Trip ครอบครัวในการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก ช่วงที่ไปคือ 15-19 มีนาคม 2018 ซึ่งดอกซากุระยังไม่บานเต็มที่นะคะ แต่เพราะจองตั๋วล่วงหน้าไว้ช่วงนี้ และได้ราคาถูก ไปกัน 4 คน จองตั๋วกับสายการบิน Air Asia ได้คนละ 8500 ไม่รวมโหลดกระเป๋ากับอาหารบนเครื่องคะถ้ารวมโหลดน้ำหนักกับอาหารบนเครื่องก็ 9500 บาท ถ้าใครซื้อสายการบินอื่นรวมโหลด กับอาหารบนเครื่องก็น่าจะ 9500 - 12000 บาท
ได้เที่ยวบิน XJ606 เวลาขึ้นเครื่อง 10.45 ถึง ญี่ปุ่น 19.00 น (เวลาท้องถิ่นเนื่องจากเวลาญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทย 2 ชม ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชม.15 นาที)สำหรับแผนการเดินทางของเรา คือ  Narita --> Kawaguchigo---> Tokyo ---> Gala yuzawa---> Narita
แนะนำว่าถ้าจะไปให้คุ้มต้องขึ้นเครื่องตอนเที่ยงคืนคะแล้วไปเช้าพอดีจะได้เที่ยวเพิ่มอีกวัน

เข้าแถวขึ้นเครื่องบิน

อาหารบนเครื่องบิน
DAY 1
ถึงเวลา 18.30น เร็วกว่ากำหนด แต่ก็ค่ำมืดแล้วเราก็อยู่ในสนามบินนาริตะเกือบ 3 ชั่วโมงสาละวนกับการหาที่ซื้อตั๋ว JR Tokyo Wide pass (อยู่ชั้นใต้ดินคะ) ใช้ได้ 3 วัน การสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ใช้ภาษาอังกฤษคะ แค่บอกว่าจะซื้อตั๋วแบบใหน และส่งกระเป๋าใบเล็กอีกใบเพื่อให้ไปถึงโรงแรมในคืนที่ 3 (อยู่ชั้น 1)  และก็หาข้าวเย็นกินกันคะ ค่อยเข้าโรงแรมเพื่อพักผ่อน กว่าจะถึงโรงแรม Narita Tobu Hotel Airport ก็ 3 ทุ่มกว่า (เนื่องจากรอรถ Shuttle bus แต่โรงแรมอยู่ใกล้สนามบินมากคะสะดวกสำหรับคนที่บินกลับตอนเช้าคะ
ลงเครื่องก็หาซื่อตั๋วรถไฟก่อน

ถ้าเราต้องการจองตั๋วรถไฟเที่ยวใหนก็บอกเจ้าหน้าที่ไปคะ เพราะ JR Tokyo wide pass ต้องเช็คกับ hyperdia.com หรือพิมพ์เที่ยวรถ เวลารถออก ให้เจ้าหน้าที่ดูเป็นการจองที่นั่งกับขบวนรถไฟคะ
ใครพกไปน้อยมีตู้กดเงินสดในสนามบินเลยคะ เลือกภาษาไทยได้คะ
ส่งกระเป๋าใบเล็กก่อนคะ

