หลายคนอาจสงสัยว่า VISA vs MasterCard แบบไหนจะดีสำหรับคุณ และเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น สำหรับบัตรประเภทวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด อาจจะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าเมื่อต้องตัดสินใจระหว่างบัตรวีซ่ากับมาสเตอร์การ์ด คนส่วนใหญ่ก็มักจะให้ความสนใจมากขึ้นว่า ธนาคารผู้ออกบัตรจะนำเสนอบัตรเครดิตประเภทไหนให้ หรือบัตรแต่ละประเภทมีสิทธิประโยชน์อย่างไร เช่น Cash back หรือผ่อนชำระ 0% เป็นต้น
VISA และ MasterCard คืออะไร
วีซ่าและมาสเตอร์การ์ดไม่ได้เป็นผู้ออกบัตรเครดิตโดยตรง แต่เป็นตัวกลางในการชำระเงิน และดำเนินการระหว่าง ร้านค้า กับ สถาบันการเงิน ซึ่งสถาบันการเงินจะมีสองส่วน คือ สถาบันการเงินที่ออกบัตร และสถาบันการเงินเจ้าของเครื่องรูดชำระที่ติดตั้งในร้านค้า โดยทั้งวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดนั้น มีเครือข่ายอยู่ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งได้รับการยอมรับจากสากลว่าเป็นระบบที่ worldwide มากที่สุด
นอกจากวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดแล้ว ยังมีผู้ให้บริการรายอื่น ๆ อีก เช่น American Express, JCB, UNION PAY เป็นต้น ถ้าถามถึงความนิยมในการใช้งานของบัตรทั้งสองแบบ ต้องบอกว่าพอกันๆ แต่อาจจะค่อนไปทางบัตรวีซ่ามากกว่า เพราะมีเครือข่ายการให้บริการมากกว่า 29 ล้านร้านค้า และมีตู้ ATM ที่ใช้ในการถอนเงินสดมากกว่า 200 ประเทศ ทั่วโลก นิยมใช้กันในโซนเอเซีย และอเมริกา ในขณะที่บัตรมาสเตอร์การ์ดนั้นก็มีเครือข่ายการให้บริการมากถึง 30 ล้านร้านค้า และตู้ ATM มากกว่า 200 ประเทศ ทั่วโลกเช่นกัน แต่จะนิยมใช้ในโซนยุโรปซะมากกว่า ถึงแม้ว่าบัตรทั้งสองประเภทจะนิยมใช้ในพื้นที่ที่ต่างกัน แต่ในความแตกต่างก็ยังมีความเหมือนกันคือ สิทธิประโยชน์ที่ผู้ถือบัตรจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดตามร้านค้าต่างๆ และความคุ้มครองอุบัติเหตุเมื่อผู้ถือบัตรฯ เดินทางไปต่างประเทศ เป็นต้นไม่ว่าจะเป็นบัตรจากค่ายไหน แทบไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้สมัคร ซึ่งมีความแตกต่างกันเพียงโปรโมชั่นของบัตรแต่ละค่ายเท่านั้นเอง โดยในประเทศไทยบัตรที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุด ได้แก่ บัตร VISA, MasterCard และ JCB ตามลำดับ (แต่ในต่างประเทศ บัตรที่ได้รับความนิยมและยอมรับบัตรอย่างกว้างขวาง ได้แก่ VISA , MasterCard และสำหรับบัตร American Express, Discover, Diner’s Club, UnionPay และ JCB จะมีการใช้งานเฉพาะกลุ่มประเทศนั้นๆ มากกว่า) การมีบริษัทเครือข่ายรับชำระเงินเหล่านี้ ทำให้เราสามารถใช้จ่ายเงินทั้งในประเทศ และใช้จ่ายเงินในสกุลเงินต่างประเทศได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น ทั้งนี้ควรพิจารณาถึงคุณสมบัติ และโอกาสที่จะได้ใช้บัตรประเภทนั้นๆ และระมัดระวังการใช้จ่ายทุกครั้ง ทั้งในและต่างประเทศเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการไม่คาดฝันขึ้นค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก MoneyDuck ค่ะ อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้
