กระทู้รีวิวก่อนหน้านี้
[CR]รีวิว ตามรอยหนัง Call Me By Your Name ที่ Italy ครั้งแรกและที่สุดของพลังความติ่ง++
https://ppantip.com/topic/37652219

จากที่หลายๆแรงชมจากกระทู้ตามรอย Call Me By Your Name ที่ Italy นั่นก็ทำให้เขินนิดนึง 55+
ด้วยความที่ไปอยู่เบอร์ลินมาค่อนเดือน ก็ถ่ายรูปไว้เยอะมากเหมือนกัน ไปมาก็หลายรอบ ก็เที่ยวที่เดิมๆซ้ำไปซ้ำมาทุกรอบ
แต่รอบนี้มี หนึ่งวันที่แตกต่างไปเลย เพราะความเด๋อล้วนๆ และเท่าที่ดูไม่ค่อยมีกระทู้รีวิว Berlin เท่าไหร่
ก็คิดว่ากระทู้นี้น่าจะมีอะไรแตกต่างไปบ้าง ไม่มากก็น้อยครับ
ตกบ่ายวันที่ 1 พฤษภาคม ที่รู้กันคือเป็นวันแรงงาน ที่ทั่วโลกต่างหยุดกัน เมืองเบอร์ลินก็เช่นกัน ห้างร้านต่างๆปิดหมด!!!
ความอยากจะออกไปถ่ายรูปเหลือเกิน ก็เลยทิ้งน้องชายให้อยู่กับลูกสาวตัวแสบของนางที่บ้าน
และเราเอเชียตัวเล็ก จึงสะพายกล้อง กดตั๋ววัน หรือ Tageskarte ราคา 7ยูโร

โดดขึ้น U7 จาก Berliner Starßen ไปต่อ U2 แล้วไปลงที่สถานี Kaiserdamm

พอถึง Kaiserdamm เดินขึ้นมาด้านบนและเดินย้อนลงใต้ไปทาง Berlin Messe

เราก็จะเจอกับ International Congress Center ICC Berlin

แต่ ICC Berlin ไม่ใช่จุดหมายแรกของเรา จุดหมายแรกของเรานั้น ต้องลงทางลอดแยกนี้ไป


สิ่งที่เรามาตามหาคือ ทางลอดในตำนาน หนึ่งในฉากสำคัญ The Hunger Games: Mockingjay Part 2 นั่นเอง!!

เอาหล่ะพอหอมปากหอมคอ ก็ขึ้นมาเก็บภาพด้านบนไว้นิดหน่อย

Messe Berlin Halle 15 ทางเข้าด้านเหนือ หรือ Funkturm Eingang

International Congress Center ICC Berlin ถ่ายจากฝั่ง Messe Berlin Halle 15
เห็นดีไซน์เท่ๆแบบนี้ เปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 1979 แล้วนะครับ

หลังจากเก็บบริเวน ICC Berlin เป็นที่พอใจ ก็เดินกลับไปที่ U-Bahn Kaiserdamm
เพื่อนั่ง U2 ยาวๆข้ามเมืองจากฝั่งตะวันตกไปลง U Bahnhof Alexanderplatz ฝั่งตะวันออก


ขึ้นทางด้านบนเราก็เดินไปหา Landmark แรกของที่นี่เลย มา5-6ครั้งไม่เคยจะถึงสักที ครั้งนี้มาถึงแล้ว
Weltzeituhr หรือ World Time Clock นั่นเอง

เดินออกซ้ายไปราวๆ 100เมตร เราก็จะเจอ Brunnen der Völkerfreundschaft

เสร็จแล้วเราก็เดินย้อนกลับไปทาง Berliner Fernsehturm

เดินผ่านไปทางด้าน Rotes Rathaus เพื่อข้ามฝั่งแม่น้ำ Spree ไปยัง Berliner Dom

เมื่อถึง Berliner Dom ซึ่ง Lustgarten วันนี้คนออกมานั่งเล่นกันเยอะมากๆ ปกติของคนเบอร์ลิน

