[CR] Work And Travel 2018 in Delaware เรียลไทม์

สวัสดีค่ะ เรามาเล่าประสบการณ์ Work And Travel 2018 แบบเรียลไทม์
ตอนนี้เราเพิ่งเดินทางมาถึง USA วันที่ 8/5/18 ก่อนอื่นเลยจะมาพูดถึงเหตุผลที่เลือกมาแล้วก็ในส่วนของโครงการต่างๆ
❓สาเหตุที่เลือกโครงการนี้
เราอยากไปอเมริกาสักครั้ง เราชอบดูหนังมากกกก มีหลายที่ในอเมริกาที่รู้สึกว่าอยากจะไปให้ได้ นั้นแหละเหตุผลที่เราไป wat 555
❓เตรียมตัวยังไง
เราเตรียมตัวตั้งแต่ปี 2 แต่ได้ไปจริงตอนอยู่ปี 4 อย่างที่บอกอยากไปอยู่ต่างประเทศสักครั้ง แต่เนื่องจากตอนปี 2 พอเราจะไป มีเหตุให้เราไปไม่ได้ พอซัมเมอปี 3 เราต้องเลือกระหว่างลุ้นทุนได้ไปฝึกงานที่ญี่ปุ่นกับไปอเมริกา แต่นั้นแหละที่พูดมาคือ เราไม่ได้เตรียมตัวทางภาษาอะไรมากมาย ก็ฝึกเลื่อยๆ ดูหนัง ฟังเพลง พยายามทำทุกอย่างให้ภาษาตัวเองพอที่จะสื่อสารได้บ้าง จนปี 4 โอกาสสุดท้ายแล้ว เราก็ไม่ได้คิดว่าภาษาเราดีอะไรมากมายหรอก แต่มันคือโอกาสที่ถ้าไม่ไปตอนนี้เรียนจบก็ไปโครงการนี้ไม่ได้แล้ว เราก็ได้เลือกเอเจนซี่ที่เราจะไป
📌การเลือกเอเจนซี่
เรารู้ว่าทุกคนที่กำลังจะไป คงกำลังกังวลแล้วเครียดเลยละว่าจะไปกับเอเจนซี่ไหนดี โดยส่วนตัวเรานั้น เราเลือกไปกับ Acadex
เราอยากบอกว่าทุกเอเจนซี่ก็มีข้อดีและข้อเสียต่างๆกันไป อย่างอคาเดกเป็นที่รู้กันในหมู่เด็กเวิร์คว่าค่าโครงการแพงที่สุดแล้ว แต่ข้อดีคือมีงานให้เลือกเยอะมากกกด
ตัวอย่างเอเจนซี่ที่เราหาข้อมูลมานะ

อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างที่เราหาก่อนจะตัดสินใจเลือก และเพื่อนเราที่ไปคนละเอเจนซี่ มีอีกหลายที่ให้เพื่อนๆเลือก แล้วแต่ความสะดวกและสบายใจ ใครอยากเลือกงานเอง อาจจะต้องดูเอเจนซี่ที่เราเลือกเองได้ ส่วนใครอยากได้ราคาถูกก็มีให้เลือกหลายองค์กร รวมไปถึงการจองตั๋วเครื่องบิน ใครอยากซื้อเอง งานที่ทำบางเอเจนซี่มี บางเอเจนไม่มีหรือวิธีการเลือกงาน ปัจจัยพวกนี้แต่ละคนต้องการไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าถามเราว่าควรไปเอเจนซี่ไหน
1. อยากเลือกงานเองรึป่าว อยากทำงานอะไร?
2. อยากจองตั๋วเองไหม?