VISA และ Master Card คืออะไร? | MoneyDuck Thailand
VISA และ Master Card คืออะไร? ขอแบ่งปันข้อสงสัยนี้ให้เพื่อนๆค่ะ
VISA และ MasterCard คืออะไร
วีซ่าและมาสเตอร์การ์ดไม่ได้เป็นผู้ออกบัตรเครดิตโดยตรง แต่เป็นตัวกลางในการชำระเงิน และดำเนินการระหว่าง ร้านค้า กับ สถาบันการเงิน ซึ่งสถาบันการเงินจะมีสองส่วน คือ สถาบันการเงินที่ออกบัตร และสถาบันการเงินเจ้าของเครื่องรูดชำระที่ติดตั้งในร้านค้า โดยทั้งวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดนั้น มีเครือข่ายอยู่ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งได้รับการยอมรับจากสากลว่าเป็นระบบที่ worldwide มากที่สุด
นอกจากวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดแล้ว ยังมีผู้ให้บริการรายอื่น ๆ อีก เช่น American Express, JCB, UNION PAY เป็นต้น ถ้าถามถึงความนิยมในการใช้งานของบัตรทั้งสองแบบ ต้องบอกว่าพอกันๆ แต่อาจจะค่อนไปทางบัตรวีซ่ามากกว่า เพราะมีเครือข่ายการให้บริการมากกว่า 29 ล้านร้านค้า และมีตู้ ATM ที่ใช้ในการถอนเงินสดมากกว่า 200 ประเทศ ทั่วโลก นิยมใช้กันในโซนเอเซีย และอเมริกา ในขณะที่บัตรมาสเตอร์การ์ดนั้นก็มีเครือข่ายการให้บริการมากถึง 30 ล้านร้านค้า และตู้ ATM มากกว่า 200 ประเทศ ทั่วโลกเช่นกัน แต่จะนิยมใช้ในโซนยุโรปซะมากกว่า ถึงแม้ว่าบัตรทั้งสองประเภทจะนิยมใช้ในพื้นที่ที่ต่างกัน แต่ในความแตกต่างก็ยังมีความเหมือนกันคือ สิทธิประโยชน์ที่ผู้ถือบัตรจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดตามร้านค้าต่างๆ และความคุ้มครองอุบัติเหตุเมื่อผู้ถือบัตรฯ เดินทางไปต่างประเทศ เป็นต้นไม่ว่าจะเป็นบัตรจากค่ายไหน แทบไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้สมัคร ซึ่งมีความแตกต่างกันเพียงโปรโมชั่นของบัตรแต่ละค่ายเท่านั้นเอง โดยในประเทศไทยบัตรที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุด ได้แก่ บัตร VISA, MasterCard และ JCB ตามลำดับ (แต่ในต่างประเทศ บัตรที่ได้รับความนิยมและยอมรับบัตรอย่างกว้างขวาง ได้แก่ VISA , MasterCard และสำหรับบัตร American Express, Discover, Diner’s Club, UnionPay และ JCB จะมีการใช้งานเฉพาะกลุ่มประเทศนั้นๆ มากกว่า) การมีบริษัทเครือข่ายรับชำระเงินเหล่านี้ ทำให้เราสามารถใช้จ่ายเงินทั้งในประเทศ และใช้จ่ายเงินในสกุลเงินต่างประเทศได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น ทั้งนี้ควรพิจารณาถึงคุณสมบัติ และโอกาสที่จะได้ใช้บัตรประเภทนั้นๆ และระมัดระวังการใช้จ่ายทุกครั้ง ทั้งในและต่างประเทศเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการไม่คาดฝันขึ้นค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก MoneyDuck ค่ะ อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้
VISA และ Master Card คืออะไร? | MoneyDuck Thailand