สวัสดีค่ะ
ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ติดตามวงการบันเทิงเกาหลีมาเกือบยี่สิบปี
(แต่ K-pop พึ่งมาตามจริงจังไม่นาน)
และติดตามกระแสความโด่งดังของละครไทย/หนังไทยที่ต่างประเทศมาเป็นสิบปี
ไม่นานนี้ละครไทยอย่างบุพเพก็สร้างความฮือฮาได้รับความนิยมจากชาวเน็ตจีนไม่น้อย
หรือหนังไทยอย่าง Bad Genius ก็ทำสถิติโกยรายได้สูงสุดของหนังไทยในจีน
แต่ใช่ว่ากระแสละครไทยจะไม่เคยดังมาก่อน ดิฉันจำได้ว่าเราเคยดีใจกับละครเลือดขัตติยา
ที่นำพาพี่ติ๊กให้ไปเป็นที่รู้จักต่อสาวๆชาวจีนมาแล้ว หรือรักแห่งสยามหนังแจ้งเกิดแบบพลุแตก
ให้กับมาริโอ้ และพิช ทั้งๆที่หนังไม่เคยได้ไปฉายแบบทางการเลยสักครั้ง
ไหนจะดาราชาย/หญิง อีกนับไม่ถ้วนที่พาเหรดกันไปกอบโกยชื่อเสียง
ไม่ใช่แค่ประเทศจีนยังมีฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียอีกด้วย
จะว่าไปช่วงปีสองปีนี้ละครไทยนอกกระแสอย่างซีรีย์วาย(ชายรักชาย)
ก็สามารถสร้างกลุ่มคนดูระดับนานาชาติเอเชียยันยุโรปให้ติดหนึบได้ (แม้จะกลุ่มเล็กก็เถอะ)
แต่ทำไมกระแสความนิยมในละครไทย หนังไทย หรือเพลงไทย ถึงไปได้เพียงแค่นี้?
ทำไมกระแสดูช่างแผ่วเบาเหมือนลม ที่พัดมาเป็นช่วงๆ ให้ได้สัมผัสถึงบ้างแล้วก็หายไป
สมกับที่เขาขนานนามว่าเป็นกระแส T-Wind ที่ค่อยๆพัดมาไม่หวือหวา
ละครหรือหนังไทยเรื่องใดดัง ก็นำพาให้นักแสดงนำในเรื่องนั้นดังไปด้วย
แต่ทำไม...ถึงไม่สามารถพาผู้ชมให้เข้ามาติดกับละครหรือหนังไทยเรื่องอื่นๆได้?
ทำไมไม่เหมือนตอนที่ฉันดูซีรีย์เกาหลีจบสักเรื่อง แล้วติดเรื่องอื่นต่อจบแล้วเปิดเรื่องใหม่ไม่รู้จบ(มาเป็นสิบปีล่ะ)
เคยเป็นไหมคะที่มีเพื่อนต่างชาติมาบอกคุณว่าชั้นชอบหนังไทยเรื่องนี้มากเลยนะ ช่วยแนะนำหนังไทยเรื่องอื่นๆให้หน่อยสิ
แล้วคุณเกิดอาการ ... นิ่งไประยะนึงเพื่อประมวลผลว่าชั้นควรจะแนะนำเรื่องอะไรดี...และพบว่ามันเป็นเรื่องยากเหลือเกิน
และดิฉันคิดว่าเราน่าจะพอมองเห็นแล้วว่าอะไรคือปัญหาของวงการบันเทิงไทย
1. อย่างที่เกริ่นว่าดิฉันติดตามวงการบันเทิงเกาหลีมานานมากๆ เมื่อยี่สิบปีก่อนได้ดูหนังเกาหลีแนวตลก
แต่ก็รู้สึกว่าไม่ได้ต่างอะไรกับของไทยมากนัก ไม่ได้มีความรู้สึกอยากค้นหาต่อ แต่เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา
ซีรีย์เกาหลีกระแทกใจอย่างจังและเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ติดตามซีรีย์เกาหลีมาเกือบตลอดเลา
2. ตลอดเป็นสิบปีนี้ดิฉันเห็นพัฒนาการของซีรีย์เกาหลี ไม่ใช่แค่ Production ที่พัฒนา
หากแต่คือบทและความหลากหลายของซีรีย์นั้นมีมากขึ้น ยุคนี้ความเจ็บปวดทรมานจากตอนจบของซีรีย์เกาหลี