วันหยุดที่แดดแรงๆ อากาศ 19-21c คนที่นี่จะชอบมานั่งเล่น พักผ่อนกันเยอะมากจริงๆ

พอเห็นคนเยอะๆก็เริ่มเวียนหัว เดินย้อนกลับไปที่ สถานี S-Bahn Alexanderplatz
เราก็จะผ่าน โบสถ์ St. Marienkirche และ Berliner Fernsehturm อีกรอบ

หักกล้องไปทางขวามือก่อนข้ามแยกไปฝั่งโบสถ์ St. Marienkirche ก็จะเป็นภาพกว้างของ Rotes Rathaus
ซึ่งช่วงนี้ ถนนด้านหน้า Rotes Rathaus มีแผงเหล็กกัน เห็นว่ากำลังขุดอุโมงค์รถไฟใต้ดินส่วนต่อขยายอยู่ครับ

หลังจากนั้นก็นั่ง S-Bahn จากสถานี Alexanderplatz มายัง Berlin Warschauer Straße เพื่อจะไปยัง East Side Gallery
ซึ่งสิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อลงมายังสถานี Berlin Warschauer Straße และเดินไปทาง สะพาน Oberbaumbrücke
คนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก........

ด้วยความเด๋อที่ใจจะไป East Side Gallery ที่เคยมาแล้ว 3-4รอบ พอเจอคนเยอะเท่านั้นแหละครับ ลืม East Side Gallery ไปเลย
เดินตามๆฝรั่งกันยาวๆไปเลย 55555 จุดพีคอยู่ตรงนี้ครับ


บู๊ท DJ ตึ๊ดมากๆๆ ก่อนข้าม สะพาน Oberbaumbrücke


หลังจากเดินข้าม สะพาน Oberbaumbrücke ตำรวจปิดสะพาน ปิดถนน เพื่อให้ทุกคนในเมืองมาฉลองวันแรงกันครับ
ย่านนี้จะเป็นย่านชื่อดังของที่เบอร์ลินเลย คือย่าน Kreuzberg ย่านฮิปๆของคนเบอร์ลินจริงๆครับ



หลังจากเดินชม เดินชนผู้คน มารู้ตัวอีกที ขวดสีน้ำตาลขุ่นๆก็อยู่ในมือแล้วครับ(งดภาพประกอบนะครับ 555)
คนเบอร์ลิน นี่จริงจังกับงานดื้ม ฉลองแบบนี้มากๆครับ บู๊ท DJ มีทุกๆ 10-20เมตร ตลอดทางที่เดินเลยจริงๆครับ


เด็กๆ เองก็มาเดินเล่นกับผู้ใหญ่ที่โซน Kreuzberg บางทีเราก็จะเจอเด็กเล็กๆ แบบขวบ 2ขวบ มากับผู้ปกครองที่มาเดินเล่นก็มีครับ

วัยรุ่นก็เยอะมากเช่นกัน

เดินตามแนว U Bahn มาเรื่อยๆ มารู้อีกทีก็เป็นเวลาชั่วโมงกว่าๆครับ ดูจาก Google Maps คือเดินราวๆ 5 กิโลเมตรได้ครับ
จาก สะพาน Oberbaumbrücke ถึง สถานี Hallesches Tor

เดินเพลินๆ ลมควันครุ้งๆ เหมือนเบิกเนตรแบบสุดๆ ไม่คิดว่าคนเมืองนี้จริงจังกับปาร์ตี้ วันหยุดแบบสุดๆขนาดนี้
คือปิดย่าน Kreuzberg ปาร์ติ้(ขอใช้คำนี้นะครับ จริงๆคือแรงกว่าปาร์ตี้มากครับ 555) ปิดทั้งย่าน เกือบๆครึ่งเมืองก็ว่าได้ครับ
จริงๆมีรูปอีกมากครับ แต่ไม่สามารถเอาลงได้ เพราะมันเป็นประสบการณ์ที่พูดได้เลยว่า ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนจริงๆ 5555
สุดท้ายก็มาถึงสถานี Hallesches Tor ก็นั่ง U-Bahn กลับไปพักที่บ้านครับ
โซนนี้รถไฟแอบมีกลิ่นแบบ MTA ที่ New York เหมือนกันนะครับ คือรถใต้ดิน ขึ้นมาวิ่งบนรางยกเหนือดิน

