เมื่อวันสองวันก่อนค่ะคุณพี่ ๆ ๆ ๆ มีตัวอย่างหนังเรื่องใหม่ปล่อยออกมาทางยูทิวป์ เห็นว่าเป็นปรากฏการณ์ยิ่งกว่าฝนดาวตกบริเวณงานทินทูเดอะน้องงเวิลด์ คุณน้องก็เผลอกดไปดู ปรากฏว่าเป็นทิลเล่อร์หนังเกย์วัยรุ่นที่เขาเคลมว่าเป็นหนังรักเมนสตีมเกย์วัยรุ่นเรื่องแรกที่มีตัวละครหลักเป็นเกย์และดำเนินเรื่องแบบเกย์เต็ม 100 คุณน้องก็แบบ...เอิ่ม...อยากจะบอกว่าบ้านชั้นมี ‘รักแห่งสยาม’ กับ ‘สตรีเหล็ก’ มาเป็นสิบปี บ้านหล่อนที่เป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ เพิ่งจะมามีหนังรักเกย์เหรอจ๊ะ....ยังไงก็เหอะ คุณน้องก็ลองค้นหาข้อมูลดู ปรากฏว่า เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายคร่า ๆ ๆ ๆ แถมยังมีแปลเป็นไทยด้วยยยย (ก็อย่างที่ทราบกันอ่ะนะคะ ภาษาอังกฤษของคุณน้องก็แค่ระดับเมียเช่าแถวคลองหลอด นาน ๆ จะมีฝอผ่านมาเลยไม่ค่อยชำนาน) ยังไงก็เหอะ คุณน้องก็รีบโบกตุ๊ก ๆ ไปร้านหนังสือที่ใกล้ที่สุด ไม่อยากจะบอก คุณน้องถ่อไปไกลถึงเซ็นทรัลเวิลด์นะคะ กว่าจะหาซื้อมาได้ (ตอนแรกยามจะไม่ให้เข้าห้างด้วย บอก พนักงานก่อสร้างให้ไปเข้าด้านหลัง อิผี!!!!)
ทิลเลอร์ตัวอย่างหนังค่ะ
พอไปถึงร้านหนังสือ ก็เดินหาไปเหอะในหมวดหนังสือแปล เดินจนมดลูกย้อยมาถึงตาตุ่มก็ไม่เจอ หาแล้วหาอีก พนักงานก็ยุ่ง ๆ เพราะลูกค้าเยอะเลยไม่อยากกวน เดินวนไปเรื่อย ๆ จนไปเจอนางจมอยู่ในชั้นหนังสือวาย ในใจก็คิดว่ามันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงวะ คือเห็นคุณน้องเป็นสมาชิก LGBT QDWXYZ แบบนี้แต่ก็ไม่นิยมเสพซีรีย์วายหรืออ่านหนังสือวายแบบปกเป็นรูปฟิกผู้ชายนัวกันนะ ส่วนตัวเคยอ่านอยู่สองสามเล่นที่นังเพื่อนสาววายแนะนำให้อ่าน เปิดไปได้ไม่กี่หน้าก็วางคะ ไม่ไหวจริง ๆ ทั้งการผูกเรื่อง บรรยาย พล๊อต ทุกอย่างมันช่างตาหวานมากกกกกก ขายความผินแบบแฟนตาซีจนเกินจะรับไหว แถมยังพวกคำที่พิมพ์ บทพูด โอยยยย เพลียค่ะ ไม่ปลื้ม ส่วนตัวชอบอะไรที่มันจับต้องได้ จริงจัง และเราสามารถ related กับประสบการณ์ในชีวิตเราได้ (ทอแรเน้อ ไทยคำอังกฤษคำ แค่พิมพ์ว่า ‘เชื่อมโยง’ แค่นี้ก็จบและ ไม่ต้องกดเปลี่ยนภาษาให้เมื่อยติ่งนิ้วก้อยด้วย)
ยังไงก็เหอะ เกริ่นมายืดยาว เข้าเรื่องเลยดีกว่า สำหรับนิยายเรื่องนี่มีชื่อไทยว่า “อีเมลลับฉบับไซมอน” ชื่ออังกฤษคือ Simon Vs. Homo Sapiens Agenda (ดกทง!!! ศัพท์แสงยากอะไรเบอร์นั้น) เขียนโดย Becky Albertalli แปลเป็นไทยโดยคุณ นลิน จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ Taisei Books เป็นนิยายแนวยังกะเด้าท์หรือหนังสือสำหรับวัยรุ่นก่อนวัยผู้ใหญ่ที่เล่าเรื่องของ ไซม่อน สเปียร์ (Eดก เป็นไรกับ บรินนี่?) เกย์เด็กน้อยวัย 16 ที่วันดีคืนดีก็ถูกแบล๊กเมลโดยเพื่อนร่วมโรงเรียนว่าจะเปิดเผยความลับว่าเขาเป็ยเกย์ถ้าไม่ยอมช่วยให้จีบเพื่อนคนหนึ่งของเขา