ที่เรียกได้ว่าเป็นน้ำเน่านั้นไม่ใช่กระแสหลักอีกต่อไป เราได้เห็นซีรีย์เกาหลีตั้งแต่เรื่องรักเจ็บปวด ซีรีย์พีเรียดย้อนยุค
และปัจจุบันดิฉันเห็นซีรีย์เกาหลีหันมาทำแนว "อาชีพ" ในสังคมปัจจุบันมากขึ้น เรียกได้ว่านำเสนอเรื่องราวร่วมสมัย
ให้ความรู้สึกคล้ายกับเนื้อหาทางฝั่งอเมริกา แต่มีไส้ในที่เป็นเอเชีย
ย้อนกลับมาดูละครกระแสหลักบ้านเรา ความหวังดิฉันพุ่งพล่านไปหมดเมื่อบ้านเราประมูลดิจิตอลทีวี
ช่องที่หลากหลายคงนำพามาซึ่งละครที่หลากหลาย แต่ผ่านมาหลายก็อย่างที่เห็นกัน
ไม่มีเนื้อหาอะไรใหม่และหลากหลายเท่าที่ควร
จะมีก็คงต้องบอกว่ากระแสการยอมรับคนรักเพศเดียวกันมากขึ้น
แต่ปะติโถปะติถัง ความใหม่มีแค่นั้นล่ะ ตัวละครเกย์แต่เนื้อเรื่องน้ำเน่าเหมือนเดิม
ดิฉันไม่ได้อยากให้ละครน้ำเน่าไทยมันหายไปนะคะ เปล่าเลย
ดิฉันโอเคที่จะมีมันอยู่นะ บางครั้งก็ชอบดู แต่ที่ต้องการคือความหลากหลายของเนื้อหา
ซึ่งพอพูดไป ก็มักโดนฝั่งวงการบันเทิงตีหน้าหงายว่าก็คนไทยชอบดูแบบนี้
กลายเป็นว่าความผิดคือผู้บริโภค ไม่ใช่ความขี้ขลาดของคนในวงการบันเทิงไทยหรอกหรือ
(ไม่ใช่ว่าละครไทยไม่มีแนวอื่นนะ มี...แต่ยังไม่มากมายพอจะบอกได้ว่าวงการละครไทยมีความหลากหลายแล้ว)
3. นอกจากแนวที่ไม่หลากหลายแล้ว บทละครไทย บทหนังไทย ส่วนมากก็ยังเดิมๆ
ยี่สิบปีสามสิบปีก่อนนวนิยายไทยว่าไง ดิฉันก็ว่าตามนั้น ไร้ซึ่งการพัฒนาร่วมกับคุณค่าสมัยใหม่
ผู้หญิงไทยเป็นยังไงเมื่อก่อน ก็ยังเป็นแบบนั้น ไม่มีความเป็นสตรีนิยม
ฉากข่มขืนยังมีให้เห็นเนืองๆ กะเทยเป็นตัวตลกยังพบได้เป็นส่วนใหญ่
บทผู้ชายขี้แพ้ เมียน้อยเมียหลวง วนเวียนอยู่ตรงนี้
หรือเรื่องจริยธรรม ศีลธรรม ละครไหนจบด้วยการเชิญ ว.วชิรเมธีมาเทศแทบปิดหนี
ทุกอย่างเป็นเรื่องของ "พุทธ" หมดเลย ใช่สิประเทศเรานับถือพุทธถึง 95%
เลยไม่เกิดการสมาทานหรือดัดแปลงคุณค่าศาสนาอื่นๆ หรือปรัชญาอื่นๆเข้ามาในละครเลย
4. Production ไทยส่วนใหญ่ยังไม่ดี อันนี้เห็นได้ง่ายสุด
5. ซีรีย์วายไทยที่ดิฉันเขียนว่าได้รับความนิยมนั้น ก็อยากบอกว่า ไม่น่าใช่เพราะซีรีย์วายไทยมีคุณภาพดีหรอก
แต่เป็นเพราะ "มันหายาก" ด้วยตลาดที่เล็กและสังคมในหลายๆที่ยังไม่เปิดนัก
ก็ทำให้การผลิตซีรีย์พวกนี้ออกมามีน้อย คู่แข่งขันก็น้อยด้วย เลยเป็นข้อได้เปรียบของซีรีย์ไทยที่จะได้รับความนิยม
ดิฉันเป็นพวกบ้าอ่านคอมเม้น ตามอ่านหมดทั้งในยูทูป ในเว็บบอร์ด ทวิตเตอร์ ไปทุกที่ที่นึกออก
รู้ไหมว่าหลายๆคนอยากเรียนภาษาไทย เพราะดูซีรีย์วายนี่แหล่ะ บางคนติดวัฒนธรรมเรียกพี่เรียกน้องจากซีรีย์
แต่ไม่ใช่มีแต่ข้อดี ดิฉันยังชอบอ่านคอมเม้นท์ด่า แม้ไม่เยอะแต่ดิฉันว่ามันจริง อาทิ
..ทำไมถึงมีฉากปล้ำ(ข่มขืน) ทำไมตัวละครพูดเหมือนเป็นเรื่องตลก?
