บอกก่อนว่านี้เป็นประสบการณ์ตรง ที่ไหนไม่ดี เราจะไม่ขอเอ่ยนาม ที่ไหนดี เราขออนุญาติบอกนะค่ะ
เริ่มที่เรามีอาการปวดท้องเรื้อรัง แบบ เป็นๆหายๆมาประมาณ สองสามเดือน ปวดหนักบ้างเบาบ้าง ท้องผูกบ้าง ท้องเสียบ้าง ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเราน่าจะไปกินอะไรไม่ดีเข้ามาหรือเปล่า หรือว่ากินนม เพราะเราชอบปวดท้องหลังเข้าห้องน้ำ ไม่ก็เวลาเราจะกลับบ้าน ตอนแรกคิกว่าน่าจะเป็นเพราะนมกับกาแฟ เพราะเรากินแบบนี้ทุกวัน เลยลองเลี่ยงอาหารการกิน แต่ก็ไม่ดีขึ้น จนเราถ่ายออกมาเป็นสีดำ ที่นี่เริ่มกังวลละ เป็นอะไร ทำไมไม่หายสักที เลยถามพี่เกิ้ลคะ หลังจากค้นหาข้อมูลมาอย่างแน่น ก็ได้ขอสรุปว่าน่าจะเลือดออกในระบบทางเดินอาหารสักที่ ที่นี่ก็เลยตัดสินใจไปหาหมอค่ะ
ที่แรกเราไปโรงพยาบาลใกล้ๆบ้าน โรงพยาบาลเอกชนที่สามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้ ทุกอย่างฟรีหมดค่ะ หมอ ยา ค่าตรวจต่างๆ ก็นะค่ะ ของฟรีที่ดีไม่มีในโลกค่ะ หมอขอตรวจเลือด อุจาระ และเอ็กซเรย์ ไม่เจออะไรเลยค่ะ เลยบอกเราว่าเป็นลำไส้แปรปรวน ใช้เวลาตรวจทั้งหมดไม่เกินสี่ชั่วโมงค่ะ ตอนแรกเราก็ดีใจ เย้ๆๆๆ ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง ให้ยาสองตัวกลับมาทานที่บ้านค่ะ กินไปสองสามวันไม่ดีขึ้น เลยแบบไม่โอเคละกับโรงพยาบาลนี้ เลยย้ายค่ะ
เราย้ายไปพญาไทแทน อันนี้ยอมจ่ายแพงมากกก แต่ยอม ทนไม่ไหวแล้วเพราะมันลำบากในการใช้ชีวิตมากกก เดินทางไปทำงานคิดแต่แบบที่ไหนมีห้องน้ำให้เข้าบ้าง ตัดสินใจไปเจอหมอตอนเย็นหลังเลิกงานค่ะ ก็เล่าอาการ เอายาให้หมอดูว่าไปหาหมอที่นี้มา เอายาแบบนี้ให้กิน บลาๆๆๆ หมอก็แบบงั้นยังงี้ต้องส่องกล้อง ชัวร์สุดดด หมอแนะนำให้เราแอดมิน เราก็แบบ งั้นขอคุยกับป๊าก่อนเพราะค่าใช้จ่ายก็น่าจะสูง สุดท้าย ตัดสินใจแอดมิดค่ะ คืนนั้นเลย
เริ่มจากเขาให้เราให้น้ำเกลือก่อน และเจาะเลือดเราไปตรวจ จากนั้นก็พาไปเอ็กซเรย์ บริการดีมากกกกกก ก็อะนะ จ่ายแพง หลังจากนั้นก็พาเราไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็พาไปห้อง ที่นี้ไม่มีห้องรวมนะค่ะ มีแต่ห้องเดียว ถูกสุดคือคืนละ 6,500 ค่ะ รวมค่าห้องและค่าอาหารแล้ว แพงมากกกก แต่ก็ทำไงได้ ต้องนอนค่ะ เราเข้าห้องประมาณสามทุ่ม จากนั้นพยาบาลก็เอายาระบายมาให้ทาน แบบผสมกับน้ำ รสชาติแบบเค็มแปลกๆ เหมือนกิน แบรนด์ซุปไก่ แต่เค็มน้อยกว่า คือกินยากมากกกกกกกกก คือต้องกินให้หมดสามขวดภายในหาทุ่ม กินสามขวด ตกขวนละครึ่งชั่วโมง จนแบบพยาบาล ต้องเอาไปผสมน้ำหวานให้ เพื่อที่จะได้กินงายขึ้น พอกินเสร็จปุป ไม่นานค่ะ ห้องน้ำแบบยาวๆๆๆๆ ถ่ายจนไม่มีอะไรเหลือเลยค่ะ จากนั้นก็เพลียแล้วหลับไป
