สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆนักท่องเที่ยวชาวพันทิปทุกท่านครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้ท่องเที่ยวอันที่2ของผมเอง โดยจะเป็นกึ่งๆภาคต่อของกระทู้ที่แล้ว(ที่ทิ้งห่างกันไปถึง 1 ปีเต็มๆเลย) ใ้ชเวลาช่วงหยุดคริสมาสต์ปลายปี2017 - เปิดปีใหม่ต้นปี2018 โดยเราจะมาย้อนความหลังกันเล็กน้อยถึงสาเหตุของทริปนี้

https://ppantip.com/topic/37679955 <<< ^{สืบเนื่องมาจากทริปนี้นั่นเอง เมื่อเราไม่ได้เตรียมพร้อมในการเผชิญความหนาวระดับติด- เช่นการใส่กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบปกติ ถุงมือผ้าบางๆ ทำให้การเล่นหิมะและการใช้ชีวิตค่อนข้างทรมาณจากความหนาว ทางที่บ้านจึงรู้สึกว่า "ต้องไปแก้ตัวหน่อยแล้ว" บวกกับสาเหตุสำคัญอื่นๆด้วย ไม่ว่าจะเป็น "สุนัขลากเลื่อน" ที่คราวที่แล้วเราไม่ได้นั่ง เพราะเพิ่งไปรู้ที่นู่นว่าต้องจองมาก่อนเป็นเดือน, ที่ท่องเที่ยวบางที่ ที่เราเฉียดๆแต่ก็ไม่ได้ไป และVISAแคนาดาของทุกคนนั้น ยังเหลือได้อีกปี จึงต้องใช้ให้คุ้มครับ และด้วยทุกเหตุผลนี้ทำให้เราได้คลอดทริปนี้ออกมานั่นเอง}

Highlightsของทริปนี้ก็จะเป็น Sea to Sky Gondola, Whistler Village, นั่งสุนัขลากเลื่อนที่ Spray Lake(ไกล้ๆBanffและCanmore), เมืองCalgary และ Royal Tyrell Museum ที่Drumhellerครับ

เอาล่ะเรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า เริ่มจากเส้นทางคร่าวๆของทริปนี้กันเลย

เราออกเดินทางจากประเทศไทยในช่วงตี1วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2017 ครับ( ดึกๆของวันพฤหัสที่21) หลังจากCheck Inเข้าไปเสร็จแล้วก็ไปใช้บริการเลาจ์ของSCB King Powerกันครับ ซึ่งในปีนี้เลาจ์ก็ย้ายสถานที่จากปีที่แล้วไปซ่อนอยู่หลังร้านDuty Freeร้านหนึ่งในมุมๆหนึ่งของสนามบิน ทำให้เราใช้เวลาในการเดินหานานพอสมควรเลย ก่อนจะได้เข้าไปกินอาหารรองท้องกัน ซึ่งจะมีทั้งข้าวต้ม แซนวิช ถั่ว เค้ก ขนมปัง บราวนี่ กาแฟแบบต่างๆ รวมไปถึงPop Cornอีกด้วย(แต่รวมๆแล้วน้อยกว่าอันเก่าของปีที่แล้วนะ ตอนนั้นมีราเมงด้วย)

ทริปนี้เราเดินทางกันด้วยสายการบิน Air Chinaครับ เปลี่ยนเครื่องที่สนามบินปักกิ่งประมาณ8ชม. โดยที่สนามบินปักกิ่งนั้นก็จะมีขนาดใหญ่ระดับหนึ่งเลย มีร้านค้าอยู่บ้าง(มากกว่าของกวางโจวปีที่แล้ว) แต่ก็ยังต้องเจอปัญหาเดิมๆ เช่น wifiไม่เสถียร ต้องใช้VPNเพื่อเล่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค(ปกติของจีนแผ่นดินใหญ่) บนเครื่องบินไม่อนุญาตุให้ใช้มือถือ(ไม่สนว่ามีAirplane Mode) แต่อาหารบนเครื่องบินและตัวสนามบินนั้นก็ถือว่าดีครับ สะอาดและเดินง่าย โดยเนื่องจากเปลี่ยนเครื่องนาน เราจึงได้ใช้เลาจ์ของสายการบินฟรีอีกด้วย แต่ในเลาจ์นั้นก็ไม่ได้ดีเยี่ยมเหมือนของที่ไทยแต่อย่างใดครับ(คงเพราะไม่ใช่ระดับFIrst Classด้วยมั้ง) ซึ่งในเลาจ์นั้นก็จะมีน้ำ น้ำอัดลมกาแฟ ขนมเล็กๆน้อยๆ และถั่วให้กิน พร้อมกับที่นั่งเบาะและมีห้องนอน(สาธารณะ)ให้ไปนอนพักกันได้ ซึ่งเราก็เข้าไปใช้เวลาครึ่งหนึงของการเปลี่ยนเครื่องในเลาจ์แห่งนี้

