ไปเที่ยวโอซาก้าแบบมั่วๆ '' Day 4 (ปั่นจักรยานเที่ยวที่"นารา"ง่ายๆ 1 วัน ด้วยตัวเองๆ) (Osaka,Nara,Kyoto,Kobe Trip)

Day 1:https://ppantip.com/topic/37580385
Day 2 :https://ppantip.com/topic/37587371
Day 3 :https://ppantip.com/topic/37636434

ต้องบอกว่าการเที่ยวของเราวันนี้พิเศษๆหน่อย 5555 เพราะเราจะใช้จักรยานในการปั่นไปเที่ยว เนื่องจากเราได้ยินมา และหาข้อมูลใน Google ว่าที่เที่ยวที่นารา จะเป็นวัด หรือสถานที่เที่ยวต่าง และที่สำคัญมันเป็น Park ด้วย ผมคิดในใจเเต่ละที่มันต้องไกลกันเเน่นอน

คำถาม: เเล้วเราจะไปหาจักรยานที่ไหน  แล้วเราจะไปจาก Osaka  ไปที่นารายังไง คนเดียวที่ช่วยท่านได้คือ พี่ Google 5555 พี่เเกบอกทุกอย่าง  สำหรับการเดินทางของเราวันนี้ก็หนีไม่พ้น JR Line เหมือนเดิม (ขึ้นเป็นเเต่อันเดียว 5555) ค่าตั๋วอยู่ที่ 560 เยน/คน  พอเราได้ข้อมูลกันเเล้วก็ถึงเวลาเดินทาง  เราก็ไปลงที่สถานนี Nara Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาทีก็ถึง (ยิ่งออกจากเมืองยิ่งได้เห็นบรรยายกาศเเบบบ้านนอก ของญี่ปุ่น ผมชอบนะ) สิ่งเเรกที่เราทำเป็นอันดับเเรกก็คือ ไปหาแผนที่ของ "นารา" (ไม่ใช่อะไรหรอกครับผมกลัวหลง 555คำถาม : แล้วแผนที่ไปเอาที่ไหน ก็ไปเอาตรง Information จะเป็นแผ่นพับวางที่นั่นไปหยิบเอามาเลยครับ (บางคนจะโหลด Map มาไว้ในมือถือก็ได้นะครับ เเต่!!! เราไม่เอา 55555 ) โหลดไม่เป็น 5555(เปล่าครับเดียวถ้าเราเอามือถือออกมาใช้บ่อยๆ เเบตจะหมดเร็ว เอาเเบตไว้ถ่ายรูปดีกว่า )  แล้วอย่างที่สองที่เราทำ คือ หาร้านจักรยาน 5555 ด้วยการที่เราเตรียมตัวมาก่อน ว่าร้านจักรยานอยู่ไหน เราก็ไปที่ร้านจักรยานเลยครับ อยู่ไม่ไกลจากสถานี Nara เดินประมาณ 500 เมตร
ร้านชื่ออะไรจำไม่ได้ รู้เเต่ว่าเจ้าของร้านใจดี ที่บอกว่าใจดีเพราะว่าปกติถ้าเช่าจักรยานจะต้องมาคืนจักรยานก่อน 6 โมงเย็น เเต่เจ้าร้านให้คืนตอนไหนก็ได้ เเค่เอามาจอดหน้าร้านแล้ว Lock ล้อ เอากุญแจหย่อนในเมล์บ็อกซ์ให้เขา 55555
ที่นี้ก็ลองดูว่าเราจะเลือกจักรยานเเบบไหน ให้เหมาะกับเรา(สำคัญเลยเงินในกระเป๋า 555 ) มีตั้งเเต่ 600 - 1500 เยน ขึ้นอยู่กับความชอบของเราเลย ผมเลยเอาที่เป็นไฟฟ้าให้แฟน (1300 เยน) เพราะกลัวเขาปั่นนานๆไม่ไหว ส่วนตัวผมเองเอาธรรมดาก็ได้ (เรามันระดับ นักปั่น Audax โถ่!!) ป่าวหรอกครับตังค์ไม่มี 55555 พอเราได้จักรยานเรียบร้อย พร้อมเซ็นต์ใบเช่า เจ้าของร้านก็จะเเนะนำวิธีการใช้ รวมถึงบอกว่าสามารถจอดที่ไหนได้บ้าง มีคนถามว่าแล้วใช้ภาษาอะไรสื่อสารกับเขา (ภาษามือครับ555)ป่าวหรอกเจ้าของร้านพูดอังกฤษได้นิดหน่อย เราเองก็งูๆปลา เหมือนกันครับเป็นไงครับได้ปั่นจักรยานสมใจ หน้าบานเลยผม 55555 ผมก็ให้แฟนปั่นตามหลังผม บางจังหวะก็ให้ปั่นออกก่อน (จังหวะที่คน และรถไม่เยอะ) เเละที่เเรกที่เราจะไปก็คือ Kohfukuji temple
ตัวผมเเละแฟนก็ไม่รีรอในการเก็บภาพเป็นที่ระลึก 5555 ต้องบอกว่าวัดนี้เป็นวัดที่เก่าเเก่ของเมืองนารา เพราะสร้างขึ้นมาพร้อมเมือง ลองเข้าไปอ่านรายละเอียดดูได้นะครับ https://www.talonjapan.com/kofukuji-temple/

