สิ่งที่ผมเขียนต่อไปนี้
- เป็นความพอใจส่วนตัว
- อาจจะทำไม่ได้ทุกคน ถ้าเป็นคนขี้หนาว
- ไม่ใช่สิ่งที่ดีสุด เพราะดีสุดแต่ละคนไม่เท่ากัน
- ผมไม่ชอบใช้ถุงนอนหน้าฝน หรือบางที่หน้าหนาวบางที่ผมก็ไม่ใช้
- ใช้ได้ทั้งแบบนอนเต็นท์ (เป็นหลัก เพราะมีเต็นท์กันลมได้ดี) และนอนเปล แต่ถ้าลมแรงมากๆ ก็อีกกรณี
- ที่ใส่เป็นชุดนอนจากไว้นอนแล้ว เวลาต้องออกจากเต็นท์ก็สามารถเดินออกไปได้เลย
** 

และแล้วเดินป่าหน้าฝน ก็เข้าใกล้มาอีกครั้ง ซึ่งป่าหน้าฝนก็มีเสน่ห์ ของป่าหน้าฝนไปอีกแบบ ทั้งเที่ยวน้ำตก ทั้งดูดอกไม้

แต่การจัดการของหน้าฝนจะลำบากหน่อย เพราะอุปกรณ์นอนถ้าเปียกขึ้นมากก็ลำบาก โดยเฉพาะ ถุงนอน ชุดนอน

ผมมีประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนก็แล้วกันนะครับ แต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน เอาเท่าที่ตัวเองคิดว่าทำแล้วพอใจก็พอ

อุปกรณ์ชุดนอนผมที่ผมใช้ทุกครั้งหน้าฝน จะเป็นชุดกันน้ำทั้งเสื้อและกางเกง โดยเป็นเทคโนโลยี่ Gore-tex ซึ่งหาซื้อมือสองเป็นเสื้อ กางเกง ทหาร ซึ่งส่วนมากจะเป็นของ ทหารอเมริกา โดยที่ผมไม่ใช้ถุงนอนในช่วงหน้าฝน ใช้เสื้อห่มกันหนาวแทน

โดยที่ผมไม่ต้องมานอนกังวลว่า นอนแล้วน้ำเข้าตัวจะเปียก เพราะผมเคยนอนในแอ่งน้ำเล็กๆ ก็ใส่ชุดแบบนี้นอนเลย ไม่เปียก แต่ก็ต้องจัดการพื้นที่ให้ดีด้วย

Gore-tex ไม่ใช่ตัวเนื้อผ้าที่อยู่ด้านนอก เนื้อผ้าด้านนอกจะเป็น โพลีเอสเตอร์ หรือไนลอน หรือ อะไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต
การที่เสื้อ หรือ กางเกง ตัวนั้น จะเอาน้ำฉีด หรือ ราด หรืออะไรก็ตาม แล้วไม่ซึมหรือ กลิ้งเป็นหยดนั้น อยู่ที่การเคลือบกันน้ำชั้นนอก ไม่เกี่ยวกับ Gore-tex ที่อยู่ด้านในเลย

ตัว Gore-tex คือ สารที่เคลือบด้านในของเนื้อผ้า ซึ่งจะมีลักษณะเป็นตาข่ายขนาดเล็กมากๆ
โดยเล็กกว่าขนาดของหยดน้ำ แต่ใหญ่กว่าโมเลกุลของไอน้ำจึงยอมให้ไอน้ำ และความร้อนระเหยออกจากตัว แต่ไม่ยอมให้หยดน้ำซึมเข้ามา
ลองสังเกตแจ็กเก็ตกันฝนทั่วๆ ไป จะเคลือบสารขาวๆ อยู่ด้านใน ส่วนใหญ่จะเป็น (PU-Polyurethane)

ไม่ว่าจะเป็นเสื้อถูกๆ หรือแพงๆ อย่าง HyVent ของ TNF หรือ Helly-Tech ของ Helly Hansen ก็ PU
แต่จะแตกต่างกันที่คุณภาพ และเทคนิค ของแต่ละยี่ห้อ ซึ่งคุณสมบัติในการกันน้ำ และระบายอากาศ ผู้ผลิตมักจะบอกเป็น ตัวเลข waterproof/breathable เช่น

