หลังจากชมวิวจนอิ่มที่ Riomaggiore ไปแล้ว (ตามอ่านกระทู้ได้ที่นี่ค่ะ https://ppantip.com/topic/37633375)

เราสองคนก็จับรถไฟไปต่อที่ Manarola ความรวดเร็วในการเดินทางอาจจะพอๆกับนั่งรถไฟฟ้าจากสยามไปสนามกีฬา(อาจจะเว่อไปหน่อย แต่คือเร็วมากจนทำอะไรแทบไม่ทัน) ลงจากรถไฟก็แอบเห็นป้ายเส้นทาง Via del amore ที่เล่าไปแล้วในตอนก่อนหน้าว่าตอนนี้ปิดให้บริการ แต่เราสามารถเดินขึ้นไปดูได้ระยะหนึ่ง ก่อนที่มีประตูกั้นล็อคกุญแจเอาไว้ไม่ให้ไปต่อ

จากมุมด้านบนนี้เราจะมองเห็นสถานีรถไฟมุมสูงขึ้นมาอีกหน่อย ตามข้างทางมีกุญแจสายใยรักของใครบางคู่มาคล้องเอาไว้ เฉกเดียวกับสะพานข้ามแม่น้ำเซน(Seine)ที่ปารีสและอีกหลายมุมทั่วโลก

เราเดินย้อนกลับมาทางเดิมเพื่อเข้าไปในตัวหมู่บ้าน Manarola ถ้าเดินจากสถานีรถไฟไปรับรองไม่หลงเพราะมีทางบังคับเส้นทางเดียวเท่านั้นจะทะลุถึงทะเลเลย แต่ระวังนิด เพราะระหว่างทางจะเจอร้านรวงขายของที่ระลึกล่อตาอยู่มากมาย ใครยั้งใจได้ก็จะถึงจุดหมายเร็วหน่อย หากยั้งไม่อยู่ก็อาจได้ของติดไม่ติดมือกลับบ้านไปอีกหลายไอเท็ม















เราสองคนไม่มีของที่อยากได้ แต่ตั้งใจกันว่าจะไปหาไอศกรีมอร่อยๆกินรอเวลา เพราะเราจะอยู่รอดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ ก่อนกลับไปทานอาหารค่ำที่ Levanto ซึ่งเป็นที่พักของเรา

Manarola มีร้านไอศกรีมให้เลือกหลายร้าน ความจริงเลือกร้านไหนก็ได้ เพราะจากที่ทดลองกินมาแล้วหลายที่หลายเมืองก็พบว่า เจลาโต้ของอิตาลีค่อนข้างเชื่อถือได้ในเรื่องรสชาติ ไม่ผิดหวังแน่ๆ ดังนั้นเลยไม่เสียเวลาเลือกร้านไอศกรีมได้เรียบร้อย ก็นั่งพักกันซักครู่ค่ะ


พอไอศกรีมหมดแท่ง เราก็ออกเดินไปยังหน้าอ่าวทันที
Manarola นี่เป็นหนึ่งในหมู่บ้านยอดนิยมของ Cinque Terre สำหรับดูพระอาทิตย์ตก เราเห็นนักท่องเที่ยวอ้อยอิ่งรอเวลาพรtอาทิตย์ตกอยู่มากทีเดียว ด้านหน้าอ่าวมีที่ให้นั่งพักกินบรรยากาศ แต่ถ้าอยากตรงดิ่งไปจุดชมพระอาทิตย์ตก ก็ให้เดินไปทางขวามือซึ่งจะมีทางเดินขึ้นไปสวนสาธารณะเล็กๆด้านบน











มีนักท่องเที่ยวรออยู่ก่อนแล้วพอสมควร บ้างก็จัดแจงเตรียมกล้องและขาตั้งกล้องเพื่อถ่ายภาพ บ้างก็นั่งรอเฉยๆ ส่วนเราสองคนนั้นหลังจากสำรวจพื้นที่โดยทั่วแล้ว ก็ตัดสินใจปักหลักรอ ระหว่างนี้ก็เล่นเกมส์ไปพลางๆ

พระอาทิตย์เริ่มหล่นลงทะเลอย่างช้าๆ แสงสีส้มเริ่มส่งประกายชัดขึ้นและชัดขึ้น เสียงชัตเตอร์ลั่นรัวๆจากหลายมุม แน่นอนต่างคนต่างอยากได้ภาพที่สวยงามกลับไปเป็นความทรงจำ

พอพระอาทิตย์ตกไปแค่ไม่ถึง 5 นาที นักท่องเที่ยวก็เริ่มบางตา แต่เพราะเราสองคนไม่ได้รีบร้อนมาก หลังจากถ่ายรูปจนพอใจแล้ว ก็ยังนั่งเล่นต่อจนฟ้าเริ่มมืดลง และช่วงนี้เองที่หมู่บ้านเริ่มมีแสงไฟ เลยได้เห็นภาพสวยไปอีกแบบ
























ภาพที่เราถ่ายได้อาจไม่ดีนักเนื่องจากส่วนใหญ่ถ่ายจากมือถือ แต่ความสวยที่สัมผัสได้ด้วยตานั้นยืนยันได้ว่า

"Manarola เป็นหมู่บ้านที่ไม่ควรแค่ผ่านมาแล้วผ่านไป"

ถ้าใครมีเวลาเยอะหน่อย แนะนำให้เอาหนังสือมานั่งอ่านที่สวนสาธารณะด้านบนนี้ จะได้มองวิวหมู่บ้านและอ่าวเล็กๆเพลินไปเลยค่ะ