มาถึงถุงมือนักเขียนบ้าง...ทิ้งทวนเดือนพฤษภาคมกันสองกระทู้ครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก
เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องของคนที่เพิ่งเรียนจบ ทำงานแล้วก็เกิดข้องใจระหว่างเรื่องกีฬากับการทำงาน แล้วเลยสงสัยว่า กีฬา มันใช่ความสามัคคีจริงหรือ ?
ลองอ่านกันดูครับ อ่านจบ ตัดเกรดตามอัธยาศัย แล้วล็อกเป้าคนเขียนดูครับ.....
ณภัทสร ชื่อเล่น น้องจุ่น เป็นสาวน้อยนักศึกษาจบใหม่ และได้งานทำบริษัทขายเครื่องจักรประเภทนึงกับบริษัท ญี่ปุ่น ในตำแหน่ง จนท ธุรการ
น้องจุ่น เข้ามาด้วยบุคลิกดี มีเกรดปานกลาง แต่เล่นกีฬาเก่ง โดยเฉพาะกีฬาประเภททีม เช่น วอลเลย์บอล และ บาสเก็ตบอลหญิง เธอได้เป็นหัวหน้าทีมและเป็นตัวเด่นเลยทีเดียว และมักได้ร่วมกิจกรรมกีฬาของบริษัทอยู่เสมอ อยู่ทีมสีไหนชนะทุกครั้ง
วันหนึ่ง เลขากรรมการ ผจก เดินเข้ามาหา แล้วบอกว่า
จุ่น พี่มีงานให้ช่วย พี่ขออนุญาตหัวหน้าจุ่นแล้ว มา ตามพี่มา ซึ่ง น้องจุ่นไม่มีทางเลือก และยินดีเดินตามไป และงานที่ จุ่น ได้รับก็คือการไปร่วมกิจกรรม ตีกอล์ฟ กับลูกค้า โดยน้องจุ่นไม่ต้องตี เพราะตีไม่เป็น แค่แต่งตัวเรียบร้อย ใส่กางเกงขายาวสีขาว ใส่เสื้อทีเชิร์ตบริษัท มิดชิด ใส่หมวกไปยืนช่วยถือรางวัลก็พอ นั่นคือ หน้าที่ น้องจุ่น ในภารกิจใหม่
และเมื่อวันงานมาถึง น้องจุ่นก็เดินตามเลขาไปในสนามกอล์ฟ ซึ่งช่วงแรก ก็มีการแข่งขันกัน และ น้องจุ่นไม่รู้เลยว่า หลุมไหน ตียังไง แต่เมื่อเวลาเดินตามก๊วน น้องจุ่นก็ได้ยินการสนทนา เรื่องงานระหว่างผู้บริหารเป็นระยะ ในทำนองว่า ลูกค้าอยากได้อยากซื้อ ซึ่งทางกรรมการบริษัทก็ยินดี ช่วยเหลือ เพราะว่า เป็นคนรู้จักกัน ระดับเจ้าของด้วยกันทั้งคู่
ช่วงเวลาทานกลางวัน น้องจุ่นได้ยินการสนทนาบนโต๊ะอาหาร ลูกค้าบอกว่า
กลุ้มใจมาก มีปัญหา แต่หาคนไว้ใจได้มาช่วยแก้ไม่ได้เลย รบกวนพี่ด้วยนะครับ ซึ่งกรรมการผู้จัดการของน้องจุ่นก็ตบปากรับคำ พร้อม ทิ้งประโยคว่า
ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมจัดการให้ และ เมื่อจบวัน น้องจุ่นก็กลับบ้าน
เมื่อถึงบ้าน ก็เล่าเรื่องให้ พ่อแม่ กับ พี่ชายฟัง ตามประสาครอบครัวอยู่ด้วยกัน ยังไม่แยกย้าย คุณพ่อฟังแล้วยิ้มๆ แล้วบอกว่าดีลูก คุณแม่ก็บอกว่า ไปคราวหน้า ทาครีมกันแดดเยอะๆนะ เดี๋ยวตัวดำ น้องจุ่น กอดแม่ บอกว่า ทาแล้วจ้าแม่