ก่อนจะออกมากินข้าวกันที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง ซึ่งในตอนนั้นเขามีเมนูเหลือแค่เพียง2เมนูเท่านั้น คือก๋วยเตี๋ยวน้ำ+ไข่ดาว+แฮม(คล้ายๆ) และผัดหมี่ซอสเหนียวๆแดงๆ(จำชื่อไม่ได้) ผมจึงสั่งเมนูแรกไป เพราะดูแล้วน่าจะได้สารอาหารมากกว่า(มั้ง)

หลังจากรอคอยมานานเราก็ได้ขึ้นเครื่อง และบินมาลงที่Vancouverประมาณ10โมงเช้าของวันศุกร์ที่22ธันวาคม(ของที่Vancouver)ครับ

ปีนี้ระบบตม.ของที่นี่มีแบบใช้เครื่องScanพาสปอร์ตโดยไม่ต้องมีจนท.เป็นคนๆแล้วด้วย เลยได้เข้ามาเร็วครับ หลังจากได้บทเรียนในปีที่แล้วเรื่องเดินหาซื้อซิมเล่นเน็ทแต่ไม่มีซักที ปีนี้เลยใช้แพ็คเกจของAISไปเลยครับ ง่ายดี สัญญาณ4Gก็ดีอีกด้วย  เมื่อรับกระเป๋าอะไรเสร็จแล้ว ปีนี้เราก็ไม่รอช้า รับรถกันวันแรกเลยครับ โดยได้เป็น GMC Acadiaครับ เป็นรถขนาดใหญ่ระดับหนึ่ง ข้างหลังสามารถใส่กระเป๋าใบใหญ่ๆ2ใบ+รถเข็น+ของอื่นๆได้สบายเลย

และในวันแรกเราก็จะทำเหมือนกับทริปที่แล้วไปก่อน คือไปช็อปปิ้งกันที่Outletไกล้สนามบิน อย่างMcArthurGlenn Designer Outletครับ ซึ่งเป็นOutletที่จะมีสถาปัตยกรรมแบบแปลกๆอยู่ด้วย และมีต้นคริสมาสต์ตกแต่งรับเทศกาลช่วงนี้อีกด้วย

หลังจากช็อปปิ้งกันเสร็จก็ไปหาอะไรกินที่แถวCentral at Garden CityในRichmond และเข้าพักที่โณงแรม Accents Inn แถวๆนั้นครับ ซึ่งถือเป็นวันแรกที่ยังไม่ได้เที่ยวอะไรมาก เป็นการซื้อของเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าบูทเดินหิมะ หมวกกันหนาว ไม้/แปลงที่เอาไว้เคาะหิมะออกจากรอบๆล้อรถและกระจกรถ อะไรประมาณนี้ครับ

วันที่2 ( 23/12/17) ได้เวลาขึ้นเหนือ!!!!

ในวันนี้เราก็เริ่มต้นได้อย่างน่าผิดหวังในระดับหนึ่ง เพราะตื่นกันสายมาก Breakfastโรงแรมไม่มี ก็เลยไปกินกันที่McDonald's ก็รอคิวนานอีก แต่เป้าหมายของเราในคืนนี้นั้นก็คือไปนอนที่เมืองSquamish วึ่งอยู่ไม่ไกลมาก ช่วงเช้าจึงกลับเข้าไปซื้อของเพิ่มเติมที่McAruthurGlenn Designer Outletกันก่อน ซึ่งพ่อกับแม่ก็ไปเดินซื้อของ ส่วนผมก็นั่งดูบอล(แมนยูเสมอกับเลสเตอร์ 2-2 เจ็บใจมากกกก!!! ) ก่อนจะออกเดินทางกัน ซึ่งวันนี้เราก็ต้องขับผ่านตัวเมืองของVancouver(ซึ่งรถติดมาาาาาาาาาาาาาาาาาาก ติดเหมือนสาธรตอนเย็นๆเลย เสียเวลาไปเป็นชม.)

และเราก็ไปถึงเมืองเล็กๆอย่างSquamish(ห่างจากVancouverแค่ประมาณชม.กว่าๆ) ซึ่งอยู่ไกล้กับจุดที่เราจะไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้อย่าง Sea to Sky Gondolaมากๆ โดยเราไปเช็คอินกันที่โรงแรมMotor Inn ซึ่งเป็นโรงแรมเพียงไม่กี่ที่ในเมืองเล็กๆแห่งนี้ ซึ่งเป็นเมืองที่มืดและเงียบมากๆ

จบไปวันที่2 วันนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากซื้อของและนั่งแช่อยู่ในรถ(เพราะรถติดมาก) แต่พน.ก็จะได้เริ่มเที่ยวจริงๆจังๆแล้ว!!!!