ประมาณตีสาม พยาบาลก้เข้ามาปลุกค่ะ ปลุกขึ้นมาสวนด้วยน้ำอะค่ะ เขาจะทำเหมือนการล้างลำไส้อะค่ะ เราล้างประมาณสามรอบ คือต้องล้างให้แบบถ่ายออกมาเป็นสีขาวเหมือนน้ำเลยค่ะ เพราะจะได้ส่องกล้องเพื่อดูลำไส้และกระเพาะได้ หลังจากนั้นพยาบาลก็ให้พักประมาณสองสามชั่วโมง แล้วก็มาปลุก เตรียมตัวให้ไปส่องกล้องค่ะ เข้ามาปลุกประมาณตีห้า เปลี่ยนเสื้อผ้า และพาไปห้องแบบผ่าตัดอะค่ะ จำได้ว่าแบบห้องเย็นมากก หนาวมาก และเงียบมากกก พยาบาลก็พาไปเตรียมตัวสักพัก เขาก็พาเข้าห้องผ่าตัดค่ะ มีหมอและพยาบาลหลายคนมาก เขาก็จับเรานอนตะแคง แล้วแบบให้ทะแยงเข่าขึ้นมาสูงๆ จากนั้นก็พ่นยาชาเข้าลำคอ ตอนพ่นไม่เท่าไร ตอนให้กลืนน้ำลายนี้คือขมมากกกก จากนั้นเขาก็ใส่ออกซิเจนละให้เรากัดอะไรก็ไม่รู้ค่ะ จากนั้นเขาก็ให้ยาสลบเข้าเส้นเลือด ไม่ถึงนาทีก็หลับไปเลยค่ะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนไหน รู้สึกตัวอีกทีคือแบบ เหมือนเขาถามว่าเจ็บมั้ย เราก็ตอบแบบมึนๆ แล้วก็หลับไปตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ในห้องตัวเองค่ะ
พอตื่นขึ้นมาเขาก็ให้เรากินข้าวค่ะ เพราะมันเกือบเที่ยงแล้ว อาหารที่ได้มาก็ น้ำข้าวค่ะ พร้อมน้ำหวานหนึ่งแก้ว แค่นั้นจริงๆๆ ไม่มีอย่างอื่น เพลียมากกก แต่เราให้น้ำเกลือตลอดเวลา ก็อยู่ได้ค่ะ ส่วนยาก็จะให้ทางสายยางทั้งหมด เข้าเส้นเลือดโดยตรง วันนั้นเราไม่ได้เจอหมอ แต่แม่เราได้เจอ หมอบอกว่าเราลำไส้อักเสบ กระเพราะอักเสบ เป็นแผลและบวมทั้งสองที่ สาเหตุมาจากการกินข้าวไม่ตรงเวลา สะสมมานาน จนน้ำย่อยที่ออกมาเริ่มกินตัวเอง ตอนแรกๆเราจะทนได้ แต่พอเม็ดเลือดขาวเริ่มเข้ามาซ่อมแซมส่วนที่เป็นแผล น้ำย่อยของเรามันเริ่มกินเม็ดเลือดขาวค่ะ โดยปกติคนเราจะต้องมีเม็ดเลือดขาวอยู่ประมาณ 5,000 แต่ของเราคือเหลือแค่ 3,000 ซึ่งมันต่ำมากอาการเราเลยทรุด และทำให้เลือดออกให้ทางเดินอาหาร (ซึ่งโรงพยาบาลแรกตรวจไม่เจออะไรเลยสักกะอย่าง)
เรานอนโรงพยาบาลได้สองคืน หมอก็ให้กลับบ้านไปพักที่บ้านค่ะ อาหารที่ควรกินเบื้องต้นคือข้าวต้มประมาณอาทิตย์ถึงสองอาทิตย์ งดอาหารหนักๆ นม ขนมปังต่างๆ ชา กาแฟงดหมดค่ะ ไม่งั้นแผลจะไม่หาย สำหรับครั้งนี้ค่าเสียหายอยู่ที่ประมาณ 70,000 กว่าบาท นี้แค่สองคืนเองนะค่ะ เพราะฉะนั้น กินข้าวให้ตรงเวลา แลอาหารที่มีประโยชน์นะค่ะ คุณอาจจะคิดว่า ไม่เห็นจะเป็นเลย แต่ของอย่างงี้มันสะสมค่ะ คุณอ่อนแอเมื่อไร มันเอาคุณเมื่อนั้น ยังไงก็ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์นะค่ะ