ที่นี้เราจะจอดจักรยานเราได้ที่ไหนบ้าง เพราะเจ้าร้านกำชับเราเรื่องการจอดรถ 5555 เราก็มองหาไม่มี หรือว่าเราหาไม่เจอ 5555 สุดท้ายเราก็ไปจอดใต้ต้นไม้เราก็เนียนไปจอด พอเรากลับมาคนจอดจักรยานกับเราเต็มเลย 5555 (เเสดงว่าเขาก็หาที่จอดไม่เจอ555) เราใช้เวลาอยู่ที่วัดนี้ประมาณ 40 นาที หลังจากนั้นเราก็ไปต่อ วัดที่เราจะไปต่อคือศาลเจ้า Kasuga taisha ระหว่างทางสิ่งที่เราเจอคือพระเอกของที่นี่ ใครมาก็ต้องเจอและมีเยอะด้วย ก็คือ พี่กวาง (กวาง)นั่นเอง ต้องบอกว่าเยอะมาก เเละที่ตามมา ก็คือกลิ่น (เหม็น 555) เเต่มันน่ารัก นักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่ก็ต้องถ่ายรูปกับมัน 55555 เราถึงตัวผมด้วย 55555 (เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึง)
เเละระหว่างไปที่ศาลเจ้า ผมก็บอกเเฟนว่าเราลองเดินดูเเถวนี้ก่อนเพราะเห็นคนเดินเยอะ เเละมันร่มรื่นด้วยน่าจะมีที่ที่ให้เราถ่ายรูป  ผมกับเเฟนก็จอดรถใต้ต้นไม้เหมือนเดิม 55555และมันก็เป็นจริงอย่าที่ผมคิดไว้ ก็คือด้านหล้งจะมีคลองเเละก็มีต้นซากุระสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปกันอีกต้องบอกว่า วิวสวยมากครับ ซากุระกำลังบานเต็มที่เลย นักท่องเที่ยวก็เยอะ เเละที่เห็นมีคู่บ่าว -สาว มาถ่ายรูปคู่เเต่งงานกัน (เหมือนเห็นใน TV ยังไงยังงั้น  มีร่มสีเเดงด้วยยิ่งสวยเข้าไปใหญ่) อิจฉาๆ 5555