พี่ชาย นักกีฬาอีกคน ทำงานบริษัท ทางยุโรป มีประเด็น พูดขึ้นมาว่า
อืมม์ นี่ละธุรกิจ เขาไม่คุยกันบริษัทหรอก เขาต้องไปคุยกันนอกสถานที่ จะได้ตกลงผลประโยชน์กันได้ แบบนี้ทุกที
น้องจุ่นทำหน้างง แล้วถามว่า
จริงเหรอพี่ มันไม่มีเลยเหรอ ธุรกิจที่แฟร์ๆน่ะ เหมือนเล่นกีฬา ยังมีกติกาแฟร์ๆเลยพี่ กีฬาเล
พี่ชายตอบด้วยคำถามว่า
รู้ไหมว่า กีฬา ก็มีส่วนทำให้คนเราเป็นแบบนี้
น้องจุ่น ทำหน้าครุ่นคิด แล้วตอบแบบซื่อๆว่า
ไม่อ่ะ กีฬาดี เล่นด้วยกัน เป็นเพื่อนกันนะ
พี่ชายสรุปให้น้องฟัง ส่วนพ่อแม่ไม่ยุ่งด้วย แค่ดูทีวี และ หูฟังลูกชายพูดว่า
กีฬา คือการแข่งขัน มันเริ่มตั้งแต่ แบ่งทีมกันแล้ว และ วัตถุประสงค์ก็คือ ชนะ หรือไม่แพ้ แม้แต่เด็กอนุบาล ยังไม่อยากแพ้เลย ความสามัคคีที่ว่ากีฬามีให้นั้น ก็คือการประสานผลประโยชน์ร่วมกันของทีม ไม่ใช่ความรักใคร่กลมเกลียวไปเสียหมด อาจจะมีบ้าง สองสามคนที่รักกันจริง ( ในวัยเด็กเท่านั้น ) แต่ถ้าเป็นกีฬาอาชีพ หรือระดับโตแล้ว หายาก
ในทีมกีฬานั้น สมมติว่าเป็นบาสที่น้องจุ่นเล่น มันก็ต้องมีคนเล่นเข้าขากัน ถูกคอกัน พอเปลี่ยนคน ก็เล่นกันไม่ได้ดีเท่า เราก็เริ่มอยากได้คนที่เล่นด้วยกันได้ดีว่าไม๊ นั่นก็เริ่มแบ่งแยกแล้วตั้งแต่ในทีมเดียวกัน ไม่ต้องไปนับทีมตรงข้าม ว่าจะสามัคคีกันได้ไหม ก็อาจจะได้นะ แต่มันก็ต้องมีอย่างอื่นเชื่อมโยงอีก เช่น เคยเรียนด้วยกัน บ้านใกล้กัน หรือทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่งั้นคนละทีมก็ไม่สนใจกันหรอก
ธุรกิจก็เหมือนกัน คนซื้อ คนขาย ชอบทำธุรกิจกับคนรู้จัก เพราะเคยเห็นฝีมือ ไว้ใจกัน เชื่อมือกัน เรียกว่า มีอดีตร่วมกัน ที่ดี จึงร่วมเป็นพวกเดียวกัน มันดีกว่าไปซื้อกับคนไม่รู้จัก จะฝีมือไม่ดี หรือ มีปัญหาเยอะ ก็ไม่รู้
มาถึงตรงนี้น้องจุ่นถามว่า
เลือกพวกแบบนี้ มี คอรัปชั่น ใช่ไหมพี่
พี่ชายยิ้มๆ และบอกว่า
ไม่รู้ บางทีการเลือกพรรคพวกให้เข้ามาทำงานของตัวเอง ไม่ได้หมายถึงแต่เงิน ( นั่นต่างหาก ) แต่หมายถึง ก็ถ้ามีคนไว้ใจได้ฝีมือดีแล้ว จะไปจ้างเสี่ยงกับคนอื่นทำไม ว่าไม๊ ลองนึกดู กีฬา กับ ธุรกิจ มันต่างกันตรงไหน
เพียงแค่แปรคำว่าชนะด้วยกัน มาเป็นผลประโยชน์ร่วมกันเท่านั้นเอง น้อง
น้องจุ่นฟังไปยังไม่ชัดเจน แต่ก็เข้าใจแล้วว่าพี่ชาย ชี้ให้เห็นถึงอะไร และ อาจเป็นสิ่งนึงที่น้องจุ่น ต้องรู้ก่อนจะก้าวต่อไปในหนทางอาชีพที่เธอทำอยู่
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. B-thirteen
