คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
จริงๆ แล้ว ค่าแรงแพงกว่าไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ชาวยุโรปตะวันออกแห่กันไปอังกฤษเพราะ อังกฤษไม่ใช่เป็นประเทศที่มีค่าแรงสูงประเทศเดียวของยุโรปเหนือ แต่ค่าเงินปอนด์ต่างหากที่สูงที่สุดและนั่นคือสาเหตุที่ทำให้การเป็นผู้อพยพได้เปรียบจากอัตราแลกเปลี่ยนในการส่งเงินกลับบ้านเกิด
ความจริงอีกข้อหนึ่งคือการหลังไหล่อพยพจะเกิดจากประเทศยากจนกว่าสู่ประเทศร่ำรวยกว่าเป็นปกติ จากยุโรปตะวันออกสู่ยุโรปตะวันตก จากยุโรปใต้สู่ยุโรปเหนือ
ความจริงต่อไปนี้ที่หนังสือพิมพ์ประเภท tabloids และกลุ่มขวาจัดไม่เคยเอามาเสนอต่อประชาชนชาวอังกฤษ
1) ผู้อพยพจากประเทศ อียู ที่เข้าไปในอังกฤษคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1 ใน 3 ของผู้อพยพทั้งหมด ในขณะที่ในไอร์แลนด์นั้นคิดเป็นสัดส่วนถึง 74% และในเยอรมนีคิดเป็นสัดส่วน 44% สรุปแล้วผู้อพยพจาก อียู ในอังกฤษมีน้อยที่สุด
ผู้อยพส่วนใหญ่ที่เข้าไปในอังกฤษกลับเป็นผู้อพยพจากนอก อียู นั่นคือ อินเดีย และ จีน และประเทศจากอาณานิคมเก่าของอังกฤษเอง
2) ในขณะที่ชาวอังกฤษตั้งแง่รังเกียจอย่าง "ผิดๆ" ต่อผู้อพยพจาก อียู ชาวอังกฤษเองกลับเป็นผู้อพยพออกไปอาศัยในประเทศอื่นเป็นอันดับ 10 ของโลก จากสถิติปี 2015 ชาวอังกฤษอพยพออกไปอยู่ประเทศอื่นๆ 4.9 ล้านคน ถ้านับเฉพาะประเทศใน อียู แล้ว ชาวอังกฤษเป็นผู้อพยพออกไปอยู่ประเทศอื่นทั่วโลกมากที่สุด
3) ความจริงมีเพียงว่า ผู้อพยพจาก อียู เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 2 เท่าหลังจากที่อังกฤษเปิดประเทศให้ผู้อพยพจาก อียู เข้าไปอาศัยอยู่ได้อย่างไม่มีเงื่อนไขตั้งแต่ ปี 2004 เป็นต้นมา และที่มากที่สุดคือจาก ไอร์แลนด์ (มากอยู่แต่เดิมแล้ว) และ โปแลนด์ (หลังปี 2004)
4) และที่อังกฤษเปิดประเทศรับผู้อพยพใน อียู เมื่อครั้งนั้นก็เป็นการตัดสินใจของอังกฤษเองที่จะเปิดรับผู้อพยพเนื่องจากเศรษฐกิจในอังกฤษขณะนั้นกำลังบูมและขาดแคลนคนงาน ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วกฏเกณฑ์ของ อียู อนุญาตให้ประเทศสมาชิกค่อยๆ ทะยอยเปิดรับผู้อพยพจากประเทศสมาชิกอื่นๆ หรือ ปกป้องการอพยพไว้ได้ภายในระยะเวลา 7 ปี
มี 3 ประเทศด้วยกันในประเทศ อียูเดิมทั้งหมด 15 ประเทศที่เปิดรับผู้อพยพจาก อียู ทันทีในปี 2004 อย่างไม่มีเงื่อนไขนั่นคือ อังกฤษ สวีเดน และ ไอร์แลนด์
5) ที่เข้าใจผิดกันอีกข้อคือ ที่บอกว่าชาวยุโรปตะวันออกเข้าไปกอบโกยสวัสดิกานของอังกฤษ ในความเป็นจริงกลับตรงกันข้ามเพราะจำนวน 2 ใน 3 ของผู้อพยพจาก อียู มีงานรองรับแล้วในขณะที่อพยพเข้าไป ในขณะที่ 93% ของผู้ที่ขอรับเงินสวัสดิการเพราะไม่มีงานทำหรือเพราะไม่สามารถทำงานได้นั้นเป็นประชาชนชาวอังกฤษเอง
ยังมี facts อีกหลายข้อ รวมทั้งการทำวิจัยศึกษาแล้วว่าผู้อพยพจาก อียู ที่เข้าไปมีส่วนทำให้เศรษฐกิจของอังกฤษดีขึ้นโดยรวมไม่ใช่แย่ลง
ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงจะมีผู้อพยพส่วนน้อยที่เข้าไปหวังพึ่งสวัสดิการจริง ซึ่งไม่ใช่มีแต่เฉพาะในอังกฤษแต่เกิดขึ้นกับประเทศอื่นๆ ด้วย
