไม่ฝืนธรรมชาติ
และเข้าใจในตัวละครว่าพวกเขาต่างก็มีเหตุผลในสิ่งที่กระทำลงไป ถือว่าละครประสบความสำเร็จในแง่ของเรตติ้ง กระแส
ทั้งยังช่วยสงเสริมในการจรรโลงสังคมนี้ให้ดีขึ้นทางอ้อมได้ด้วย
นอกจากบทที่ดีแล้ว ต้องยกนิ้วให้นักแสดงจริงๆ ปกติเวียร์แสดงละครดีอยู่แล้ว แต่เมื่อมาเจอฐิสา บอกได้เลยว่าระดับการแสดงอัพขึ้นไปอีก
ส่วนฐิสาเอง ปกติการแสดงไม่เลว แต่ขาดที่เสน่ห์ พอมาเป็นเรื่องนี้เข้าคู่กับเวียร์ มันคือความพอดีที่แสนดีงาม ดีงามจริงๆ
เหมือนเค้าเกิดมาเพื่อเล่นละครด้วยกันเลยอะ เวียร์เคมีสาธารณะก็จริง แต่ส่วนตัวคิดว่ากับฐิสานี่คือที่สุดแล้ว
อีกจุดหนึ่งที่อยากพูดถึงก็คือ สัมปทานหัวใจได้ฟีลลิ่งเหมือนดูซีรี่ส์เกาหลี(หรือฮ่องกง) ไม่ใช่แค่นางเอกหน้าเกาหลี
แต่เพราะบท ไดอะล็อก การแสดงของนักแสดงนั่นแหละ ที่เล่นน้อยแต่ได้มาก เน้นสื่อสารทางอารมณ์
ไม่ได้เอะอะยัดฉากฟินๆ แมสๆ เหมือนละครเรื่องอื่นๆ ซึ่งจุดนี้ก็ต้องชื่นชมไปถึงผู้กำกับ ที่สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างดี
แถมยังทำให้แฟนละครชื่นชอบได้มากขนาดนี้
สุดท้าย เมื่อความรักเดินทางมาในวันและเวลาที่เหมาะสม ทุกอย่างคลี่คลาย คุณนายเป็นอิสระจากสามีเก่า
ทั้งคุณนายและนายหัวก็พร้อมที่จะแสดงออกถึงความรักที่มีต่อกันอย่างเต็มที่ และต้องบอกว่าเรียล เรียล และโค่ดเรียลจริงๆ
โดยเฉพาะฉาก เลิฟซีนหลังงานหมั้น หมดแล้วความหวั่นวิตก หมดแล้วสิ่งที่ต้องคำนึกถึงศีลธรรม สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือคนที่รักหมดหัวใจ
อยากบอกว่าฟินโค่ดๆ เลยค่ะ ณ จุดนี้คือที่สุด เหมือนดูเลิฟซีนซีรี่ย์เกาหลีญี่ปุ่นเลย
พร้อมกับฉากจบที่งดงาม อย่างการที่นายหัวทำมือกับคุณนานเป็นรูปหัวใจ มันคือหัวใจของพวกเขาทั้งคู่
คุณนายบอกว่า แม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ก็จะดูแลหัวใจดวงนี้(ความรักนี้)ให้ดีตลอดไป แล้วนายหัวก็บอกว่ามันยากนะ
แน่นอนว่า เพราะในโลกของความเป็นจริง การประคับประคองชีวิตคู่มันคือเรื่องที่ยาก แต่สำหรับนายหัวและคุณนาย
ที่ฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกันมากมาย มันทำให้ความรักแนบแน่นลึกซึ้ง ต่อให้เกิดเรื่องอะไรก็ไม่มีสิ่งใดมาทำลาย
เหมือนตอนที่คุณนายเข้าใจว่านายหัวมีเมียน้อย แต่ก็นึกถึงสิ่งดีๆ ของนายหัว และให้อภัยนายหัวได้เสมอ
สำหรับเรา ฉากจบของสัมปทานหัวใจเป็นอะไรที่กินใจที่สุดในละครยุคนี้แล้วค่ะ รักจริงๆ
สรุปคือ สำหรับคนดูอย่างเรา สัมปทานหัวใจคือความดีงามในทุกสิ่งอย่าง ทุกองค์ประกอบ นักแสดง บท ผู้กำกับ ภาพ การตัดต่อ
เพลงประกอบละคร คอสตูม โลเคชั่น ฯลฯ มันลงตัวหมดเลย นอกจากจะช่วยตอกย้ำความเป็นพระเอกเบอร์ 1 ของเวียร์แล้ว
ยังเป็นเรื่องแจ้งเกิดให้กับฐิสาอย่างงาม หลังจากที่ถูกวิจารณ์การแสดงที่ขาดเสน่ห์ เรียกได้ว่าตอนนี้ออร่านางเอกมาเต็มสมศักดิ์ศรีมากๆ ค่ะ
แล้วก็อยากฝากไปถึงช่อง 7 นอกจากจะขอละครฐิสาให้มากกว่าปีละเรื่องแล้ว ปีหน้าก็อยากเห็นเวียร์ฐิสาอีกครั้งนะคะ ไม่เบื่อค่ะ อิอิ
