[CR] ตลาดสามชุกอีกครั้ง กับความอยากกินปลาม้าแดดเดียว .... แต่ทริปนี้ได้อะไรมากกว่านั้น

สวัสดีค่ะ วันนี้ขอมารีวิวทริปเล็กๆของเราในวันหยุดวิสาขบูชาที่ผ่านมา ทริปนี้เกิดจากความอยากกินปลาม้าแดดเดียวของสามีโดยแท้ คือเราเคยได้รับการเปิดเนตร 5555 จากแม่ค้าปลาแดดเดียวในตลาดน้ำลำพญาว่า ปลาม้าแดดเดียว อร่อยสุดยอดยิ่งกว่าปลาไหนๆ แล้วก็หากินยากด้วย ซึ่งร้านเค้าเองก็ไม่ค่อยมีมาขายบ่อยๆ หลังจากที่ได้กินแล้วก็ใช่อย่างที่แม่ค้าบอก อร่อยมาก อร่อยกว่าปลาสลิด ปลาช่อน ซะอีก .... คราวนี้ก็ติดใจนะสิฮะ ทำงัยดีอ่ะแม่ค้าก็บอกร้านเค้าไม่ได้มีบ่อย แล้วที่ไหนล่ะที่มีเยอะ เราก็นึกถึงชื่ออำเภอนึงขึ้นมาได้ นั้นคือ "บางปลาม้า" สุพรรณบุรี ถ้ามีปลาม้าไม่เยอะจริงคงไม่ตั้งชื่ออำเภอว่าบางปลาม้าแน่นอน เราก็หาในกลูเกิ้ลเลย สรุปว่ามีขายที่ตลาดสามชุก ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ อ.บางปลาม้าแต่อย่างใด 5555555

ได้ข้อมูลแล้ว ก็ตื่นแต่เช้าออกเดินทางกันเลย เราออกเดินทางประมาณ 7 โมงครึ่ง แวะกินข้าวแถวเส้นกาญจนา ขับรถมาเรื่อยๆแบบไม่รีบร้อน มาถึงสามชุกประมาณ 10 โมงเห็นจะได้

มาถึงไม่รอช้ามุ่งหน้าไปร้านปลาม้าแดดเดียวทันที ที่หาข้อมูลมาเค้าแนะนำร้าน จิตร ปลาเค็มแดดเดียว ร้านนี้อยู่ในซอยก่อนถึงสะพานพรประชา หรือเค้าเรียกว่าถนนเลียบนที

ราคาปลาม้าแดดเดียวร้านนี้ก็ กิโลละ 200 บาท ปลาสลิดก็ 200 บาท ซึ่งจะแพงกว่าร้านอื่นนิดนึง แต่ว่าปลาม้าเค้าตัวใหญ่มาก เท่าที่เห็นก็ใหญ่สุดในสามชุกแล้วล่ะค่ะ เราก็จัดไปเลย 3 โล ได้มา 6 ตัวใหญ่ ส่วนปลาสลิดเราคิดว่าจะไปซื้อร้านเดิมที่เคยซื้อเพราะกินแล้วอร่อยดี ซื้อมาเสร็จก็เป็นภาระต้องถือ สิทีนี้ หนักด้วยอ่ะ ก็เลยเดินกลับเอาไปไว้ที่รถ 5555 ขยันเกิ๊น

วันนี้อากาศดีไม่ร้อนเลยผิดกับตอนที่มาครั้งแรกตอนนั้นร้อนมากเดินไม่ค่อยหนุก เราเดินเล็งของที่จะซื้อไปเรื่อยๆ ไว้ค่อยมาซื้อขากลับเด๋วจะหนัก เดินไปเดินมาได้ยินป้ายืนตะโกนว่ามีนั่งเรือเที่ยวเรือจะออกแล้วนะ รอบละ 50 บาทเท่านั้น เรา 2 คนก็เลยตัดสินใจไปนั่งเรือกัน แรกๆก็ไม่ได้ขาดหวังอะไรกับการนั่งเรือ ก็คงไม่ได้ต่างอะไรจากที่อื่น ลุงแกก็แนะนำสถานที่ต่างๆบ้านคนสำคัญในสามชุกอะไรไปเรื่อย จนมาจอดที่เรือนไทย เราก็เออดูน่าสนใจ อ่ะไปถ่ายรูปเล่นในเรือนไทยสักหน่อย ลุงบอกไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรด้วย ดีจัง แรกๆก็งงว่าบ้านใคร ที่ไหนได้ก็บ้านลุงขับเรือนี้เอง เห็นเค้าว่ามีละครมาถ่ายหลายเรื่องด้วยนะ หนึ่งในนั้นก็สุดแค้นแสนรัก ฉากบ้านยายแย้มนั้นเอง