เรื่องเปิดมาด้วยปมปัญหาของไซม่อนทันทีอย่างไม่มีปี่มี่คลุ่ย
“มันเป็นบทสนทนาที่มีบางอย่างเคลือบแผงอย่างน่าประหลาดจนผมแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังถูกแบล็กเมล” อีเมลลับฉบับไซมอน, หน้า 9
โดยเป็นฉากที่ไซม่อนนั่งอยู่หลังเวทีในช่วงซ้อมละครของชมรมการละครที่ไซม่อนร่วมเล่นด้วย จู่ ๆ มาร์ติน แอนเดอร์สัน ก็เดินมานั่งข้าง ๆ แล้วบอกว่าได้อ่านอีเมลลับของไซมอนหมดแล้ว ตุ๊ดเด็กก็เด๋อสิคะ แล้วมาร์ตินก็บอกว่าเขาไปเผลอ่านตอนที่เข้าไปใช้คอมฯต่อจากไซมอนในห้องสมุด แถมยังมาสอนว่าถ้าไปเช็คเมลโดยใช้คอมสาธารนะก็ควรล๊อกออฟจากระบบด้วยสิ (อิดวก) ตอนนี้นังไซก็ประหม่าสิคะ มือไม้สั่นทำไรไม่ถูก เพราะอีเมลนั้นเป็นอีเมลแอ็คเคาท์ลับที่เข้าใช้คุยกับผู้คนหนึ่งที่ใช้นามแฝงว่าบลู (อ้อ แล้วไซม่อนก็ใช้นามแฝงว่า ฌาคส์) ทีนี้อิมาร์ตินก็บอกว่าเขาไม่ได้ต่อต้านเกย์หรืออะไรหรอกนะ แล้วทำมาเป็นปลอบว่าไซมอนควรจะเป็นตัวของตัวเอง นั่นนี่ แล้วเขาก็รู้ว่าไซมอนไม่อยากให้ใครเห็นอีเมลพวกนั้นด้วย ไซมอนก็ถึงรู้ว่าอีมาร์ตินนอกจากอ่านอีเมลแล้ว นางยังสแนบหน้าจอเก็บไว้ด้วยจร้า อิผี อิเลว อิเวรตะไล
ที่นี้นังไซก็เลยขึ้นนิดหน่อย เลยถามว่าต้องการอะไร อิมาร์ตินก็บอกว่าเขารู้ว่าไซมอนเป็นเพื่อนกับ แอบบี้ แล้วมาร์ตินก็แอบชอบแอบบี้อยู่ แถมตอนท้าย ๆ มาร์ตินยังถามถึงเหมือนขู่ว่าบลูเป็นใคร ไซมอนโกหกว่าเป็นคนธรรมดาทั่วไปอยู่รัฐอื่น (อิมาร์ตินนี่มันร้ายจริง ๆ ขอให้มันตายในวันที่ดือ)
สรุปสุดท้ายไซม่อนก็ต้องจำใจทำตามที่มาร์ตินต้องการ โดยรับคำว่าจะพยายามช่วยให้มาร์ตินได้คุยกับแอ๊บบี้
จากนั้นฉากก็ตัดมาตอนที่ไซม่อนกลับมาบ้าน แต่ก็ไม่อยากอยู่บ้านเลยจูงหมาที่ชื่อ บีเบอร์ ออกไปบ้านเพื่อน ถึงตรงนี้ไซม่อนกล่าวถึงสถานการณ์ที่ตัวเองด้วยความชิวเกินเหตุว่า
“...มาร์ตินชอบแอ๊บบี้เหมือนหนุ่มคงแก่เรียนที่มีรสนิยมชอบต่างเพศทุก ๆ คนที่เรียนโครงการเรียนล่วงหน้า และเอาจริง ๆ นะ เขาแค่อยากให้ผมยอมให้เขาติดสอยห้อยตามไปด้วยเลาที่ผมไปเที่ยวกับเธอ (แอ๊บบี้) ถ้ามองในแง่นั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร...” อีเมลลับฉบับไซมอน, หน้า 14
ค่ะ ไซมอน ลูกหลาวแม่ หล่อนสบาย ๆ สไตร์มยุรามากกกกก แต่ก็นั่นแหละ คือมาร์ตินเองก็ไม่ได้พูดจาข่มขู่กระโชกโฮกฮากอะไร แต่แค่พูดออกแนวข้อร้องแกมบังคับซึ่งมันก็พอหยวน ๆ กล้อมแกล้มไปได้กับสถานการณ์ทั้งหมดอ่ะนะ
