"เพื่อมวลชน"
เห็นเพลงนี้ เห็นรูปพิราบขาว อย่างแรกเลยทำให้นึกถึงเพื่อนเสื้อเหลืองคนดังในอดีต Stand with a fist
ที่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Virtue mode
ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเคยใช้รูปพิราบขาวเป็นรูปโปรไฟล์ เราเคยแลกเปลี่ยนกันถึงเพลงๆนี้
มีอุดมการณ์แรงกล้าเฉกเช่นเดียวกัน ต่างกันก็เพียงเรายืนอยู่คนละจุด
มาร์คพูดอะไรเราก็รู้สึกเหม็น ในขณะที่นางนั้น ต่อให้มาร์คผายลมก็ยังหอม
แต่เราก็ไม่เคยเป็นศัตรูกันเพียงเพราะยืนคนละฝั่ง
หวนนึกถึงเนื้อเพลงและท่วงทำนองเพลงนี้ หากเอาใจอินไปกับเพลงแล้ว
มันทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตเรานั้นมีความหมาย
การที่เราได้กิน ได้เที่ยว ได้ใช้ชีวิตสบายๆ และตายอย่างสงบบนเตียงยามชรา
มองในอีกแง่มุมเหมือนเรานี้ช่างเห็นแก่ตัว
แต่แบบไหนจึงเป็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ แบบไหนเป็นการเสียสละอย่างโง่ๆ
40 ปีที่แล้ว คนจำนวนมากจับปืนเข้าป่า ต่อสู้กับเผด็จการ ต่อสู้กับรัฐบาล
ต่างฝ่ายต่างล้มตาย ต่างฝ่ายต่างลำบาก นอนกลางดินกินกลางทราย
ใครที่เกิดทันคงรู้สึกหดหู่ เสียใจ บางครั้งก็อยากจับปืนออกไปต่อสู้ด้วย
เมื่อได้เห็นการถ่ายทอดทางทีวีกับพิธีพระราชทานเพลิงศพ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ต้องทรงพระราชทานให้กับทหารหาญทุกปี
ปีละนับพันนาย
แต่ผ่านมาอีกหลายสิบปีให้หลัง เมื่อมาย้อนคิดดู คนที่ตายไม่ใช่ผู้นำของแต่ละฝ่ายเลย
ล้วนแล้วแต่เป็นประชาชน จะทหารหรือคอมมิวนิสต์ก็เป็นลูกหลานประชาชนคนธรรมดา
คนเหล่านี้ตายแล้วได้อะไร ตายเพื่ออะไร
วีรชน 14 ตุลา ใช่วีรชนจริงหรือ
คนที่ตายเมื่อตอนพฤษภาทมิฬ ตายเพื่ออะไร
เสื้อเหลืองพันธมิตร กปปส นปช คนเหล่านี้ตายไปแล้วกี่คน เพื่ออะไร
เป็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ หรือเป็นการเสียสละอย่างโง่ๆ มันแค่มีเส้นกั้นบางๆเอง
14 ตุลา 16 ตายเพื่อขับไล่เผด็จการ เรียกร้องประชาธิปไตย
6 ตุลา 19 ตายกันอีกที แล้วได้มาซึ่งคณะปฎิรูปการปกครองแผ่นดิน
จากนั้นมาได้ประชาธิปไตยกันอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจเมื่อสมัยพลเอกเปรมเป็นนายกรัฐมนตรี
เพราะเรียกกันว่าเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ
แต่พอมีประชาธิปไตยเต็มใบได้ไม่นาน ก็เกิดวลีบุฟเฟ่คาบิเนต จบลงด้วยการมาของคณะ รสช.
เป็นที่มาของการตายของประชาชนกันอีกครั้ง ที่เรียกว่า
พฤษภาทมิฬ เพื่ออะไรครับ?