3. มีงบเท่าไหร่ (ต้องบอกก่อนราคารวมๆจะอยู่ที่ประมาณ 100,000-150,000 บาท บวกลบต่างกันที่ค่าตั๋วและโครงการ)
4. อยากไปรัฐไหน (แต่ละเอเจนซี่ดิวงานแต่ละที่ได้ต่างกัน ทำให้บางเอเจนซี่มีรัฐให้เลือกน้อย)
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเลือกเอเจนซี่ เราว่าขึ้นอยู่กับดวงด้วย เพราะบางคนไปเอเจนซี่เดียวกัน งานเดียวกัน แต่ก็โดนปฎิบัติต่างกัน หรืออะไรหลายๆอย่างที่ได้ รวมทั้งประสบการณ์ต่างกันไป ยิ้ม  #ต้องลองถึงจะรู้
📌รัฐไหนดี
อีกหนึ่งคำถามที่พบบ่อยมากที่สุดดดด สำหรับเรื่องนี้เราพูดได้เลยแล้วแต่คน!!! แล้วแต่ปัจจัย ส่วนตัวเรา เราเลือกรัฐ DE แต่ที่เราไปรัฐนี้เพราะเราอยากอยู่รัฐแทบ NY จุดประสงค์เราคือไปเที่ยวตามที่ต่างๆในหนัง ใช่ค่ะ ที่ที่เราอยากไปมากที่สุด สะพานบรู๊คลิน (แมนฮันตัน) แล้วที่เราเลือกรัฐนี้เพราะไม่เสียภาษีซื้อขาย ตอนแรกเราเลือกจากงานที่อยากทำคือ Lifeguard ที่ DC แต่เนื่องจากช่วงที่ต้องถ่ายคลิป อะไรหลายๆอย่าง รวมทั้งขั้นตอนมันวุ่นวายแล้วเราไม่พร้อม บวกกับเริ่มงานได้ช้ามาก เกือบมิถุนายน ปลายพฤษภา เราจึงตัดสินใจเปลี่ยนงาน โดยตอนนั้น งานที่มีรัฐใกล้ๆ NY คือที่ DE ตำแหน่งงานคือ Dishwasher ล้างจานดีๆเนี้ยละ เราคิดว่าจุดประสงค์เรามาคืออยากเที่ยว เรื่องภาษาเรามองว่าแค่ไ้มา มันก็ได้ภาษาแล้ว เพราะทุกวันภาษาที่ใช้คืออังกฤษ เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับตัวเราไม่ใช่งาน งานเป็นเพียงส่วนเล็กๆ  
กลับเข้าเรื่อง ออกไปไกลมากกก เรื่องเลือกรัฐไหนดีก็ตามที่ชอบเลย อยากได้ภาษาก็เลือกที่ไม่มีคนไทยมาเยอะ อยากเที่ยวไหนก็อาจจะเลือกรัฐนั้น อากาศ ชอบหนาวหรือร้อน อะไรพวกนี้ ก็ศึกษาแต่ละรัฐดูตามความต้องการเลยจ้า
📍ทำงานอะไรดี?
คำถามยอดฮิต อย่างที่บอก งานมีให้เลือกเยอะมากตั้งแต่ งานโรงแรม งานร้านอาหาร งานอุทยาน lifeguard หรือคาสิโน่ เป็นต้น
ในส่วนนี้เราขอไม่เขียนอธิบายงานด้านอื่นๆนะ เราจะพูดในส่วนที่เราตัดสินใจเลือก อย่างที่บอกตอนแรกเราอยากไปยืนคุมสระชม.ละ 13$ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนมาทำร้านอาหาร เรามองว่าร้านอาหารอาจจะดีตรงที่อาจจะได้อาหารกลับมากิน แต่ถ้าทำlifeguard ก็ต้องซื้อกินเองทุกมื้อ ส่วนที่ไม่เลือกทำงานโรงแรมกับอุทยานเพราะเราไม่ชอบบวกกับแพ้แมลงและฝุ่น ก็เลยเป็นเหตุให้มาจบที่ร้านอาหาร ซึ่งร้านอาหารก็มีหลายตำแหน่ง อย่างที่บอกเรามาในตำแหน่งเด็กล้างจานชม.ละ 10$