ใครมีอาการปวดท้องเรื้อรัง ท้องผูกท้องเสีย เชิญเข้ามาอ่านค่ะ
เริ่มที่เรามีอาการปวดท้องเรื้อรัง แบบ เป็นๆหายๆมาประมาณ สองสามเดือน ปวดหนักบ้างเบาบ้าง ท้องผูกบ้าง ท้องเสียบ้าง ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเราน่าจะไปกินอะไรไม่ดีเข้ามาหรือเปล่า หรือว่ากินนม เพราะเราชอบปวดท้องหลังเข้าห้องน้ำ ไม่ก็เวลาเราจะกลับบ้าน ตอนแรกคิกว่าน่าจะเป็นเพราะนมกับกาแฟ เพราะเรากินแบบนี้ทุกวัน เลยลองเลี่ยงอาหารการกิน แต่ก็ไม่ดีขึ้น จนเราถ่ายออกมาเป็นสีดำ ที่นี่เริ่มกังวลละ เป็นอะไร ทำไมไม่หายสักที เลยถามพี่เกิ้ลคะ หลังจากค้นหาข้อมูลมาอย่างแน่น ก็ได้ขอสรุปว่าน่าจะเลือดออกในระบบทางเดินอาหารสักที่ ที่นี่ก็เลยตัดสินใจไปหาหมอค่ะ
ที่แรกเราไปโรงพยาบาลใกล้ๆบ้าน โรงพยาบาลเอกชนที่สามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้ ทุกอย่างฟรีหมดค่ะ หมอ ยา ค่าตรวจต่างๆ ก็นะค่ะ ของฟรีที่ดีไม่มีในโลกค่ะ หมอขอตรวจเลือด อุจาระ และเอ็กซเรย์ ไม่เจออะไรเลยค่ะ เลยบอกเราว่าเป็นลำไส้แปรปรวน ใช้เวลาตรวจทั้งหมดไม่เกินสี่ชั่วโมงค่ะ ตอนแรกเราก็ดีใจ เย้ๆๆๆ ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง ให้ยาสองตัวกลับมาทานที่บ้านค่ะ กินไปสองสามวันไม่ดีขึ้น เลยแบบไม่โอเคละกับโรงพยาบาลนี้ เลยย้ายค่ะ
เราย้ายไปพญาไทแทน อันนี้ยอมจ่ายแพงมากกก แต่ยอม ทนไม่ไหวแล้วเพราะมันลำบากในการใช้ชีวิตมากกก เดินทางไปทำงานคิดแต่แบบที่ไหนมีห้องน้ำให้เข้าบ้าง ตัดสินใจไปเจอหมอตอนเย็นหลังเลิกงานค่ะ ก็เล่าอาการ เอายาให้หมอดูว่าไปหาหมอที่นี้มา เอายาแบบนี้ให้กิน บลาๆๆๆ หมอก็แบบงั้นยังงี้ต้องส่องกล้อง ชัวร์สุดดด หมอแนะนำให้เราแอดมิน เราก็แบบ งั้นขอคุยกับป๊าก่อนเพราะค่าใช้จ่ายก็น่าจะสูง สุดท้าย ตัดสินใจแอดมิดค่ะ คืนนั้นเลย
เริ่มจากเขาให้เราให้น้ำเกลือก่อน และเจาะเลือดเราไปตรวจ จากนั้นก็พาไปเอ็กซเรย์ บริการดีมากกกกกก ก็อะนะ จ่ายแพง หลังจากนั้นก็พาเราไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็พาไปห้อง ที่นี้ไม่มีห้องรวมนะค่ะ มีแต่ห้องเดียว ถูกสุดคือคืนละ 6,500 ค่ะ รวมค่าห้องและค่าอาหารแล้ว แพงมากกกก แต่ก็ทำไงได้ ต้องนอนค่ะ เราเข้าห้องประมาณสามทุ่ม จากนั้นพยาบาลก็เอายาระบายมาให้ทาน แบบผสมกับน้ำ รสชาติแบบเค็มแปลกๆ เหมือนกิน แบรนด์ซุปไก่ แต่เค็มน้อยกว่า คือกินยากมากกกกกกกกก คือต้องกินให้หมดสามขวดภายในหาทุ่ม กินสามขวด ตกขวนละครึ่งชั่วโมง จนแบบพยาบาล ต้องเอาไปผสมน้ำหวานให้ เพื่อที่จะได้กินงายขึ้น พอกินเสร็จปุป ไม่นานค่ะ ห้องน้ำแบบยาวๆๆๆๆ ถ่ายจนไม่มีอะไรเหลือเลยค่ะ จากนั้นก็เพลียแล้วหลับไป