..ทำไมนักแสดงแข็งทื่อขนาดนี้ ถึงจะหน้าตาดีก็เถอะ
..ซีรีย์ไทยบทอ่อนมากเลยนะ แต่เอาเถอะมันฟิน
นี่ตอกย้ำเลยว่าซีรีย์วายไทยได้รับความนิยม เพราะมันไม่มีคู่แข่งเท่าไหร่ไง
6. คุณภาพศิลปินไทย จากข้อ 5. ละครไทยใช้นักแสดงหน้าใหม่เยอะ และโดยมากคุณภาพการแสดงหรือฝีมือห่วย
ดิฉันไม่ชอบเลยที่เราจะปกป้องว่าเรื่องแรกต้องให้อภัย ไม่เลยดิฉันไม่เห็นด้วย
หรืออย่างนักร้องไทย เทียบกับนักร้องเกาหลี เราจะเห็นว่าการฝึกของสองที่ต่างกันมาก
ไม่นานมานี้ดิฉันได้อ่านคุณนัททิว นักร้องไทยที่ได้ไปเดบิ้วที่เกาหลีหลายปีก่อน
ได้ให้สัมภาษณ์ว่าการฝึกและวินัยที่เกาหลีนั้นโหดมากๆ ต่างจากที่ไทยอย่างสิ้นเชิง
ซึ่งดิฉันเห็นด้วยว่านี่เป็นปัญหาของคนไทยในทุกอาชีพเลย คือวินัยและการหยวนๆ
เราถึงได้เห็นผลงานแสนห่วยหลายชิ้นออกมาสู่สาธารณะโดยค่ายใหญ่ๆเอง
ดิฉันขอสรุปสั้นๆตรงนี้อีกครั้งว่า
- ซีรีย์เกาหลีในสิบกว่าปีนี้ มีการพัฒนาทั้ง Production, บทร่วมสมัยและเชิดชูคุณค่าสมัยใหม่, เนื้อหามีความหลากหลายมากขึ้น
(ยกเว้นเรื่อง LGTB) ซึ่งดิฉันมองว่าละครไทย หนังไทย ต้องเอาตัวเองออกจากกรอบวัฒนธรรมไทยและพุทธแบบไทยๆบ้าง
- คุณภาพนักแสดง ศิลปิน ที่เกาหลีเขาจริงจังมากในการฝึกฝนก่อนที่จะปล่อยออกมาให้ผู้ชม
- แต่ก่อนคนไทยชอบดูถูกซีรีย์และศิลปินเกาหลี แต่ตอนนี้เขานำไปไกลมาก หนังเกาหลีก็เริ่มไปฮอลลี้วู้ดบ้างแล้ว
หรือวงบอยแบนด์ที่ชอบโดนผู้ชายไทยแขวะติ่งอย่างเราๆ แต่คุณขาวง BTS ขึ้นบิลบอร์ดมาแล้วนะคะ
และไม่อยากจะเชื่อว่าสามารถจัดคอนเสิร์ตในฝั่งยุโรปในระดับอารีน่าจุคน 10-20,000 คนแล้ว
ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าซีรีย์เกาหลี เพลงเกาหลีดีทุกชิ้นนะ เน่าๆก็มี
แต่พูดในภาพรวม ดิฉันเองไม่เชื่อว่ามันเป็นเพราะฝีมือของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ต้องการส่งออกเพียงอย่างเดียว
เพราะลองคิดถึงบ้านเรา ต่อให้วงการเบิงไทยได้รับความสนับสนุบจากภาครัฐ
แต่ถ้ากลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนยังเป็นพวกผู้ผลิตหน้าเดิมๆ ดิฉันว่าเสียดายเงินภาษี อย่าเลย
เพราะผลงานในปัจจุบันที่บ่งบอกแล้วว่าเกินครึ่งมันเน่า
ดิฉันก็แปลกใจว่าบ้านเราไม่มีคนเก่ง หรือ มีแต่คนเก่งไม่มีพื้นที่กันแน่?
