รัฐมนตรีกระทรวงการคลังมาเลเซียเผยยอดหนี้ของมาเลเซียนอกจากจะพุ่งทะลุ 1ล้านล้านริงกิต (ประมาณ 8ล้านล้านบาท) ไปแล้ว ยอดหนี้ดังกล่าวยังสูงถึง 80.3% ของจีดีพีประเทศด้วย
นอกจากนี้รัฐบาลมาเลเซียยังมีแผนจะงดเว้นการจัดเก็บภาษี GST (Goods and Services Tax) ซึ่งจะส่งผลให้รายได้รัฐบาลในส่วนนี้ลดลงก่อนจะกลับมาจัดเก็บภาษี SST (Sales and Services Tax) ในภายหลัง
ซึ่งทางรัฐบาลมาเลเซียมองหาทางเลือกในการหาเงินมาจุนเจือส่วนภาษีที่ขาดหายไป รวมถึงเงินที่จะนำมาลดหนี้ของรัฐบาล หนึ่งในทางเลือกคือการนำ Petroliam Nasional Bhd หรือ Petronas เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะสามารถได้เงินจากการขายหุ้นไอพีโอจำนวน 25% ของ Petronas ซึ่งคาดว่าบริษัทจะมีมูลค่าราว 6 - 8 แสนล้านริงกิต (ประมาณ 4.8ล้านล้านบาท - 6.4ล้านล้านบาท)
นอกจากนี้รัฐบาลมาเลเซียยังสามารถจัดตั้งบริษัทบริหารที่ดินของรัฐบาลก่อนนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งรัฐบาลจะได้รับเงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO ของบริษัท ซึ่งมูลค่าของบริษัทบริหารที่ดินนี้อาจพุ่งสูงถึงหลายพันล้านหรืออาจแตะระดับหมืนล้านริงกิตได้ ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่นำเข้าไปไว้กับทางบริษัท
หรืออีกทางเลือกคือการจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ของรัฐบาล ซึ่งทางรัฐบาลมาเลเซียสามารถนำสิ่งปลูกสร้างในเขตปุตราจายา (Putrajaya) เข้าไปไว้ใน REIT นี้ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถระดมเงินได้อีกทาง
ทั้งนี้หากมีการระดมทุนหาเงินตามทางเลือกที่กล่าวมาข้างต้น คาดว่ารัฐบาลจะสามารถหาเงินได้ราว 1.5 - 2 ล้านล้านริงกิต (ประมาณ 12 - 16 ล้านล้านบาท) ซึ่งเพียงพอต่อการชำระหนี้ของรัฐบาลมาเลเซีย
ที่มา
https://www.thestar.com.my/business/business-news/2018/05/26/listing-of-petronas-among-options-to-increase-revenue/
CR
https://www.facebook.com/luihoonasean/photos/a.344218642662502.1073741828.344194015998298/489790811438617/?type=3&theater
แผนการลดหนี้ 1 ล้านล้านริงกิต ของมาเลเซีย
นอกจากนี้รัฐบาลมาเลเซียยังมีแผนจะงดเว้นการจัดเก็บภาษี GST (Goods and Services Tax) ซึ่งจะส่งผลให้รายได้รัฐบาลในส่วนนี้ลดลงก่อนจะกลับมาจัดเก็บภาษี SST (Sales and Services Tax) ในภายหลัง
ซึ่งทางรัฐบาลมาเลเซียมองหาทางเลือกในการหาเงินมาจุนเจือส่วนภาษีที่ขาดหายไป รวมถึงเงินที่จะนำมาลดหนี้ของรัฐบาล หนึ่งในทางเลือกคือการนำ Petroliam Nasional Bhd หรือ Petronas เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะสามารถได้เงินจากการขายหุ้นไอพีโอจำนวน 25% ของ Petronas ซึ่งคาดว่าบริษัทจะมีมูลค่าราว 6 - 8 แสนล้านริงกิต (ประมาณ 4.8ล้านล้านบาท - 6.4ล้านล้านบาท)
นอกจากนี้รัฐบาลมาเลเซียยังสามารถจัดตั้งบริษัทบริหารที่ดินของรัฐบาลก่อนนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งรัฐบาลจะได้รับเงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO ของบริษัท ซึ่งมูลค่าของบริษัทบริหารที่ดินนี้อาจพุ่งสูงถึงหลายพันล้านหรืออาจแตะระดับหมืนล้านริงกิตได้ ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่นำเข้าไปไว้กับทางบริษัท
หรืออีกทางเลือกคือการจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ของรัฐบาล ซึ่งทางรัฐบาลมาเลเซียสามารถนำสิ่งปลูกสร้างในเขตปุตราจายา (Putrajaya) เข้าไปไว้ใน REIT นี้ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถระดมเงินได้อีกทาง
ทั้งนี้หากมีการระดมทุนหาเงินตามทางเลือกที่กล่าวมาข้างต้น คาดว่ารัฐบาลจะสามารถหาเงินได้ราว 1.5 - 2 ล้านล้านริงกิต (ประมาณ 12 - 16 ล้านล้านบาท) ซึ่งเพียงพอต่อการชำระหนี้ของรัฐบาลมาเลเซีย
ที่มา https://www.thestar.com.my/business/business-news/2018/05/26/listing-of-petronas-among-options-to-increase-revenue/
CR https://www.facebook.com/luihoonasean/photos/a.344218642662502.1073741828.344194015998298/489790811438617/?type=3&theater