ที่นี่เรื่องก็เปิดตัวละครหลักที่ 2 ตัว คือ คือ นิค กับ ลีอาห์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับไซมอมมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะอยู่บ้านใกล้กัน ตรงนี้เรื่องก็แค่เล่ากิจกรรมของกลุ่มเพื่อนทั้ง 3 คน แล้วก็แย๊บ ๆ ว่า ลีอาห์แอบชอบนิค แต่นิคแอบชอบแอ๊บบี้ ลีอาห์เลยเกลียดแอ๊บบี้ แต่ไซมอนเป็นเพื่อนกับแอ๊บบี้ แล้วทั้ง 4 คนก็อยู่กลุ่มกินข้าวเที่ยงเดียวกัน (งง ไหมคะ? ไม่เป็นไรค่ะคุณพี่ หายใจลึก ๆ ค่อย ๆ อ่าน ตอนคุณน้องอ่านถึงตรงนี้ก็เวียนหัวเหมือนกัน แล้วผู้เขียนก็ไห้ลายละเอียดน้อยมาก...ประเด็นนี้คุณน้องจะพูดถึงต้อนท้ายนะคะ ทดไว้ในใจก่อน)
ในตอนท้ายของบทที่ 1 ไซมอนบอกกับผู้อ่านว่า มันอาจจะเป็นผลดีก็ได้ถ้าเขาทำตัวเป็นพ่อสื่อให้มาร์ตินกับแอ๊บบี้ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น นิคก็จะได้เลิกชอบแอ๊บบี้ แล้วลีอาห์ก็จะได้เลิกเกลียดแอ๊บบี้ ทุกอย่างก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม ในบรรทัดสุดท้ายของบท ไซม่อนได้ยกตัวเองออกจากปัญหาแต่คุณน้องกลับรู้สึกว่ามันเป็นการหลอกตัวเอง แถมยังหลีกหนีความจริงที่ว่าตัวเขากำลังถูกแบล๊กเมลอยู่มากกว่า หรือไม่อย่างนั้นไซม่อนหล่อนก็เป็นคนมองโลกในแง่ดีมากกกกกกอ่ะ
“...เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่แค่ผมกับความลับของผม มันแทบจะไม่เกี่ยวกับตัวผมเลยด้วยซ้ำ...” อีเมลลับฉบับไซมอน, หน้า 17
ในบทที่ 2 ผู้เขียนได้เขียนแบบอีกเมลโต้ตอบกันระหว่าง ณาคส์ (ไซมอน) กับ บลู...อ่าว คุณน้องลืมบอก การเดิมเรื่องของนิยายเรื่องนี้จะเป็นแบบ เดินเรื่องปรกติ คือ ไซม่อนแทนตัวเองว่า ‘ผม’ บรรยายเรื่องราวต่าง ๆ 1 บท สลับกับ บทที่เป็นอีเมลโต้ตอบกันระหว่าง ฌาคส์ กับ บลู นะคะ อ่ะ...ต่อค่ะ ตรงนี้ยังไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรมา เพียงแต่บอกว่า บลูรู้ตัวว่าเป็นเกย์เพราะเคยแอบชอบผอของญาติคนหนึ่ง ส่วนไซม่อนก็เคยคบผู้หญิงมาสองสามคนเพราะยังไม่แน่ใจว่าเป็นเกย์เต็มร้อยหรือเปล่า...(เรื่องการค้นพบทางเพศนี่คุณน้องจะขอพูดถึงตอนท้ายแบบละเอียด ๆ นะคะ ทดไว้ในใจค่ะ ทดไว้ ทดไว้สิคะ!!!)
ถึงตรงนี้เราจะยังเห็นว่าทั้งคู่ยังเป็นแค่เพื่อนกันอยู่ ยังไม่ได้หยอดคำหวานหรืออะไร ต่อเนื่องมาถึงบทที่ 3 ที่ไซม่อนได้บอกกับผู้อ่านว่าเขารู้จักกับบลูได้ยังไง เรื่องของเรื่องก็คือ โรงเรียนของไซมอนมีทัมเบลอร์เพจอยู่ (Tumblr คืออะไร ใครไม่รู้ก็หากันเอาเองนะคะ) แล้วนังไซดันไปเจอโพสของบลูที่นั่น มันเป็นโพสสั้น ๆ แต่ไซมอนกลับรู้สึกเชื่อมโยกถึงได้อย่างง่ายดาย
“...ผมว่ามันพูดถึงความโดดเดี่ยว ตลกดีนะ เพราะผมไม่เคยคิดว่าตัวเองรู้สึกโดดเดี่ยว แต่วิธีที่บลูบรรยายความรู้สึกนั้นมีบางอย่างที่แสนจะคุ้นเคย เหมือนกับว่าเขาดึงความคิดออกมาจากหัวผมเลย เหมือนการที่คุณจำท่าทางของใครสักคนได้แต่ไม่เคยรู้ความคิดของเขา รวมถึงความรู้สึกที่ว่า คนเราก็เหมือนบ้านหลายหลับที่มีห้องกว้างและมีหน้าต่างบานจิ๋วมากมาย...
