ตำนานสัตว์ในเทพนิยาย กิเลน มี 4 ประเภท ดังนี้

กิเลน (Qilin, Kylin หรือ Kirin)  เป็นชื่อภาษาจีนที่ใช้เรียกสัตว์ในเทพนิยายของจีน โดยหากแยกคำตามความหมายแล้ว “กี” จะใช้ในการเรียกตัวผู้ ส่วน “เลน” จะใช้ในการเรียกตัวเมีย เมื่อผสมคำเป็น “กิเลน” จึงมีความหมายตามตำนานจีนว่า สัตว์ที่มีรูปร่างเหมือนกวางแต่มีเพียงแค่เขาเดียว หางคล้ายวัว หัวเหมือนมังกร ตีนเป็นกีบเหมือนม้า (บางตำรากล่าวว่า มีลำตัวเป็นสุนัข หรือบ้างก็ว่าเป็นเนื้อสมัน) สัตว์ชนิดนี้เกิดจากธาตุทั้งห้ามาผสมกันได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ไม้ และโลหะ

         กิเลนเชื่อกันว่ามีอายุยืนได้ถึงพันปี และเป็นสัตว์แห่งยอดสัตว์ทั้งหลาย อีกทั้ง กิเลนยังเป็นสัตว์ที่มีความหมายแห่งความดีงาม เมื่อใดที่กิเลนปรากฏกายขึ้นมา จะแสดงให้เห็นว่า ในขณะนั้นกำลังจะมีผู้มีบุญมาเกิดเพื่อขึ้นปกครองบ้านเมืองให้มีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข กิเลนจึงถือเป็นหนึ่งในสี่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ประกอบไปด้วย หงส์ เต่า มังกร และกิเลน (บ้างว่าเป็น เสือ)

         ความเชื่อเรื่องการกำเนิดโลกของจีนในยุคของฟูซี (伏羲) นั้น กล่าวไว้ว่า ฟูซี เป็นผู้ปกครองคนแรกของชนเผ่ามนุษย์ ท่านได้สังเกตถึงปรากฏการณ์ธรรมชาติต่างๆ จนสามารถอยู่ได้ด้วยตนเองได้ แต่แล้ววันหนึ่ง ก็เกิดมีกิเลนตัวหนึ่ง ปรากฎกายขึ้นมาจากแม่น้ำหวงโฮ ที่บนหลังสัตว์ตัวนี้มีสัญลักษณ์แผนที่เหอประทับอยู่ด้วย ในต่อมาภายหลัง สัญลักษณ์นี้ก็ได้กลายมาเป็นตัวอักษรต่อมา ภายหลังจากนั้น องค์ความรู้ของมนุษย์ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นและเจริญสืบทอดต่อมา

         ส่วนตำนานของคนไทย ก็รู้จักกิเลนของจีนมาเนิ่นนานแล้ว จากข้อมูลในสมุดภาพที่บ่งบอกข้อมูลสัตว์ป่าหิมพานต์ที่นายช่างโบราณได้เคยร่างแบบเอาไว้สำหรับผูกหุ่น ส่วนพิธีแห่พระบรมศพของรัชกาลที่ 3 ก็มีกระบวนที่มีรูปของกิเลนจีนหนวดยาว ๆ ส่วนรูปกิเลนแบบไทยจะมีกนกและเครื่องประดับทรงเครื่องแบบไทยๆจัดลายประกอบไว้ด้วย ซึ่งลักษณะอาจผิดแปลกไปจากในสมุดภาพสัตว์โบราณจากป่าหิมพานต์ไปบ้าง แต่ลักษณะที่ผิดแปลกไปอย่างหนึ่ง ก็คือ กิเลนของไทยจะมีเขาสองเขา แต่ของจีนจะมีเพียงเขาเดียว ส่วนในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณีก็มีการกล่าวถึงสัตว์ประหลาดที่ลักษณะคล้ายกิเลนเช่นกัน รู้ที่คนไทยรู้จักกันในนามของ ม้ามังกร หรือ ม้านิลมังกร

ที่มาของกิเลน
เชื่อว่า กิเลนมีที่มาจากยีราฟ ที่มากับเรือสินค้าที่กลับจากเบงกอลในยุคจักรพรรดิหย่งเล่อ (ค.ศ. 1402-1424) แห่งราชวงศ์หมิง โดยนำมาจากเมืองมาลินดี (เคนยา) กลับโดยผ่านนานกิง ซึ่งเป็นสัตว์ที่ชาวจีนไม่เคยเห็นมาก่อน จึงเชื่อว่าเป็นกิเลน และทรงโปรดให้จิตรกรวาดภาพกิเลนเอาไว้ประดับในพระราชวัง ต่อมาภาพนี้ชำรุดเสียหาย ต่อมาในยุคราชวงศ์ชิง พระจักรพรรดิจึงสั่งให้วาดเอาไว้

1 กิเลน จีน

ในตำนานจีน กิเลนมีหัวเป็นมังกร มีเขาเดียว (เขาแบบกวาง) มีร่างกายแบบกวาง แต่ผิวปกคลุมไปด้วยเกล็ด หางเหมือนหางวัว และมีกีบเหมือนม้า สัตว์วิเศษนี้ประกอบไปด้วบเบญจธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ไม้ และ โลหะ กล่าวกันว่า กิเลนมีชีวิตยืนยาวหลายพันปี

