เบื่อวันหยุดยาวทีไร คนเต็มทุกที่ทั้งภูเขา และนำตก วันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมาเลยวางแผนไปดอยไกลๆที่ไม่คอยมีใครไป อ่านเจอในpantip เห็นมีบางคน
ไปดอยพุ่ยโค จากภาพสวยดีน่าจะมีคนน้อย ยืมภาพเค้ามาอยากเห็นทะเลหมอกแบบนี้บ้าง
หนึ่งสัปดาห์ก่อนปีใหม่ตัดสินใจสั่งเต้นท์ทาง Lazada สุดท้ายเต้นท์ก็มาไม่ทันคืนวันก่อนไปเลยต้องไปค้นเต้นท์บิ๊กซีหลังเก่าเอามาลองกางดู แก้ขัดไปก่อน
เช้าวันเดินทางออกจากบ้านเจ็ดโมงเช้า ขี่มอไซค์ไปกับมหาชน จำนวนมหาศาลเหมือนทุกคนจะต้องออกจากกรุงเทพ แต่ก็ยังทำความเร็วได้ บรรยากาศ
หนาวปนฝน เที่ยงๆมาถึงแม่สอดทำเวลาได้ดี แต่ต้องแวะบ่อยหน่อยใช้CRF250 ถังนำ้มัน มันเล็ก เจอนักเดินทางมากมาย ส่วนใหญ่มีรอยยิ้มให้กันเสมอ
เดินทางจากแม่สอดขึ้นเหนือไปบนถนนสาย 105 ที่ตอนนี้เพิ่งทำเสร็จใหม่ถนนกว้างขึ้นกว่าเดิม เรียบกริ๊บอยากให้เพื่อนๆได้มาลอง ผมว่ามันสวยไม่แพ้เส้นไหนในเมืองไทย อันนี้ภาพเก่าเมื่อปีที่แล้ว เลอะหน่อยเพิ่งออกมาจากอมก๋อย มีนำตกอยู่ข้างทางด้วย
ข้อเสียของถนนเส้นนี้คือไม่มีไฟทาง ขี่รถตอนกลางคืนค่อนข้างอันตราย แถมติดชายแดนพม่ายาวๆอีก และปั๊มนำมันไม่ค่อยจะมีต้องวางแผนดีๆ สำหรับรถที่ถังนำมันเล็กๆ ยิ่งเวลาปวดท้องหนักนี้ผมต้องอาศัย ที่ว่าการอำเภอซึ่งด้านหลังจะมีห้องนำที่สะอาดอยู่ทุกอำเภอแทนห้องนำปั๊ม
ประมาญบ่ายสามก็ขี่มาถึงทางเข้า ซึ่งต้องเข้าไปอีกประมาญ 8 กิโล จึงจะถึงบ้านอุมดาเป็นหมู่บ้านก่อนถึงดอยพุ่ยโค
ช่วงแรกเป็นทางปูนประมาณสองกิโล หลังจากนั้นทางลูกรัง ชันพอสมควรถ้าฝนตกมีเหนื่อยแน่นอน ในวันหยุดยาวทางชุมชนจัดเต้นท์มาตั้งตรงทางขึ้นบริการนักท่องเที่ยว เราต้องจอดรถตรงจุดนี้ จากการสอบถามพี่ๆที่เฝ้าอยู่ เค้าบอกไม่ต้องเป็นห่วงมีเวรยามนอนเฝ้าให้
และที่จุดนี้ยังมีบริการ ลูกหาบ คิดค่าบริการ 400 ต่อคน เป็นน้องๆนักเรียนมาหารายได้ ผมว่าก็ดีนะเพราะ 800 เมตร ฟังดูเหมือนไม่ไกลแต่ทางมันชันและก็ลื่นมากๆ ให้น้องๆเค้าช่วยถือของขึ้นไปแหละดีแล้ว แถมน้องเค้ายังคอยแนะนำเรื่องต่างๆและยังอยู่เป็นเพื่อนเราด้านบนทั้งคืน ไม่มีเหงาแน่นอน