📌ค่าโครงการทั้งหมด
ค่าWAT ทั้งหมดที่เราจ่ายกับอคาเดกปี 2018
งวดที่1 ค่าสมัครงวดแรก 4850
งวดที่2 ค่าโครงการ + sevis + ค่ามัดจำตั๋วงวดแรก
54,000+ 3,800 +3,500 = 61,300
งวดที่3 ส่วนต่าง 10,000
(⚠️ราคาขึ้นกับงานที่เลือก Premium เพิ่ม 10,000 , Exclusive เพิ่ม 15,000)
งวดที่4 ค่ามัดจำตั๋วงวดสอง 5,000
งวดที่5 ค่าสัมวีซ่า 160$ = 5,440 (1$=34)
งวดที่6 ค่าตั๋วจากราคาเต็ม 43,620 หักมัดจำเหลือ 35,120
4,850+61,300+10,000+5,010+5,440+35,120=121,720
**Pocket money 550$+220$+30$ = 800$ (18,000+8,000+937) เราตั้งงบรวมเงินที่แลกไปด้วยไว้ที่ 150,000-148,647=1,353
➕อันนี้เป็นทางเลือกนะ เราซื้อซิมกับอคาเด็กราคา 2100/2 เดือน
เราก็ขอจบเรื่องรายละเอียดโครงการไว้เท่านี้เน้อ ถึงเวลาจุดเริ่มต้นเด็กwat แล้วจ้าาา

มาเริ่มการเดินทางครั้งนี้ตั้งแต่เริ่มสมัครกันเลยยยยย Let's gooo!!
เราเริ่มสมัครพฤษภาคม ปี 2017 คนที่ 4 ของอคาเดกปี 2018 😂😂 หลังจากสมัครแล้วจ่ายค่าโครงการ ก็ถึงเวลาเลือกงาน ตอนแรกพอสมัครแล้วระบบจะเปิดให้เลือกงานช่วงสิงหา เราก็เลือกlifeguardเลย แต่มาเปลี่ยนงานตอนต้นพฤศจิกายน แล้วสัมภาษณ์วันที่ 21 ธันวาคม 2017 รู้ผลตอน 10 มกราคม 2018 ได้job offer เลยในวันที่รู้ผล แต่วันเริ่มงานมีปัญหา แก้เอกสารกว่าจะได้ก็กุมภาพันธ์ (ในส่วนการดำเนินการ เราจะคอยตามกับพี่ที่อคาเดก เราว่าส่วนนี้อยากให้เพื่อนๆที่ไป ใจเย็นๆ แบบอย่างเราเราก็รอ ถ้า 2 อาทิตย์ผ่านไปก็โทรไปตามกับพี่อคาเด็กว่าเป็นยังไงบ้าง คนที่ไปเยอะ ถ้าเราไม่ตามเรื่อง บางทีเขาอาจจะตกหล่นเรา อันนี้ความคิดส่วนตัวเรานะ) พอปลายกุมภาพันธ์เอกสารเรียบร้อย สถานีต่อไปสัมวีซ่าจ้า เราเคยเล่าเรื่องสัมวีซ่าแล้ว ลองไปอ่านดูกันเน้อเผื่อใครกำลังจะเตรียมตัวสัม แล้วพอสัมวีซ่าเสร็จเราก็ไปเอาวีซ่าที่ปณ.รองเมือง ของอคาเดกต้องไปเอาเอง แต่ของเพื่อนเราทางเอเจนซี่เอามาให้ เมื่อได้วีซ่าแล้ว ต่อไปก็จองตั๋วเลยจ้าาาา อย่างที่บอกอคาเดกมีกฎว่าต้องจองกับทางเอเจนซี่ ซึ่งอันนี้เราขอบอกว่าเราเองไม่ปลิ้มเลย ไม่ใช่เรื่องราคาตั๋วนะ ราคาตั๋วเราพอเข้าใจเพราะเอเจนซี่อื่นที่บังคับจองบางเอเจนแพงกว่าอคาเดกอีก แต่ที่เราไม่โอเคคงเป็นระบบเว็บที่ห่วยแตกกว่าระบบลงทะเบียนมหาลัยเราสะอีก แต่ก็ผ่านมาได้ ป้ายต่อไปเตรียมตัวจัดกระเป๋า