2. Christian Trevelyan Grey
3. Chee River
4. GTW
5. kasareev
6. KTHc
7. ladylongleg
8. Lady Star 919
9. Luckard
10. Na(นะ)
11. peiNing
12. psycho_factory
13. Soul Master
14. Susisiri
15. Tantava
16. TOSHARE
17. turtle_cheesecake
18. WANG JIE
19. คีตมินทร์
20. จอมยุทธนักสืบ
21. ชายขอบคันนายาว
22. นลินมณี
23. ศรเขียว
24. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
25. รัชต์สารินท์
26. สวนดอก
27. อิสิ
28. น้องโจอี้ (สมาชิกหมายเลข 817884)
29. พวงดารา
30. มัศยวีร์
***
รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือเอาออกได้ ตลอดเวลา ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 31 พฤษภาคม 2561 (ภาพปริศนาจะวาง วันที่ 30 ครับ) ***
สโลแกนของเราคือ "เขียนเมื่ออยากเขียน แต่งเมื่ออยากแต่ง เล่นซ่อนหากันเมื่ออยากเล่น"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ และสรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะเข้ารอบรายการ THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปี ครับผม
🤘🏽💞🤘🏽 THE WEEKLY GLOVES วีคที่ 22 เรื่องสั้น#44 "กีฬาใช่สามัคคีหรือ" โดย ถุงมือ "นกกระสาริมบึง" 🤘🏽💞🤘🏽
มาถึงถุงมือนักเขียนบ้าง...ทิ้งทวนเดือนพฤษภาคมกันสองกระทู้ครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก
เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องของคนที่เพิ่งเรียนจบ ทำงานแล้วก็เกิดข้องใจระหว่างเรื่องกีฬากับการทำงาน แล้วเลยสงสัยว่า กีฬา มันใช่ความสามัคคีจริงหรือ ?
ลองอ่านกันดูครับ อ่านจบ ตัดเกรดตามอัธยาศัย แล้วล็อกเป้าคนเขียนดูครับ.....
ณภัทสร ชื่อเล่น น้องจุ่น เป็นสาวน้อยนักศึกษาจบใหม่ และได้งานทำบริษัทขายเครื่องจักรประเภทนึงกับบริษัท ญี่ปุ่น ในตำแหน่ง จนท ธุรการ
น้องจุ่น เข้ามาด้วยบุคลิกดี มีเกรดปานกลาง แต่เล่นกีฬาเก่ง โดยเฉพาะกีฬาประเภททีม เช่น วอลเลย์บอล และ บาสเก็ตบอลหญิง เธอได้เป็นหัวหน้าทีมและเป็นตัวเด่นเลยทีเดียว และมักได้ร่วมกิจกรรมกีฬาของบริษัทอยู่เสมอ อยู่ทีมสีไหนชนะทุกครั้ง
วันหนึ่ง เลขากรรมการ ผจก เดินเข้ามาหา แล้วบอกว่า จุ่น พี่มีงานให้ช่วย พี่ขออนุญาตหัวหน้าจุ่นแล้ว มา ตามพี่มา ซึ่ง น้องจุ่นไม่มีทางเลือก และยินดีเดินตามไป และงานที่ จุ่น ได้รับก็คือการไปร่วมกิจกรรม ตีกอล์ฟ กับลูกค้า โดยน้องจุ่นไม่ต้องตี เพราะตีไม่เป็น แค่แต่งตัวเรียบร้อย ใส่กางเกงขายาวสีขาว ใส่เสื้อทีเชิร์ตบริษัท มิดชิด ใส่หมวกไปยืนช่วยถือรางวัลก็พอ นั่นคือ หน้าที่ น้องจุ่น ในภารกิจใหม่