ของแถม
ปล.พิมพ์ในมือถือ หากมีคำผิด โปรดอภัย อิอิ
สัมปทานหัวใจ คือ อีกมิติของละครไทยที่หาดูได้ยาก ผ่านการถ่ายทอดจากคู่ขวัญทางม้าลาย
"สัมปทานหัวใจ คือ อีกมิติของละครไทยที่หาดูได้ยาก ผ่านการถ่ายทอดจากคู่ขวัญทางม้าลาย"
ถ้าพูดถึงละครไทย เราคงชินกับการดูละครแนวตบจูบ นางเอกรันทน หลังๆ มาก็เริ่มมีสู้คนบ้าง หรือจะเป็นแนวประวัติศาสตร์ แนวบู้ คอมเมดี้
ซึ่งส่วนใหญ่การแสดงออกของตัวละครหรือพระนางในละคร ก็จะเป็นในรูปแบบของหนุ่มสาว ซึ่งน้อยเรื่องมากที่พระนางจะผ่านการแต่งงาน
โดยเฉพาะนางเอกที่มีลูก มีสามี มิหนำซ้ำยังไม่ได้หย่ากับสามีอีก ส่วนหนึ่งเพราะนิยายที่จะหยิบมาทำมีน้อยด้วย
แล้วมันก็ค่อนข้างยากที่จะสื่อสารกับคนดูออกมายังไงให้คนดูอิน ฟิน ร่วมไปกับตัวละครได้อย่างพอดี ไม่เยอะ ไม่น้อยเกินไป
ซึ่งละครเรื่องสัมปทานหัวใจ มาพร้อมกับเรื่องราวของนางเอกหรือคุณนายรัตตวัลย์ มีลูก มีสามี อีกทั้งยังเป็นผู้ดีเก่า
มีความรักให้กับนายหัวนาบุญ ทั้งคู่รักกัน แม้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทั้งคู่จะหล่อหลอมให้ความรักนี้ซึมลึกมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่สิ่งที่ตามมาคู่กันก็คือคำว่า "ศีลธรรม" เป็นพ้อยหลักของความรัก ที่ทำให้การแสดงออกของพระนางมีความพอดีได้อย่างดีงาม
ที่แฟนๆ ฟินกันจะเป็นจะตายขนาดนี้ คนไม่รู้จะนึกว่าพระนางแสดงความรักกันหวือหวานักหนา แต่ความจริงไม่ใช่เลย
การแสดงออกของนายหัวและคุณนาย มีพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน เริ่มหึงหวงกัน ห่วงใยกัน ใส่ใจกัน
แต่ทั้งหมดถูกแสดงออกบนพื้นฐานของศีลธรรมอันดี ไม่มีการล่วงเกินหรือได้เสีย (แม้แฟนๆ หลายคนจะลุ้นจนตัวโก่งก็ตาม)
คุณนายและนายหัว ไม่ได้แสดงความรักกันเกินงาม ออกจะน้อยกว่าหลายๆ เรื่องด้วยซ้ำ เน้นการถ่ายทอดทั้งสีหน้า แววตา..
ถ้อยคำที่แฝงความนัย แม้ไม่ได้บอกว่า "รัก" แต่มันก็หมายถึงรัก รวมทั้งการห่วงใย ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของกันและกัน
การสัมผัสแตะต้องที่พอดี หรือแม้แต่ฉากจูบ ก็จะเป็นการสัมผัสจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่ไม่ได้ เฮ้ย พร้อมใจกันจูบ
ซึ่งจุดสำคัญมันอยู่ที่นักแสดงถ่ายทอดทั้งหมดนั้นออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แล้วมันส่งมาถึงใจถึงอารมณ์คนดู
ทำให้เรามีอารมณ์ร่วม อิน ฟิน ไปกับสิ่งที่พวกเขาแสดงออกต่อกัน ให้มากกว่าที่ควรจะให้ด้วยซ้ำ
รวมทั้ง เมื่อสถานะของตัวละคร ที่มันมีกำแพงกั้นพวกเขาอยู่ มันยิ่งเป็นตัวเสริมให้คนดูลุ้นหนักไปอีก ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะลงเอยกันซะที
แต่ในความลุ้นนี้ คนดูก็ยังเข้าใจในสิ่งที่ละครสื่อให้เห็นถึงเรื่องของศีลธรรม คนดูจึงเอาใจช่วยในแบบที่ไม่ฝืนธรรมชาติ
และเข้าใจในตัวละครว่าพวกเขาต่างก็มีเหตุผลในสิ่งที่กระทำลงไป ถือว่าละครประสบความสำเร็จในแง่ของเรตติ้ง กระแส