ยังไม่จบแต่นี้ครับเพราะวันนี้เรากดตั๋ววันแล้ว เสีย 7ยูโรแล้วต้องเอาให้คุ้ม!!!
รอหลังสามทุ่ม จนแสงหมดก็ได้เวลาหิ้วกล้องออกจากบ้านไป Landmark สำคัญครับ ปกติจะไปเดินแต่กลางวัน
ครั้งนี้ขอเปลี่ยนมุมมองบ้าง
นั่ง U-Bahn ต่อ S-Bahn มาลงสถานี Brandenburger Tor ครับ

ขึ้นจากสถานีมาเราก็จะเจอภาพนี้ครับ  
Brandenburger Tor กลางคืนคนน้อยมากครับ

ให้ดูช่วงกลางวันครับ โอ้โห.....คนละเรื่องเลย (รูปนี้ถ่ายด้วย Gopro ครับ)

มามุมกลางคืนมันสวยมากจริงๆสมคำล่ำลือครับ มาเบอร์ลินก็หลายครั้ง มาโซนนี้แต่กลางวันตลอดครับ
พอได้มาช่วงกลางคืนแล้วเทใจให้เลยจริงๆครับ


หลังจากนั้นก็เดินลอด Brandenburger Tor
ออกไปทางขวามือ เพื่อมาหาพี่โดมของเราครับ Reichstagsgebäude
แอบถ่ายรูปยากนิดหน่อยครับ เพราะไม่ได้เอาขากล้องไปครับ

ที่นี่เปิดถึงเที่ยงคืนครับ ใครจะขึ้นไปบนโดมต้องลงชื่อผ่านอินเตอร์เนตล่วงหน้าครับ รอบสุดท้ายที่ขึ้นได้คือ 3ทุ่ม
ผมมา 5-6 รอบแล้ว ไม่เคยได้ขึ้นสักทีครับ 5555 เอาไว้เดี๋ยวคราวหน้ามาขึ้นใหม่ /พูดแบบนี้ทุกครั้งที่มาจริงๆ


ระหว่างเดินจาก Reichstagsgebäude ไป Berlin Hauptbahnhof หรือสถานีรถไฟกลาง กรุงเบอร์ลิน
ก็จะผ่าน Paul-Löbe-House หรือ Houses offices for the Bundestag’s parliamentary committees.  
อาคารสำนักงานคณะกรรมรัฐสภา อะไรนี่หล่ะครับผมก็แปลไม่ค่อยถูก

เป็นอีกอาคารที่เท่มากครับ เปิดไฟแบบไม่กลัวเปลืองเลยจริงๆ 555


และขอปิดท้ายวันด้วย ภายในสภานีรถไฟกลาง กรุงเบอร์ลินครับ
ด้านนอกมืดมากถ่ายรูปมาขี้เหล่มากครับ 555


สุดท้ายนี้ขอบคุณที่ติดตามอ่านกระทู้ยาวๆมาจนจบนะครับ
ผืดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ แนะนำติชมได้เลยนะครับ ด่าได้ครับแต่อย่าแรงนะ เค้าบอบบาง 555+
ขอบคุณที่ติดตามกันตั้งแต่กระทู้ตามรอย Call Me By Your Name เลยนะครับ

*บางรูปก็ถ่ายผ่าน Canon 70D บ้าง Sony Xperia XZs บ้าง ครับปนๆกันไป และแต่งผ่าน Lightroom ครับ