ดิฉันอยากให้ละครไทย หนังไทยได้รับความนิยม เพราะความนิยมนี้จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่
เมื่อละครไทย/หนังไทย ดังพลงไทยก็มีโอกาสจะได้รับความนิยมไปด้วย
และแน่นอนศิลปินไทยก็เกิดรายได้ ไหนจะนำไปสู่การเรียนรู้วัฒนธรรม อาทิ ภาษาไทย
อาหารไทย และการท่องเที่ยวไทย นี่คือผลลูกโซ่ขนานใหญ่ที่จะสร้างผลประโยชน์ให้กับชาติไทย
เคยสังเกตไหมคะ คลิปเพลงไทยในยูทูปยอดวิวมหาศาลมากๆ แต่ทำไมอุตสาหกรรมเพลงเรากำลังตายลงเรื่อยๆ?
ไปดูเพลงของศิลปินเกาหลีบางวงยังไม่เท่าไทยด้วยซ้ำ แต่กลับทำเงินมหาศาล
มันเป็นเพราะบ้านเราไม่มีกำลังซื้อ การบริโภคภายในบ้านเรามันยังต่ำ ดังนั้นการส่งออกอุตสาหกรรมบันเทิงไทย
ไปต่างประเทศ จะเป็นการสนับสนุบศิลปินไทยให้ขยายตลาดได้ด้วย
ดิฉันหวังว่าเมื่อถูกเพื่อนต่างชาติถามว่า ช่วยแนะนำหนังไทย/ละครไทยเรื่องอื่นให้หน่อย
แล้วดิฉันจะสามารถตอบได้อย่างกระตือรือร้นว่า "เธอมีเวลาฟังสักสองชั่วโมงไหมล่ะ"
กระแสละครไทย เพลงไทย ในต่างประเทศ หรือ T-wind คงมาได้แค่นี้? สู้ฝั่งเกาหลีไม่ได้เลย?
ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ติดตามวงการบันเทิงเกาหลีมาเกือบยี่สิบปี
(แต่ K-pop พึ่งมาตามจริงจังไม่นาน)
และติดตามกระแสความโด่งดังของละครไทย/หนังไทยที่ต่างประเทศมาเป็นสิบปี
ไม่นานนี้ละครไทยอย่างบุพเพก็สร้างความฮือฮาได้รับความนิยมจากชาวเน็ตจีนไม่น้อย
หรือหนังไทยอย่าง Bad Genius ก็ทำสถิติโกยรายได้สูงสุดของหนังไทยในจีน
แต่ใช่ว่ากระแสละครไทยจะไม่เคยดังมาก่อน ดิฉันจำได้ว่าเราเคยดีใจกับละครเลือดขัตติยา
ที่นำพาพี่ติ๊กให้ไปเป็นที่รู้จักต่อสาวๆชาวจีนมาแล้ว หรือรักแห่งสยามหนังแจ้งเกิดแบบพลุแตก
ให้กับมาริโอ้ และพิช ทั้งๆที่หนังไม่เคยได้ไปฉายแบบทางการเลยสักครั้ง
ไหนจะดาราชาย/หญิง อีกนับไม่ถ้วนที่พาเหรดกันไปกอบโกยชื่อเสียง
ไม่ใช่แค่ประเทศจีนยังมีฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียอีกด้วย
จะว่าไปช่วงปีสองปีนี้ละครไทยนอกกระแสอย่างซีรีย์วาย(ชายรักชาย)
ก็สามารถสร้างกลุ่มคนดูระดับนานาชาติเอเชียยันยุโรปให้ติดหนึบได้ (แม้จะกลุ่มเล็กก็เถอะ)
แต่ทำไมกระแสความนิยมในละครไทย หนังไทย หรือเพลงไทย ถึงไปได้เพียงแค่นี้?