3000/3000 , 5000/5000 , 10000/5000 ,10000/10000 ,15000/1000 เป็นต้น

เลขตัวหน้า จะเป็นความสามารถในการกันน้ำ มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร
เลขตัวหลัง จะเป็นความสามารถในการระบายอากาศ (ไอน้ำ) ต่อตารางเมตร ในเวลา 24 ชั่วโมง
ซึ่งหมายถึง ยิ่งมากก็จะยิ่งดี (ซึ่งเท่าที่สังเกตเสื้อผ้าที่ใช้ Gore-tex จะเริ่มต้นที่ 20000/20000)

ส่วนการเคลือบภายในของ Gore-tex จะมี liner อีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันชั้น Gore-tex เสียหาย

ตัวอย่างง่ายๆ ก็ดูได้จากพวกกางเกงกันฝนที่ขายกันในเวบ ที่ภายในจะเป็นเหมือนผ้าเงาๆ

แต่ที่ว่ามาทั้งหมด ไม่ใช่การดูว่าเป็น Gore-tex แท้ - ไม่แท้

วิธีดูการที่จะดูจะดูว่าเป็น Gpre-tex แท้ - ไม่แท้ นั้น ก็คือ

ถ้า เสื้อ ,กางเกง หรืออะไรก็ตามที่ติดป้าย Gore-tex นั้น เป็นของแท้ ย่อมต้องเป็น Gore-tex แท้
แต่ถ้า เสื้อ ,กางเกง หรืออะไรก็ตามที่ติดป้าย Gore-tex เป็นของปลอม ย่อมต้องเป็น Gore-tex ปลอม ตามไปด้วย
ซึ่งในต่างประเทศก็มีเวบที่ไว้แลกเปลี่ยนข่าวสาร เสื้อแท้/ไม่แท้ อยู่

โดยเฉพาะยี่ห้อ The North Face ใครสนใจ เข้าไปดูได้ที่ http://www.thenorthfaceguru.com/articles.php
โดยมีกระทู้น่าสนใจ คือ Real/Fake Head to Head ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบภาพแจ๊กเก็ต ของจริง กับของปลอม
แม้แต่เสื้อขนเป็ด/ห่าน ก็มีปลอม TNF summit 900 Goose down (Petit ภาษาฝรั่งเศส แปลว่า เล็ก)

ถ้าจะดูด้วยตา จากภายนอกนี่ คงยากล่ะครับ อย่างที่บอกไป
ถ้าจะดูก็ดูได้จาก Tag ของ Gore-tex ด้านใน

ของปลอม Tag ไม่เหมือนของจริง ในเวบที่ผมแปะไว้ก็พอมีอยู่
ส่วนวิธีพิสูจน์ ถ้าจะเอาน้ำเทใส่ไว้ ดูว่าซึมไหม เสื้อที่เคลือบมาใหม่ๆ ก็คงเห็นผลคล้ายกัน

อย่างที่คุณบอกมาเรื่องรองเท้า นั่นคือจุดเด่นของ Gore-tex
คือ เรื่องของการระบายอากาศ เพราะถ้าแค่จะกันน้ำอย่างเดียว ง่ายครับ
ไม่ต้องเคลือบด้านในก็กันได้ แต่กันน้ำด้วย ระบายอากาศได้ดีด้วย น่าจะยังไม่มีเจ้าไหนสู้ได้ครับ

จะเห็นว่า เสื้อ top grade ของแต่ละยี่ห้อ จะเป็น Gore-tex แทนที่จะเป็นเทคโนโลยีของตัวเอง

สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.gore-tex.com/remote/Satellite/home เวบไซต์ของ Gore-tex
http://en.wikipedia.org/wiki/Waterproof_fabric เรื่องของ Waterproof/Breathable

