ขอขอบคุณ
- พี่ยัก และ อนาถาทัวร์ ที่ชวนผมไปเที่ยวไปลุย
- ขอบคุณอาหาร อร่อยจากพ่อครัว bank ครับ
- ภาพและ VDO บางส่วนจาก ช่อง 7 HD ช่วง อนุวัต จัดให้
- ภาพและ VDO บางส่วนจากกลุ่มอนาถาทัวร์
- ภาพและ VDO บางส่วนจากน้องปอนด์
- เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านที่ร่วมทริป ร่วมสนุก ด้วยกัน
- เรือคายัค feelfree  ที่ขนมาจากกรุงเทพ เพื่อให้พวกเราใช้ในกิจกรรมในครั้งนี้

**** เผื่อใครสนใจในกิจกรรรมต่างๆ ของ อนาถาทัวร์ ก็สามารถติดต่อได้ที่ FB สายป่า นะครับ
ทริปนี้จัดขึ้นเมื่อ 19-21 เมย 2561

พิกัด gps วันแรก

หาดหิน 100 ไร่ จุดลงเรือ
n15.744081 e105.456787

กินข้าวกลางวัน
n15.738802 e105.558060

แค้มป์
15.39.90n 105.37.87e
N 15 39.900 E 105 37.870

--------------------------------------------------------------------------------------------
เส้นแบ่งเขตแดนไทย - ลาว ตามลำแม่น้ำโขง

เส้นแบ่งเขตแดนไทย - ลาว ตามลำแม่น้ำโขงเป็นผลสืบเนื่องจาก หนังสือสัญญาที่ไทยทำไว้กับฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๖ (ค.ศ. ๑๘๙๓) ซึ่งกำหนดให้สยาม (ไทย) สละข้ออ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนฝั่งซ้าย รวมทั้งเกาะทุกเกาะในแม่น้ำโขงให้แก่ฝรั่งเศส ต่อมาได้มีการทำอนุสัญญาฉบับลงวันที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๙ (ค.ศ. ๑๙๒๖) ซึ่งว่าด้วยแม่น้ำโขงโดยเฉพาะ อนุสัญญาฉบับนี้กำหนดเส้นแบ่งเขตแดน ระหว่างไทย - ลาว ในแม่น้ำโขง โดยระบุว่า ในตอนที่แม่น้ำโขงไม่แยกออกเป็นหลายสาย เพราะมีเกาะตั้งอยู่ ให้ถือร่องน้ำลึกเป็นเส้นแบ่งเขตแดน ส่วนในตอนที่แยกออกเป็นหลายสาย ให้ใช้ร่องน้ำลึกของสายแยกที่ใกล้ฝั่งไทยที่สุด เป็นเส้นแบ่งเขตแดน แม้ภายหลังร่องน้ำลึกดังกล่าวจะตื้นเขินจนเชื่อมเกาะติดกับฝั่ง ก็ยังคงให้ถือร่องน้ำเดิมที่ตื้นเขินนั้น เป็นเส้นแบ่งเขตแดนตลอดไป หากจะย้ายเส้นแบ่งเขตแดน ก็ให้เป็นหน้าที่ของคณะข้าหลวงใหญ่ประจำแม่น้ำโขง เป็นผู้พิจารณา โดยย้ายไปได้เพียงร่องน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด ถัดจากร่องน้ำเดิมที่ตื้นเขินเท่านั้น นอกจากนี้ ยังได้ระบุชื่อเกาะ ๘ เกาะให้เป็นดินแดนของไทยด้วย เช่น ดอนเขียว ดอนเขียวน้อย ดอนน้อย ดอนบ้านแพง

ใน พ.ศ. ๒๔๘๔ ไทยได้ทำหนังสือสัญญากับฝรั่งเศส ภายหลังการเกิดกรณีพิพาท ระหว่างไทยกับอินโดจีนของฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสได้คืนดินแดนลาวบนฝั่งซ้าย ของแม่น้ำโขงทั้งหมดให้แก่ไทย แต่สัญญาฉบับนี้ถูกยกเลิกไป ใน พ.ศ. ๒๔๘๙ ส่งผลให้เส้นแบ่งเขตแดนไทย - ลาว กลับสู่สถานะเดิม ก่อน พ.ศ. ๒๔๘๔ เช่นเดียวกับ กรณีของเส้นแบ่งเขตแดนไทย - กัมพูชา ที่กล่าวมาแล้ว