"...เขาพูดถึงมหาสมุทรที่กันระหว่างผู้คนและสิ่งที่สำคัญก็คือ การตามหาชายฝั่งที่ควรค่าแก่การว่ายเข้าหา...” อีเมลลับฉบับไซมอน, หน้า 26
จากนั้นไซมอนก็เลยอ่อยผู้ด้วยกสนทิ้งอีเมลของตัวเองไว้ที่โพสนั้นและบลูก็ตอบกลับมาเขา ทั้งคู่คุยกันมาตั้งแต่นั้นมาโดยที่ทั้งคู่รู้แค่ว่าอีกฝ่ายเป็นนักเรียนในโรงเรียนเดียวกัน อยู่ปี 3 เหมือนกัน แต่ทุกคู่เลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของกันและกันมากจนอีกฝ่ายรู้ว่าเป็นใครเป็นเพราะ...ก็เหตุผลเดิม ๆ สังคม การกลั่นแกล้ง ถูกล้อว่าเป็นตุ๊ด บลา ๆ ๆ (เวลคั่มทูมายเวิล์ดค่ะ คุณลูกหลาวแม่ๆๆๆๆๆ)
ไซมอนอธิบายสังคมรอบข้างผ่านสายตาของเขาว่า
“...เรื่องคงจะต่างออกไปถ้าเรา (หมายถึงครอบครัวของไซมอนนะคะ) อาศัยอยู่ที่นิวยอร์ก แต่ผมไม่รู้ว่าจะเป็นเกย์ในจอร์เจียได้ยังไง เราอยู่นอกเมืองแอตแลนตาเสียอีก (เป็นเมืองหลวงของรัฐจอร์เจีย ในบริบทนี้คงหมายถึงอยู่ห่างไกลความเจริญ ดกทง พูดเหมือนเคยไป กูเกิ้นทั้งนั้นแหละค่ะคุณณณณ) เพราะงั้นผมว่ามันอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้ เชดี้ครีกไม่ใส่สวรรค์ที่ผู้คนเปิดกว้างขนาดนั้น ที่โรงเรียนมีผู้ชายหนึ่งหรือสองคนเปิดตัวว่าเป็นเกย์แล้วและทุกคนก็รุมแกล้งพวกเขาตลอด ไม่ได้ใช้กำลังนะ แต่คำว่า ‘ไอ้ตุ๊ด’ ก็ใช้กันแพร่หลายอยู่เหมือนกัน...” อีเมลลับฉบับไซมอน, หน้า 28
จากนั้นก็มีการพูดถึงครอบครัวของไซมอนเพิ่มเติม พวกเขาดูเป็นครอบครัวสมัยใหม่ ไม่เคร่งศาสนา ติดรายการเรียลิตี้ ไซมอนมีพี่สาวกับน้องสาวอย่างละคน คนพี่ชื่อ อริส เรียนมหาวิทยาลัยและย้ายออกไปอยู่หอ ส่วนน้องสาวชื่อ นอรา บ้านนี้เขามีธรรมเนียมคือการถกกันเรื่องรายการเรียลิตี้กันอย่างจริงจัง (อเมริกันมาก)
จากนั้นเรื่องก็ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ มาร์ตินเริ่มมาตามทวงสัญญา อย่างพยายามมาขอเข้ากลุ่มนั่งกินข้าวเที่ยงด้วย แต่โต๊ะเต็มแล้ว ตรงนี้ไซมอนพูดถึงกลุ่มเพื่อนกินข้าวเที่ยงว่ามี นิค ลีอาห์ เพื่อนของลีอาห์คือแอนนากับมอร์แกน ไซมอนเคยคบกับมอร์แกนมาก่อน แล้วก็เพื่อนนักฟุตบอลของนิคคือแบรมที่เงียบ ๆ กับการ์เร็ตที่เกือบจะไม่เอาไหน ทั้งหมดรู้จักกันเพราะการบ้านวิชาโฮมรูมที่จัดกลุ่มแบบเรียงตามตัวอักษร
ทูบีคอนเทอร์นิวค่ะคุณพี่ ๆ ๆ ๆ กระทู้เต็ม
[CR] [สปอยด์หูดับตับไหม้] อีเมลลับฉบับไซมอน นิยายตุ๊ดเด็กมีผอคนแรก กับการเข้า ๆ ออก ๆ ตู้เสื้อผ้า