ประมาณตีสาม พยาบาลก้เข้ามาปลุกค่ะ ปลุกขึ้นมาสวนด้วยน้ำอะค่ะ เขาจะทำเหมือนการล้างลำไส้อะค่ะ เราล้างประมาณสามรอบ คือต้องล้างให้แบบถ่ายออกมาเป็นสีขาวเหมือนน้ำเลยค่ะ เพราะจะได้ส่องกล้องเพื่อดูลำไส้และกระเพาะได้ หลังจากนั้นพยาบาลก็ให้พักประมาณสองสามชั่วโมง แล้วก็มาปลุก เตรียมตัวให้ไปส่องกล้องค่ะ เข้ามาปลุกประมาณตีห้า เปลี่ยนเสื้อผ้า และพาไปห้องแบบผ่าตัดอะค่ะ จำได้ว่าแบบห้องเย็นมากก หนาวมาก และเงียบมากกก พยาบาลก็พาไปเตรียมตัวสักพัก เขาก็พาเข้าห้องผ่าตัดค่ะ มีหมอและพยาบาลหลายคนมาก เขาก็จับเรานอนตะแคง แล้วแบบให้ทะแยงเข่าขึ้นมาสูงๆ จากนั้นก็พ่นยาชาเข้าลำคอ ตอนพ่นไม่เท่าไร ตอนให้กลืนน้ำลายนี้คือขมมากกกก จากนั้นเขาก็ใส่ออกซิเจนละให้เรากัดอะไรก็ไม่รู้ค่ะ จากนั้นเขาก็ให้ยาสลบเข้าเส้นเลือด ไม่ถึงนาทีก็หลับไปเลยค่ะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนไหน รู้สึกตัวอีกทีคือแบบ เหมือนเขาถามว่าเจ็บมั้ย เราก็ตอบแบบมึนๆ แล้วก็หลับไปตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ในห้องตัวเองค่ะ
พอตื่นขึ้นมาเขาก็ให้เรากินข้าวค่ะ เพราะมันเกือบเที่ยงแล้ว อาหารที่ได้มาก็ น้ำข้าวค่ะ พร้อมน้ำหวานหนึ่งแก้ว แค่นั้นจริงๆๆ ไม่มีอย่างอื่น เพลียมากกก แต่เราให้น้ำเกลือตลอดเวลา ก็อยู่ได้ค่ะ ส่วนยาก็จะให้ทางสายยางทั้งหมด เข้าเส้นเลือดโดยตรง วันนั้นเราไม่ได้เจอหมอ แต่แม่เราได้เจอ หมอบอกว่าเราลำไส้อักเสบ กระเพราะอักเสบ เป็นแผลและบวมทั้งสองที่ สาเหตุมาจากการกินข้าวไม่ตรงเวลา สะสมมานาน จนน้ำย่อยที่ออกมาเริ่มกินตัวเอง ตอนแรกๆเราจะทนได้ แต่พอเม็ดเลือดขาวเริ่มเข้ามาซ่อมแซมส่วนที่เป็นแผล น้ำย่อยของเรามันเริ่มกินเม็ดเลือดขาวค่ะ โดยปกติคนเราจะต้องมีเม็ดเลือดขาวอยู่ประมาณ 5,000 แต่ของเราคือเหลือแค่ 3,000 ซึ่งมันต่ำมากอาการเราเลยทรุด และทำให้เลือดออกให้ทางเดินอาหาร (ซึ่งโรงพยาบาลแรกตรวจไม่เจออะไรเลยสักกะอย่าง)
เรานอนโรงพยาบาลได้สองคืน หมอก็ให้กลับบ้านไปพักที่บ้านค่ะ อาหารที่ควรกินเบื้องต้นคือข้าวต้มประมาณอาทิตย์ถึงสองอาทิตย์ งดอาหารหนักๆ นม ขนมปังต่างๆ ชา กาแฟงดหมดค่ะ ไม่งั้นแผลจะไม่หาย สำหรับครั้งนี้ค่าเสียหายอยู่ที่ประมาณ 70,000 กว่าบาท นี้แค่สองคืนเองนะค่ะ เพราะฉะนั้น กินข้าวให้ตรงเวลา แลอาหารที่มีประโยชน์นะค่ะ คุณอาจจะคิดว่า ไม่เห็นจะเป็นเลย แต่ของอย่างงี้มันสะสมค่ะ คุณอ่อนแอเมื่อไร มันเอาคุณเมื่อนั้น ยังไงก็ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์นะค่ะ