นอกจากเรือนไทยหลังนี้แล้ว ลุงแกยังมีอีกหลายเรือน ซึ่งแกเก็บของเก่าไว้เยอะมาก เครื่องเสียงต่างๆรวมทั้งเครื่องฉายหนังก็ยังใช้ได้อยู่เลย ลุงเป็นคนดูแลและซ่อมเองทั้งหมด ลุงแกเป็นช่างเก่าค่ะ เมียแกเยอะซะด้วย มีตั้ง 4 คน ช่วยกันทำมาหากินเป็นไกด์นำเที่ยวเรือนนี้แหละค่ะ .... เราไปเห็นรูปลุงตอนหนุ่มๆ ลุงหล่อมาก ไม่แปลกใจเลยที่ทำมั้ยแกมีเมียเยอะ อิอิอิอิ

ตอนที่ไปเจอกองละครด้วยนะคะ กำลังจัดฉากถ่ายละครเรื่อง ปี่แก้วนางหงส์ กันอยู่เลย ซึ่งป้าแกบอกว่าพรุ่งนี้เบลล่าจะมาเข้าฉาก แหมเสียดายทำมั้ยไม่มาวันนี้ อยากเจอแม่นาย 5555 เดินชมบ้านลุงอยู่พักนึง ฝนก็จะมาซะงั้น ลุงเรียกลงเรือแล้ว ว้า!! เสียดายยังเดินไม่ทั่วเลย ยังไม่ได้ถ่ายหน้าเรือนไทยเลยด้วย ไม่อยากกลับเลยอยากติดฝนที่บ้านลุง บ้านลุงน่ารักดี ป้าๆก็น่ารัก ชอบข้าวของที่ลุงเก็บไว้มากๆเลย มันทำให้เรารู้จักกับคนรุ่นปู่ย่ามากขึ้น รู้สึกดีที่ได้มาเที่ยวบ้านลุง

ระหว่างนั่งเรือฝนตกหนักมาก แต่ดีที่ไม่มีลมไม่งั้นคงเปียกกันหมด มาถึงท่าเรือที่ตลาดสามชุกแล้วแต่ฝนยังไม่หยุด เราติดฝนอยู่บนเรือพักนึงฝนเริ่มเบาลง เราก็เลยขึ้นมาเดินเที่ยวต่อ งานกร่อยเลยทีนี้ พื้นเปียก แม่ค้าบางแผงเก็บของ ตลาดดูเหงาๆไปเลย แต่ภาระกิจเรายังไม่จบ ยังไม่ได้ของตามที่ต้องการเลย เราก็เลยเดินหาซื้อร่มแล้วแวะกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นยักษ์ ซึ่งรสชาติก็ธรรมดาๆนะ แถมชามเล็กไปนิดนึง กินเดี๋ยวเสร็จฝนหยุด ตลาดกลับมาคึกคักอีกครั้ง เหมือนแบบตลาดตื่นจากการหลับไหล 5555 เราก็เดินไปซื้อปลาสลิดต่อ ปลาสลิดที่นี่ถูกมากโลละ 160-180 เอง ตัวใหญ่ด้วย เราจัดมา 2 โล ปลารากกล้วยอีกโลนึง ซื้อของเรียบร้อยก็เดินทางออกจากตลาดสามชุก หาที่เที่ยวต่อ

ขับรถมาเรื่อยๆ เจอป้ายสวนอินทผาลัม สามีเป็นคนชอบกินอินทผาลัมมาก ก็เลยมีความอยากเข้าไปดู กลับรถสิค่ะงานนี้ เราไม่แน่ใจว่าเค้าให้เข้าชมมั้ย เพราะเห็นติดป้ายแค่เชิญไปไหว้พระพิฆเนศที่อยู่หน้าประตูของสวนเท่านั้น เราเลยขับเข้าไปถามลุงที่ยืนอยู่แถวพระพิฆเนศว่าเค้าให้เข้าชมสวนมั้ย ลุงบอกชมได้ ขับไปตามทาง ต้นอินทผาลัมอยู่ซ้ายมือ จอดรถดูได้เลย

เสียดายไม่มีผลที่สุกให้ดูเลย ในสวนแห่งนี้เหมือนเค้าจะขายต้นอินทผาลัมไว้ให้คนซื้อไปปลูกกันด้วยนะคะ บรรยากาศดูสดชื่นลมพัดเย็นสบาย แต่เสียดายที่ไม่มีร้านขายของฝากหรือขายผลิตภัณฑ์ที่ได้จากอินทผาลัมเลย เห็นแบบนี้แล้วอยากให้สวนแห่งนี้ทำเป็นที่เที่ยวเชิงเกษตร มีขายผลผลิตที่ได้จากสวน มีร้านกาแฟน่ารักๆอะไรแบบนี้ น่าจะเป็นจุดแวะเที่ยวได้ดีเลยทีเดียว
ชื่อสินค้า:   ตลาดสามชุก ตลาดร้อยปี สุพรรณบุรี
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่