หลังจากเราเสพบรรยากาศ เเละเก็บภาพเป็นที่ระลึกเรียบร้อย เราก็ปั่นไปต่อ เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากวิวมันสวย จากนั้นเราก็เดินกลับไปเอาจักรยานที่เราจอดไว้ใต้ต้นไม้ ประมาณ 500 เมตร
สุดท้ายเราก็ปั่นมาถึงศาลเจ้า Kasuga taisha เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงของเมืองนารา ถ้าพูดถึงศาลเจ้าทุกคนก็จะมาศาลเจ้าเเห่งนี้ เดี๋ยวลองเข้าไปดู https://www.talonjapan.com/kasuga-taisha/
พอได้ไหว้ศาลเจ้าเรียบร้อย ขอพรกันเรียบร้อยก็ได้ ลืมบอกไปครับว่าบริเวณหน้าศาลเจ้ามีการเเสดงโชว์ขี่ม้า(ไม้)ยิ่งธนูด้วยครับ มีคนมามุงดูกันเยอะมาก อาจจะเป็นเพราะเสียงตะโกนของคนขี่ม้า และจากนั่นไม่นานประมาณชั่วโมง  เราก็ปั่นจักรยานไปต่อที่วัด Todaiji temple อยู่ห่างประมาณ 1 กิโลครับ เพราะว่าปั่นกลับนิดเดียว (กล้ามเนื้อมัดใหญ่ยังไม่ทำงานเลย 5555) วัดนี้ต้องบอกว่าคนเยอะมาก (เสียงสูง 555)
นี่คือบริเวณทางเข้าหน้าวัด ก็จะมีร้านขายของ ขายอาหาร ต่างๆ มากมาย เเน่นอนราคาค่อนข้างเเพง (เป็นสถานที่ท่องเที่ยว)  ลองอ่าน Link นี้ดูครับ ต้องบอกว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นด้วย https://www.talonjapan.com/todaiji-temple/
ด้านบนของวัดเราก็ยังเห็นชาวญี่ปุ่นใส่ชุดประจำชาติเขาอยู่นะครับ ต้องบอกว่าเข้าบรรยากาศจริงๆ  พอเข้าไปในวัดสามารถเดินอ้อมเป็นสี่เหลี่ยมได้เลยครับ รอบๆวัดก็เต็มไปด้วยซากุระ ที่บานเต็มที่ ส่วนใครจะมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้สามารถ Check ว่าบานช่วงวันไหนได้เลยนะครับ (เเม่นครับ555)
นึกว่านางเอกหนังเกาหลี 5555 สั่งให้ผมถ่ายให้อย่างเดียว (ไม่เอาๆ เอาใหม่ๆ รูปไม่สวย 5555) นอกจากจะเป็นเด็กยกกระเป๋าแล้ว ยังเป็นตากล้องจำเป็นอีกด้วย (ใจเราก็เราถ่ายได้เเค่นี้ เราไม่ใช่ตากล้อง 5555  อันนี้บ่นๆ)
เราใช้เวลาอยู่ที่วัดนี้ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงเพราะเป็นวัดที่ใหญ่ เมื่อเทียบกับวัดที่ผ่านมา เเละยังมีซากุระรอบๆวัดอีกทำให้เราต้องใช้เวลานานหน่อย บวกกับเราหาข้าวกินด้วยพอเรากินข้าวเสร็จมองดูนาฬิกา ก็ปาเข้าไป 4 โมงนิดๆ เราต้องรีบไปต่อเพราะเราเหลือเวลา 2 ชั่วโมงเดี๋ยวมันจะมืดก่อน (เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย) ที่ที่เราจะไป คือ คลองที่มีซากุระบาน ตอนเเรกก็ไม่อยูในเเผนของวันนี้ เเต่ดูเเล้วไม่ไกล พอปั่นไปได้ อีกอย่างดูใน Map ซากุระน่าจะเยอะ (เพราะดูใน Map ซากุระเต็มไปหมดเลย ลองเสี่ยงดู 55555) ก่อนไปก็ต้องดูเเผนที่ให้เรียบร้อย เพราะเส้นที่เราปั่นผ่านรถค่อนข้างเยอะ  (ออกถนนใหญ่) จริงๆก็ขึ้นทางจักรยาน เเต่บางช่วงก็ต้องลงถนน

เดี๋ยวมีเวลาจะมาเขียนต่อนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่