ทั้งยังช่วยสงเสริมในการจรรโลงสังคมนี้ให้ดีขึ้นทางอ้อมได้ด้วย
นอกจากบทที่ดีแล้ว ต้องยกนิ้วให้นักแสดงจริงๆ ปกติเวียร์แสดงละครดีอยู่แล้ว แต่เมื่อมาเจอฐิสา บอกได้เลยว่าระดับการแสดงอัพขึ้นไปอีก
ส่วนฐิสาเอง ปกติการแสดงไม่เลว แต่ขาดที่เสน่ห์ พอมาเป็นเรื่องนี้เข้าคู่กับเวียร์ มันคือความพอดีที่แสนดีงาม ดีงามจริงๆ
เหมือนเค้าเกิดมาเพื่อเล่นละครด้วยกันเลยอะ เวียร์เคมีสาธารณะก็จริง แต่ส่วนตัวคิดว่ากับฐิสานี่คือที่สุดแล้ว
อีกจุดหนึ่งที่อยากพูดถึงก็คือ สัมปทานหัวใจได้ฟีลลิ่งเหมือนดูซีรี่ส์เกาหลี(หรือฮ่องกง) ไม่ใช่แค่นางเอกหน้าเกาหลี
แต่เพราะบท ไดอะล็อก การแสดงของนักแสดงนั่นแหละ ที่เล่นน้อยแต่ได้มาก เน้นสื่อสารทางอารมณ์
ไม่ได้เอะอะยัดฉากฟินๆ แมสๆ เหมือนละครเรื่องอื่นๆ ซึ่งจุดนี้ก็ต้องชื่นชมไปถึงผู้กำกับ ที่สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างดี
แถมยังทำให้แฟนละครชื่นชอบได้มากขนาดนี้
สุดท้าย เมื่อความรักเดินทางมาในวันและเวลาที่เหมาะสม ทุกอย่างคลี่คลาย คุณนายเป็นอิสระจากสามีเก่า
ทั้งคุณนายและนายหัวก็พร้อมที่จะแสดงออกถึงความรักที่มีต่อกันอย่างเต็มที่ และต้องบอกว่าเรียล เรียล และโค่ดเรียลจริงๆ
โดยเฉพาะฉาก เลิฟซีนหลังงานหมั้น หมดแล้วความหวั่นวิตก หมดแล้วสิ่งที่ต้องคำนึกถึงศีลธรรม สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือคนที่รักหมดหัวใจ
อยากบอกว่าฟินโค่ดๆ เลยค่ะ ณ จุดนี้คือที่สุด เหมือนดูเลิฟซีนซีรี่ย์เกาหลีญี่ปุ่นเลย
พร้อมกับฉากจบที่งดงาม อย่างการที่นายหัวทำมือกับคุณนานเป็นรูปหัวใจ มันคือหัวใจของพวกเขาทั้งคู่
คุณนายบอกว่า แม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ก็จะดูแลหัวใจดวงนี้(ความรักนี้)ให้ดีตลอดไป แล้วนายหัวก็บอกว่ามันยากนะ
แน่นอนว่า เพราะในโลกของความเป็นจริง การประคับประคองชีวิตคู่มันคือเรื่องที่ยาก แต่สำหรับนายหัวและคุณนาย
ที่ฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกันมากมาย มันทำให้ความรักแนบแน่นลึกซึ้ง ต่อให้เกิดเรื่องอะไรก็ไม่มีสิ่งใดมาทำลาย
เหมือนตอนที่คุณนายเข้าใจว่านายหัวมีเมียน้อย แต่ก็นึกถึงสิ่งดีๆ ของนายหัว และให้อภัยนายหัวได้เสมอ
สำหรับเรา ฉากจบของสัมปทานหัวใจเป็นอะไรที่กินใจที่สุดในละครยุคนี้แล้วค่ะ รักจริงๆ
สรุปคือ สำหรับคนดูอย่างเรา สัมปทานหัวใจคือความดีงามในทุกสิ่งอย่าง ทุกองค์ประกอบ นักแสดง บท ผู้กำกับ ภาพ การตัดต่อ
เพลงประกอบละคร คอสตูม โลเคชั่น ฯลฯ มันลงตัวหมดเลย นอกจากจะช่วยตอกย้ำความเป็นพระเอกเบอร์ 1 ของเวียร์แล้ว
ยังเป็นเรื่องแจ้งเกิดให้กับฐิสาอย่างงาม หลังจากที่ถูกวิจารณ์การแสดงที่ขาดเสน่ห์ เรียกได้ว่าตอนนี้ออร่านางเอกมาเต็มสมศักดิ์ศรีมากๆ ค่ะ
แล้วก็อยากฝากไปถึงช่อง 7 นอกจากจะขอละครฐิสาให้มากกว่าปีละเรื่องแล้ว ปีหน้าก็อยากเห็นเวียร์ฐิสาอีกครั้งนะคะ ไม่เบื่อค่ะ อิอิ
ของแถม
ปล.พิมพ์ในมือถือ หากมีคำผิด โปรดอภัย อิอิ