และเมื่อวันงานมาถึง น้องจุ่นก็เดินตามเลขาไปในสนามกอล์ฟ ซึ่งช่วงแรก ก็มีการแข่งขันกัน และ น้องจุ่นไม่รู้เลยว่า หลุมไหน ตียังไง แต่เมื่อเวลาเดินตามก๊วน น้องจุ่นก็ได้ยินการสนทนา เรื่องงานระหว่างผู้บริหารเป็นระยะ ในทำนองว่า ลูกค้าอยากได้อยากซื้อ ซึ่งทางกรรมการบริษัทก็ยินดี ช่วยเหลือ เพราะว่า เป็นคนรู้จักกัน ระดับเจ้าของด้วยกันทั้งคู่
ช่วงเวลาทานกลางวัน น้องจุ่นได้ยินการสนทนาบนโต๊ะอาหาร ลูกค้าบอกว่า กลุ้มใจมาก มีปัญหา แต่หาคนไว้ใจได้มาช่วยแก้ไม่ได้เลย รบกวนพี่ด้วยนะครับ ซึ่งกรรมการผู้จัดการของน้องจุ่นก็ตบปากรับคำ พร้อม ทิ้งประโยคว่า ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมจัดการให้ และ เมื่อจบวัน น้องจุ่นก็กลับบ้าน
เมื่อถึงบ้าน ก็เล่าเรื่องให้ พ่อแม่ กับ พี่ชายฟัง ตามประสาครอบครัวอยู่ด้วยกัน ยังไม่แยกย้าย คุณพ่อฟังแล้วยิ้มๆ แล้วบอกว่าดีลูก คุณแม่ก็บอกว่า ไปคราวหน้า ทาครีมกันแดดเยอะๆนะ เดี๋ยวตัวดำ น้องจุ่น กอดแม่ บอกว่า ทาแล้วจ้าแม่
พี่ชาย นักกีฬาอีกคน ทำงานบริษัท ทางยุโรป มีประเด็น พูดขึ้นมาว่า อืมม์ นี่ละธุรกิจ เขาไม่คุยกันบริษัทหรอก เขาต้องไปคุยกันนอกสถานที่ จะได้ตกลงผลประโยชน์กันได้ แบบนี้ทุกที
น้องจุ่นทำหน้างง แล้วถามว่า จริงเหรอพี่ มันไม่มีเลยเหรอ ธุรกิจที่แฟร์ๆน่ะ เหมือนเล่นกีฬา ยังมีกติกาแฟร์ๆเลยพี่ กีฬาเล
พี่ชายตอบด้วยคำถามว่า รู้ไหมว่า กีฬา ก็มีส่วนทำให้คนเราเป็นแบบนี้
น้องจุ่น ทำหน้าครุ่นคิด แล้วตอบแบบซื่อๆว่า ไม่อ่ะ กีฬาดี เล่นด้วยกัน เป็นเพื่อนกันนะ
พี่ชายสรุปให้น้องฟัง ส่วนพ่อแม่ไม่ยุ่งด้วย แค่ดูทีวี และ หูฟังลูกชายพูดว่า กีฬา คือการแข่งขัน มันเริ่มตั้งแต่ แบ่งทีมกันแล้ว และ วัตถุประสงค์ก็คือ ชนะ หรือไม่แพ้ แม้แต่เด็กอนุบาล ยังไม่อยากแพ้เลย ความสามัคคีที่ว่ากีฬามีให้นั้น ก็คือการประสานผลประโยชน์ร่วมกันของทีม ไม่ใช่ความรักใคร่กลมเกลียวไปเสียหมด อาจจะมีบ้าง สองสามคนที่รักกันจริง ( ในวัยเด็กเท่านั้น ) แต่ถ้าเป็นกีฬาอาชีพ หรือระดับโตแล้ว หายาก
