ตอนนี้มันมีคลิปตัดต่อใส่ร้ายออกมา เลยต้องวกกลับมานำเสนอเรื่องนัดชิงหน่อย
ฝ่ายไม่ชอบแฟนหงส์จะมองว่า ชอบหาข้ออ้าง แพ้แล้วพาล
(น่าแปลกนะ ที่จริงแฟนหงส์ก็ชินกับการแพ้หรือชวดแชมป์มาหลายปี ยังจะชอบหาข้ออ้างอีกหรือเวลาแพ้)
เดี๋ยวจะมาแยกแยะว่า อะไรคืออคติ อะไรคือข้อเท็จจริงที่เป็นจุดด้อย
คือฝ่ายเกลียดหงส์จะเกลียดจะหมั่นไส้ก็เป็นธรรมดานะ ของแฟนบอลทีมอริ จะเกทับ จะกระแนะกระแหนไปมา ผมว่าเป็นสิ่งปกติและรับได้ แต่ถ้าอคติถึงขั้นตัดต่อคลิปใส่ร้าย สำหรับในวงการกีฬานี่ผมว่าเป็นเรื่องไม่น่าจะเกิดขึ้น อันนี้ขอประณามนะครับ
สำหรับพวกที่ไปตัดภาพหรือตัดคลิปมาบางช็อตเพื่อจะบิดเบือนว่าโม ซาลาห์ไปดึงรามอสก่อนเอง แต่สู้แรงเขาไม่ได้ คือภาพไปตัดเฉพาะจังหวะที่ซาลาห์ถูกดึงไปแล้ว เสียหลักไปแล้ว จึงมีจังหวะที่มือและขาไปเกี่ยวรามอส (ในจังหวะฉับพลันนั้นมันก็จะต้องมีการพยามจะดิ้นรนให้ตัวเองไม่เสียเปรียบแต่มันทำอะไรไม่ได้ครับ)
มันต้องดูเหตุการณ์เต็มว่า
- เริ่มจากจังหวะอะไร ?
- เหตุการณ์เป็นยังไง ?
- ใครชาร์จใคร ?
- ใครเจตนาเล่นบอลหรือเล่นคน ?
(ไม่ใช่ไปตัดภาพมาท่อนเดียว)
คำถามย้อนแย้ง
1. ถ้าข้อเท็จจริงคือโมดึงรามอส อะไรคือเหตุให้เขาต้องไปดึง ?
2. ถ้าข้อเท็จจริงคือรามอสดึงโม อะไรคือเหตุให้เขาต้องไปดึง ?
แค่ตั้งเหตุผลนี้ล่ะครับ รู้คำตอบ
ผมท้าให้ลองไปตั้งคำถามนี้กับแอดมินหรือคนโพสต์ภาพตัดต่อนี้ทุกคน ดูจะออกท่าไหน ?
จังหวะตามคลิปเหตุการณ์คือ เมื่อมีการทุ่มบอลมา โม มองที่บอลและเข้าเล่นบอลแล้ว ส่วนรามอสพุ่งเข้ามาชาร์จที่โม และทำเนียนดึงแขนในมุมที่กรรมการมองไม่เห็นเพื่อหน่วงตัวทำทีว่าเบียดกันและล้มไปทั้งคู่ เพื่อไม่ให้ผู้เล่นอีกฝ่ายเล่นลูกได้ (การดึงแขน การเสียบขา เกี่ยวขา การชน ล้วนเสี่ยงอันตราย มันเลยเป็นเรื่องผิดกติกาที่แจกใบได้ไงหละครับ) ถ้ากรรมการอยู่ในมุมที่ตามเกมทัน จังหวะนี้ไม่ใช่แค่ฟาวล์ อย่างน้อยคือเหลือง
ซาลาห์เป็นฝ่ายครองบอล ส่วนรามอสพุ่งเข้าไปชาร์จแล้วเป็นฝ่ายเริ่มเกี่ยวแขน
ภาพรามอสหน่วงแขนซาลาห์ให้ล้ม ก่อนทำทีว่าล้มไปทั้งคู่
สำหรับเทคนิคแบบนี้ นักกีฬาฟุตบอลและกรรมการทั่วโลกมองออกเข้าใจเป็นที่รู้กัน (เพียงแต่ไม่มีกฎการคาดโทษย้อนหลัง เรื่องนี้ผมเคยแสดงความเห็นไปแล้วว่าควรออกกฎ) ยกเว้นฝ่ายแฟนมาดริดบางส่วน ที่เขาก็จะต้องป้องนักเตะตัวเองว่าไม่ได้ทำผิด และแฟนบอลทีมที่เกลียดหงส์ ที่จะไม่ยอมรับความจริง อคติบดบัง เรื่องของเรื่องมันแค่นี้ล่ะครับ
(ย้ำว่า ทุกทีมและทุกคนครับ ที่เมื่อเล่นนอกกติกา ก็ควรมีการคาดโทษย้อนหลังถ้าในเกมไม่โดนโทษ)
ส่วนพฤติกรรมการตัดต่อแบบนี้ไม่น่ามีในวงการกีฬาครับ มันน่าจะไปอยู่ในแวดวงการเมืองหรือกลุ่มแย่งหวยมากกว่า อะไรแบบนั้นครับ
อีกประเด็นคือ โม ซาลาห์ ถึกสู้รามอสได้หรือไม่ ?