เพื่อ"ประชาธิปไตย" ที่มีนายกมาจากการเลือกตั้ง
แล้วก็อย่างที่เห็นกัน สุดท้ายมันก็วนลูปกันอีก ทักษิณ รัฐประหาร อภิสิทธิ์ ยิ่งลักษณ์ รัฐประหาร
สรุปคืออะไร
คนที่เคยเข้าป่า คนเดือนตุลา ถึงตอนนี้มีกี่คนที่มีอุดมการณ์จริงๆ
บ้างก็เป็นนักการเมือง บ้างก็เป็นนักวิจารณ์ไปวันๆ และบ้างก็กลายไปเป็นนายทุนที่ตนเองเคยต่อต้าน
ผมคนหนึ่งที่ไม่เคยต่อต้านการรัฐประหาร ไม่เคยเกลียดเผด็จการ
แมวสีอะไรก็ได้ถ้าจับหนูได้ ระบอบอะไรก็ได้ ถ้าทำให้ประเทศชาติเจริญ ประชาชนอยู่ดีกินดี
เพียงแต่..... ในอดีตที่ผ่านมา กระทั่งปัจจุบัน มันไม่เคยมีเช่นนั้น
ระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ระบอบที่ดีที่สุดในโลก แต่ก็เป็นระบอบที่ค่อนข้างได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก
ขอเพียงกำหนดกรอบกติตาให้ชัดเจน ให้เป็นสากล และทุกคนยอมรับในกติกานั้น
ไม่ใช่ว่าพอถูกใจฉันก็เอา พอคิดว่าฉันเสียเปรียบก็พาล แล้วก็ฉีกเขียนใหม่
ถ้าเปลี่ยนน้ำหลายครั้งแล้ว ปลาก็ยังไม่พอใจ บางทีอาจต้องเปลี่ยนปลาแทน
แต่ประเทศเรา เปลี่ยนรัฐธรรมนูญมาหลายสิบฉบับแล้ว แต่เราเปลี่ยนคนไทยไม่ได้ ไล่คนไทยออกนอกประเทศไทยไม่ได้
ไปเอาคนญี่ปุ่น คนอังกฤษมาอยู่แทนคนไทยไม่ได้
เราไปเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ ก็เริ่มเปลี่ยนที่ตัวเราเองก่อน
อย่าเอาแต่ความถูกใจ ละเลยความถูกต้อง
ไม่ต้องเถรตรงขนาดเปาบุ้นจิ้น แต่ก็อย่าเหลาะแหละเหมือนไม้ปักขี้เลน
ตำรวจทหารนับพันเข้าล้อมวัดเพื่อจับพระรูปเดียว เราร้องเชียร์เฮฮา
แต่พอตำรวจสิบกว่าคนเข้าจับพระที่เราเคารพรูปเดียว ออกมาเรียกร้องกันระงมว่าทำเกินไป
เลือกตั้งจะมีหรือไม่ จะมีเมื่อไหร่ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามครรลองไปก่อน
ต่อให้ไม่มีก็ลองอยู่แบบนี้กันไปอีกสักหลายปี ให้รู้กันไปอีกครั้ง
ถ้าทั้งสองฝั่งยังวุ่นวายกันอีกไม่รู้จบ
เมื่อก่อนเราฟังเพลงเพื่อชีวิต เพื่อมวลชน
วันนี้เราฟังเพลงเราจะทำตามสัญญา
วันหน้าเราจะย้อนไปฟังเพลงอะไรกันอีก
จะวนลูปกันไปให้ครบร้อยปี ในปี 2575 เลยมั้ย!!
***** ขอบคุณห้องเพลงและคุณ cnck ที่ทำให้ได้ระลึกถึงเพลงนี้อีกครั้ง *****.../ภูเขาทะเล
เห็นเพลงนี้ เห็นรูปพิราบขาว อย่างแรกเลยทำให้นึกถึงเพื่อนเสื้อเหลืองคนดังในอดีต Stand with a fist
ที่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Virtue mode
ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเคยใช้รูปพิราบขาวเป็นรูปโปรไฟล์ เราเคยแลกเปลี่ยนกันถึงเพลงๆนี้
มีอุดมการณ์แรงกล้าเฉกเช่นเดียวกัน ต่างกันก็เพียงเรายืนอยู่คนละจุด
มาร์คพูดอะไรเราก็รู้สึกเหม็น ในขณะที่นางนั้น ต่อให้มาร์คผายลมก็ยังหอม
แต่เราก็ไม่เคยเป็นศัตรูกันเพียงเพราะยืนคนละฝั่ง
หวนนึกถึงเนื้อเพลงและท่วงทำนองเพลงนี้ หากเอาใจอินไปกับเพลงแล้ว
มันทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตเรานั้นมีความหมาย
การที่เราได้กิน ได้เที่ยว ได้ใช้ชีวิตสบายๆ และตายอย่างสงบบนเตียงยามชรา
มองในอีกแง่มุมเหมือนเรานี้ช่างเห็นแก่ตัว
แต่แบบไหนจึงเป็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ แบบไหนเป็นการเสียสละอย่างโง่ๆ
40 ปีที่แล้ว คนจำนวนมากจับปืนเข้าป่า ต่อสู้กับเผด็จการ ต่อสู้กับรัฐบาล
ต่างฝ่ายต่างล้มตาย ต่างฝ่ายต่างลำบาก นอนกลางดินกินกลางทราย
ใครที่เกิดทันคงรู้สึกหดหู่ เสียใจ บางครั้งก็อยากจับปืนออกไปต่อสู้ด้วย
เมื่อได้เห็นการถ่ายทอดทางทีวีกับพิธีพระราชทานเพลิงศพ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ต้องทรงพระราชทานให้กับทหารหาญทุกปี
ปีละนับพันนาย
แต่ผ่านมาอีกหลายสิบปีให้หลัง เมื่อมาย้อนคิดดู คนที่ตายไม่ใช่ผู้นำของแต่ละฝ่ายเลย
ล้วนแล้วแต่เป็นประชาชน จะทหารหรือคอมมิวนิสต์ก็เป็นลูกหลานประชาชนคนธรรมดา
คนเหล่านี้ตายแล้วได้อะไร ตายเพื่ออะไร
วีรชน 14 ตุลา ใช่วีรชนจริงหรือ
คนที่ตายเมื่อตอนพฤษภาทมิฬ ตายเพื่ออะไร
เสื้อเหลืองพันธมิตร กปปส นปช คนเหล่านี้ตายไปแล้วกี่คน เพื่ออะไร
เป็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ หรือเป็นการเสียสละอย่างโง่ๆ มันแค่มีเส้นกั้นบางๆเอง
14 ตุลา 16 ตายเพื่อขับไล่เผด็จการ เรียกร้องประชาธิปไตย
6 ตุลา 19 ตายกันอีกที แล้วได้มาซึ่งคณะปฎิรูปการปกครองแผ่นดิน
จากนั้นมาได้ประชาธิปไตยกันอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจเมื่อสมัยพลเอกเปรมเป็นนายกรัฐมนตรี
เพราะเรียกกันว่าเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ
แต่พอมีประชาธิปไตยเต็มใบได้ไม่นาน ก็เกิดวลีบุฟเฟ่คาบิเนต จบลงด้วยการมาของคณะ รสช.
