เป็นการเขียนรีวิวเที่ยวครั้งแรก และเป็นครั้งแรกในฮอกไกโดกับไกด์ส่วนตัว ในช่วงปรายฤดูใบไม้ผลิ ย่างเข้าสู่หน้าร้อน

เลือกไปช่วงนี้เพราะอยากพาแม่ไปเที่ยวฮอกไกโด แต่แม่ผมขี้หนาว แอร์รถเย็นเกินยังไม่ไหวเลย ทางเดียวคือต้องไปช่วงนี้แหล่ะอากาศน่าจะพอแบ่งรับแบ่งสู้

เจ้าของกระทู้ไปตอนปรายเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิ อยู่ประมาณ 5-22 องศา ช่วงนี้น้ำแข็งในเมืองไม่มีแล้ว แต่ตามยอดเขาสูงยังมีให้เห็นอยู่ มีฝนบ้างบางวัน หลังฝนตกอุณหภูมิที่นี่จะต่ำลงมาก ทำให้อุณหภูมิในทริปนี้ ค่อนข้างสวิงมาก

แพลน
Day1 ---เดินทางออกจากสุวรรณภูมิ

Day2 ---ถึงสนามบินชิโตเสะ ซัปโปโร หมู่บ้านราเม็ง สวนสัตว์อาซาฮิกาว่า

Day3 ---ไปคลองโอตารุ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ เดินย่านช้อปปิ้งทานุกิโคจิ

Day4 ---ศาลเจ้าฮอกไกโด ช้อปปิ้งย่าน jr sapporo station เดินเล่นย่านซูซูกิโนะ

Day5 ---เดินทางกลับกรุงเทพฯการเตรียมตัว

การเตรียมตัว

จองตั๋วเครื่องบิน

รอบนี้เลือกบินกับ TG (การบินไทย) เพราะพาคุณแม่มาด้วย เลยอยากได้ที่นั่งสบายขึ้นหน่อย มั้ง ปกติมาเองบินหางแดงตลอด เอาส่วนต่างค่าเครื่องไปซื้อรองเท้ายังดีกว่า สายขี้งก แหะๆ
ขาไปเที่ยวบิน TG671 BKK-->CTS
ขากลับเที่ยวบิน TG670 CTS-->BKK
ค่าตั๋ว 18,000++฿ ต่อคน

การแต่งตัว

เนื่องจากช่วงที่ไปเป็นช่วงย่างเข้าหน้าร้อน ไกด์บอกว่าแต่งกายสบายๆ เสื้อแจ็คเก็ตชั้นเดียวพอ ไม่ถึงกับเสื้อโค้ท อุณหภูมิก่อนไปสวิงอยู่ประมาณ 7-20องศา

จองโรงแรม

ช่องทางประจำ agoda จองสะดวก จ่ายเงินหน้าเคาน์เตอร์เข้าพักได้เลย
คืนแรกนอน โรงแรม Fujita Kanko Washington Hotel Asahikawa
เลือกโรงแรมนี้เพราะตรงข้ามโรงแรมเป็นห้าง AEON
ค่าห้องเตียงใหญ่คู่ คืนละ 1,400++฿ มีอาหารเช้า

คืน2-3 โรงแรม T-mark City Hotel Sapporo
เลือกโรงแรมนี้เพราะ ไม่ไกลจากแหล่งช้อปปิ้ง ทานุกิโคจิมาก
ค่าห้องเตียงใหญ่คู่ มีส่วนที่เป็นเรียวกังให้ (ปูนอนพื้น สไตล์ญี่ปุ่น) 1,400++฿ มีอาหารเช้า

เช่าwifi

ไกด์หามาให้ไม่ทราบชื่อร้าน
7วัน 599฿

เตรียมตัวเรียบร้อย ลุยได้!!


วันแรก ออกเดินทาง เที่ยวบินTG670 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงกว่า ออกจากสุวรรณภูมิ 23.45น. ถึงปรายทางเวลา 8.00น. (เวลาที่ญี่ปุ่น)
รับกระเป๋าเสร็จ เดินตรงมาจะเจอกับโดเรม่อนยืนยิ้มแป้นต้อนรับอยู่


วันที่2 ถึงแล้ว มาถึงอุณหภูมิ 12องศา สดชื่นจริงๆ เหมือนคนนหนีอากาศร้อนมาพึ่งเย็น 555
ออกจากสนามบิน ชิโตเสะ นั่งรถบัสที่ไกด์จัดหาให้ มุ่งหน้าเข้าเมืองอาซาฮิกาว่า


(แวะเข้าห้องน้ำ รับอากาศสดชื่นกับอุณหภูมิ 14องศา)

ขึ้นรถเดินทางต่อประมาณ40นาที ถึงหมู่บ้านราเม็ง เวลาเกือบ11โมงพอดี
ที่นี่มีร้านราเม็งให้เลือกหลายร้าน ผมเลยสุ่มเอาร้านที่คนเยอะๆละกัน *จำชื่อร้านไม่ได้



เลือกกินแบบซุปกระดูกหมู เพราะเคยกินอิชิรันราเม็ง(ราเม็งข้อสอบ)ที่สาขาโอซาก้า ติดใจรสชาตินั้นมาก คิดว่าคงคล้ายๆ

ปรากฎว่าชามนี้รสชาติไม่ได้ใกล้เคียงเลย
ของร้านนี้น้ำซุปไม่มันนะ แต่ไปทางจืด ให้4/10 เพราะหมูชาชูพอได้อยู่

ไปต่อที่สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า




วิวข้างทาง *ภาพไม่สวย มุมไม่ได้ ขออภัยนะครับ ตากล้องมือใหม่ อิอิ
ถึงสวนสัตว์ ประมาณบ่ายโมงกว่า อุณหภูมิ 22 องศา เริ่มไม่ต่างกับกทม.











หน้าร้อนแบบนี้สัตว์ต่างๆจะหงอยๆหน่อย เพราะสัตว์ส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นสัตว์เมืองหนาว
รูปน้อยหน่อยนะครับแม่บ่นเมื่อยขา แถวอากาศบ่ายๆเริ่มร้อนด้วย แหะๆ

ขึ้นรถไปต่อ บ่อน้ำสีฟ้า








ก็ไม่มีอะไรนะครับที่นี่ เหมือนแค่ลงไปเอาอากาศบริสุทธิ์
เดินทางไปรร.





มาถึงรร.Fujita Kanko Washington Hotel Asahikawa เกือบ 6โมงเย็น เอากระเป๋าไปเก็บแล้วออกมาหาอะไรกิน ในห้างอิออนทาวน์ตอนค่ำ อยู่ตรงข้ามรร.นี่เอง




โซนร้านอาหารอยู่ชั้น4ของห้าง มีร้านอาหารอยู่เยอะเหมือนกัน

สรุปแม่ผมอยากกินของทอด







เมนูตามรูปเลยครับ ร้านนี้อร่อย ให้9/10 แต่ข้าวหน้าหมูทอดแกงกระหรี่ กลิ่นฉุนเกินไปนิด ผมเลยหักคะแนนตรงนี้

เดี๋ยวมาต่อ