แน่นอนครับ ความถึกเป็นคุณสมบัติของกองหลังที่ต้องมีมากกว่ากองหน้าอยู่แล้วตามปกติ ยิ่งรามอสนี่เรื่องเรี่ยวแรงความถึกถือเป็นอันดับต้นๆ และมากกว่าโมแน่นอน แต่ว่าโมไม่ใช่กองหน้าสไตล์กระดูกเบอร์อ่อน เป็นสไตล์ถึกพอตัวเหมือนกัน
ตัวอย่างบาลานซ์ร่างกายของซาลาห์
นาที 1.35 ประตูที่ 5
นาที 2.20 ประตูที่ 3
จะเห็นว่าโม เบียดกองหลังในขณะตนครองบอลได้อย่างสบายๆ
ฉะนั้นถ้าแค่จังหวะต่างคนต่างเบียดดึงกับรามอส ไม่เจ็บหรอกครับถึงจะล้มกันไปก็ไม่ใช่ล้มแบบตัวบิดเสียหลักแบบที่เกิดขึ้น
(ภาพทั้งเหตุการณ์ต้นจนจบมันฟ้องอยู่เห็นๆ แต่ยังถือว่าหน้าด้านมากครับที่กล้าตัดภาพมาท่อนเดียว)
#แชมเปียนส์ลีก
#UEFA Champions league
หงส์แพ้เพราะ คลาริอุส ? โม ไปดึงเขาเอง งั้นหรอ โถๆๆ ?
ฝ่ายไม่ชอบแฟนหงส์จะมองว่า ชอบหาข้ออ้าง แพ้แล้วพาล
(น่าแปลกนะ ที่จริงแฟนหงส์ก็ชินกับการแพ้หรือชวดแชมป์มาหลายปี ยังจะชอบหาข้ออ้างอีกหรือเวลาแพ้)
เดี๋ยวจะมาแยกแยะว่า อะไรคืออคติ อะไรคือข้อเท็จจริงที่เป็นจุดด้อย
คือฝ่ายเกลียดหงส์จะเกลียดจะหมั่นไส้ก็เป็นธรรมดานะ ของแฟนบอลทีมอริ จะเกทับ จะกระแนะกระแหนไปมา ผมว่าเป็นสิ่งปกติและรับได้ แต่ถ้าอคติถึงขั้นตัดต่อคลิปใส่ร้าย สำหรับในวงการกีฬานี่ผมว่าเป็นเรื่องไม่น่าจะเกิดขึ้น อันนี้ขอประณามนะครับ
สำหรับพวกที่ไปตัดภาพหรือตัดคลิปมาบางช็อตเพื่อจะบิดเบือนว่าโม ซาลาห์ไปดึงรามอสก่อนเอง แต่สู้แรงเขาไม่ได้ คือภาพไปตัดเฉพาะจังหวะที่ซาลาห์ถูกดึงไปแล้ว เสียหลักไปแล้ว จึงมีจังหวะที่มือและขาไปเกี่ยวรามอส (ในจังหวะฉับพลันนั้นมันก็จะต้องมีการพยามจะดิ้นรนให้ตัวเองไม่เสียเปรียบแต่มันทำอะไรไม่ได้ครับ)
มันต้องดูเหตุการณ์เต็มว่า
- เริ่มจากจังหวะอะไร ?
- เหตุการณ์เป็นยังไง ?
- ใครชาร์จใคร ?
- ใครเจตนาเล่นบอลหรือเล่นคน ?