ทำไมกระแสดูช่างแผ่วเบาเหมือนลม ที่พัดมาเป็นช่วงๆ ให้ได้สัมผัสถึงบ้างแล้วก็หายไป
สมกับที่เขาขนานนามว่าเป็นกระแส T-Wind ที่ค่อยๆพัดมาไม่หวือหวา
ละครหรือหนังไทยเรื่องใดดัง ก็นำพาให้นักแสดงนำในเรื่องนั้นดังไปด้วย
แต่ทำไม...ถึงไม่สามารถพาผู้ชมให้เข้ามาติดกับละครหรือหนังไทยเรื่องอื่นๆได้?
ทำไมไม่เหมือนตอนที่ฉันดูซีรีย์เกาหลีจบสักเรื่อง แล้วติดเรื่องอื่นต่อจบแล้วเปิดเรื่องใหม่ไม่รู้จบ(มาเป็นสิบปีล่ะ)
เคยเป็นไหมคะที่มีเพื่อนต่างชาติมาบอกคุณว่าชั้นชอบหนังไทยเรื่องนี้มากเลยนะ ช่วยแนะนำหนังไทยเรื่องอื่นๆให้หน่อยสิ
แล้วคุณเกิดอาการ ... นิ่งไประยะนึงเพื่อประมวลผลว่าชั้นควรจะแนะนำเรื่องอะไรดี...และพบว่ามันเป็นเรื่องยากเหลือเกิน
และดิฉันคิดว่าเราน่าจะพอมองเห็นแล้วว่าอะไรคือปัญหาของวงการบันเทิงไทย
1. อย่างที่เกริ่นว่าดิฉันติดตามวงการบันเทิงเกาหลีมานานมากๆ เมื่อยี่สิบปีก่อนได้ดูหนังเกาหลีแนวตลก
แต่ก็รู้สึกว่าไม่ได้ต่างอะไรกับของไทยมากนัก ไม่ได้มีความรู้สึกอยากค้นหาต่อ แต่เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา
ซีรีย์เกาหลีกระแทกใจอย่างจังและเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ติดตามซีรีย์เกาหลีมาเกือบตลอดเลา
2. ตลอดเป็นสิบปีนี้ดิฉันเห็นพัฒนาการของซีรีย์เกาหลี ไม่ใช่แค่ Production ที่พัฒนา
หากแต่คือบทและความหลากหลายของซีรีย์นั้นมีมากขึ้น ยุคนี้ความเจ็บปวดทรมานจากตอนจบของซีรีย์เกาหลี
ที่เรียกได้ว่าเป็นน้ำเน่านั้นไม่ใช่กระแสหลักอีกต่อไป เราได้เห็นซีรีย์เกาหลีตั้งแต่เรื่องรักเจ็บปวด ซีรีย์พีเรียดย้อนยุค
และปัจจุบันดิฉันเห็นซีรีย์เกาหลีหันมาทำแนว "อาชีพ" ในสังคมปัจจุบันมากขึ้น เรียกได้ว่านำเสนอเรื่องราวร่วมสมัย
ให้ความรู้สึกคล้ายกับเนื้อหาทางฝั่งอเมริกา แต่มีไส้ในที่เป็นเอเชีย
ย้อนกลับมาดูละครกระแสหลักบ้านเรา ความหวังดิฉันพุ่งพล่านไปหมดเมื่อบ้านเราประมูลดิจิตอลทีวี
ช่องที่หลากหลายคงนำพามาซึ่งละครที่หลากหลาย แต่ผ่านมาหลายก็อย่างที่เห็นกัน
ไม่มีเนื้อหาอะไรใหม่และหลากหลายเท่าที่ควร