❣️จัดกระเป๋าเตรียมตัวบินนน
ก่อนอื่นบอกก่อนเลยว่าไม่ควรจัดกระเป๋าวันเดียวเพราะนอกจากไม่ทันแล้วเหนื่อย ยังอาจจะลืมของได้
เราจัดกระเป๋าก่อนเดินทาง 1 วัน เพราะเราเรียนสหกิจแบบ 3 ปีครึ่ง แล้วอีก 1 เทอมคือเราทำงาน เราทำงานวันสึดท้ายที่ 1 พฤษภาคม กว่าจะย้ายของที่หอแถวที่ฝึกงานกลับมาบ้าน เก็บของบลาๆๆ เสร็จปาไปวันที่ 3 แล้ว เราบินวันที่ 7 พฤษภาคม ตอนแรกก็คิดว่าทันแหละ อีกตั้ง 4 วัน แต่ความพีคอยู่ที่ ของยังไม่ได้ซื้ออะไรเลย
วันที่ 4/5/18 เราไปทำเรื่องระงับสัญญาณมือถือชั่วคราว ช่วงที่เราอยู่อเมริกา ให้เอไอเอสปิดสัญญาณไป แล้วเปิดให้ตอนเรากลับมาไทย ค่ารักษาเบอร์ 65 บาทต่อเดือน เราก็แจ้งไปว่าปิดวันที่8/5/18-8/10/18 และเราไปซื้อของที่โลตัส พวกมาม่า ของแห้ง ผงทำอาหาร ซอสปรุงรส บลาๆๆ หมดไป 2,000 จ้า ตอนกลับมาบ้านเหนื่อย หมดแรง มันเหมือนเหนื่อยสะสม ทั้งเรียนโปรเจ็คทำงาน เลยบอกตัวเองว่าทันน่ะ นอนก่อนค่อยจัดพรุ่งนี้
วันที่ 5/5/18 ตื่นมาก็จะหมดวันแล้ว วันนี้แม่เราพาไปซื้อของเพิ่ม กับเตรียมตัวทำน้ำพริกตาแดง(น้ำพริกแม่เราตำเองเด็ดสุดๆ 55555) หมดไปอีก1วันกับกระเป๋าที่ยังไม่ได้จัด
วันที่6/5/18 วันนี้วุ่นวายสุดๆ ลืมว่าคอนแท็กยังไม่ได้ซื้อแล้วเราสายตาเอียงหนักมากแต่โดยปกติคือที่ร้านจะมีของสต็อกไว้ แต่ความซวยคือมันหมด😨😰😱😭 ซึ่งพอสั่งก็ไม่ทัน เราจึงต้องสั่งแล้วฝากเพื่อนที่จะมาอเมริกาวันที่15เอามาให้ แต่ก็อยู่กันคนละรัฐ 55555555 ตอนเย็นก็เอาโน๊ตบุ๊คไปล้างและลงโปรแกรมใหม่ ซึ่งตอนแรกที่ร้านบอก2ทุ่มได้ แต่สุดท้ายตอน1ทุ่มโทรมาบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยมาเอานะ ไม่ทันจริงๆและวันนี้เราเพิ่งตัดสินใจได้ว่าอยากย้อมผมสีน้ำตาลธรรมชาติ เลยให้เพื่อนช่วยย้อมให้ เริ่มทำตอน18.00 กว่าจะเสร็จปาไป 23.00 อาบน้ำล้างผมหมักตัวเสร็จเกือบตี1 เพิ่งเริ่มจัดกระเป๋า 😳พรุ่งนี้จะบินอยู่แล้ววว
วันที่7/5/18 เก็บกระเป๋าเสร็จตอนตี5 ความซวยคือสัญญาณมือถือเราถูกตัดตั้งแต่เที่ยงคืน ได้นอนหลังจัดกระเป๋าเสร็จ ก็ต้องรีบตื่นแต่เช้าไปเดอะมอลล์เพื่อไปติดต่อเอไอเอสให้เปิดสัญญาณก่อนค่อยปิดตอนเที่ยงคืนวันนี้ แล้วก็รีบไปเอาคอม เพราะ15.00น. เราต้องไปสนามบินแล้วววว ตื่นเต้นบวกรนแปลกๆ เพราะอะไรก็ดูยังไม่เสร็จ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพิ่มเติมในส่วนขออาหาร..จากข้อมูลความคิดเห็นที่  7