เป็นที่มาของการตายของประชาชนกันอีกครั้ง ที่เรียกว่า พฤษภาทมิฬ เพื่ออะไรครับ?
เพื่อ"ประชาธิปไตย" ที่มีนายกมาจากการเลือกตั้ง
แล้วก็อย่างที่เห็นกัน สุดท้ายมันก็วนลูปกันอีก ทักษิณ รัฐประหาร อภิสิทธิ์ ยิ่งลักษณ์ รัฐประหาร
สรุปคืออะไร
คนที่เคยเข้าป่า คนเดือนตุลา ถึงตอนนี้มีกี่คนที่มีอุดมการณ์จริงๆ
บ้างก็เป็นนักการเมือง บ้างก็เป็นนักวิจารณ์ไปวันๆ และบ้างก็กลายไปเป็นนายทุนที่ตนเองเคยต่อต้าน
ผมคนหนึ่งที่ไม่เคยต่อต้านการรัฐประหาร ไม่เคยเกลียดเผด็จการ
แมวสีอะไรก็ได้ถ้าจับหนูได้ ระบอบอะไรก็ได้ ถ้าทำให้ประเทศชาติเจริญ ประชาชนอยู่ดีกินดี
เพียงแต่..... ในอดีตที่ผ่านมา กระทั่งปัจจุบัน มันไม่เคยมีเช่นนั้น
ระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ระบอบที่ดีที่สุดในโลก แต่ก็เป็นระบอบที่ค่อนข้างได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก
ขอเพียงกำหนดกรอบกติตาให้ชัดเจน ให้เป็นสากล และทุกคนยอมรับในกติกานั้น
ไม่ใช่ว่าพอถูกใจฉันก็เอา พอคิดว่าฉันเสียเปรียบก็พาล แล้วก็ฉีกเขียนใหม่
ถ้าเปลี่ยนน้ำหลายครั้งแล้ว ปลาก็ยังไม่พอใจ บางทีอาจต้องเปลี่ยนปลาแทน
แต่ประเทศเรา เปลี่ยนรัฐธรรมนูญมาหลายสิบฉบับแล้ว แต่เราเปลี่ยนคนไทยไม่ได้ ไล่คนไทยออกนอกประเทศไทยไม่ได้
ไปเอาคนญี่ปุ่น คนอังกฤษมาอยู่แทนคนไทยไม่ได้
เราไปเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ ก็เริ่มเปลี่ยนที่ตัวเราเองก่อน
อย่าเอาแต่ความถูกใจ ละเลยความถูกต้อง
ไม่ต้องเถรตรงขนาดเปาบุ้นจิ้น แต่ก็อย่าเหลาะแหละเหมือนไม้ปักขี้เลน
ตำรวจทหารนับพันเข้าล้อมวัดเพื่อจับพระรูปเดียว เราร้องเชียร์เฮฮา
แต่พอตำรวจสิบกว่าคนเข้าจับพระที่เราเคารพรูปเดียว ออกมาเรียกร้องกันระงมว่าทำเกินไป
เลือกตั้งจะมีหรือไม่ จะมีเมื่อไหร่ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามครรลองไปก่อน
ต่อให้ไม่มีก็ลองอยู่แบบนี้กันไปอีกสักหลายปี ให้รู้กันไปอีกครั้ง
ถ้าทั้งสองฝั่งยังวุ่นวายกันอีกไม่รู้จบ
เมื่อก่อนเราฟังเพลงเพื่อชีวิต เพื่อมวลชน
วันนี้เราฟังเพลงเราจะทำตามสัญญา
วันหน้าเราจะย้อนไปฟังเพลงอะไรกันอีก
จะวนลูปกันไปให้ครบร้อยปี ในปี 2575 เลยมั้ย!!