แชร์ประสบการใช้บัตรคำศัพท์ แฟลชการ์ดสอนภาษาลูก

สวัสดีค่ะ
อยากจะแชร์ประสบการการเลี้ยงลูกให้ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ภาษาอังกฤษได้โดยเริ่มต้นจากบัตรคำศัพท์
จากที่เป็นคนไม่เก่งภาษา พูดก็ไม่ได้ อาศัยว่าพออ่านออกเขียนได้บ้าง
อยากจะให้ลูกเราเก่งภาษา เพราะคิดว่าต่อไปในรุ่นลูกเรา ภาษาต้องสำคัญมากๆแน่นอน
นี่คิดไปถึงว่า ในยุคลูกเราถ้าใครพูดภาษาอังกฤษได้ก็ถือว่าธรรมดา ใครพูดไม่ได้คืออาจจะดูแปลกไปเลยก็ได้
ดังนั้นรอช้าไม่ได้ค่ะ เริ่มวางแผนตั้งแต่ลูกยังไม่คลอด 555+

หลังจากคลอดน้องได้ประมาณ 4-5 เดือน คุณแม่เริ่มร้องเพลงภาษาอังกฤษให้ฟัง
จริงๆก็ร้องให้ฟังตั้งแต่ในท้องค่ะ แต่มาเริ่มจริงจังหาเพลงที่เน้นการใช้ภาษามาพูดกับเขา
เริ่มต้นคือหาเพลงจาก youtube ง่ายๆ มาร้องค่ะ
เช่น
one little finger , one little finger tab tab tab
point your finger up
point your finger down
put it on your.... nose
ตรงนี้ทำท่าทางไปด้วยเลยนะคะ
ยกนิ้วขึ้นมางอเล่นให้ดูเลยค่ะ แล้วเล่นกับเขา put it on you legs / nose / mouth
มีอีกหลายเพลงเล่นกับเขาได้เยอะมากๆ ให้เขาเรียนรู้และชินกับภาษา

ลืมบอกไป คุณแม่พูดไทย 100% คุณพ่อพูดไทย100000% ค่ะ
แต่แม่จะเลือก(พยายาม)พูดภาษาอังกฤษในตอนที่เราเล่นกัน
เพื่อละลายพฤติกรรม(ตัวเอง) 5555+
นาทีนี้เราจะไม่เคอะเขินอีกต่อไป
นึกอะไรได้ก็พูดไปสั้นๆ นึกไม่ได้/ไม่แน่ใจเก็บไว้ค่ะ ยังไม่พูด
แล้วมาเปิด google หาว่าเขาพูดว่ายังไง

นอกจากการร้องเพลงแล้วส่วนที่สำคัญในการช่วยเรื่องภาษามากๆๆๆๆ กอไก่ล้านตัว
ก็คือแฟลชการ์ดค่ะ หรือบัตรคำศัพท์นี่เอง
หลังจากน้องอายุ 6-7 เดือน
คุณแม่เริ่มศึกษา
ตอนแรกก็คิดว่าไม่มีอะไร แค่บัตรคำ แล้วมีภาพให้น้องเรียนรู้คำศัพท์
แต่เมื่อศึกษาจริงๆแล้วมันไม่ใช่แค่นั้นค่ะ

บัตรคำศัพท์ หรือที่เราเรียกว่าแฟลชการ์ด คือการสลับบัตรคำแบบรวดเร็ว
เร็วนะคะ เร็วแบบ แว๊บๆๆๆเลย
เพื่อกระตุ้นสมองซีกขวาของเด็กเล็ก
เด็กๆเล็กๆนี่แหล่ะค่ะ มีความสามารถจดจำได้ดีกว่าผู้ใหญ่มาก
ความสามารถที่จดจำทุกอย่างเป็นภาพ

ที่นี้คุณแม่เริ่มทำออกมาแล้ว แฟลชให้น้องดู
ครั้งแรกน้องนิ่งมากเลยค่ะ สนใจมากเพราะเป็นสิ่งใหม่
แต่ไม่ให้น้องคว้าบัตรคำศัพท์นะคะ
1.พังค่ะ 2.น้องเสียสมาธิต่อไปก็จ้องแต่จะคว้า

