Part 2; Day 1: Bangkok > Kunming > Train to Lijiang

Part 1; เตรียมตัว
https://ppantip.com/topic/37652873
Part 2; Day 1: Bangkok > Kunming > Train to Lijiang
https://ppantip.com/topic/37652961
Part 3; Day 2: Lijiang old town + Black dragon pool
https://ppantip.com/topic/37653235
Part 4; Day 3: Jade Dragon Snow Mountain
https://ppantip.com/topic/37655875
Part 5; Day 4: Lijiang > Private van to Shangrila > Tafo temple
https://ppantip.com/topic/37766158
Part 6; Day 5: Shika Snow Mountain + Songzanlin Temple
https://ppantip.com/topic/37766940
Part 7; Day 6: Shangrila > Fly back to Kunming + Shopping
Part 8; Day 7: Moring market + Xishan Moutain + Shopping & Day 8: Kunming > Bangkok

เดินทางด้วย Air Asia บินตรงสู่ คุนหมิง ออกจากประเทศไทย 07.50 น. ไปถึงคุนหมิง 11.25 น. โดยเวลาที่คุนหมิงเร็วกว่าไทย 1 ชม. โดยเราจะต้องไปขึ้นตั๋วรถไฟนอนไป Lijiang คืนนี้ ซึ่งจองผ่าน Ctrip
เมื่อมาถึงเราก็ไปเดินสำรวจสนามบินกันสักหน่อย
มีหุ่นยนต์มาทักทายด้วยจ้า
ลงไปชั้นล่างจะเป็นทางเชื่อมไป metro และมีร้านอาหารขายด้วย ก็เลยจัดมื้อแรกไปเลย ราคาที่นี่ก็ไม่ได้โหดมากสักเท่าไหร่ อาจจะแพงกกว่าข้างนอกประมาณ 5-10Y/ จาน ชีวิตมาจบที่ร้านนี้ บอกเลยว่ามันและเค็มมาก ชามใหญ่มาก และไม่ต้องมาลองชิมก็ได้ค่า เดี่ยวไตจะวายตั้งแต่มื้อแรก 555
แต่ว่าชายาคู๊ลร้านนี้อร่อยดีคะ ชื่นใจหายเหนื่อย ใช้ app แปล เอานะคะ
การเดินทางไป สถานีรถไฟคุนหมิง (คุนหมิงจ้าน) สามารถไปได้ 3 วิธี คือ
1.    แทกซี่ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที อันนี้ไม่รู้เท่าไหร่
2.    รถบัส คนละ 35Y โดยบัสจะไปจอดที่หน้า Jin Jiang Hotel แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 500 ม.
3.    Metro แต่เจ้าหน้าที่บอกเดินไกลกว่าบัส และต้องเปลี่ยนสาย ยังทำไม่เสร็จดี
เราจึงเลือกไปด้วยบัส ออกจากสนามบินประตู 3-4 จะมีตู้ขายตั๋ว เจ้าหน้าที่พอจะฟังภาษาอังกฤษออก บอกเค้าว่าไป คุนหมิงจ้าน หรือ railway station เค้าก็จะออกตั๋วให้ราคา 35Y ไปขึ้นบัสเป็นบัสเล็ก 15 ที่นั่ง คะ
ที่ขายตั๋ว
รถบัสคะ เห็นรีวิวอื่นบอกว่า 25Y แต่เป็นบัสใหญ่ แต่เราได้บัสนี้อ่า
ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็มาถึง Jin Jiang hotel แล้วก็เดินลากกระเป๋ายาวไปๆ
ฮาโหลวพี่กระทิงล่ำบึ๊ก
พิเข้ามาในสถานีจะเจอตึกใหญ่ตรงกลาง ตึกนี้จะเป็นชานชลา ซึ่งเราจะต้องขึ้นบันได้ไปชั้นบนคะ ตึกด้านขวาเป็นที่ออกตั๋ว และตึกด้านซ้ายเป็นร้านอาหารกับที่ฝากกระเป๋า
ก็ไปที่ตึกด้านขวา เข้าไปช่อง 1 ช่องคนพิการ ตามที่เค้ารีวิวกันไว้เลย แล้วก็ยื่นพาสปอตกับใบจองให้เค้าไป โดยแก๊งเราเลือกไปทั้ง 2 แบบ ทั้ง Hard sleeper & Soft sleeper ซึ่งเดี่ยวจะมาบอกนะคะ ว่าเป็นยังไง
พอได้ตั๋วมาเสร็จก็ไปฝากกระเป๋า ราคาเริ่มต้นคือใบละ 8Y ถ้าใบใหญ่แบบ 24-28นิ้ว นี่ก็ 16Y วิธีการคือ เค้าจะยกๆกระเป๋าเราดูว่าหนักมั้ยแล้วก็กะราคาเอาดิบๆงี้เลยจ้า
ได้ตั๋วเสร็จแล้วก็ประมาณบ่ายสามกว่าๆ ซึ่งเราจองไว้รอบสี่ทุ่ม ก็เลยไปเที่ยววัด Yuantong temple กัน โดยเดินกลับมาขึ้นรถบัสที่หน้าสถานีรถไฟนะคะ (สถานีรถไฟเป็น one way ทางออกจะอยู่อีกด้านนึง ต้องเดินวนกลับมา) ขึ้นรถบัสสาย 83 (มั้ง ใช้ google map หาทางไปได้ เลือก option bus นะคะ จะขึ้นมาเลยว่ามีกี่สาย) นั่งไปประมาณ 8 -9 สถานีลงที่ Yuantong temple บัสจะมาจอดถนนข้างๆสวน เดินมาอีกหน่อยก็ถึงวัดคะ วัดนี้เก็บค่าเข้าชม คนละ 6Y
"วัดหยวนทง" มีอายุกว่า 1200 ปี สร้างในสมัยราชวงศ์ถัง (พ.ศ.1161-1450) เป็นวัดพุทธใหญ่ที่สำคัญของมณฑลยูนนาน แต่เดิมเป็นเพียงศาลเจ้าแม่กวนอิม สมัยอดีตนายกฯ พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันนท์ ได้อัญเชิญพระพุทธชินราชจำลอง มาประดิษฐานที่วัดหยวนทง เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างไทย-จีน นับเป็นพระพุทธรูปองค์แรกของไทยที่มาประดิษฐานในเมืองจีน เปิด 08.00 – 18.00 น.
เดินไปเดินมาหิวอีกละ ซื้อซาลาเปากินสะหน่อย หืมมม แป้งหนามากกกกก
กินเปาไม่พอจะมืดละกินข้าวเลยดีกว่า ทานร้านแถววัดคะ บอกเลยว่าเค็มมาก ไตวายมื้อที่สอง
ไข่ต้มชา รสชาดไข่ต้มธรรมดาคะ
อาหารไตวาย