หน้าตาแบบฟอร์มตอนกรอกมีเจ้าหน้าที่คอยบอกคะแต่เป็นภาษาอังกฤษคะ
ห้องพักมีเตียงโซฟาเพิ่มอีก 1 นอน 4 คนได้สบายๆ จองจาก booking.com คะ
ห้องน้ำของใช้เค้าเป็นชิเชโด้ แบบว่าดีงาม
ตารางเวลารถ
DAY 2
เราออกจากโรงแรมโดยขึ้นรถ shuttle bus ประมาณ 8.30น ถึง สนามบินนาริตะ 9.00 น เราก็หาข้าวกินตามร้าน kios ทั่วไป รถขบวนที่ไปสามารถนำอาหารไปกินได้คะ) จากนั้นก็หา platform ขึ้นรถไฟต้องลงไปชั้นใต้ดินแล้วดูขบวนรถ กับเวลารถให้ดีนะคะ ตามตั๋วต้องขึ้นรถ N'ex 8 เวลา 10.46น ตู้ที่ 7 ที่นั่ง 3-B ไปลง Shinjuku และต่อไป Otsuki อีกทีนั่งรถหลายต่อหน่อยคะ ใครไม่อยากนั่งหลายต่อจองเป็นรถ Bus ไปเลยคะ ซื้อตั๋วได้ที่สถานีรถไฟ Shinjuku ต่อจากนั้นก็ต้องนั่งจาก Otsuki st. ไปลงที่ Kawaguchiko st.
รอรถไฟ ซึ่งมาตรงเวลามากคะ
ที่นั่งให้รอรถไฟคะ ไม่ค่อยเห็นถังขยะบ้านเค้าเท่าไร
รถไฟจาก Otsuki ไป kawaguchiko

สถานีรถไฟเพื่อต่อรถไฟไป kawagichiko

หาร้านอาหารทานข้าวคะ
กว่าจะไปถึง Kawakuchiko station ก็ 16.00 น ประมาณ 4 ชม.กว่า ๆ พอมาถึงก็ดันฝนตก ฟ้าปิดมองไม่เห็นภูเขาไฟฟูจิคะ เราเลยไปที่ information center เพื่อขอให้เค้าโทรให้ Guesthouse มารับคะก็รอประมาณ 30 นาที ได้คะ ทีพักคืนที่ 2 คือ Guesthouse Sakuya อบอุ่นมากคะ เพราะคนที่มาพักส่วนใหญ่เป็นคนไทย ที่นี้ดูแลกิจการแบบครอบครัว 4-5 คน มี Onsen ให้แช่จองเวลาเป็นครอบครัวเราเวลา 5 โมง ถึง 6 โมงและเจ้าของก็ถามว่าอาหารเย็นจะสั่งกี่ที และเมนูที่ให้เลือกมีปลา หมู เนื้อ และไก่ จะให้ เสริฟตอนกี่โมง อาหารเช้าก็ให้เสริฟตอน 8 โมงเช้าคะ สำหรับอาหารไม่แพงเลยคะ (อาหารเย็นหัวหล่ะ 800 เยน อาหารเช้า 700 เยน) อร่อยด้วยคะ เจ้าของร้านใจดีเสริฟผลไม้เป็นกล้วยหอมฟรีให้กินอีก กินที่ไทยไม่อร่อยต้องไปกินที่ญี่ปุ่น
พอมาถึงสถานีรถไฟ kawaguchiko ทางออกด้านขวามือจะมี information center ให้นักท่องเที่ยวสอบถามข้อมูลหรือโทรตามโรงแรมมารับให้คะ
ตรงข้ามสถานีรถไฟ Guesthouse Sakuya
อาหารเย็นอร่อยมากคะ

อาหารเช้า

ห้องนอน 4 คน วิวที่นี้เห็นฟูจิจากห้องนอนนะคะ (บางห้องคะ ห้องที่เราพักคือ 107 เห็นฟูจิเลยคะ) แต่ตรงที่ทานอาหารเห็นชัดเต็มตาเลยคะ ฟินมากตอนเช้าตื่นมาพบฟูจิเต็มๆตาคะ

DAY 3
ตอนเช้าเราก็บอกเจ้าของให้ไปส่ง 08.40 คะไม่งันต้องรออีกทีตอน10โมง

เมื่อเจ้าของมาส่งถึงสถานี เราก็เดินไปซื้อ Retro bus สายสีแดง ตั๋วแบบ 2 วัน ผู้ใหญ่ 1300 เยน เด็ก 650 เยน ถ้าสีเขียวจะวิ่งใกล้ไปอีกทะเลสาบหนึ่งคะใช้เวลาชั่งโมงกว่าถึงจะครบรอบเลยซื้อแค่สายสีแดงคะ  จุดที่น่าลงคือ Oishi Park จุดสุดท้าย 22 คะ แหละเราก็ลง จุดที่ 11 กระเช้า
Oishi Park จุดสุดท้าย 22

จุดที่ 11 กระเช้า Kachi

ซื้อขนมฝากได้ที่นี้คะ
พอใกล้เที่ยงเราก็ออกเดินทางไปสถานี Shimoyoshida St. ซึ่งสามารถเดินขึ้นไปชมวิวฟูจิสวยๆ ได้ที่เรียกกันว่าเจดีย์แดงนั่นเองคะ

สถานีรถไฟ Shimoyoshida St.