Gore-tex จะมีสองแบบ (ผมอาจจะอธิบายพิมพ์ยังไงก็ขอโทษด้วย)
- แบบที่เคลือบ ฟิล์มบางๆ ใช้ซัก 1 ปี ก็ล่อนออก
- แบบผ้าหนากว่าแบบแรกหน่อย กันที่ตัวเนื้อผ้าเลย กางเกงผมใช้มาเกือบ 10 ปี (ผมอาจจะเข้าใจผิด แต่ก็ใช้ถูก)

ซึ่งผมจะเลือกแบบที่สอง เพราะมีความทดทานมากกว่าแบบแรก น้ำหนักหนักกว่าครึ่ง แต่ผมถือว่าใช้ห่มเป็นถุงนอนไปด้วยเลย เพราะเนื้อผ้าหนากว่า กันความเย็นได้พอควร แต่สำหรับคนที่ขี้หนาวอาจจะลำบาก แต่จริงๆ ป่าหน้าฝน ถ้าไม่ได้สูงมากและลมไม่แรง สำหรับผมพอแล้ว ไม่ต้องพกถุงนอน

เสื้อที่ผมใช้ซื้อที่ตลาดโรงเกลือ ได้ตัวใหม่มาเลย สภาพดีมากๆ แต่ไซค์ใหญ่มาก XXL ผมก็ยังถือว่าใช้ได้ เพราะเสื้อกันฝน เวลาซื้อแนะนำให้ซื้อใหญ่กว่าตัวซัก 1 ไซค์จะดี เพราะถ้าซื้อพอดีตัว เวลายืดตัว ก็จะเกิดช่องว่างทำให้น้ำเข้าได้เพราะมันพอดี

เสื้อผ้าทหารต่างประเทศจะทำดีมาก ทน แต่ไม่ควรใส่เดินป่า เพราะจะขาดจากหนามและการเกี่ยวต่างๆ ให้ใช้ตอนแค้มป์เท่านั้น (สำหรับผมนะ)

เนื้อผ้าจะไม่เคลือบฟิลม์ แต่กันที่ตัวเนื้อผ้าเลย ทำให้อยู่ทนนาน ไม่เหมือนแบบเคลือบฟิล์มใช้บางแค่ 1 ปี บางรุ่นก็ร่อนออกแล้ว กันน้ำไม่ได้

เสื้อทหารแบบนี้จะมีช่องซิปรูดเพื่อระบายอากาศได้ ถ้าร้อนเกิน ข้อดีของเสื้อพวกนี้คือระบายอากาศดี ไม่มีหยดน้ำ แบบที่เราใส่เสื้อกันฝนแบบพลาสติก

กางเกงก็เช่นกัน ใช้เทคโนโลยี่แบบเดียวกัน ใส่เป็นชุดแล้วอุ่นใจ เวลาฝนตก ไม่ต้องกังวลอะไรมาก

กางเกงตัวนี้ผมใช้มาเกือบ 10 ปีแล้ว ยังกันน้ำได้อยู่ ถ้าเป็นแบบ ฟิล์ม ก็ทิ้งไปนานแล้ว มือสองคุ้ม ถูกกว่าเสื้อผ้ากันฝนยี่ห้อแพงๆ เป็น 10ๆ เท่า เสื้อและกางเกง น้ำหนักอาจจะน้อยกว่า หรือมากกว่าถุงนอนที่จะพกไปนิดหน่อย ซึ่งผมไม่ใช้ถุงนอนอยู่แล้ว ก็ถือว่าน้ำหนักของไม่ได้เพิ่มอะไรมามาก

ใช้จนส่วนที่ซีลกันน้ำตามตะเข๋็บหลุดแต่ก็ยังใช้ได้

และนี้ก็คือชุดนอนกันผ้าห่มของผม แต่ก็ใส่เสื้อกีฬาบางๆ กางเกงขาสั้น อีกชั้นก่อนใช่ชุดนี่
ชุดแบบนี้ผมใช้บ่อยเวลาหน้าฝน ไม่ต้องมากลัวว่าของจะเปียก เพราะถ้าใช้ถุงนอน โอกาศเปียกมีเยอะ ถ้าเปียกก็หนักอีกต่างหาก
เสื้อถ้าฝนไม่ตกก็ห่มเป็นผ้าห่มได้สบาย ระบายอากาศดีด้วย