ข. ความยาวและลักษณะโดยสรุปของเส้นแบ่งเขตแดนไทย - ลาว

ความยาวของเส้นเขตแดนไทย - ลาว มีรวมกันทั้งสิ้น ๑,๘๑๐ กิโลเมตร ประกอบด้วย

๑) เส้นเขตแดนตามร่องน้ำลึกของแม่น้ำโขง ยาว ๙๗ กิโลเมตร ในจังหวัดเชียงราย

๒) เส้นเขตแดนตามสันปันน้ำของทิวเขาหลวงพระบาง ยาว ๕๐๕ กิโลเมตร ในจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก

๓) เส้นเขตแดนตามร่องน้ำลึกของแม่น้ำเหืองงา ยาว ๑๙ กิโลเมตร ในจังหวัดพิษณุโลก

๔) เส้นเขตแดนตามร่องน้ำลึกของแม่น้ำเหือง ยาว ๑๓๔ กิโลเมตร ในจังหวัดเลย

๕) เส้นเขตแดนตามร่องน้ำลึกของแม่น้ำโขง ยาว ๘๕๘ กิโลเมตร ในจังหวัดเลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี โดยจังหวัดหนองคายมีเส้นเขตแดนในลำน้ำโขงยาวที่สุด คือ ๓๒๙ กิโลเมตร

๖) เส้นเขตแดนตามสันปันน้ำของทิวเขาพนมดงรัก ยาว ๑๙๗ กิโลเมตร ในจังหวัดอุบลราชธานี

ข้อมูลจาก
http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=32&chap=5&page=t32-5-infodetail04.html

--------------------------------------------------------------------------------------
ทริปนี้เป็นทริปพายคายัคล่องแม่น้ำโขง และโรยตัวจากหน้าผาลงสู่แม่น้ำโขง  เป็นทริปหาเงินเพื่อบริจาคสร้างโรงครัว วัดคำผักกูด อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี

โดยพี่ยัก พี่ใหญ่แห่งอนาถาทัวร์ ซึ่งเป็นกลุ่มท่องเที่ยวแบบลุยๆ ชวนไปเที่ยวด้วย ผมเห็นว่าแปลกใหม่ดี ก็เลยไปลุยด้วย โดยไปหาพี่ยักและเพื่อนๆ ที่บ้านพี่ยักที่ อ.โขงเจียม ก่อนวันที่จะไปล่องแม่น้ำโขง คืนนี้ก็นอนบ้านพี่ยัก

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ลิ้งค์ อนุวัตจัดให้ : ล่องแก่งแม่น้ำโขง จ.อุบลราชธานี ตอน 1

หรือ link นี้จะชัดกว่า
http://www.bugaboo.tv/watch/381144

วันแรกของการเดินทาง (19 เมย 2561)
ตอนเช้าก็นัดเจอเพื่อนๆที่มาจาก กรุงเทพฯ รวมๆแล้วก็เกือบ 30 คน  จัดของ จัดสัมภาระ เพราะต้องค้างคืนแก่งลำน้ำโขงระหว่างทาง 1 คืน


จัดของ ทักทายเพื่อนๆ พี่ๆ เสร็จ ก็ชวนกันกินข้าวเช้าตุนไว้ก่อน เพราะวันนี้คงจะเหนื่อยน่าดู

หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็จัดของขึ้นรถ เดินทางไปจุดหมายที่จะลงเรือ


จากอำเภอโขงเจียม เดินทางไปทางสามพันโบก ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนถึงสามพันโบก เลี้ยวขวาเข้า อบต สำโรง  ตำบลสำโรง อำเภอโพธิ์ไทร อุบลราชธานี  ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร

วิ่งเข้าไปจนสุดทาง ถึงหาดหิน 100 ไร่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของที่นี่ โดยมีถนนลงไปถึงหาดหินริมน้ำด้านล่างเลย  รถบรรทุกเรือสามารถเอาเรือไปลงที่ท่าน้ำได้สะดวก



บริเวณหาดหิน 100 ไร่ ก็สามารถเล่นน้ำได้ โดยเป็นหาดหิน ไม่ใช่หาดทราย  หรือจะนั่งเรือไปสามพันโบกก็ได้ นั่งชมวิวระหว่างทางก็ดี