เมื่อวันสองวันก่อนค่ะคุณพี่ ๆ ๆ ๆ มีตัวอย่างหนังเรื่องใหม่ปล่อยออกมาทางยูทิวป์ เห็นว่าเป็นปรากฏการณ์ยิ่งกว่าฝนดาวตกบริเวณงานทินทูเดอะน้องงเวิลด์ คุณน้องก็เผลอกดไปดู ปรากฏว่าเป็นทิลเล่อร์หนังเกย์วัยรุ่นที่เขาเคลมว่าเป็นหนังรักเมนสตีมเกย์วัยรุ่นเรื่องแรกที่มีตัวละครหลักเป็นเกย์และดำเนินเรื่องแบบเกย์เต็ม 100 คุณน้องก็แบบ...เอิ่ม...อยากจะบอกว่าบ้านชั้นมี ‘รักแห่งสยาม’ กับ ‘สตรีเหล็ก’ มาเป็นสิบปี บ้านหล่อนที่เป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ เพิ่งจะมามีหนังรักเกย์เหรอจ๊ะ....ยังไงก็เหอะ คุณน้องก็ลองค้นหาข้อมูลดู ปรากฏว่า เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายคร่า ๆ ๆ ๆ แถมยังมีแปลเป็นไทยด้วยยยย (ก็อย่างที่ทราบกันอ่ะนะคะ ภาษาอังกฤษของคุณน้องก็แค่ระดับเมียเช่าแถวคลองหลอด นาน ๆ จะมีฝอผ่านมาเลยไม่ค่อยชำนาน) ยังไงก็เหอะ คุณน้องก็รีบโบกตุ๊ก ๆ ไปร้านหนังสือที่ใกล้ที่สุด ไม่อยากจะบอก คุณน้องถ่อไปไกลถึงเซ็นทรัลเวิลด์นะคะ กว่าจะหาซื้อมาได้ (ตอนแรกยามจะไม่ให้เข้าห้างด้วย บอก พนักงานก่อสร้างให้ไปเข้าด้านหลัง อิผี!!!!)
ทิลเลอร์ตัวอย่างหนังค่ะ
พอไปถึงร้านหนังสือ ก็เดินหาไปเหอะในหมวดหนังสือแปล เดินจนมดลูกย้อยมาถึงตาตุ่มก็ไม่เจอ หาแล้วหาอีก พนักงานก็ยุ่ง ๆ เพราะลูกค้าเยอะเลยไม่อยากกวน เดินวนไปเรื่อย ๆ จนไปเจอนางจมอยู่ในชั้นหนังสือวาย ในใจก็คิดว่ามันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงวะ คือเห็นคุณน้องเป็นสมาชิก LGBT QDWXYZ แบบนี้แต่ก็ไม่นิยมเสพซีรีย์วายหรืออ่านหนังสือวายแบบปกเป็นรูปฟิกผู้ชายนัวกันนะ ส่วนตัวเคยอ่านอยู่สองสามเล่นที่นังเพื่อนสาววายแนะนำให้อ่าน เปิดไปได้ไม่กี่หน้าก็วางคะ ไม่ไหวจริง ๆ ทั้งการผูกเรื่อง บรรยาย พล๊อต ทุกอย่างมันช่างตาหวานมากกกกกก ขายความผินแบบแฟนตาซีจนเกินจะรับไหว แถมยังพวกคำที่พิมพ์ บทพูด โอยยยย เพลียค่ะ ไม่ปลื้ม ส่วนตัวชอบอะไรที่มันจับต้องได้ จริงจัง และเราสามารถ related กับประสบการณ์ในชีวิตเราได้ (ทอแรเน้อ ไทยคำอังกฤษคำ แค่พิมพ์ว่า ‘เชื่อมโยง’ แค่นี้ก็จบและ ไม่ต้องกดเปลี่ยนภาษาให้เมื่อยติ่งนิ้วก้อยด้วย)
ยังไงก็เหอะ เกริ่นมายืดยาว เข้าเรื่องเลยดีกว่า สำหรับนิยายเรื่องนี่มีชื่อไทยว่า “อีเมลลับฉบับไซมอน” ชื่ออังกฤษคือ Simon Vs. Homo Sapiens Agenda (ดกทง!!! ศัพท์แสงยากอะไรเบอร์นั้น) เขียนโดย Becky Albertalli แปลเป็นไทยโดยคุณ นลิน จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ Taisei Books เป็นนิยายแนวยังกะเด้าท์หรือหนังสือสำหรับวัยรุ่นก่อนวัยผู้ใหญ่ที่เล่าเรื่องของ ไซม่อน สเปียร์ (Eดก เป็นไรกับ บรินนี่?) เกย์เด็กน้อยวัย 16 ที่วันดีคืนดีก็ถูกแบล๊กเมลโดยเพื่อนร่วมโรงเรียนว่าจะเปิดเผยความลับว่าเขาเป็ยเกย์ถ้าไม่ยอมช่วยให้จีบเพื่อนคนหนึ่งของเขา
เรื่องเปิดมาด้วยปมปัญหาของไซม่อนทันทีอย่างไม่มีปี่มี่คลุ่ย
