์New York City ทริปนี้ขอลาขาด!!!

คือเราไปเที่ยวอเมริกามาแล้ว 4 ครั้ง ครั้งแรกไปกับโครงการ Work&Travel อยู่ที่ Arizona ครั้งที่สองไปเรียนภาษาอยู่ที่ดีซี ครั้งที่ 3 ไปเที่ยว นิวยอร์ก+ดีซี ครั้งที่ 4 คือ ครั้งล่าสุดนี้ไปนิวยอร์ก-บอสตัน-ดีซี ซึ่งเราเดินทางไปเองทุกครั้งยกเว้นครั้งแรก ครั้งนี้ก้อไปคนเดียวเช่นเคย ลงเครื่องที่นิวยอร์ก แต่นิวยอกร์เราไม่คุ้นเคยเท่าดีซีเมืองที่เคยอยู่ เคยไปมาครั้งก่อน แต่ไปเที่ยวแค่ 2 วันแล้วก้อไปดีซี ครั้งก่อนเพื่อนแนะนำให้นั่ง Yellow Cab จากสนามบินไปที่พักเลย แต่คราวนี้เราตั้งใจจะนั่งAir Train ไปเพราะเพื่อนพักในแมนฮัตตัน เดินทางค่อนข้างสะดวก แต่ปรากฎว่าวันใกล้จะเดินทางมีสัมภาระเยอะมากกกก ทั้งของฝากที่เพื่อนฝากมาจากไทย และที่เราเอาไปฝากเค้า จึงจำเป็นต้องขึ้นแทกซี่ ก่อนเดินทางเพื่อนก้อแนะนำว่าให้เรียก Uber เพราะถูกกว่า เราก้อไม่ค่อยชำนาญเรื่องอุเบอร์เพราะอยู่เมืองไทยไม่ค่อยได้ใช้ ส่วนมากขับรถเอง แต่เคยใช้อยู่เลยรู้คร่าวๆว่าต้องทำยังไงบ้าง เลยสงสัยว่าเอ๊ะ เราไปถึงที่นั่นไม่มีซิมการ์ดจะเรียกยังไง??? แล้วจะพ้อยจุดยังไง เพราะสนามบินกว้าง เลยถามเพื่อนไป แต่ไม่ได้การตอบกลับมา พอมาถึง JFK เราก้อตั้งใจจะไป Cab ที่สนามบิน แต่ระหว่างที่ลากกระเป๋าออกจากทางออก ตรงที่รับ Visitors พวกชูป้ายต่างๆ มีคนแขกชูป้ายเขียนว่า Uber มาที่เรา แต่ถ้าสังเกตดีๆคือมันโชว์แบบแอบๆ ถามเราว่าไปแมนฮัตตันไหม เราก้อบอกไป เราถามว่าราคาเท่าไหร่มันบอกเริ่มที่ 10$ แต่ตอนนั้นอยากเข้าห้องน้ำมาก เลยบอกว่าชั้นไปห้องน้ำก่อนนะ แล้วก้อเข้าไปนานพอควรล้างหน้าทำนั่นนี่ เพราะนั่งเครื่องมานาน พออกมาก้อไม่เจอนางละ เลยคิดว่าไปCab เหมือนเดิม และมีเรทในใจที่ถามมาว่าไปถึงตรงนั้นจะประมาณ 60$-70$ ระหว่างนั้นเราก้อเดินเล่นสนามบินยังไม่ได้ไปต่อแถวรอรถ ปรากฎไอ้แขกคนนั้นมันยังอยู่ มันก้อพยักหน้ามา ก้อเลยเออไปกับมันก้อได้ อารมเกรงใจที่มารอ แต่ตอนนั้นก้อเอะใจว่าเอ๊ะ อุเบอร์ที่นี่มันมารับที่สนามบินเลยหรอ นึกว่าไม่เหมือนเมืองไทย ก้อเอะใจนิดๆ และตอนที่เดินออกไปคือมันจอดรถที่ Parking เราก้อของเยอะ มันก้อไม่ช่วยสักนิด เราเริ่มไม่โอเคกะมันละ เพราะปกติแทกซี่ที่นั่นจะมีน้ำใจช่วยยกของ แต่นี่มันไม่ช่วยแถมเดินห่างๆทำเป็นเหมือนไม่รู้จัก เราก้อขึ้นรถไป ระหว่างทางก้อชวนคุยนั่นนี่ มันถามว่ามาจากไหน