จะมีก็คงต้องบอกว่ากระแสการยอมรับคนรักเพศเดียวกันมากขึ้น
แต่ปะติโถปะติถัง ความใหม่มีแค่นั้นล่ะ ตัวละครเกย์แต่เนื้อเรื่องน้ำเน่าเหมือนเดิม
ดิฉันไม่ได้อยากให้ละครน้ำเน่าไทยมันหายไปนะคะ เปล่าเลย
ดิฉันโอเคที่จะมีมันอยู่นะ บางครั้งก็ชอบดู แต่ที่ต้องการคือความหลากหลายของเนื้อหา
ซึ่งพอพูดไป ก็มักโดนฝั่งวงการบันเทิงตีหน้าหงายว่าก็คนไทยชอบดูแบบนี้
กลายเป็นว่าความผิดคือผู้บริโภค ไม่ใช่ความขี้ขลาดของคนในวงการบันเทิงไทยหรอกหรือ
(ไม่ใช่ว่าละครไทยไม่มีแนวอื่นนะ มี...แต่ยังไม่มากมายพอจะบอกได้ว่าวงการละครไทยมีความหลากหลายแล้ว)
3. นอกจากแนวที่ไม่หลากหลายแล้ว บทละครไทย บทหนังไทย ส่วนมากก็ยังเดิมๆ
ยี่สิบปีสามสิบปีก่อนนวนิยายไทยว่าไง ดิฉันก็ว่าตามนั้น ไร้ซึ่งการพัฒนาร่วมกับคุณค่าสมัยใหม่
ผู้หญิงไทยเป็นยังไงเมื่อก่อน ก็ยังเป็นแบบนั้น ไม่มีความเป็นสตรีนิยม
ฉากข่มขืนยังมีให้เห็นเนืองๆ กะเทยเป็นตัวตลกยังพบได้เป็นส่วนใหญ่
บทผู้ชายขี้แพ้ เมียน้อยเมียหลวง วนเวียนอยู่ตรงนี้
หรือเรื่องจริยธรรม ศีลธรรม ละครไหนจบด้วยการเชิญ ว.วชิรเมธีมาเทศแทบปิดหนี
ทุกอย่างเป็นเรื่องของ "พุทธ" หมดเลย ใช่สิประเทศเรานับถือพุทธถึง 95%
เลยไม่เกิดการสมาทานหรือดัดแปลงคุณค่าศาสนาอื่นๆ หรือปรัชญาอื่นๆเข้ามาในละครเลย
4. Production ไทยส่วนใหญ่ยังไม่ดี อันนี้เห็นได้ง่ายสุด
5. ซีรีย์วายไทยที่ดิฉันเขียนว่าได้รับความนิยมนั้น ก็อยากบอกว่า ไม่น่าใช่เพราะซีรีย์วายไทยมีคุณภาพดีหรอก
แต่เป็นเพราะ "มันหายาก" ด้วยตลาดที่เล็กและสังคมในหลายๆที่ยังไม่เปิดนัก
ก็ทำให้การผลิตซีรีย์พวกนี้ออกมามีน้อย คู่แข่งขันก็น้อยด้วย เลยเป็นข้อได้เปรียบของซีรีย์ไทยที่จะได้รับความนิยม
ดิฉันเป็นพวกบ้าอ่านคอมเม้น ตามอ่านหมดทั้งในยูทูป ในเว็บบอร์ด ทวิตเตอร์ ไปทุกที่ที่นึกออก
รู้ไหมว่าหลายๆคนอยากเรียนภาษาไทย เพราะดูซีรีย์วายนี่แหล่ะ บางคนติดวัฒนธรรมเรียกพี่เรียกน้องจากซีรีย์
แต่ไม่ใช่มีแต่ข้อดี ดิฉันยังชอบอ่านคอมเม้นท์ด่า แม้ไม่เยอะแต่ดิฉันว่ามันจริง อาทิ
..ทำไมถึงมีฉากปล้ำ(ข่มขืน) ทำไมตัวละครพูดเหมือนเป็นเรื่องตลก?