“มันเป็นบทสนทนาที่มีบางอย่างเคลือบแผงอย่างน่าประหลาดจนผมแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังถูกแบล็กเมล” อีเมลลับฉบับไซมอน, หน้า 9
โดยเป็นฉากที่ไซม่อนนั่งอยู่หลังเวทีในช่วงซ้อมละครของชมรมการละครที่ไซม่อนร่วมเล่นด้วย จู่ ๆ มาร์ติน แอนเดอร์สัน ก็เดินมานั่งข้าง ๆ แล้วบอกว่าได้อ่านอีเมลลับของไซมอนหมดแล้ว ตุ๊ดเด็กก็เด๋อสิคะ แล้วมาร์ตินก็บอกว่าเขาไปเผลอ่านตอนที่เข้าไปใช้คอมฯต่อจากไซมอนในห้องสมุด แถมยังมาสอนว่าถ้าไปเช็คเมลโดยใช้คอมสาธารนะก็ควรล๊อกออฟจากระบบด้วยสิ (อิดวก) ตอนนี้นังไซก็ประหม่าสิคะ มือไม้สั่นทำไรไม่ถูก เพราะอีเมลนั้นเป็นอีเมลแอ็คเคาท์ลับที่เข้าใช้คุยกับผู้คนหนึ่งที่ใช้นามแฝงว่าบลู (อ้อ แล้วไซม่อนก็ใช้นามแฝงว่า ฌาคส์) ทีนี้อิมาร์ตินก็บอกว่าเขาไม่ได้ต่อต้านเกย์หรืออะไรหรอกนะ แล้วทำมาเป็นปลอบว่าไซมอนควรจะเป็นตัวของตัวเอง นั่นนี่ แล้วเขาก็รู้ว่าไซมอนไม่อยากให้ใครเห็นอีเมลพวกนั้นด้วย ไซมอนก็ถึงรู้ว่าอีมาร์ตินนอกจากอ่านอีเมลแล้ว นางยังสแนบหน้าจอเก็บไว้ด้วยจร้า อิผี อิเลว อิเวรตะไล
ที่นี้นังไซก็เลยขึ้นนิดหน่อย เลยถามว่าต้องการอะไร อิมาร์ตินก็บอกว่าเขารู้ว่าไซมอนเป็นเพื่อนกับ แอบบี้ แล้วมาร์ตินก็แอบชอบแอบบี้อยู่ แถมตอนท้าย ๆ มาร์ตินยังถามถึงเหมือนขู่ว่าบลูเป็นใคร ไซมอนโกหกว่าเป็นคนธรรมดาทั่วไปอยู่รัฐอื่น (อิมาร์ตินนี่มันร้ายจริง ๆ ขอให้มันตายในวันที่ดือ)
สรุปสุดท้ายไซม่อนก็ต้องจำใจทำตามที่มาร์ตินต้องการ โดยรับคำว่าจะพยายามช่วยให้มาร์ตินได้คุยกับแอ๊บบี้
จากนั้นฉากก็ตัดมาตอนที่ไซม่อนกลับมาบ้าน แต่ก็ไม่อยากอยู่บ้านเลยจูงหมาที่ชื่อ บีเบอร์ ออกไปบ้านเพื่อน ถึงตรงนี้ไซม่อนกล่าวถึงสถานการณ์ที่ตัวเองด้วยความชิวเกินเหตุว่า
“...มาร์ตินชอบแอ๊บบี้เหมือนหนุ่มคงแก่เรียนที่มีรสนิยมชอบต่างเพศทุก ๆ คนที่เรียนโครงการเรียนล่วงหน้า และเอาจริง ๆ นะ เขาแค่อยากให้ผมยอมให้เขาติดสอยห้อยตามไปด้วยเลาที่ผมไปเที่ยวกับเธอ (แอ๊บบี้) ถ้ามองในแง่นั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร...” อีเมลลับฉบับไซมอน, หน้า 14
ค่ะ ไซมอน ลูกหลาวแม่ หล่อนสบาย ๆ สไตร์มยุรามากกกกก แต่ก็นั่นแหละ คือมาร์ตินเองก็ไม่ได้พูดจาข่มขู่กระโชกโฮกฮากอะไร แต่แค่พูดออกแนวข้อร้องแกมบังคับซึ่งมันก็พอหยวน ๆ กล้อมแกล้มไปได้กับสถานการณ์ทั้งหมดอ่ะนะ