เดินออกมาจากสถานีจะมีป้ายบอกทางไปเจดีน์แดงคะ

ใครหิวหาอะไรทานที่ร้านกาแฟข้างๆสถานี ราคาไม่แพงคะ

เจดีย์แดงวันที่เราไปไม่เห็นฟูจินะคะ
พอเดินลงจากเจดีย์แดงก็มานั่งรอรถไฟเพราะพึ่งออกไปตอนบ่าย 2  ต้องรออีกประมาณ 1 ชม. ซึ่งทำให้แผนที่วางไว้จะไป shopping ในโตเกียวพังหมดคะ กว่าจะออกจาก Shimoyoshida St. ก็เกือบ 4 โมงคะ ถึง Shinjuku ก็เกือบหกโมงคะ ไม่ไหวแล้วลูกก็อยากกลับไปพักโรงแรม แถมหาสถานีใต้ดินเพื่อไปยังสถานี Kuramae ไม่เจอตอนนั้นต้องถามทางคนญี่ปุ่นตลอดคะ โชคดีมากเค้าใจดีและฟังที่เราพูดเข้าใจเลยเดินพาเรามาลงถูกสถานี เพราะ Shinjuku เป็นสถานีที่คนเยอะมากๆคะ ลงไปขึ้นมาอยู่หลายรอบยังไม่ใช่

ในที่สุดก็มาถึง Hotel Mystays Asakusa เกือบ 3ทุ่มคะ ต้องออกไปหาร้านอาหารต่ออีก เจอร้านอาหารอินเดียใต้โรงแรมพอดีคะ อาหารอร่อยพอได้คะ ราคาก็ไม่แพงกินกัน 4 คนหมดไป 3300 เยน คะ กลับมาพักที่ห้องพักวิวเห็น Tokyo sky tree ในห้องเลยคะ(ห้องนี้จองได้ที่ 19000 เยนคะ 3 เตียง) ประสบการณ์การเปิดน้ำอุ่นในห้องน้ำแล้วเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ทำเอา heat detect ทำงานเจ้าหน้าที่ก็โทรมาที่ห้องวุ่นวายกันพักใหญ่

ห้องพักที่ Hotel Mystays Asakusa

จากห้องพักเห็น Tokyo sky tree
DAY 4
พวกเราตื่นแต่เช้าเพื่อไปเดินวัดอาซะกุซะ หรือวัดโคมแดง ใช้เวลาเดินไปกลับจากโรงแรมถึงวัด 1 ชม.คะ ได้เดินดูถนนหนทางเค้า ไปแต่เช้าคนยังไม่เยอะ  แต่โคมยังไม่เอาลง ของขายยังไม่มีใครขายคะเพราะเช้ามาก เลยอดซื้อของฝากอีกแล้ว

จากนั้นเราก็เดินมาขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานี Kuramae ไปยัง Tokyo เพื่อไปขึ้นรถไฟชินคันเซน ไป Gala Yuzawa เพื่อไปเล่นสกีคะ ได้นั่งคัน TANIGAWA 83 ตู้ที่ 8 เวลา 09.52 น ต้องดูเวลากับขบวนรถดีๆคะเพราะจะได้ไปให้ถูก Platform ไม่งันก็ตกรถไฟนะคะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่งโมง 20 นาที เร็วมากคะ พอไปถึงก็ต้องขึ้นไปซื้อตั๋วเข้าไปเล่น เด็กๆฟรีคะ แต่ผู้ใหญ่ต้องเสียคนละ 2500 เยน และมีค่าเช่ารองเท้าบูธ คนละ 400 เยน ส่วนถุงมือ คนละ 1000 เยนเค้าให้ซื้อถุงมือคะไม่มีเช่า ถุงมือถ้าเอาไปเองก็ไม่ต้องซื้อใหม่คะ และมี sled เล่นสไลด์ลงมากับหิมะ 2 อัน แบบว่ามันมากคะ ผลัดกันเล่นกับลูก ที่นี้มีห้องแต่งตัวและมีล๊อคเกอร์ให้เช่าคะ วันละ 1000 เยน มี password ให้เรียบร้อยหลังจากหยอดเพื่อเช่าตู้ลอคเกอร์

เล่นนานๆ เริ่มร้อนแดด ขนาดอุณหภูมิแค่ 7 องศาแต่แดดที่นี้แรงส์มากคะ เลยอยู่แค่บ่าย 2 โมงเล่นจริงๆแค่ 2 ชม. นอกนั้นก็ถ่ายรูป พอลงมาก็มาเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็ต้องวิ่งขึ้นรถไฟกลับโตเกียวอีกแล้วคะ เพราะรถไฟกำลังจะออกรอบบ่าย 2 โมงครึ่งพอดี (เฉียดฉิวแบบหวุดหวิด)

นั่งรถไฟถึงโตเกียวก็เกือบ 4 โมงเย็นแล้วคะ เลยตัดใจกลับนาริตะเลย ตอนกลับนี้แหละคะที่เสียเวลารอรถไฟผิดขบวน ผิด Platform ตอนไปจองตั๋วที่ JR center เจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีรถตอน มีรถไฟไปสนามบินนาริตะตอน 17.03 และ 17.33 น. ตอนสีโมงครึ่งซื้อไม่ทันแล้วคะต่อคิวก็ประมาณ 20 นาทีได้ใครแพลนเวลาดีๆ จองที่นั่งก็ดีคะไม่เสียเวลาต่อคิว ลืมถามว่าขึ้นที่ Platform ใหนเลยเดินหาป้ายดูที่เวลาตรงกันก็พอนะ เอาแล้วปรากฎว่ามีเวลา 17.03นตรงกันอีก ที่ Platform 3 เราก็เดินขึ้นไปรอ แต่พอมากับเป็นรถแบบท้องถิ่นไม่ใช่ N'ex คะ เลยลงไปซื้อตั๋วใหม่ คร่าวนี้ถามว่าขึ้นที่ใหน สรุปคือต้องลงไปชั้นใต้ตินคะ พระเจ้ากว่าจะลงไปถึงรถไฟมาพอดี เกือบไปอีกแล้วคะ พาลูกสามีวิ่งขึ้นวิ่งลงสถานีรถไฟทุกวัน
DAY 5
พวกเราตื้นแต่เช้าเพราะขึ้นเครื่องตอน 09.15 น. คะ สายการบิน Air Asia อยู่ชั้น 3 ช่อง N นะคะ นั่งรถ shuttle  bus ตอน  7.00 เช้า ถึงก็ 7 โมง ครึ่งคะ กว่าจะ Check in เสร็จ ให้เผื่อเวลาตรงนี้กับการเข้า Gate ด้วยนะคะ เพราะพวกเราก็วิ่งขึ้นเครื่องอีกแล้วคะ เพราะไปที่ ตม.ออก คนต่อคิวยาวมากๆคะแถวและคนข้างหน้าเรามีปัญหา แถวอื่นเค้าขยับแล้วแถวเรายังติดที่เดิม เหลืออีก 2 คนก็จะถึงคิว ดีที่เจ้าหน้าที่ AIR asia มาถามถึง ตม. และวิทยุไปบนเครื่อง

สนุกดีคะ การไปเที่ยวแบบไปกันเองออกแบบการเดินทางเอง แต่ต้องวางแผนดีดีนะคะ ไปง่ายไม่ต้องกลัวหลงทางคะ