เราแฟลชไปเรื่อยๆ ทีนี้เริ่มรู้สึกว่าเค้าจำได้นะ
จึงเริ่มทดสอบ ก็คือได้ผลจริง
จากนั้นคุณแม่เริ่มแฟลชด้านคำศัพท์ให้น้องดูด้วย
(คำศัพท์อย่างเดียวเลยนะคะไม่มีภาพ)
ทำอย่างนี้ไปสัก 1-2 อาทิตย์ค่ะ
ลอง เขียนคำศัพท์ให้ดู 2-3 คำ แล้วให้น้องชี้ คือชี้ถูกด้วย
ตรงนี้คือหมายความว่าน้องมีพื้นฐานการอ่านแล้วนะคะ
เขาเริ่มอ่านหนังสือหัดอ่าน เช่น i read book เขาอ่านได้
หรือ flower is red คืออ่านได้เลย และเข้าใจด้วย
เพราะว่าเราแฟลชการ์ดให้เขา
เมื่อมาถึงจุดที่ลูกสาววัย 3 ขวบสามารถอ่านหนังสือ-นิทาน
หรือแม้แต่ป้ายบอกทางบนถนนได้แล้ว
ก็ไม่มีอะไรหยุดคุณแม่ได้อีกต่อไปค่ะ 55555+
เราเลยจุดคำว่าเป็นไปไม่ได้มาแล้ว เดินหน้าต่อไป

ย้อนกลับมาในระหว่างที่แฟลชการ์ดเราสอน letter sound ไปด้วยค่ะ
อย่าง a a ant (แอะ แอะ แอ๊น)
b b ball (เบอะ เบอะ บอล)
ทำให้น้องจำเสียงแต่ละอักษรได้ดี
และเราไม่ควรจะจำกัดแค่ a ต้อง=ant นะคะ
a สามารถขึ้นต้นคำได้หลายอย่างค่ะ arrow apple apron
พอเราสอนลูกแบบนี้แล้ว ทำให้เค้ามีคลังคำศัพท์มากขึ้น และสังเกตเสียงของอักษรได้ถูกต้องค่ะ
เราสามารถใช้แฟลชการ์ดตัวเดิมที่เราแฟลชเร็วๆๆๆ ให้เค้าจำรูปแบบคำศัพท์ได้นี่แหล่ะค่ะ
นำมาแฟลชแบบช้าได้ a a ant , m m mouse , h h horse

หลังจากนั้นเริมนำไปสู่การสอน phonics ตัวนี้ก็สอนด้วยบัตรคำศัพท์นี่แหล่ะค่ะ
และพ่วงด้วยการอ่าน + หนังสือ พัฒนาการการอ่าน-สะกด คือดีมากค่ะ
เพราะน้องเข้าใจเสียง และโครงสร้างของคำ ไม่ว่าคำใหม่คำไหนๆมาน้องก็จะอ่านได้
เหมือนกับภาษาไทย ที่เราสอนให้แจกลูกสระ ผสมคำ อย่างนั้นเลยค่ะ

มาถึงจุดนี้แล้ว รู้สึกว่าตัวเองคิดถูกมากๆที่แฟลชการ์ดให้ลูกเล่น
ผลจากการที่ลูกอ่านออกเขียนได้ ทำให้ทุกอย่างที่เขาทำนั้นไปไวมาก
เขาอยากร้องเพลง เราก็ปริ๊นเนื้อเพลงให้เค้าร้อง
เขาทำอะไรก็อ่านเอาเอง workbook ก็อ่านเองทำเองหมด
เป็นอะไรที่ไม่คิดว่า เด็กคนนึงจะทำได้ตั้งแต่อนุบาล
.
.
เป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านในการสอนภาษานะคะ
อย่าคิดว่าลูกเราไม่รู้
เขารู้และเก่งกว่าที่เราคิดเสมอค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่