เริ่มเดินทางเป็นบรรไดแบบง่ายๆ มีราวให้เกาะด้วยเดินสบาย สักพักน้องเริ่มเดินทิ่งระยะไกลออกไป น้องมันเดินเร็วรึเราช้าวุ้ย น้องที่มาเป็นลูกหาบ
ชื่อน้องรุ่ง เป็นลูกชาวบ้านแถวนั้นแหละ เดินมาสักพักก็จะมีศาลาให้หยุดพัก แต่พอเราเดินไปถึง น้องรุ่งหายเหนื่อยและออกเดินต่อ ไม่สงสารพี่เลยไอ้น้องเอ้ย
จากตรงนี้มองเห็นยอดดอยแล้ว มีหมอกปกคลุมสงสัยมารอบนี้คงไม่เห็นอะไรแน่ แต่เดินมาถึงตรงนี้แล้วก้ต้องไปต่อ ไปรอเฝื่อหมอกจะจางลงบ้าง จากตรงนี้ขึ้นไปทางเริ่มชันขึ้น แถมอากาศชื้นทำให้พื้นลื่นอีก ขนาดเดินตัวเปล่ายังลื่นไปสองที
หลังจากหยุดพักเป็นระยะในที่สุดก้ถึงยอด มองไม่เห็นวิวอะไรเลยมีแต่หมอกลอยฟุ้ง แต่ดีอยู่อย่างข้างบนมีคนกางเต้นท์ไม่ถึงสิบเต้นท์ ไม่แออัดดี
น้องรุ่งพาไปหาที่กางเต้นท์ บางจุดลมแรงไม่ควรกาง และบางจุดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ควรสอบถามเจ้าถิ่นก่อนกางเต้นท์นะครับ ไปเที่ยวที่ไหนควรให้ความเคารพสถานที่ด้วย ช่วยๆกันทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวดี เดินไปอีกนิดมีที่เหมาะๆข้างๆเต้นท์ไอ้หนุ่มผมยาว ขออนุญาติกางเต้นท์พร้อมพูดคุยทักทายกัน มิตรภาพของนักเดินทางมีอยู่ทุกที่ ได้ความว่าขี่มอเตอร์ไซค์มาจากนวนครมานอนนี้ สองคืนแล้วยังไม่เห็นทะเลหมอกเลยตั่งใจจะรอดูอีกคืน
ด้านบนไม่มีร้านค้านะครับทุกสิ่งต้องขนขึ้นมา ส่วนกระป๋องในภาพเป็นนำใจจากเต้นท์ข้างๆ ขอบคุณน้องผมยาวเป็นอย่าสูง หายเหนื่อยเลย
เมนูง่ายๆวันนี้ก็ง่ายๆ ย่างหมูกินแกลมกับเบียร เคล้ากับอากาศหนาวๆ รอดูพรุ่งนี้จะได้ดูทะเลหมอกมั้ย ข้างบนนี้มีสัญญาน ทรู อ่อนๆพอได้นิดหน่อย
และเมื่อตื่นเช้ามา มีเสียเหมือนคนมาผิงไฟ ไกล้ๆเต้นท์ พอโผล่หน้าออกมา ก็ผิดหวังหมอกเต็มๆเหมือนเดิม ไม่เป็นไรถือซะว่ามาเอาบรรยากาศดีๆ
เมนูเช้านี้ง่ายๆ รุ่งมาต้มนำ้ร้อนไว้ให้อยู่แล้ว ถึงเวลาเดินทางกลับรุ่งมาช่วยเก็บเต้นท์ เป็น400บาทที่คุ้มมากน้องเค้าต้องไปเดินหาฟืนมาก่อกองไฟให้เรา
แถบต้องอยู่เป็นเพื่อนตลอดไม่ได้ทิ้งไปไหน
