KTC Cash Back Visa Platinum

ยอดรูดต่ำกว่า 30,000.-  ผลตอบแทนของเงินคืนคือ 0.4%  

30,001 - 80,000 บาท    ผลตอบแทนของเงินคืนคือ 0.6%

***************************************************

ส่วน KTC Visa Platinum

25 บาท ได้ 1 แต้ม
โดยปกติโปรโมชั่นการใช้แต้มมักจะใช้โดยการใช้แต้มเท่าจำนวนการซื้อ และมีส่วนลดอยู่ที่ 10-15%

ถ้าโปรโมชั่นแลกแต้มลดที่ 10% ก็จะได้ผลตอบแทนราวๆ 0.4%
ถ้าโปรโมชั่นแลกแต้มลดที่ 15% ก็จะได้ผลตอบแทนราวๆ 0.6%

หรือถ้าคุณนำ 1000 แต้มไปแลกเป็นเครดิตเงินคืนเลย ก็จะได้ผลตอบแทนราวๆ 0.4% เช่นกัน

ดังนั้นก็จะได้ผลตอบแทนกลับมาในลักษณะส่วนลด ราวๆ 0.4-0.6% ครับ

*****************************************************

ดังนั้นจริงๆ แล้ว ผลตอบแทนไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ครับสำหรับ 2 ใบนี้  
เพียงแค่มีลักษณะของการได้ผลตอบแทนที่ต่างกัน แต่ดีดออกมาเป็นมูลค่าจริงๆแล้วก็ไม่ได้เหลื่อมล้ำกันมากมายครับ

ดูที่ความชอบของคุณเข้าว่าดีกว่า

KTC Visa Platinum  มันจะได้ฟีลลิ่งของความเป็นบัตรเครดิตมากกว่า
คือเก็บออมแต้ม สะสมแต้ม พอได้ประมาณนึงแล้ว ก็จะมีโมเม้นท์แบบ เอาแต้มไปทำอะไรดีนะ
และได้ผลตอบแทนในลักษณะที่เป็นก้อนมากกว่า  เพราะเราใช้เวลาในการสะสมเก็บออมมานาน  

ส่วน

KTC Cash Back Visa Platinum  ก็จะได้ฟีลลิ่งของคนขี้เกียจ ไม่อยากไปวุ่นวายอะไรมาก  
มีผลตอบแทนจะคืนให้ฉันก็คืนๆ มาเลย คืนทุกยอด ไม่ต้องมานั่งสะสมอะไรทั้งนั้น
ซื้อน้ำเปล่าขวดนึง 10 บาท  รูดเสร็จเดือนถัดไปก็ได้เงินคืนเลย 4 สตางค์
แต่บางคนก็จะไม่ชอบ เพราะ บางทีมันดูเป็นเบี้ยหัวแตก คือเงินคืนมาทุกเดือนจริง แต่ยอดรูดน่ะมากกว่าอยู่แล้ว
พอหักล้างยอดกันไป บางทีผลตอบแทนมันก็ดูกระจัดกระจายกว่า มักจะไม่ได้เป็นก้อนใหญ่ๆ หรือเห็นเป็นรูปธรรมเหมือนบัตรสะสมแต้ม
ทั้งที่จริงแล้วผลตอบแทนก็เท่าๆ กัน

**********************************************************************************************
ปกติผมเป็นสายแคชแบ็คจ๋าเลย แต่ถ้าผลตอบแทนพอๆกันแบบนี้ ผมว่าสะสมแต้มมันก็ได้ฟีลลิ่งดีนะครับ ออกวินเทจหน่อยๆ 555
**********************************************************************************************


สุดท้ายก็อยู่ที่ความชอบของคุณครับ