บริเวณ หาดหินฝั่งซ้าย จะมีฟอสซิล ไดโนเสาร์ อยู่ 1 ชิ้น ไว้ให้ดูชม  เท่าที่ถามชาวบ้าน บอกว่ามีนักวิชาการมาสำรวจและจะขอไปไว้ในพิพิธภัณฑ์เพื่อศึกษา แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ยอม เลยต้องอยู่กลางหาดหินนี้ต่อไป




สนใจติดต่อสอบถามเกี่ยวกับหาดหิน 100 ไร่ ติดต่อได้ที่ 0918049075 พี่จิต

ภาพจาก ช่อง 7 HD ช่วง อนุวัต จัดให้

จากนั้นก็ไปที่ริมน้ำโขง เพื่อฟังคำบรรยาย การใช้อุปกรณ์ การช่วยเหลือตัวเองในกรณีเรือล่ม การพลิกเรือ  

โดยขบวนของเราจะมีเรือเสบียง ติดตามไปด้วย 2 ลำ

เรือคายัคที่ใช้ในกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จาก บริษัทผลิตเรือและอุปกรณ์ทางน้ำยี่ห้อ feelfree ซึ่งเป็นเรือที่ได้มาตรฐาน คุณภาพดี  โดยขนส่งมาจากกรุงเทพฯ เลย


จำนวนทั้งสิ้น 10 ลำ ลำละสองคน

จับคู่กัน ใครพอพายเป็น ใครพายไม่เป็น

เมื่อพร้อมก็ถ่ายรูปหมู่ก่อนลุยยาวกันทั้งวัน

ประมาณเกือบ 10 โมงครึ่ง ก็เริ่มพายเรือล่องลำน้ำโขงกัน

สายน้ำโขงเป็นสายน้ำที่ขุ่น และมีโขนหินจำนวนมาก ทำให้มีแอ่งน้ำวน จะไม่มีแก่งสูงๆ แต่น้ำวนก็อันตรายเหมือนกันประมาทไม่ได้
ภาพจาก ช่อง 7 HD ช่วง อนุวัต จัดให้

ช่วงแรกๆ ก็สบายกันดี

พายท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด น้ำไหลนิ่งในบางช่วง




ช่วงแรกเราจะผ่านบริเวณ บ้านผาชัน ซึ่งเป็นแนวหน้าผาหินริมแม่น้ำโขง ทั้งสองฝั่งทั้งไทยและลาว

เหมือนถูกล้อมด้วยกำแพงเมืองจีนขนาดใหญ่

ขอบคุณรูปจาก พี่ยักอนาถาทัวร์

ซึ่งแถวบ้านผาชันจะมีเสาเฉลียงยักษ์ ที่ใหญ่ที่สุดในไทยอยู่ด้วย เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าแวะชม  
ช่วงแรกเป็นแก่งเบาๆ พอให้ได้ออกแรง พายไป พักไป เพราะอากาศร้อนมากๆ ระอุไปหมด
แก่งผาซัน เป็นแก่งแรก ก็สบายๆ ไม่หนัก

ภาพจาก ช่อง 7 HD ช่วง อนุวัต จัดให้

ช่วงไหนแก่งที่น้ำแรง เรือสตาฟก็จะนำไปล่วงหน้า และค่อยบอกร่องน้ำ ซ้าย หรือขวา


ภาพจาก ช่อง 7 HD ช่วง อนุวัต จัดให้
พายได้ซัก 1 ชั่วโมงก็แวะเรือเสบียงขอน้ำเย็นกินหน่อย ไม่ไหว


จากนั้นก็พายต่อผ่านบ้านชาวประมงเล็้กๆ ที่สร้างตามแล้วซอกหิน ไว้ค่อยพักเวลาออกหาปลา

ช่วงแรกไม่ค่อยมีแก่งให้ตื่นเต้นเท่าไหร่ พายสลับไปมา ฝั่งไทย ฝั่งลาว

ประมาณเที่ยงครึ่ง หลังจากพายกันมาได้ประมาณ 13 กม(โดยประมาณ อาจจะมากหรือน้อยกว่าได้ เพราะมานั่งวัดระยะทางใน googlemap)



เรืออำนวยการก็หาจุดพักกินข้าวเที่ยงให้พวกเรา นะฝั่งแห่งหนึ่ง พักกินข้าวและนอนเอาแรง เพราะยังต้องพายกันอีกไกล

ประมาณเกือบบ่ายโมงครึ่ง พวกเราก็พายเรือกันต่อ
ผ่านแก่งเล็ก บางช่วงสายน้ำเอื่อยๆ