เสียดายหนังดี ๆ แบบนี้ ฉายแค่ที่พารากอน (สำหรับ major) กับที่เซ็นทรัลเวิลด์ (สำหรับ sf) ที่ กทม. เป็นอีกหนังเรื่องหนึ่งที่ผมดูไปน้ำตาคลอไป คงเป็นเพราะแบ็คกราวนด์ของไซม่อนที่คล้ายกับผมมาก มีน้องสาวเหมือนกันเลย อายุก็ห่าง 6-7 ปีเหมือนกัน แต่ต่างตรงผมไม่ได้อายุ 16-17 ปีเหมือนพระเอก และครอบครัวค่อนข้างมีปัญหาและทะเลาะกัน ฉะนั้นจะเรียกเต็มปากว่ามีชีวิตที่เรียกปกติเหมือนกับพระเอกก็คงไม่ได้ ที่เขามีครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียวกันดี ดูไปแล้วก็เข้าใจไซม่อนเลย ทุก ๆ วัน มันเหมือนจะมีความสุข แต่การปิดบังตัวเองว่าเป็นเกย์ จะบอกใครก็ไม่ได้ อยากแต่งตัว อยากทำท่าทางแบบเกย์ก็แสนยาก จะแอบชอบบอกใครมันก็ลำบาก เพราะไม่รู้เขาจะมีรสนิยมเดียวกับเราไหม ถึงจะมีเพื่อน แต่ลึก ๆ แล้วคนอย่างพวกเรา ๆ ก็ยังอยากต้องการมีเพื่อนที่เป็นเกย์เหมือนกัน คนที่จะเข้าใจในสิ่งที่เป็นกันและกัน คุยเรื่องที่ไม่สามารถไปคุยกับเพื่อนที่เป็นชายแท้-หญิงแท้ได้อย่างสบายใจได้
ซึ่งไซม่อนก็เหมือนจะได้เจอโอกาสนี้ จากการที่เขาเห็นว่ามีคนที่รู้สึกและเป็นอย่างเขาอยู่ (พบเจอที่ blog ซึ่งคนนั้นใช้ชื่อแอคเคานท์ว่า blue) ผ่านการเขียนอีเมลไปหาตอบกลับกันโดยใช้ชื่อปลอม แล้วพูดคุยกันถูกคอ จนไซม่อนหลงรัก blue ตอนแรกที่ดูก็มึนงงหน่อย ๆ เพราะเห็นผู้ชายหลายคนนั่งพิมพ์อีเมลตอบกลับไปหา พอไปถึงกลางเรื่องถึงเข้าใจว่า อ๋อ...ไซม่อนพี่แกมโนอยู่ว่าคนนั้นคนนี้ที่เห็นแล้วคิดว่าเขาคือ blue คนที่พี่แกคุยตอบกลับด้วย แหม่...และทุกคนก็ดูเหมือนจะเป็น blue ไปหมดซะด้วยสิ โคตรน่าอิจฉาเลย ทำไมไม่เจออะไรอย่างนี้บ้างวะ เจอแต่เว็บแจกเฟซ แจกไลน์ หาผัว หาคนเลี้ยง หาคนมาเย็_ // มองบนสิบวิ จนวันนึงไซม่อนก็ไปตอบเมล blue ที่ห้องสมุดโรงเรียน แล้วลืม log out จนมาร์ติน :: เพื่อน มาเห็นเลยแคปไว้เตรียมแบล็คเมลไซม่อน หากไม่ช่วยให้เขาจีบแอ๊บบี้ เพื่อนในกรุ๊ปของไซม่อน และสุดท้ายก็โดนแบล็คเมลอยู่ดี
ตอนถูกแบล็คเมลนี่ใจวาบเลยอะ blue ก็เงียบหายไป เพื่อนในโรงเรียนอิสองตัวปากดีก็มาล้อ เพื่อนสนิทก็ตีออกห่าง เพราะผลของการที่แอ๊บบี้รู้ว่าไซม่อนเป็นพ่อสื่อให้เธอคบกับมาร์ติน ทั้ง ๆ ที่เธอแอบรักนิค :: เพื่อนในกรุ๊ปของไซม่อน ทำให้ความรักมันวุ่นวายไปหมด จนเพื่อนเองก็อกหัก ที่ใจวาบเพราะว่าถ้าตัวเราเองโดนแบบนี้ มันคงจะโคตรโหดร้ายอะ ลุ้นซะเหมือนตัวเองโดนเปิดโปงความจริงซะเอง แต่เสียดายตรงที่บทนี้น่าจะขยี้ได้อีก คิดว่าไซม่อนยังมีความกลัว ระแวง ไม่พอ เลยได้แค่น้ำตาคลอเลย >< เหมือนจะพีคแต่ไม่น่าพีคตรงที่ลีอาห์ :: เพื่อนผู้หญิงที่สนิทอีกคนของไซม่อน แอบรักไซม่อน กุว่าแล้วต้องมาแนวนี้ เฟลนิดนึงตรงที่บทน่าจะโฟกัสความรู้สึกอกหักของลีอาห์ด้วย แต่ดูเหมือนเธอจะยอมรับความจริงได้ง่ายไปจัง ส่วนตัวก็เคยเจอผู้หญิงมาแอบชอบเหมือนกัน ตอนแรกนึกว่าตัวเขานั้นกับเพื่อนของเค้าแค่แกล้งกันเล่น ๆ แต่สุดท้ายมันคือเรื่องจริง โคตรเหวอ [ทำไมไม่มีผู้ชายมาแอบชอบแทน!!! 555]
ตอนจบกลัวมากว่าหนังจะตัดจบแล้วไม่เฉลยว่าใครกันแน่ที่เป็น blue แต่สุดท้ายก็มาแบบฟินมาก อิ่มเอมสุด ๆ คือไม่จำเป็นต้องมีฉากที่จะร่วมเพศกันแบบละครเกย์ไทยหลายเรื่อง [ทำไมกุชอบแขวะวะ//ขอนิดนึง] ก็ฟินตามได้แทบจะจิกกระเป๋าตัวเอง อยู่ในโรงมันไม่มีหมอนอะนะ พระเอก :: นิค โรบินสัน ก็งานดีมาก เล่นเป็นเกย์ได้น่ารักดี และไม่รู้ว่าพล็อตในหนังจะดังจนเป็นกระแสพอทีจะทำให้มีคนอยากเปิดตัวว่าเป็นเกย์ได้เยอะขึ้นหรือเปล่า ส่วนตัวให้ 7.5/10 เพราะคิดว่าบางอารมณ์ยังไม่สุดพอที่จะร่วม heartfelt ไปด้วยได้ บวกกับวัฒนธรรมอเมริกันที่มันดูขัดชีวิตกับตัวเองด้วย เพราะในเรื่องนั่นเด็ก ม.ปลาย เอง ขับรถยนต์เป็นละ ผมนี่ยังขับมอไซค์ไม่คล่องเลย 555 และทุกคนดูโตกว่าวัยมาก มีงาน prom งานเลี้ยง งานแสดงละครเวที ดื่มเหล้าดื่มไวน์กัน อย่างกับชีวิตในวัยมหาลัยมากกว่า ย้อนมาดูชีวิตวัย ม.ปลาย ที่โรงเรียนตัวเอง ดูคงเหมือนเป็นชีวิตวัยมัธยมต้นของที่อเมริกาอะ จุดนี้เลยทำให้อินกับหนังค่อนข้างยากนิดนึง
[Review+สปอยล์] Love, Simon อีเมลลับฉบับไซมอน :: หนังที่ดูไปน้ำตาคลอไป
ซึ่งไซม่อนก็เหมือนจะได้เจอโอกาสนี้ จากการที่เขาเห็นว่ามีคนที่รู้สึกและเป็นอย่างเขาอยู่ (พบเจอที่ blog ซึ่งคนนั้นใช้ชื่อแอคเคานท์ว่า blue) ผ่านการเขียนอีเมลไปหาตอบกลับกันโดยใช้ชื่อปลอม แล้วพูดคุยกันถูกคอ จนไซม่อนหลงรัก blue ตอนแรกที่ดูก็มึนงงหน่อย ๆ เพราะเห็นผู้ชายหลายคนนั่งพิมพ์อีเมลตอบกลับไปหา พอไปถึงกลางเรื่องถึงเข้าใจว่า อ๋อ...ไซม่อนพี่แกมโนอยู่ว่าคนนั้นคนนี้ที่เห็นแล้วคิดว่าเขาคือ blue คนที่พี่แกคุยตอบกลับด้วย แหม่...และทุกคนก็ดูเหมือนจะเป็น blue ไปหมดซะด้วยสิ โคตรน่าอิจฉาเลย ทำไมไม่เจออะไรอย่างนี้บ้างวะ เจอแต่เว็บแจกเฟซ แจกไลน์ หาผัว หาคนเลี้ยง หาคนมาเย็_ // มองบนสิบวิ จนวันนึงไซม่อนก็ไปตอบเมล blue ที่ห้องสมุดโรงเรียน แล้วลืม log out จนมาร์ติน :: เพื่อน มาเห็นเลยแคปไว้เตรียมแบล็คเมลไซม่อน หากไม่ช่วยให้เขาจีบแอ๊บบี้ เพื่อนในกรุ๊ปของไซม่อน และสุดท้ายก็โดนแบล็คเมลอยู่ดี