ที่นี่เรื่องก็เปิดตัวละครหลักที่ 2 ตัว คือ คือ นิค กับ ลีอาห์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับไซมอมมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะอยู่บ้านใกล้กัน ตรงนี้เรื่องก็แค่เล่ากิจกรรมของกลุ่มเพื่อนทั้ง 3 คน แล้วก็แย๊บ ๆ ว่า ลีอาห์แอบชอบนิค แต่นิคแอบชอบแอ๊บบี้ ลีอาห์เลยเกลียดแอ๊บบี้ แต่ไซมอนเป็นเพื่อนกับแอ๊บบี้ แล้วทั้ง 4 คนก็อยู่กลุ่มกินข้าวเที่ยงเดียวกัน (งง ไหมคะ? ไม่เป็นไรค่ะคุณพี่ หายใจลึก ๆ ค่อย ๆ อ่าน ตอนคุณน้องอ่านถึงตรงนี้ก็เวียนหัวเหมือนกัน แล้วผู้เขียนก็ไห้ลายละเอียดน้อยมาก...ประเด็นนี้คุณน้องจะพูดถึงต้อนท้ายนะคะ ทดไว้ในใจก่อน)
ในตอนท้ายของบทที่ 1 ไซมอนบอกกับผู้อ่านว่า มันอาจจะเป็นผลดีก็ได้ถ้าเขาทำตัวเป็นพ่อสื่อให้มาร์ตินกับแอ๊บบี้ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น นิคก็จะได้เลิกชอบแอ๊บบี้ แล้วลีอาห์ก็จะได้เลิกเกลียดแอ๊บบี้ ทุกอย่างก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม ในบรรทัดสุดท้ายของบท ไซม่อนได้ยกตัวเองออกจากปัญหาแต่คุณน้องกลับรู้สึกว่ามันเป็นการหลอกตัวเอง แถมยังหลีกหนีความจริงที่ว่าตัวเขากำลังถูกแบล๊กเมลอยู่มากกว่า หรือไม่อย่างนั้นไซม่อนหล่อนก็เป็นคนมองโลกในแง่ดีมากกกกกกอ่ะ
“...เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่แค่ผมกับความลับของผม มันแทบจะไม่เกี่ยวกับตัวผมเลยด้วยซ้ำ...” อีเมลลับฉบับไซมอน, หน้า 17
ในบทที่ 2 ผู้เขียนได้เขียนแบบอีกเมลโต้ตอบกันระหว่าง ณาคส์ (ไซมอน) กับ บลู...อ่าว คุณน้องลืมบอก การเดิมเรื่องของนิยายเรื่องนี้จะเป็นแบบ เดินเรื่องปรกติ คือ ไซม่อนแทนตัวเองว่า ‘ผม’ บรรยายเรื่องราวต่าง ๆ 1 บท สลับกับ บทที่เป็นอีเมลโต้ตอบกันระหว่าง ฌาคส์ กับ บลู นะคะ อ่ะ...ต่อค่ะ ตรงนี้ยังไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรมา เพียงแต่บอกว่า บลูรู้ตัวว่าเป็นเกย์เพราะเคยแอบชอบผอของญาติคนหนึ่ง ส่วนไซม่อนก็เคยคบผู้หญิงมาสองสามคนเพราะยังไม่แน่ใจว่าเป็นเกย์เต็มร้อยหรือเปล่า...(เรื่องการค้นพบทางเพศนี่คุณน้องจะขอพูดถึงตอนท้ายแบบละเอียด ๆ นะคะ ทดไว้ในใจค่ะ ทดไว้ ทดไว้สิคะ!!!)
ถึงตรงนี้เราจะยังเห็นว่าทั้งคู่ยังเป็นแค่เพื่อนกันอยู่ ยังไม่ได้หยอดคำหวานหรืออะไร ต่อเนื่องมาถึงบทที่ 3 ที่ไซม่อนได้บอกกับผู้อ่านว่าเขารู้จักกับบลูได้ยังไง เรื่องของเรื่องก็คือ โรงเรียนของไซมอนมีทัมเบลอร์เพจอยู่ (Tumblr คืออะไร ใครไม่รู้ก็หากันเอาเองนะคะ) แล้วนังไซดันไปเจอโพสของบลูที่นั่น มันเป็นโพสสั้น ๆ แต่ไซมอนกลับรู้สึกเชื่อมโยกถึงได้อย่างง่ายดาย
“...ผมว่ามันพูดถึงความโดดเดี่ยว ตลกดีนะ เพราะผมไม่เคยคิดว่าตัวเองรู้สึกโดดเดี่ยว แต่วิธีที่บลูบรรยายความรู้สึกนั้นมีบางอย่างที่แสนจะคุ้นเคย เหมือนกับว่าเขาดึงความคิดออกมาจากหัวผมเลย เหมือนการที่คุณจำท่าทางของใครสักคนได้แต่ไม่เคยรู้ความคิดของเขา รวมถึงความรู้สึกที่ว่า คนเราก็เหมือนบ้านหลายหลับที่มีห้องกว้างและมีหน้าต่างบานจิ๋วมากมาย...