พจนานุกรมจีน อธิบายกิเลนต่างออกไป ว่า กิเลนมีหัวเหมือนสุนัข แต่มีกายเป็นกวาง หางเป็นวัว กีบเหมือนม้า มีขนแผงคอหลากสี ขนใต้ท้องมีสีเหลือง มีสีกาย ๕ สี คือ แดง เหลือง น้ำเงิน ขาว และ ดำ ตัวผู้มีเขา ๑ เขา ส่วนตัวเมียไร้เขา กิเลนสามารถเดินบนผิวน้ำได้

2 กิเลน ไทย


ชาวไทยรู้จักกิเลนของจีนมานานแล้ว ปรากฏในสมุดภาพสัตว์ป่าหิมพานต์ที่ช่างโบราณได้ร่างแบบสำหรับผูกหุ่นเข้า กระบวนแห่พระบรมศพครั้งรัชกาลที่ 3 ก็มีรูปกิเลนจีนทำหนวดยาว ๆ ส่วนภาพกิเลนแบบไทย มีกระหนกและเครื่องประดับเป็นแบบไทย ๆ การจัดลายประกอบผิดไปจากในสมุดภาพสัตว์ป่าหิมพานต์ของโบราณนั้นบ้าง ที่แปลกอีกอย่างหนึ่ง คือ กิเลนไทยมีสองเขา ของจีนแท้ ๆ มีเขาเดียว ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของกวีเอกสุนทรภู่ ก็มีสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายกิเลนนี้ในเรื่องด้วย คือ ม้ามังกร หรือ ม้านิลมังกร นั่นเองปัจจุบันกิเลนเป็นมาสคอตของสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

3 กิเลน ปีก


กิเลนปีกดูแปลกตากว่ากิเลนอีก ๒ ชนิด โดยกิเลนปีก ไม่มีเขาแม้แต่เขาเดียว แต่มีปีกคล้ายนก ๑ คู่ อีกอย่างที่ผิดแผกไป ก็คือเท้าที่เป็นกรงเล็บ ไม่เหมือนเท้าแบบกีบเหมือนกิเลนอีก ๒ ชนิด

4 กิเลนไฟ

ตัวละครในนิยายกำลังภายในเรื่อง ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า เป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายกิเลนแต่มีลำตัวลุกเป็นไฟ อาศัยอยู่ในถ้ำดั้นเมฆ หุบเขาลักซัว ติดริมแม่น้ำ ที่ซึ่งมีพระพุทธรูปหน้าผาแกะสลัก (พระพุทธรูปลักซัว) อยู่ ด้านล่างภูเขามีอักษรจารึกว่า "น้ำท่วมเขาเทวะ ไฟไหม้ถ้ำดั้นเมฆ" หมายถึง เมื่อใดที่น้ำในแม่น้ำท่วมถึงเขาองค์พระ กิเลนไฟจะออกอาละวาด

กิเลนไฟเป็นสัตว์ประหลาดนิสัยดุร้าย กินผู้คนเป็นอาหาร ไม่มีที่มาที่ไปและไม่ทราบอายุ มีอิทธิฤทธิ์มาก ไม่มีใครสามารถปราบได้ ในฟงอวิ๋นฉบับภาพยนตร์ ขณะที่เนี่ยเหยินหวังและสงป้าประลองกันอยู่ เนี่ยเหยินหวังพลาดท่าตกลงไปหน้าถ้ำดั้นเมฆ กิเลนไฟก็ออกมาคาบเนี่ยเหยินหวังพร้อมดาบดื่มหิมะเข้าไป ท้ายที่สุดเนี่ยฟงเมื่อเติบใหญ่ขึ้น ได้เดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้อีกครั้งนึง และได้เผชิญหย้ากับกิเลนไฟและใช้ความเย็นเยียบพิชิตกิเลนไฟแก้แค้นให้แก่บิดาได้ ในฉบับหนังสือการ์ตูน บรรพบุรุษของปู้จิ้งอวิ๋นและต้วนล่างต่างได้เคยประลองกับกิเลนไฟมาแล้ว โดยเฉพาะบรรพบุรุษของตระกูลต้วนสามารถทำให้กิเลนไฟบาดเจ็บด้วยการถอนเกล็ดมาได้ชิ้นนึง และนำมาติดไว้ที่กระบี่ ทำให้กระบี่เปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง เกิดพลานุภาพมากมาย จึงถูกเรียกว่า "กระบี่กิเลนไฟ"


ความเชื่อส่วนบุคคล ในด้านค้าขาย กิเลนเป็นสัตว์ที่ไม่มีรูทวาร กินอย่างเดียวไม่มีการขับถ่าย จึงเอามาเป็นเคร็ดลับ ธรรมเนียมสืบต่อมาในด้านการค้าขาย สังเกตุได้ว่าร้านค้าต่างๆตามหน้าร้านมักจะวางรูปปั้นกิเลนประดับไว้เพราะ เชื่อว่าเป็นเคร็ดลับว่าให้ เก็บเงินเก็บทองอยุ่ ไม่รั่วไม่ไหลแบบกิเลน บางทีนำรูป กิเลนมาเป็น โลโก้ การค้าเลยก็มี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่