หลังจากไตวายไปแล้ว เราก็อขึ้นบัสสายเดิมกลับไปที่สถานีรถไฟ แวะไปฉี่ที่ห้างระหว่างทาง เพราะห้องน้ำที่สถานีนั้นสยองมาจีจี
บรรยากาศเมืองคุนหมิงคะ
ทั้งเมืองดอกไม้บานหมดเลย ปลูกดอกไม้ทั่วไปเยอะมาก สมชื่อ Eternal Spring
น้องหมาขาสั้น
กลับมาถึงสถานีรถไฟก็ช็อคเบาๆคะ เพราะคนเยอะมากจริงๆ และนี่คือบรรดาเพื่อนร่วมทางของเราคะ
ที่เห็นนั่นครึ่ง Hall เองนะคะ
หลายๆรีวิวเค้าก็ได้รีวิวกันไว้มากมายถึงรถไฟในจีน ซึ่งในทริปนี้ เพื่อนเราบางคนเลือกนอกแบบ Hard sleeper ส่วนเราเลือกนอนแบบ Soft sleeper เพระเราคิดว่าไม่อยากไปวีนเหวี่ยง และไม่อยากสูดควันบุหรี่ เพราะเค้าอนุญาตให้สูบบุหรี่บนรถไฟได้ ราคาต่างกันประมาณ 300-400 บ.
> Hard sleeper จองใน Ctrip เฉลี่ย 180Y เป็นรถไฟนอน ห้องละ 6 เตียง ฝั่งละ 3 ชั้น ไม่มีประตูห้อง ซึ่งแต่ละชั้นค่อนข้างเตียและแคบ จากคำบอกเล่าของเพื่อนเรา คือ นางได้นอนกะอาจุมม่า ซึ่งโช้งเช้งมาก ในห้องไม่มีปลั๊กไฟให้ แต่มีปลั๊กอยู่หน้าห้อง ซึ่งก็อจะมีอาจุมม่ามาเสียบกันอยู่แล้ว ทำให้นางๆ ไม่สามารถชาจแบตได้เลยคืนนั้น เสียงดังเปิดไฟ ปิดไฟ ไม่สนใจแคร์โลก ในส่วนของห้องน้ำนั่น นางเพียงแค่แปรงฟันล้างหน้า
> Soft sleeper จองใน Ctrip เฉลี่ย 230Y เป็นรถไฟนอนห้องละ 4 เดียง ฝั่งละ 2 ชั้น มีประตูห้องปิด ซึ่งกว้างขวางสบายกว่า hard sleeper เราได้ roommate เป็น 2 สาวชาวเซี่ยงไห้ ซึ่งน่ารักมากๆ ในห้องมีโต๊ะวางของ ปลั๊ก 1 หัว ก็พลัดกันชาจไป ห้องน้ำแยกระหว่างส้วม กับอ่างล้างมือ ค่อนข้างสะอาดพอรับได้
สำหรับเราคิดว่าถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องงบมากนอนแบบ Soft ก็จะทำให้มีแรงกว่าเยอะ เพราะเพื่อนๆเราแทบไม่ได้นอนกันเลย
ปล. ที่นอนนั้น เปลี่ยนแค่ผ้าปู หมอน ผ้าห่ม ใช้วนนะคะ เพราะฉะนั้น ไม่สะอาด เตรียมหมอน เสื้อหนาว หรือผ้าห่มไปเองก็ดีคะ
นอน......แล้วไปตื่นที่ลี่เจียงค่า