อาหารหลายอย่างๆ นำเข้าเมกาไม่ได้ค่ะ ใครเข้ามาตอนเดินผ่านเจ้าหน้าที่ อย่าวิ่งนะคะ เจ้าหน้าที่อาจจะสงสัยได้ค่ะว่าทำไมต้องรีบวิ่ง อาหารประเภทผักและผลไม้สด ห้ามเด็ดขาด ส่วนอาหารสำเร็จรูป ต้องศึกษาว่ารายการใดนำเข้าได้  อาหารที่ทำจากหมู หรือมีรูปหมูบนหีบห่อบรรจุ ไม่อนุญาตให้นำเข้า  ส่วนเนื้อสัตว์อื่นๆ ก่อนจะแพ็คกระเป๋า หาข้อมูลดีๆ นะคะ มาโพสท์ถามในพันทิพนี้ก่อนก็ได้ ไม่อยากให้ต้องมาลุ้นและเสี่ยงกับค่าปรับค่ะ อันนี้เป็นระเบียบของ U.S. Customs and Border Protection https://help.cbp.gov/app/answers/detail/a_id/1272/~/food---general-food
ตามเมืองใหญ่ๆ มีAsian Grocery store มีขายทุกอย่าง หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ Cr: สมาชิกหมายเลข 700538
15.45 น. ถึงสนามบินแว้วววว
มาดูว่าต้องไปเช็กอินที่ไหน เปิดให้เช็กอินกี่โมง แล้วก็ไปกินข้าวที่ฟูดของสนามบิน แต่นั้นแหละด้วยความรีบๆ ลืมซื้อน้ำตาเทียม เพราะเราต้องใส่คอนแท็ก เลยซื้อของที่สนามบิน 😭😭 ถูกๆไม่ชอบต้องมาซื้อแพงๆ ก็ตามลำดับไปนะครับ
19.05น. มาเช็กอิน เช็กอินคนแรกๆเลยจ้า กระเป๋าเกินด้วย ใบแรก 24.9 อีกใบ 23.9 แต่พนักงานก็ให้  ยิ้ม โชคดีไปแหะ ก็บอกลา ถ่ายรูปกับเพื่อนๆและญาติพี่น้อง จากนั้นก็ต้องเดินทางคนเดียวแลเว 😣😖 แอบกังวล 55555
🛫 บินละจ้าาา ออกจาก BKK 21.55 น. มาถึงสนามบิน HND ตอน 05.45 น.
ภาพอาหารบนเครื่องจาก BKK มา HND [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วก็เดินมาที่เกทเพื่อรอต่อเครื่อง แต่มีเวลาว่าง 4 ชม. เลยไปจัดราเมงสักชาม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้นก็เดินดูนู้นี่นั้น รอจน 9.30 น. เลยไปมาคหน้าในห้องน้ำ เพราะ 10.10 เกทเปิดให้เข้าแล้ว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
10.20 น. ขึ้นเครื่องเตรียมตัว HND ไปสู่ JFK  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ 9.05 น.มาถึงแล้วNY เริ่มต้นแล้วสินะชีวิตเด็กwatของเรา[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซัมเมอร์ช่วงสุดท้ายของชีวิตนักศึกษา ลุยย
ชื่อสินค้า:   Work and Travel 2018
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่