A Fantastic Woman (Sebastián Lelio, 2017) คะแนน B+
By Form Corleone
"ภายใต้ความหมองเศร้า...ยังคงมีความรัก" ภาพยนตร์ชนะรางวัลออสการ์สาขาภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมครั้งที่ 90 จากประเทศชิลี เล่าเรื่องราวของ 'มาริน่า (ดานีลา เวก้า)' สาวประเภทสองที่มีพรสวรรค์ในด้านร้องเพลง กับคู่รักต่างวัย 'ออร์แลนโด้ (ฟรานซิสโก เรเยส)' ที่มีอายุห่างกันจนใช้นิยามคำว่าพ่อลูกได้ ทั้งสองคนมีชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นปกติเหมือนคู่รักชาย-หญิงทั่วไป แต่แล้วเรื่องราวไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นเมื่อ 'ออร์แลนโด้' ได้เสียงชีวิตลงอย่างกะทันหัน แน่นอนว่า การหลับนอนกับสาวประเภทสองหรืออยู่กินแบบผัว-เมียนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับกันได้ในประเทศชิลี(ประเทศไทยเรายอมรับได้มากกว่าเยอะ) ตัวหนังจึงสะท้อนความรู้สึกของสาวประเภทสองภายใต้ตัวละครมาริน่า และใช้นักแสดงที่รับบทนี้เป็นสาวประเภทสองจริงๆ เราจึงมองเห็นความโศกเศร้า ความอาลัยอาวรณ์ต่อการจากไปของคนรัก ที่ไม่อาจบอกลาด้วยฐานะทางสังคมและถูกกีดกันจากครอบครัวของ 'ออร์แลนโด้' อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวภาพยนตร์จัดอยู่ในประเภทแนวที่ต้องอาศัยการคิดตามตลอดทั้งเรื่อง หนังจึงไม่ส่งมอบความบันเทิงอย่างแน่นอนต่อคนที่ไม่นิยมงานสไตล์ครุ่นคิดตีความจากสัญลักษณ์
ตัวละคร 'มาริน่า' สะท้อนจิตใจและห้วงความคิดของการเป็นสาวประเภทสองให้คนดูได้ตระหนักถึงและเห็นอกเห็นใจ ตัวละคร 'มาริน่า' ต้องต่อสู้และเผชิญหน้ากับการโดนดูถูกและโดนเหยียดหยาม จนเธอกลายเป็นตัวประหลาดในสายตาคนปกติ ความพิเศษและความแปลกในเพศสภาพของเธอ จึงถูกกระทบด้วยทัศนคติความคิดที่มาจากคนรอบข้าง ยิ่งไปกว่านั้น การตายของ 'ออร์แลนโด้' ยังเป็นสาเหตุให้ตำรวจสงสัยในตัวมาริน่าเข้าไปอีก เหมือนมรสุมชีวิตโหมเข้าใส่ ตัวละครตัวนี้จึงกลายเป็นจำเลยที่ต้องดิ้นร้น และพยายามผลักดันตัวเองให้หลุดพ้นจากความเกลียดชังเหล่านี้ พยายามที่จะยืนยัดในความเป็นหญิง ต่อต้านกระแสสังคมที่รุนแรง และลบความคิดอคติต่อตัวเธอ เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเธอนั้นคือผู้หญิงที่แสนพิเศษ อย่างไรก็ตาม ตัวหนังสามารถสร้างบรรยากาศที่ชวนอึดอัดไปพร้อมตัวละครได้ดีมาก ผลกระทบต่อความอึดอัดนี้จึงสร้างความเศร้าใจและทุกข์ใจที่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งกลับถูกมนุษย์ด้วยกันมองเห็นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ผิดปกติ ทั้งที่หัวใจและความรักที่เธอมีนั้นไม่ได้ไร้ค่าหรือด้อยค่าเลยแม้แต่น้อย
และนอกจากความแข็งแรงของบทภาพยนตร์และการแสดงที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ 'ดานีลา เวก้า' ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์+ถ่ายทอดอารมณ์ในแบบผู้หญิงโดยไม่มีข้อกังขาแต่อย่างใด งานภาพและงานฉากที่หนังเลือกสะท้อนความรู้สึกพร้อมแฝงไปด้วยนัยซ่อนเร้นที่ต้องอาศัยการตีความ+ครุ่นคิดนั้นสามารถที่จะต่อยอดและสร้างประเด็นที่น่าสนใจต่อไปได้หลังดูจบ ยิ่งไปกว่านั้น งานภาพยังดูสวยงามและทรงพลังเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิต มุมกล้องที่หนังเลือกใช้สามารถร่วมสร้างอารมณ์ให้เราเข้าใกล้ห้วงความรู้สึกและสามัญสำนึกของตัวละครได้ ท้ายสุด 'A Fantastic Woman' จึงไม่ใช่แค่หนังที่เชิดชูความเป็น 'LGBT' แต่เป็นหนังที่สะท้อนตัวตนความคิดของคนกลุ่มนี้ และเสนอให้คนที่รังเกียจหรือแบ่งแยกคนประเภทนี้ได้ตระหนักและมองว่าคนเหล่านี้นั้นไม่ได้เป็นตัวประหลาดแต่อย่างใด…ช่วงเวลาสุดท้ายของหนังจึงสวยงามและน่าประทับใจ...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: A Fantastic Woman (Sebastián Lelio, 2017) เขียนโดย Form Corleone