ตอนถูกแบล็คเมลนี่ใจวาบเลยอะ blue ก็เงียบหายไป เพื่อนในโรงเรียนอิสองตัวปากดีก็มาล้อ เพื่อนสนิทก็ตีออกห่าง เพราะผลของการที่แอ๊บบี้รู้ว่าไซม่อนเป็นพ่อสื่อให้เธอคบกับมาร์ติน ทั้ง ๆ ที่เธอแอบรักนิค :: เพื่อนในกรุ๊ปของไซม่อน ทำให้ความรักมันวุ่นวายไปหมด จนเพื่อนเองก็อกหัก ที่ใจวาบเพราะว่าถ้าตัวเราเองโดนแบบนี้ มันคงจะโคตรโหดร้ายอะ ลุ้นซะเหมือนตัวเองโดนเปิดโปงความจริงซะเอง แต่เสียดายตรงที่บทนี้น่าจะขยี้ได้อีก คิดว่าไซม่อนยังมีความกลัว ระแวง ไม่พอ เลยได้แค่น้ำตาคลอเลย >< เหมือนจะพีคแต่ไม่น่าพีคตรงที่ลีอาห์ :: เพื่อนผู้หญิงที่สนิทอีกคนของไซม่อน แอบรักไซม่อน กุว่าแล้วต้องมาแนวนี้ เฟลนิดนึงตรงที่บทน่าจะโฟกัสความรู้สึกอกหักของลีอาห์ด้วย แต่ดูเหมือนเธอจะยอมรับความจริงได้ง่ายไปจัง ส่วนตัวก็เคยเจอผู้หญิงมาแอบชอบเหมือนกัน ตอนแรกนึกว่าตัวเขานั้นกับเพื่อนของเค้าแค่แกล้งกันเล่น ๆ แต่สุดท้ายมันคือเรื่องจริง โคตรเหวอ [ทำไมไม่มีผู้ชายมาแอบชอบแทน!!! 555]
ตอนจบกลัวมากว่าหนังจะตัดจบแล้วไม่เฉลยว่าใครกันแน่ที่เป็น blue แต่สุดท้ายก็มาแบบฟินมาก อิ่มเอมสุด ๆ คือไม่จำเป็นต้องมีฉากที่จะร่วมเพศกันแบบละครเกย์ไทยหลายเรื่อง [ทำไมกุชอบแขวะวะ//ขอนิดนึง] ก็ฟินตามได้แทบจะจิกกระเป๋าตัวเอง อยู่ในโรงมันไม่มีหมอนอะนะ พระเอก :: นิค โรบินสัน ก็งานดีมาก เล่นเป็นเกย์ได้น่ารักดี และไม่รู้ว่าพล็อตในหนังจะดังจนเป็นกระแสพอทีจะทำให้มีคนอยากเปิดตัวว่าเป็นเกย์ได้เยอะขึ้นหรือเปล่า ส่วนตัวให้ 7.5/10 เพราะคิดว่าบางอารมณ์ยังไม่สุดพอที่จะร่วม heartfelt ไปด้วยได้ บวกกับวัฒนธรรมอเมริกันที่มันดูขัดชีวิตกับตัวเองด้วย เพราะในเรื่องนั่นเด็ก ม.ปลาย เอง ขับรถยนต์เป็นละ ผมนี่ยังขับมอไซค์ไม่คล่องเลย 555 และทุกคนดูโตกว่าวัยมาก มีงาน prom งานเลี้ยง งานแสดงละครเวที ดื่มเหล้าดื่มไวน์กัน อย่างกับชีวิตในวัยมหาลัยมากกว่า ย้อนมาดูชีวิตวัย ม.ปลาย ที่โรงเรียนตัวเอง ดูคงเหมือนเป็นชีวิตวัยมัธยมต้นของที่อเมริกาอะ จุดนี้เลยทำให้อินกับหนังค่อนข้างยากนิดนึง