และเมื่อขี่รถลงมาประมาณกิโลนึง พอพ้นแนวหมอกที่ปกคลุมยอดดอย ก็เจอกับทะเลหมอกสวยๆ
พักสักครู่ครับเดียวมาต่อ
[CR] ดอยพุ่ยโค 800 แม้ว
ไปดอยพุ่ยโค จากภาพสวยดีน่าจะมีคนน้อย ยืมภาพเค้ามาอยากเห็นทะเลหมอกแบบนี้บ้าง
หนึ่งสัปดาห์ก่อนปีใหม่ตัดสินใจสั่งเต้นท์ทาง Lazada สุดท้ายเต้นท์ก็มาไม่ทันคืนวันก่อนไปเลยต้องไปค้นเต้นท์บิ๊กซีหลังเก่าเอามาลองกางดู แก้ขัดไปก่อน
เช้าวันเดินทางออกจากบ้านเจ็ดโมงเช้า ขี่มอไซค์ไปกับมหาชน จำนวนมหาศาลเหมือนทุกคนจะต้องออกจากกรุงเทพ แต่ก็ยังทำความเร็วได้ บรรยากาศ
หนาวปนฝน เที่ยงๆมาถึงแม่สอดทำเวลาได้ดี แต่ต้องแวะบ่อยหน่อยใช้CRF250 ถังนำ้มัน มันเล็ก เจอนักเดินทางมากมาย ส่วนใหญ่มีรอยยิ้มให้กันเสมอ
เดินทางจากแม่สอดขึ้นเหนือไปบนถนนสาย 105 ที่ตอนนี้เพิ่งทำเสร็จใหม่ถนนกว้างขึ้นกว่าเดิม เรียบกริ๊บอยากให้เพื่อนๆได้มาลอง ผมว่ามันสวยไม่แพ้เส้นไหนในเมืองไทย อันนี้ภาพเก่าเมื่อปีที่แล้ว เลอะหน่อยเพิ่งออกมาจากอมก๋อย มีนำตกอยู่ข้างทางด้วย
ข้อเสียของถนนเส้นนี้คือไม่มีไฟทาง ขี่รถตอนกลางคืนค่อนข้างอันตราย แถมติดชายแดนพม่ายาวๆอีก และปั๊มนำมันไม่ค่อยจะมีต้องวางแผนดีๆ สำหรับรถที่ถังนำมันเล็กๆ ยิ่งเวลาปวดท้องหนักนี้ผมต้องอาศัย ที่ว่าการอำเภอซึ่งด้านหลังจะมีห้องนำที่สะอาดอยู่ทุกอำเภอแทนห้องนำปั๊ม
ประมาญบ่ายสามก็ขี่มาถึงทางเข้า ซึ่งต้องเข้าไปอีกประมาญ 8 กิโล จึงจะถึงบ้านอุมดาเป็นหมู่บ้านก่อนถึงดอยพุ่ยโค
ช่วงแรกเป็นทางปูนประมาณสองกิโล หลังจากนั้นทางลูกรัง ชันพอสมควรถ้าฝนตกมีเหนื่อยแน่นอน ในวันหยุดยาวทางชุมชนจัดเต้นท์มาตั้งตรงทางขึ้นบริการนักท่องเที่ยว เราต้องจอดรถตรงจุดนี้ จากการสอบถามพี่ๆที่เฝ้าอยู่ เค้าบอกไม่ต้องเป็นห่วงมีเวรยามนอนเฝ้าให้
และที่จุดนี้ยังมีบริการ ลูกหาบ คิดค่าบริการ 400 ต่อคน เป็นน้องๆนักเรียนมาหารายได้ ผมว่าก็ดีนะเพราะ 800 เมตร ฟังดูเหมือนไม่ไกลแต่ทางมันชันและก็ลื่นมากๆ ให้น้องๆเค้าช่วยถือของขึ้นไปแหละดีแล้ว แถมน้องเค้ายังคอยแนะนำเรื่องต่างๆและยังอยู่เป็นเพื่อนเราด้านบนทั้งคืน ไม่มีเหงาแน่นอน