By Form Corleone
"ภายใต้ความหมองเศร้า...ยังคงมีความรัก" ภาพยนตร์ชนะรางวัลออสการ์สาขาภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมครั้งที่ 90 จากประเทศชิลี เล่าเรื่องราวของ 'มาริน่า (ดานีลา เวก้า)' สาวประเภทสองที่มีพรสวรรค์ในด้านร้องเพลง กับคู่รักต่างวัย 'ออร์แลนโด้ (ฟรานซิสโก เรเยส)' ที่มีอายุห่างกันจนใช้นิยามคำว่าพ่อลูกได้ ทั้งสองคนมีชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นปกติเหมือนคู่รักชาย-หญิงทั่วไป แต่แล้วเรื่องราวไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นเมื่อ 'ออร์แลนโด้' ได้เสียงชีวิตลงอย่างกะทันหัน แน่นอนว่า การหลับนอนกับสาวประเภทสองหรืออยู่กินแบบผัว-เมียนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับกันได้ในประเทศชิลี(ประเทศไทยเรายอมรับได้มากกว่าเยอะ) ตัวหนังจึงสะท้อนความรู้สึกของสาวประเภทสองภายใต้ตัวละครมาริน่า และใช้นักแสดงที่รับบทนี้เป็นสาวประเภทสองจริงๆ เราจึงมองเห็นความโศกเศร้า ความอาลัยอาวรณ์ต่อการจากไปของคนรัก ที่ไม่อาจบอกลาด้วยฐานะทางสังคมและถูกกีดกันจากครอบครัวของ 'ออร์แลนโด้' อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวภาพยนตร์จัดอยู่ในประเภทแนวที่ต้องอาศัยการคิดตามตลอดทั้งเรื่อง หนังจึงไม่ส่งมอบความบันเทิงอย่างแน่นอนต่อคนที่ไม่นิยมงานสไตล์ครุ่นคิดตีความจากสัญลักษณ์
ตัวละคร 'มาริน่า' สะท้อนจิตใจและห้วงความคิดของการเป็นสาวประเภทสองให้คนดูได้ตระหนักถึงและเห็นอกเห็นใจ ตัวละคร 'มาริน่า' ต้องต่อสู้และเผชิญหน้ากับการโดนดูถูกและโดนเหยียดหยาม จนเธอกลายเป็นตัวประหลาดในสายตาคนปกติ ความพิเศษและความแปลกในเพศสภาพของเธอ จึงถูกกระทบด้วยทัศนคติความคิดที่มาจากคนรอบข้าง ยิ่งไปกว่านั้น การตายของ 'ออร์แลนโด้' ยังเป็นสาเหตุให้ตำรวจสงสัยในตัวมาริน่าเข้าไปอีก เหมือนมรสุมชีวิตโหมเข้าใส่ ตัวละครตัวนี้จึงกลายเป็นจำเลยที่ต้องดิ้นร้น และพยายามผลักดันตัวเองให้หลุดพ้นจากความเกลียดชังเหล่านี้ พยายามที่จะยืนยัดในความเป็นหญิง ต่อต้านกระแสสังคมที่รุนแรง และลบความคิดอคติต่อตัวเธอ เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเธอนั้นคือผู้หญิงที่แสนพิเศษ อย่างไรก็ตาม ตัวหนังสามารถสร้างบรรยากาศที่ชวนอึดอัดไปพร้อมตัวละครได้ดีมาก ผลกระทบต่อความอึดอัดนี้จึงสร้างความเศร้าใจและทุกข์ใจที่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งกลับถูกมนุษย์ด้วยกันมองเห็นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ผิดปกติ ทั้งที่หัวใจและความรักที่เธอมีนั้นไม่ได้ไร้ค่าหรือด้อยค่าเลยแม้แต่น้อย
และนอกจากความแข็งแรงของบทภาพยนตร์และการแสดงที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ 'ดานีลา เวก้า' ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์+ถ่ายทอดอารมณ์ในแบบผู้หญิงโดยไม่มีข้อกังขาแต่อย่างใด งานภาพและงานฉากที่หนังเลือกสะท้อนความรู้สึกพร้อมแฝงไปด้วยนัยซ่อนเร้นที่ต้องอาศัยการตีความ+ครุ่นคิดนั้นสามารถที่จะต่อยอดและสร้างประเด็นที่น่าสนใจต่อไปได้หลังดูจบ ยิ่งไปกว่านั้น งานภาพยังดูสวยงามและทรงพลังเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิต มุมกล้องที่หนังเลือกใช้สามารถร่วมสร้างอารมณ์ให้เราเข้าใกล้ห้วงความรู้สึกและสามัญสำนึกของตัวละครได้ ท้ายสุด 'A Fantastic Woman' จึงไม่ใช่แค่หนังที่เชิดชูความเป็น 'LGBT' แต่เป็นหนังที่สะท้อนตัวตนความคิดของคนกลุ่มนี้ และเสนอให้คนที่รังเกียจหรือแบ่งแยกคนประเภทนี้ได้ตระหนักและมองว่าคนเหล่านี้นั้นไม่ได้เป็นตัวประหลาดแต่อย่างใด…ช่วงเวลาสุดท้ายของหนังจึงสวยงามและน่าประทับใจ...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/