วันที่ 3 (24/12/17) ขึ้นกระเช้าไปหาหิมะที่ Sea to Sky Gondola!!!!!
วันนี้เรามากันที่Sea to Sky Gondolaครับ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของเมือง Squamish แห่งนี้เลย โดยจะเป็นการขึ้นกระเช้าไปชมวิวด้านบนภูเขา และข้างบนก็จะมีที่ให้ถ่ายรูปและเดินป่ากัน ซึ่งในส่วนของราคานั้นก็: ผู้ใหญ่(อายุ19+) $43.95, ผู้สูงอายุ(อายุ65+) $39.95, วัยรุ่น(อายุ 13-18) $25.95, เด็ก(อายุ6-12) $15.95, เด็กกว่านั้นฟรี และก็มีตั๋วครอบครัว(ผู้ใหญ่2 เด็ก2) $107.95 และตั๋วเที่ยวเดียว(อีกเที่ยวต้องเดินเอา) $15 ครับ โดยเครอบครัวของผมก็ซื้อแบบตั๋วครอบครัวกัน

ขึ้นกระเช้ามาก็จะมองเห็นวิวของ ฟยอร์ดที่มีชื่อว่า Howe Sound

ใช้เวลานั่งกระเช้าไม่นาน ไม่ถึง10นาทีเราก็มาถึงด้านบนกันแล้ว ซึ่งจะมีสถานีทางด้านบนอยู่ มีCafe ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก ด้านหลังก็จะเป็นลานหิมะครับ ซึ่งจะมีทางเดินไปในป่า มีสะพานแขวน และTube Park(เล่นห่วงยางไหลลงเนินหิมะ) โดยเราเลือกที่จะไปเดินเข้าป่ากันก่อนครับ

จะมีเส้นทางแบบต่างๆให้เลือกเดินกัน ถ้าจำไม่ผิดเราก็เลือกเดินเส้นทางสีเหลืองครับ เพราะใช้เวลาไม่มากไม่น้อยเกินไป ในป่าก็ถือว่าสวยไปอีกแบบครับ มีต้นไม้เขียวๆ หิมะขาวๆ ท้องฟ้าวันนี้ก็ค่อนข้างสดใส อุณหภูมิไม่หนาวเกินไป(ประมาณ -4 เซลเซียส) เราทุกคนก็มีชุดเสื้อ กางเกง รองเท้า ที่พร้อมกันหนาวกัน

นอนพักหน่อย

เดินไปเรื่อยๆก็ไปเจอช่องชมวิวตรงนี้ รูปที่ถ่ายมาอาจจะไม่สวย แต่ที่จริงๆสวยมากครับ

เดินกันจนเหนื่อยแล้ว(และเหมือนจะหลง) เราก้เดินกลับมาเล่นที่Tube Parkกัน แต่ก็ต้องเจอกับปัญหา เพราะTube Parkนั้นไม่ได้เล่นฟรี ต้องไปเสียตังจ่ายเพิ่ม ซื้อเราทุกคนก็ตกลงยอมจ่ายกัน เดินไปจ่ายกันที่ตรงร้านขายของที่ระลึก ก่อนจะกลับไปตรงTube Parkอีกที แต่ปัญหาก็คือ วันนี้วันChristmas Eve มันปิดเร็วครับ เลยอดเล่นTube Parkกันไป ต้องมาขอRefundเงินคืน(จนท.ตรงที่จ่ายเงินก็ไม่บอกเราแต่แรกว่าหลังจ่ายเสร็จมันปิดพอดี) ต่อจากนั้นก็เลยไปถ่ายรูปกันตรงสะพานแขวนครับ ซึ่งสูงมากๆ และสวยมากๆอีกด้วย วิวด้านหนึ่งเป็นFjord อีกด้านเป็นภูเขา

Howe Sound Fjord เค้าบอกว่าบางฤดูจะมีวาฬมาแถวนี้ด้วยนะ แต่ไม่ใช่ฤดูที่เรามานี้

เมื่อค่ำแล้วเราก็ลงมากินข้าวกันที่ร้านอาหารจีนในเมืองSquamishครับ ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่ร้านที่ยังไม่ปิดหลัง6โมงเย็น(ให้ข้าวเยอะมาก เยอะจนเก็บไปกินต่อพน.เช้าได้)

และก็จบกันไปอีกวันครับ ถือเป็นที่ท่องเที่ยวใหม่ที่ค่อนข้างประทับใจ เพราะวิวด้านบนสวยมากๆจริงๆ โดยในวันChristmasพรุ่งนี้ เป้าหมายของเราก็คือเมืองสกีชื่อดังอย่าง Whistlerนั่นเอง