(ไม่ใช่ไปตัดภาพมาท่อนเดียว)
คำถามย้อนแย้ง
1. ถ้าข้อเท็จจริงคือโมดึงรามอส อะไรคือเหตุให้เขาต้องไปดึง ?
2. ถ้าข้อเท็จจริงคือรามอสดึงโม อะไรคือเหตุให้เขาต้องไปดึง ?
แค่ตั้งเหตุผลนี้ล่ะครับ รู้คำตอบ
ผมท้าให้ลองไปตั้งคำถามนี้กับแอดมินหรือคนโพสต์ภาพตัดต่อนี้ทุกคน ดูจะออกท่าไหน ?
จังหวะตามคลิปเหตุการณ์คือ เมื่อมีการทุ่มบอลมา โม มองที่บอลและเข้าเล่นบอลแล้ว ส่วนรามอสพุ่งเข้ามาชาร์จที่โม และทำเนียนดึงแขนในมุมที่กรรมการมองไม่เห็นเพื่อหน่วงตัวทำทีว่าเบียดกันและล้มไปทั้งคู่ เพื่อไม่ให้ผู้เล่นอีกฝ่ายเล่นลูกได้ (การดึงแขน การเสียบขา เกี่ยวขา การชน ล้วนเสี่ยงอันตราย มันเลยเป็นเรื่องผิดกติกาที่แจกใบได้ไงหละครับ) ถ้ากรรมการอยู่ในมุมที่ตามเกมทัน จังหวะนี้ไม่ใช่แค่ฟาวล์ อย่างน้อยคือเหลือง
ซาลาห์เป็นฝ่ายครองบอล ส่วนรามอสพุ่งเข้าไปชาร์จแล้วเป็นฝ่ายเริ่มเกี่ยวแขน
ภาพรามอสหน่วงแขนซาลาห์ให้ล้ม ก่อนทำทีว่าล้มไปทั้งคู่
สำหรับเทคนิคแบบนี้ นักกีฬาฟุตบอลและกรรมการทั่วโลกมองออกเข้าใจเป็นที่รู้กัน (เพียงแต่ไม่มีกฎการคาดโทษย้อนหลัง เรื่องนี้ผมเคยแสดงความเห็นไปแล้วว่าควรออกกฎ) ยกเว้นฝ่ายแฟนมาดริดบางส่วน ที่เขาก็จะต้องป้องนักเตะตัวเองว่าไม่ได้ทำผิด และแฟนบอลทีมที่เกลียดหงส์ ที่จะไม่ยอมรับความจริง อคติบดบัง เรื่องของเรื่องมันแค่นี้ล่ะครับ
(ย้ำว่า ทุกทีมและทุกคนครับ ที่เมื่อเล่นนอกกติกา ก็ควรมีการคาดโทษย้อนหลังถ้าในเกมไม่โดนโทษ)
ส่วนพฤติกรรมการตัดต่อแบบนี้ไม่น่ามีในวงการกีฬาครับ มันน่าจะไปอยู่ในแวดวงการเมืองหรือกลุ่มแย่งหวยมากกว่า อะไรแบบนั้นครับ
อีกประเด็นคือ โม ซาลาห์ ถึกสู้รามอสได้หรือไม่ ?
แน่นอนครับ ความถึกเป็นคุณสมบัติของกองหลังที่ต้องมีมากกว่ากองหน้าอยู่แล้วตามปกติ ยิ่งรามอสนี่เรื่องเรี่ยวแรงความถึกถือเป็นอันดับต้นๆ และมากกว่าโมแน่นอน แต่ว่าโมไม่ใช่กองหน้าสไตล์กระดูกเบอร์อ่อน เป็นสไตล์ถึกพอตัวเหมือนกัน
ตัวอย่างบาลานซ์ร่างกายของซาลาห์
นาที 1.35 ประตูที่ 5
นาที 2.20 ประตูที่ 3
จะเห็นว่าโม เบียดกองหลังในขณะตนครองบอลได้อย่างสบายๆ
ฉะนั้นถ้าแค่จังหวะต่างคนต่างเบียดดึงกับรามอส ไม่เจ็บหรอกครับถึงจะล้มกันไปก็ไม่ใช่ล้มแบบตัวบิดเสียหลักแบบที่เกิดขึ้น
(ภาพทั้งเหตุการณ์ต้นจนจบมันฟ้องอยู่เห็นๆ แต่ยังถือว่าหน้าด้านมากครับที่กล้าตัดภาพมาท่อนเดียว)
#แชมเปียนส์ลีก
#UEFA Champions league