"...เขาพูดถึงมหาสมุทรที่กันระหว่างผู้คนและสิ่งที่สำคัญก็คือ การตามหาชายฝั่งที่ควรค่าแก่การว่ายเข้าหา...” อีเมลลับฉบับไซมอน, หน้า 26
จากนั้นไซมอนก็เลยอ่อยผู้ด้วยกสนทิ้งอีเมลของตัวเองไว้ที่โพสนั้นและบลูก็ตอบกลับมาเขา ทั้งคู่คุยกันมาตั้งแต่นั้นมาโดยที่ทั้งคู่รู้แค่ว่าอีกฝ่ายเป็นนักเรียนในโรงเรียนเดียวกัน อยู่ปี 3 เหมือนกัน แต่ทุกคู่เลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของกันและกันมากจนอีกฝ่ายรู้ว่าเป็นใครเป็นเพราะ...ก็เหตุผลเดิม ๆ สังคม การกลั่นแกล้ง ถูกล้อว่าเป็นตุ๊ด บลา ๆ ๆ (เวลคั่มทูมายเวิล์ดค่ะ คุณลูกหลาวแม่ๆๆๆๆๆ)
ไซมอนอธิบายสังคมรอบข้างผ่านสายตาของเขาว่า
“...เรื่องคงจะต่างออกไปถ้าเรา (หมายถึงครอบครัวของไซมอนนะคะ) อาศัยอยู่ที่นิวยอร์ก แต่ผมไม่รู้ว่าจะเป็นเกย์ในจอร์เจียได้ยังไง เราอยู่นอกเมืองแอตแลนตาเสียอีก (เป็นเมืองหลวงของรัฐจอร์เจีย ในบริบทนี้คงหมายถึงอยู่ห่างไกลความเจริญ ดกทง พูดเหมือนเคยไป กูเกิ้นทั้งนั้นแหละค่ะคุณณณณ) เพราะงั้นผมว่ามันอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้ เชดี้ครีกไม่ใส่สวรรค์ที่ผู้คนเปิดกว้างขนาดนั้น ที่โรงเรียนมีผู้ชายหนึ่งหรือสองคนเปิดตัวว่าเป็นเกย์แล้วและทุกคนก็รุมแกล้งพวกเขาตลอด ไม่ได้ใช้กำลังนะ แต่คำว่า ‘ไอ้ตุ๊ด’ ก็ใช้กันแพร่หลายอยู่เหมือนกัน...” อีเมลลับฉบับไซมอน, หน้า 28
จากนั้นก็มีการพูดถึงครอบครัวของไซมอนเพิ่มเติม พวกเขาดูเป็นครอบครัวสมัยใหม่ ไม่เคร่งศาสนา ติดรายการเรียลิตี้ ไซมอนมีพี่สาวกับน้องสาวอย่างละคน คนพี่ชื่อ อริส เรียนมหาวิทยาลัยและย้ายออกไปอยู่หอ ส่วนน้องสาวชื่อ นอรา บ้านนี้เขามีธรรมเนียมคือการถกกันเรื่องรายการเรียลิตี้กันอย่างจริงจัง (อเมริกันมาก)
จากนั้นเรื่องก็ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ มาร์ตินเริ่มมาตามทวงสัญญา อย่างพยายามมาขอเข้ากลุ่มนั่งกินข้าวเที่ยงด้วย แต่โต๊ะเต็มแล้ว ตรงนี้ไซมอนพูดถึงกลุ่มเพื่อนกินข้าวเที่ยงว่ามี นิค ลีอาห์ เพื่อนของลีอาห์คือแอนนากับมอร์แกน ไซมอนเคยคบกับมอร์แกนมาก่อน แล้วก็เพื่อนนักฟุตบอลของนิคคือแบรมที่เงียบ ๆ กับการ์เร็ตที่เกือบจะไม่เอาไหน ทั้งหมดรู้จักกันเพราะการบ้านวิชาโฮมรูมที่จัดกลุ่มแบบเรียงตามตัวอักษร
ทูบีคอนเทอร์นิวค่ะคุณพี่ ๆ ๆ ๆ กระทู้เต็ม