เช่น กรณีของเยอรมนีในปัจจุบันเกี่ยวกับเงินสวัสดิการที่ให้ต่อบุตรทุกคน ขณะนี้ชาวยุโรปตะวันออกมาอาศัยทำงานในเยอรมนีมีสิทธิได้ทั้งเงินตกงาน เงินว่างงาน และยังได้เงินค่าบุตรต่อหัวที่แม้แต่ยังอาศัยอยู่ในประเทศของตนเองด้วย
ความจริงอีกข้อหนึ่งคือการหลังไหล่อพยพจะเกิดจากประเทศยากจนกว่าสู่ประเทศร่ำรวยกว่าเป็นปกติ จากยุโรปตะวันออกสู่ยุโรปตะวันตก จากยุโรปใต้สู่ยุโรปเหนือ
ความจริงต่อไปนี้ที่หนังสือพิมพ์ประเภท tabloids และกลุ่มขวาจัดไม่เคยเอามาเสนอต่อประชาชนชาวอังกฤษ
1) ผู้อพยพจากประเทศ อียู ที่เข้าไปในอังกฤษคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1 ใน 3 ของผู้อพยพทั้งหมด ในขณะที่ในไอร์แลนด์นั้นคิดเป็นสัดส่วนถึง 74% และในเยอรมนีคิดเป็นสัดส่วน 44% สรุปแล้วผู้อพยพจาก อียู ในอังกฤษมีน้อยที่สุด
ผู้อยพส่วนใหญ่ที่เข้าไปในอังกฤษกลับเป็นผู้อพยพจากนอก อียู นั่นคือ อินเดีย และ จีน และประเทศจากอาณานิคมเก่าของอังกฤษเอง
2) ในขณะที่ชาวอังกฤษตั้งแง่รังเกียจอย่าง "ผิดๆ" ต่อผู้อพยพจาก อียู ชาวอังกฤษเองกลับเป็นผู้อพยพออกไปอาศัยในประเทศอื่นเป็นอันดับ 10 ของโลก จากสถิติปี 2015 ชาวอังกฤษอพยพออกไปอยู่ประเทศอื่นๆ 4.9 ล้านคน ถ้านับเฉพาะประเทศใน อียู แล้ว ชาวอังกฤษเป็นผู้อพยพออกไปอยู่ประเทศอื่นทั่วโลกมากที่สุด
3) ความจริงมีเพียงว่า ผู้อพยพจาก อียู เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 2 เท่าหลังจากที่อังกฤษเปิดประเทศให้ผู้อพยพจาก อียู เข้าไปอาศัยอยู่ได้อย่างไม่มีเงื่อนไขตั้งแต่ ปี 2004 เป็นต้นมา และที่มากที่สุดคือจาก ไอร์แลนด์ (มากอยู่แต่เดิมแล้ว) และ โปแลนด์ (หลังปี 2004)
4) และที่อังกฤษเปิดประเทศรับผู้อพยพใน อียู เมื่อครั้งนั้นก็เป็นการตัดสินใจของอังกฤษเองที่จะเปิดรับผู้อพยพเนื่องจากเศรษฐกิจในอังกฤษขณะนั้นกำลังบูมและขาดแคลนคนงาน ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วกฏเกณฑ์ของ อียู อนุญาตให้ประเทศสมาชิกค่อยๆ ทะยอยเปิดรับผู้อพยพจากประเทศสมาชิกอื่นๆ หรือ ปกป้องการอพยพไว้ได้ภายในระยะเวลา 7 ปี
มี 3 ประเทศด้วยกันในประเทศ อียูเดิมทั้งหมด 15 ประเทศที่เปิดรับผู้อพยพจาก อียู ทันทีในปี 2004 อย่างไม่มีเงื่อนไขนั่นคือ อังกฤษ สวีเดน และ ไอร์แลนด์
5) ที่เข้าใจผิดกันอีกข้อคือ ที่บอกว่าชาวยุโรปตะวันออกเข้าไปกอบโกยสวัสดิกานของอังกฤษ ในความเป็นจริงกลับตรงกันข้ามเพราะจำนวน 2 ใน 3 ของผู้อพยพจาก อียู มีงานรองรับแล้วในขณะที่อพยพเข้าไป ในขณะที่ 93% ของผู้ที่ขอรับเงินสวัสดิการเพราะไม่มีงานทำหรือเพราะไม่สามารถทำงานได้นั้นเป็นประชาชนชาวอังกฤษเอง
ยังมี facts อีกหลายข้อ รวมทั้งการทำวิจัยศึกษาแล้วว่าผู้อพยพจาก อียู ที่เข้าไปมีส่วนทำให้เศรษฐกิจของอังกฤษดีขึ้นโดยรวมไม่ใช่แย่ลง
ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงจะมีผู้อพยพส่วนน้อยที่เข้าไปหวังพึ่งสวัสดิการจริง ซึ่งไม่ใช่มีแต่เฉพาะในอังกฤษแต่เกิดขึ้นกับประเทศอื่นๆ ด้วย
เช่น กรณีของเยอรมนีในปัจจุบันเกี่ยวกับเงินสวัสดิการที่ให้ต่อบุตรทุกคน ขณะนี้ชาวยุโรปตะวันออกมาอาศัยทำงานในเยอรมนีมีสิทธิได้ทั้งเงินตกงาน เงินว่างงาน และยังได้เงินค่าบุตรต่อหัวที่แม้แต่ยังอาศัยอยู่ในประเทศของตนเองด้วย
แสดงความคิดเห็น
ทำไมยังมีปัญหาผู้อพยพยุโรปตะวันออกอยู่อีก
ใครทราบบอกที ขอบคุณจ้า