ในทีมกีฬานั้น สมมติว่าเป็นบาสที่น้องจุ่นเล่น มันก็ต้องมีคนเล่นเข้าขากัน ถูกคอกัน พอเปลี่ยนคน ก็เล่นกันไม่ได้ดีเท่า เราก็เริ่มอยากได้คนที่เล่นด้วยกันได้ดีว่าไม๊ นั่นก็เริ่มแบ่งแยกแล้วตั้งแต่ในทีมเดียวกัน ไม่ต้องไปนับทีมตรงข้าม ว่าจะสามัคคีกันได้ไหม ก็อาจจะได้นะ แต่มันก็ต้องมีอย่างอื่นเชื่อมโยงอีก เช่น เคยเรียนด้วยกัน บ้านใกล้กัน หรือทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่งั้นคนละทีมก็ไม่สนใจกันหรอก
ธุรกิจก็เหมือนกัน คนซื้อ คนขาย ชอบทำธุรกิจกับคนรู้จัก เพราะเคยเห็นฝีมือ ไว้ใจกัน เชื่อมือกัน เรียกว่า มีอดีตร่วมกัน ที่ดี จึงร่วมเป็นพวกเดียวกัน มันดีกว่าไปซื้อกับคนไม่รู้จัก จะฝีมือไม่ดี หรือ มีปัญหาเยอะ ก็ไม่รู้
มาถึงตรงนี้น้องจุ่นถามว่า เลือกพวกแบบนี้ มี คอรัปชั่น ใช่ไหมพี่
พี่ชายยิ้มๆ และบอกว่า ไม่รู้ บางทีการเลือกพรรคพวกให้เข้ามาทำงานของตัวเอง ไม่ได้หมายถึงแต่เงิน ( นั่นต่างหาก ) แต่หมายถึง ก็ถ้ามีคนไว้ใจได้ฝีมือดีแล้ว จะไปจ้างเสี่ยงกับคนอื่นทำไม ว่าไม๊ ลองนึกดู กีฬา กับ ธุรกิจ มันต่างกันตรงไหน
เพียงแค่แปรคำว่าชนะด้วยกัน มาเป็นผลประโยชน์ร่วมกันเท่านั้นเอง น้อง
น้องจุ่นฟังไปยังไม่ชัดเจน แต่ก็เข้าใจแล้วว่าพี่ชาย ชี้ให้เห็นถึงอะไร และ อาจเป็นสิ่งนึงที่น้องจุ่น ต้องรู้ก่อนจะก้าวต่อไปในหนทางอาชีพที่เธอทำอยู่
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. B-thirteen
2. Christian Trevelyan Grey
3. Chee River
4. GTW
5. kasareev
6. KTHc
7. ladylongleg
8. Lady Star 919
9. Luckard
10. Na(นะ)
11. peiNing
12. psycho_factory
13. Soul Master
14. Susisiri
15. Tantava
16. TOSHARE
17. turtle_cheesecake
18. WANG JIE
19. คีตมินทร์
20. จอมยุทธนักสืบ
21. ชายขอบคันนายาว
22. นลินมณี
23. ศรเขียว
24. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
25. รัชต์สารินท์
26. สวนดอก
27. อิสิ
28. น้องโจอี้ (สมาชิกหมายเลข 817884)
29. พวงดารา
30. มัศยวีร์
*** รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือเอาออกได้ ตลอดเวลา ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 31 พฤษภาคม 2561 (ภาพปริศนาจะวาง วันที่ 30 ครับ) ***
สโลแกนของเราคือ "เขียนเมื่ออยากเขียน แต่งเมื่ออยากแต่ง เล่นซ่อนหากันเมื่ออยากเล่น"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ และสรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะเข้ารอบรายการ THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปี ครับผม