การเรียนภาษาอังกฤษแบบ Phonics เป็นการเรียนเพิ่มเติมจากการเรียนภาษาอังกฤษทั่วไป เช่น English Conversation และ Reading/Writing
Phonics เหมาะกับช่วงวัยอนุบาลถึงประถมตอนต้นค่ะ เพราะเป็นการปูพื้นฐานการออกเสียงตัวอักษรภาษาอังกฤษ A-Z การเขียน (การลากเส้นและหมุนมือ) การผสมคำ และการอ่าน
แล้วมันปูพ็นฐานอย่างไร?
เบื้องต้น ครูผู้สอนจะเลือกกลุ่มเสียงที่จะสอนก่อน เข่น ทฤษฎี Jolly Phonics เขาจะเริ่มจากกลุ่มตัวอักษร S A T P I N ก่อน เนื่องจากเป็นตัวอักษรที่พบบ่อยในคำศัพท์
ครูจะเริ่มสอนเสียงก่อน เช่น S จะออกเสียง /s/ หรือ ssssss (ซือ.... เหมือนเสียงงู) A จะออกเสียง /a/ หรือ แอะ
หลังจากนั้น จะแสดงวิธีการเขียน หรือ หมุนมือเพื่อเขียนตัว S and A ทั้งพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก (หรือครูบางท่านอาจเน้นพิมพ์ใหญ่ก่อน)
ครูผู้สอนก็จะเลือกชุดคำศัพท์ที่มีตัวอักษรที่สอนขึ้นต้น เช่น S - snake, sun, snow หรือ A- ant, apple, alligator เวลาออกเสียง จะไม่ได้ ออก เอ แอปเปิล แต่จะออกเสียง แอะ แอปเปิล แทนค่ะ
พอน้องเริ่มคล่องเสียงต้นแล้ว ก็เริ่มลองผสมคำ แล้วก็สอนเสียงท้ายค่ะ เช่น s a t - sat, p a t - pat จะสอนแบบ p (เพอะ แอะ เทอะ - แพท) แยกเสียง และรวมเสียงให้น้องฟัง และฝึกตาม เป็นการปูพ็นฐานการผสมคำ อ่านและเขียนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ควรมีการสอนภาษาอังกฤษทั่วไปเสริมด้วยนะคะ อย่างน้องเล็ก ก็ควรมีการร้องเพลงภาษาอังกฤษ การอ่านนิทาน การสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษพ็นฐาน และการสอนการสนธนาพ็นฐานด้วย
ขอบคุณที่มา
https://www.facebook.com/pages/Teacher-Golf/538024609568741
มาทำความเข้าใจการเรียนภาษาอังกฤษแบบ Phonics กันดีกว่า
Phonics เหมาะกับช่วงวัยอนุบาลถึงประถมตอนต้นค่ะ เพราะเป็นการปูพื้นฐานการออกเสียงตัวอักษรภาษาอังกฤษ A-Z การเขียน (การลากเส้นและหมุนมือ) การผสมคำ และการอ่าน
แล้วมันปูพ็นฐานอย่างไร?
เบื้องต้น ครูผู้สอนจะเลือกกลุ่มเสียงที่จะสอนก่อน เข่น ทฤษฎี Jolly Phonics เขาจะเริ่มจากกลุ่มตัวอักษร S A T P I N ก่อน เนื่องจากเป็นตัวอักษรที่พบบ่อยในคำศัพท์
ครูจะเริ่มสอนเสียงก่อน เช่น S จะออกเสียง /s/ หรือ ssssss (ซือ.... เหมือนเสียงงู) A จะออกเสียง /a/ หรือ แอะ
หลังจากนั้น จะแสดงวิธีการเขียน หรือ หมุนมือเพื่อเขียนตัว S and A ทั้งพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก (หรือครูบางท่านอาจเน้นพิมพ์ใหญ่ก่อน)
ครูผู้สอนก็จะเลือกชุดคำศัพท์ที่มีตัวอักษรที่สอนขึ้นต้น เช่น S - snake, sun, snow หรือ A- ant, apple, alligator เวลาออกเสียง จะไม่ได้ ออก เอ แอปเปิล แต่จะออกเสียง แอะ แอปเปิล แทนค่ะ
พอน้องเริ่มคล่องเสียงต้นแล้ว ก็เริ่มลองผสมคำ แล้วก็สอนเสียงท้ายค่ะ เช่น s a t - sat, p a t - pat จะสอนแบบ p (เพอะ แอะ เทอะ - แพท) แยกเสียง และรวมเสียงให้น้องฟัง และฝึกตาม เป็นการปูพ็นฐานการผสมคำ อ่านและเขียนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ควรมีการสอนภาษาอังกฤษทั่วไปเสริมด้วยนะคะ อย่างน้องเล็ก ก็ควรมีการร้องเพลงภาษาอังกฤษ การอ่านนิทาน การสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษพ็นฐาน และการสอนการสนธนาพ็นฐานด้วย
ขอบคุณที่มา https://www.facebook.com/pages/Teacher-Golf/538024609568741