สวัสดีจ้า กลับมารีวิวอีกครั้งกับเรื่องเที่ยวๆ
จากคำพูดที่ว่า ''เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง'' สถานที่แห่งนี้คงเป็นคำตอบที่ดีคำตอบหนึ่ง เพราะบรรยากาศเงียบสงบ
เหมาะกับการมาสูดโอโซน นอนดูดาว ดูทะเลหมอกมากๆ นั่นก็คือ ดอยอ่างขาง เจียงใหม่เจ้าาาาา เมืองสโลไลฟ์ตอนยอนต๊ะตอนยอน
เจ้าของกระทู้มีโอกาสได้ไปเชียงใหม่เมืองปลายฤดูหนาวที่ผ่านมา เริ่มจากการเดินทางเลยจ้า เราเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติดอยอ่างขาง ระยะเกือบ200กิโลเมตร ผ่านหุบเขา ทางลาดชัน ทางแคบ ครบสูตร ใช้ระยะเวลาประมาณเกือบ 4 ชั่วโมง
จนมาถึงอ่างขาง เราพักกันที่ลานกางเต้นท์ม่อนสนค่ะ บรรยากาศที่นี่ดีมาก เปิดเต้นท์ออกมาเจอจุดชมวิวเลย มีอุปกรณ์ กางเต้นท์ผ้าห่ม ที่นอนปิกนิคบริการให้เรียบร้อย หลังจากจัดการกับเต้นท์ ก็ถึงเวลาอาบน้ำแล้วค่ะ ห้องน้ำอุทยานมีประมาณ 20ห้องแยกหญิง-ชาย แต่ใช้ได้จริงแค่ 5 ห้อง (เพราะน้ำไม่ไหล) ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น บอกเลยว่า หนาวมากกกกก.....อาบแบบ 2ขันพอ โชคดีที่เราพกแกลลอนน้ำมาด้วย เลยพอที่จะให้ล้างหน้าล้างตาได้บ้าง จากนั้นตอนเย็นเราฝากท้องไว้กับหมูกระทะบนดอยค่ะ มีบริการส่งฟรีถึงหน้าเต้นท์ เป็นเมนูยอดนิยมมาก สั่งกันมากินทุกเต้นท์เลย หลังจากกินอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลานอนอุ่น..... เราออกมานอนดูดาวหน้าเต้นท์ ท้องฟ้ามืดสนิท เห็นแค่แสงไฟของเมืองเชียงดาวไกลออกไป หลายสิบกิโลสุดตา ดาวเป็นล้านดวงระยิบระยับอยู่บนฟ้า เป็นการดูดาวที่สวยที่สุดในชีวิต
เลยก็ว่าได้ อากาศเย็นประมาณ 15c ได้ยินเสียงน้ำค้างหยดลงเต้นท์ผ้าใบ นี่แหล่ะนะช่วงเวลาที่เค้าเรียกกันว่า ''สโลไลฟ์''
รุ่งเช้าเราตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นหน้าเต้นท์ค่ะ แต่ที่เซอร์ไพร์สกว่าคือทะเลหมอกกกก โอโห้...เจอแล้วทะเลหมอกอย่างที่เค้าว่า
อากาศเย็นผสมกับละอองหมอกตอนเช้า โอโซนระดับ10 มันช่างดีอะไรปานนี้.....
[CR] Review ::: หนีกรุงไปเที่ยวดอย สูดโอโซนให้เต็มปอด นอนดูดาว พระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอก เชียงใหม่
จากคำพูดที่ว่า ''เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง'' สถานที่แห่งนี้คงเป็นคำตอบที่ดีคำตอบหนึ่ง เพราะบรรยากาศเงียบสงบ
เหมาะกับการมาสูดโอโซน นอนดูดาว ดูทะเลหมอกมากๆ นั่นก็คือ ดอยอ่างขาง เจียงใหม่เจ้าาาาา เมืองสโลไลฟ์ตอนยอนต๊ะตอนยอน
เจ้าของกระทู้มีโอกาสได้ไปเชียงใหม่เมืองปลายฤดูหนาวที่ผ่านมา เริ่มจากการเดินทางเลยจ้า เราเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติดอยอ่างขาง ระยะเกือบ200กิโลเมตร ผ่านหุบเขา ทางลาดชัน ทางแคบ ครบสูตร ใช้ระยะเวลาประมาณเกือบ 4 ชั่วโมง
จนมาถึงอ่างขาง เราพักกันที่ลานกางเต้นท์ม่อนสนค่ะ บรรยากาศที่นี่ดีมาก เปิดเต้นท์ออกมาเจอจุดชมวิวเลย มีอุปกรณ์ กางเต้นท์ผ้าห่ม ที่นอนปิกนิคบริการให้เรียบร้อย หลังจากจัดการกับเต้นท์ ก็ถึงเวลาอาบน้ำแล้วค่ะ ห้องน้ำอุทยานมีประมาณ 20ห้องแยกหญิง-ชาย แต่ใช้ได้จริงแค่ 5 ห้อง (เพราะน้ำไม่ไหล) ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น บอกเลยว่า หนาวมากกกกก.....อาบแบบ 2ขันพอ โชคดีที่เราพกแกลลอนน้ำมาด้วย เลยพอที่จะให้ล้างหน้าล้างตาได้บ้าง จากนั้นตอนเย็นเราฝากท้องไว้กับหมูกระทะบนดอยค่ะ มีบริการส่งฟรีถึงหน้าเต้นท์ เป็นเมนูยอดนิยมมาก สั่งกันมากินทุกเต้นท์เลย หลังจากกินอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลานอนอุ่น..... เราออกมานอนดูดาวหน้าเต้นท์ ท้องฟ้ามืดสนิท เห็นแค่แสงไฟของเมืองเชียงดาวไกลออกไป หลายสิบกิโลสุดตา ดาวเป็นล้านดวงระยิบระยับอยู่บนฟ้า เป็นการดูดาวที่สวยที่สุดในชีวิต
เลยก็ว่าได้ อากาศเย็นประมาณ 15c ได้ยินเสียงน้ำค้างหยดลงเต้นท์ผ้าใบ นี่แหล่ะนะช่วงเวลาที่เค้าเรียกกันว่า ''สโลไลฟ์''
รุ่งเช้าเราตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นหน้าเต้นท์ค่ะ แต่ที่เซอร์ไพร์สกว่าคือทะเลหมอกกกก โอโห้...เจอแล้วทะเลหมอกอย่างที่เค้าว่า
อากาศเย็นผสมกับละอองหมอกตอนเช้า โอโซนระดับ10 มันช่างดีอะไรปานนี้.....