พอบอกเมืองไทยมันก้อบอกว่าเคยไป นานมาแล้ว พอถามไปที่ไหน มันก้อไม่ตอบ แต่ตอนนั้นก้อไม่ได้คิดไร มันก้อชวนคุยไปเรื่อยถามทำงานที่ไหน ไปหาใคร เราก้อเล่าว่าเคยมาเรียนที่นี่ และบอกเพื่อนอยู่ที่นี่มาทำงาน พอขับไปใกล้จะถึงจุดหมาย รถก้อติด แต่ก้อขยับไปได้เรื่อยๆ ออลืมบอกไปเราจะไปลงที่ 9th Avenue คือเค้าเปิด Gps เราก้อดูตลอดว่าใกล้รึยัง ดูทางไปเรื่อยๆ สักพักอยู่ๆ มันก้อเลี้ยวซ้ายแล้วจอดตรง 5th Avenue บอกเราว่าต้องรีบไปทำงาน รถติดถ้าขับไปจะนาน บอกเราเดินจากนี่ไปที่นั่น 2 นาที !!! เราก้อลืมนึกไปว่าจาก 5th ไป 9th มัน 4 บล็อค 2 นาทีเป็นไปไม่ได้ แล้วบอกเราว่าทั้งหมด 500$ !!! ช็อคมากกกกก แต่ตอนนั้นอยู่คนเดียวคิดอะไรไม่ออก ก้อให้มันไปหมด ให้แบบงงๆ แต่เงินที่เรามีไม่พอ เพราะเราแลกเงินมาจากเมืองไทยแค่ 500 พอดี เพราะตั้งใจรูดบัตรอยู่แล้ว และเอาเงินไปซื้อของที่สนามบินมาบ้างเลยมีไม่ถึง 500 ให้ไปแค่ 450 เราเลยบอกมันว่าขอโทรหาเพื่อนได้ไหมคือตอนนั้นไม่มีโทสัพ จะยิมมัน มันก้อไม่ให้ มันถามว่ามีบัตรกดเงินมั้ยเราบอกไม่มี มีแต่บัตรเครดิต มันถามทุกอย่างจนรู้ว่า เรามีแค่นี้จริงๆมันก้อผิดหวัง เราก้อเบลองงไปหมด สุดท้ายก้อลงจากรถไป ซึ่งของเราเยอะมากกกกก ติดต่อเพื่อนก้อไม่ได้ พอหา wifi โทรไปเค้าก้อไม่รับ คือซวยมากๆ แถมตอนนั้นมันมืดแล้ว อากาศก้อหนาว คือเดินไปต้องหยุดพักตลอดทาง เพราะของหนักจนมือชาไปหมด ทรมานมาก ไม่คิดว่าจะมาเจออะไรแบบนี้ คือเข้าใจอารมฝรั่วงโดนแทกซี่ไทยหลอกเลย แต่ค่าเงินเค้ายังแพงกว่าของเรา ตอนนั้นคิดแค่ว่าดีที่มันไม่พาไปฆ่ากลับมาปลอดภัยก้อบุญแล้ว ครั้งนี้ที่มาแชร์ประสบการณ์คือ อยากบอกเพื่อนๆว่า ถ้าเดินทางคนเดียวให้ไปรถสาธารณะจะดีกว่า แต่ถ้าไปแทกซี่ก้อต้องขึ้นรถของสนามบินมันปลอดภัยกว่า และถ้าเลี่ยงได้ อย่าจ่ายเงินสด เพราะมันจะไม่มีหลักฐานใดๆ เราไปแจ้งตำรวจ พอเล่าเค้าก้อบอกว่าไม่มีเอกสารไรจะ Prove ได้เลย แต่เคสนี้มันคงเตรียมการมาหมดแล้ว คือรับแค่เงินสดและไม่ส่งถึงที่เพราะรู้ว่าถ้าเจอเพื่อน จะไม่มีทางได้เงินแน่ และที่ไม่ช่วยลากกระเป๋าที่สนามบินก้อคงเพราะถ้าดูกล้องวงจรปิด มันจะอ้างได้ว่าไม่รู้จักกัน เห้อ เลวมากกก ครั้งนี้เปนครั้งที่ไปเที่ยวแล้วไม่สนุกเลย รู้สึกแย่ตั้งแต่วันแรกที่ไป แทกซี่มาเฟียมันน่ากลัวจริงๆ เพิ่งรู้ก้อตอนที่เจอกับตัวเองนี่ละ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่