เริ่มเดินทางเป็นบรรไดแบบง่ายๆ มีราวให้เกาะด้วยเดินสบาย สักพักน้องเริ่มเดินทิ่งระยะไกลออกไป น้องมันเดินเร็วรึเราช้าวุ้ย น้องที่มาเป็นลูกหาบ
ชื่อน้องรุ่ง เป็นลูกชาวบ้านแถวนั้นแหละ เดินมาสักพักก็จะมีศาลาให้หยุดพัก แต่พอเราเดินไปถึง น้องรุ่งหายเหนื่อยและออกเดินต่อ ไม่สงสารพี่เลยไอ้น้องเอ้ย
จากตรงนี้มองเห็นยอดดอยแล้ว มีหมอกปกคลุมสงสัยมารอบนี้คงไม่เห็นอะไรแน่ แต่เดินมาถึงตรงนี้แล้วก้ต้องไปต่อ ไปรอเฝื่อหมอกจะจางลงบ้าง จากตรงนี้ขึ้นไปทางเริ่มชันขึ้น แถมอากาศชื้นทำให้พื้นลื่นอีก ขนาดเดินตัวเปล่ายังลื่นไปสองที
หลังจากหยุดพักเป็นระยะในที่สุดก้ถึงยอด มองไม่เห็นวิวอะไรเลยมีแต่หมอกลอยฟุ้ง แต่ดีอยู่อย่างข้างบนมีคนกางเต้นท์ไม่ถึงสิบเต้นท์ ไม่แออัดดี น้องรุ่งพาไปหาที่กางเต้นท์ บางจุดลมแรงไม่ควรกาง และบางจุดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ควรสอบถามเจ้าถิ่นก่อนกางเต้นท์นะครับ ไปเที่ยวที่ไหนควรให้ความเคารพสถานที่ด้วย ช่วยๆกันทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวดี เดินไปอีกนิดมีที่เหมาะๆข้างๆเต้นท์ไอ้หนุ่มผมยาว ขออนุญาติกางเต้นท์พร้อมพูดคุยทักทายกัน มิตรภาพของนักเดินทางมีอยู่ทุกที่ ได้ความว่าขี่มอเตอร์ไซค์มาจากนวนครมานอนนี้ สองคืนแล้วยังไม่เห็นทะเลหมอกเลยตั่งใจจะรอดูอีกคืน
ด้านบนไม่มีร้านค้านะครับทุกสิ่งต้องขนขึ้นมา ส่วนกระป๋องในภาพเป็นนำใจจากเต้นท์ข้างๆ ขอบคุณน้องผมยาวเป็นอย่าสูง หายเหนื่อยเลย
เมนูง่ายๆวันนี้ก็ง่ายๆ ย่างหมูกินแกลมกับเบียร เคล้ากับอากาศหนาวๆ รอดูพรุ่งนี้จะได้ดูทะเลหมอกมั้ย ข้างบนนี้มีสัญญาน ทรู อ่อนๆพอได้นิดหน่อย
และเมื่อตื่นเช้ามา มีเสียเหมือนคนมาผิงไฟ ไกล้ๆเต้นท์ พอโผล่หน้าออกมา ก็ผิดหวังหมอกเต็มๆเหมือนเดิม ไม่เป็นไรถือซะว่ามาเอาบรรยากาศดีๆ
เมนูเช้านี้ง่ายๆ รุ่งมาต้มนำ้ร้อนไว้ให้อยู่แล้ว ถึงเวลาเดินทางกลับรุ่งมาช่วยเก็บเต้นท์ เป็น400บาทที่คุ้มมากน้องเค้าต้องไปเดินหาฟืนมาก่อกองไฟให้เรา
แถบต้องอยู่เป็นเพื่อนตลอดไม่ได้ทิ้งไปไหน
และเมื่อขี่รถลงมาประมาณกิโลนึง พอพ้นแนวหมอกที่ปกคลุมยอดดอย ก็เจอกับทะเลหมอกสวยๆ
พักสักครู่ครับเดียวมาต่อ