..ทำไมนักแสดงแข็งทื่อขนาดนี้ ถึงจะหน้าตาดีก็เถอะ
..ซีรีย์ไทยบทอ่อนมากเลยนะ แต่เอาเถอะมันฟิน
นี่ตอกย้ำเลยว่าซีรีย์วายไทยได้รับความนิยม เพราะมันไม่มีคู่แข่งเท่าไหร่ไง
6. คุณภาพศิลปินไทย จากข้อ 5. ละครไทยใช้นักแสดงหน้าใหม่เยอะ และโดยมากคุณภาพการแสดงหรือฝีมือห่วย
ดิฉันไม่ชอบเลยที่เราจะปกป้องว่าเรื่องแรกต้องให้อภัย ไม่เลยดิฉันไม่เห็นด้วย
หรืออย่างนักร้องไทย เทียบกับนักร้องเกาหลี เราจะเห็นว่าการฝึกของสองที่ต่างกันมาก
ไม่นานมานี้ดิฉันได้อ่านคุณนัททิว นักร้องไทยที่ได้ไปเดบิ้วที่เกาหลีหลายปีก่อน
ได้ให้สัมภาษณ์ว่าการฝึกและวินัยที่เกาหลีนั้นโหดมากๆ ต่างจากที่ไทยอย่างสิ้นเชิง
ซึ่งดิฉันเห็นด้วยว่านี่เป็นปัญหาของคนไทยในทุกอาชีพเลย คือวินัยและการหยวนๆ
เราถึงได้เห็นผลงานแสนห่วยหลายชิ้นออกมาสู่สาธารณะโดยค่ายใหญ่ๆเอง
ดิฉันขอสรุปสั้นๆตรงนี้อีกครั้งว่า
- ซีรีย์เกาหลีในสิบกว่าปีนี้ มีการพัฒนาทั้ง Production, บทร่วมสมัยและเชิดชูคุณค่าสมัยใหม่, เนื้อหามีความหลากหลายมากขึ้น
(ยกเว้นเรื่อง LGTB) ซึ่งดิฉันมองว่าละครไทย หนังไทย ต้องเอาตัวเองออกจากกรอบวัฒนธรรมไทยและพุทธแบบไทยๆบ้าง
- คุณภาพนักแสดง ศิลปิน ที่เกาหลีเขาจริงจังมากในการฝึกฝนก่อนที่จะปล่อยออกมาให้ผู้ชม
- แต่ก่อนคนไทยชอบดูถูกซีรีย์และศิลปินเกาหลี แต่ตอนนี้เขานำไปไกลมาก หนังเกาหลีก็เริ่มไปฮอลลี้วู้ดบ้างแล้ว
หรือวงบอยแบนด์ที่ชอบโดนผู้ชายไทยแขวะติ่งอย่างเราๆ แต่คุณขาวง BTS ขึ้นบิลบอร์ดมาแล้วนะคะ
และไม่อยากจะเชื่อว่าสามารถจัดคอนเสิร์ตในฝั่งยุโรปในระดับอารีน่าจุคน 10-20,000 คนแล้ว
ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าซีรีย์เกาหลี เพลงเกาหลีดีทุกชิ้นนะ เน่าๆก็มี
แต่พูดในภาพรวม ดิฉันเองไม่เชื่อว่ามันเป็นเพราะฝีมือของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ต้องการส่งออกเพียงอย่างเดียว
เพราะลองคิดถึงบ้านเรา ต่อให้วงการเบิงไทยได้รับความสนับสนุบจากภาครัฐ
แต่ถ้ากลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนยังเป็นพวกผู้ผลิตหน้าเดิมๆ ดิฉันว่าเสียดายเงินภาษี อย่าเลย
เพราะผลงานในปัจจุบันที่บ่งบอกแล้วว่าเกินครึ่งมันเน่า
ดิฉันก็แปลกใจว่าบ้านเราไม่มีคนเก่ง หรือ มีแต่คนเก่งไม่มีพื้นที่กันแน่?
ดิฉันอยากให้ละครไทย หนังไทยได้รับความนิยม เพราะความนิยมนี้จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่
เมื่อละครไทย/หนังไทย ดังพลงไทยก็มีโอกาสจะได้รับความนิยมไปด้วย
และแน่นอนศิลปินไทยก็เกิดรายได้ ไหนจะนำไปสู่การเรียนรู้วัฒนธรรม อาทิ ภาษาไทย
อาหารไทย และการท่องเที่ยวไทย นี่คือผลลูกโซ่ขนานใหญ่ที่จะสร้างผลประโยชน์ให้กับชาติไทย
เคยสังเกตไหมคะ คลิปเพลงไทยในยูทูปยอดวิวมหาศาลมากๆ แต่ทำไมอุตสาหกรรมเพลงเรากำลังตายลงเรื่อยๆ?
ไปดูเพลงของศิลปินเกาหลีบางวงยังไม่เท่าไทยด้วยซ้ำ แต่กลับทำเงินมหาศาล
มันเป็นเพราะบ้านเราไม่มีกำลังซื้อ การบริโภคภายในบ้านเรามันยังต่ำ ดังนั้นการส่งออกอุตสาหกรรมบันเทิงไทย
ไปต่างประเทศ จะเป็นการสนับสนุบศิลปินไทยให้ขยายตลาดได้ด้วย
ดิฉันหวังว่าเมื่อถูกเพื่อนต่างชาติถามว่า ช่วยแนะนำหนังไทย/ละครไทยเรื่องอื่นให้หน่อย
แล้วดิฉันจะสามารถตอบได้อย่างกระตือรือร้นว่า "เธอมีเวลาฟังสักสองชั่วโมงไหมล่ะ"