สวัสดีค่ะ
เราอายุ 28 ย่าง 29 ปี
อาการเริ่มแรกนั้นคือ เจ็บ จี๊ดๆ ที่เต้านมด้านซ้าย
เบาๆ นานๆ ครั้ง ช่วงแรกๆ คิดว่าคงเกิดจาก
การกดทับของโครงเสื้อชั้นใน
ผ่านไปประมาณสองเดือน เริ่มเจ็บบ่อยขึ้น
จี๊ดๆ แรงขึ้น ราวๆ 2-3 สัปดาห์ จะเจ็บ 1 ครั้ง
ครั้งนึงเจ็บ 1-2 วัน แต่ไม่ได้เจ็บตลอดเวลานะคะ
ภายใน 1-2 วันนั้น นึกจะจี๊ดเวลาไหนก็จี๊ดขึ้นมาแรงๆ
จนบางทีต้องเอามือไปกดไว้ แต่เอามือไปกดก็ไม่ได้จะช่วยให้หายเจ็บซักนิดเดียว (อารมณ์เดียวกับปวดหัวแล้วเอามือกุมหัวอ่ะค่ะ )
จนมาถึงช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา
วันที่ 15 เมษา เกิดเจ็บขึ้นอีก เป็นๆหายๆทั้งวันทั้งคืน
พอคืนวันที่ 16 ก่อนนอนรู้สึกเจ็บมากเป็นพิเศษ
เจ็บจนนอนหลับๆตื่นๆ สะดุ้งตื่นกลางดึกทั้งคืน
เพราะมันเจ็บจี๊ด แบบรุนแรงมาก รู้สึกเจ็บจนระบมไปทั้งเต้านม
เช้าวันที่ 17 คุยกับแฟน ตัดสินใจว่าไปหาหมอกันเถอะ มันเริ่มรบกวนการใช้ชีวิตของเราเกินไปแล้ว
บ่ายวันนั้น ก็ไปพบแพทย์ที่รพ.ชื่อดังในซอยศูนย์วิจัย
เค้าเตอร์ลงทะเบียนที่ รพ.สอบถามอาการเบื้องต้น
จึงส่งเราไปที่ศูนย์เต้านมของ รพ.
ไปถึงที่ศูนย์เต้านม พยาบาลก็วัดไข้วัดความดันตามสเตป แล้วก็แจ้งว่า วันนี้คุณหมอที่ว่างอยู่ เป็นคุณหมอผู้ชายนะคะ เราสะดวกมั้ย เราไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็เลือกคุณหมอ คนที่เร็วที่สุด ไม่ต้องรอนานดีกว่า เอาสะดวกเข้าว่า
เอาล่ะ เจอหน้าหมอ สวัสดีกันเล็กน้อย แจ้งอาการที่เราเป็นมา หมอ ก็ไม่รีรอ บอกให้เราขึ้นเตียงทันที
ก่อนขึ้นเตียงคุณพยาบาลก็บอกให้ถอดตะขอชุดชั้นใน แล้วนอนลงบนเตียง ถลกเสื้อนอกและเสื้อในชั้นไว้ตรงคอ แล้วห่มผ้าให้เรา โดยให้เรานอนชูมือไว้เหนือศีรษะ พอจัดท่าทางเรียบร้อย คุณหมอก็เปิดม่านเดินเข้ามาตรวจ
คุณหมอมีท่าทีสุภาพมา นุ่มนวลและดูเกรงใจเรามากๆ คุณหมอคลำไปรอบๆเต้านม และรักแร้ทั้งสองข้างอย่างละเอียด ใช้เวลาประมาน 10 นาที ระหว่างคลำก็ถามเราไปด้วยว่าตรงนี้เจ็บมั้ย ตรงนี้เป็นยังไง คลำเสร็จ คุณหมอแจ้งว่าคลำไม่เจอก้อนนะ แต่เราเจ็บมากเลยใช่มั้ย หมอขออัลตร้าซาวด์ดูหน่อยนะ
จากนั้นออกจากห้องตรวจ ก็ไปเปลี่ยนเสื้อ เตรียมความพร้อมอัลตร้าซาวด์ รอประมาณ 10 นาที
พยาบาลก็มาเรียกเข้าไป
ห้องอัลตร้าซาวด์เป็นห้องแสงสลัวๆ( น่านอนมากค่ะ เกือบหลับเลย 555) จัดท่านอนเตรียมพร้อมตามที่พยาบาลบอก คุณหมอ อีกคนก็เดินเข้ามา คนนี้เป็นหมอผู้หญิงค่ะ วิธีการ ก็คือ เริ่มแรก หมอถามก่อนเลยว่าตรงไหนที่เจ็บมากๆ เอานิ้วจิ้มให้หน่อย
หมอก็เอาปากกา ทำสัญลักษณ์ไว้
จากนั้น หมอจะเอาเจลเย็น ทาๆลูบๆ ไปทั่วทั้งเต้านมและรักแร้ แล้วก็เอาเครื่องมือ (ที่หน้าตาคล้ายๆ ที่โกนหนวดไฟฟ้า ผสมกับโรลออนแบบแห้ง 555) มาวนๆ ทั้งรักแร้และทั่วบริเวณเต้านม
เราก็นอนดูจอไปด้วย ตรงไหนแปลกๆ หมอก็จะ หยุดถ่ายรูปและวัดขนาดเก็บไว้ ทำแบบนี้วนไป ราวๆ 15-20 นาที ค่อนข้างเพลินเลยทีเดียว นอนสบายมากค่ะ นึกว่านวดน้ำมันอยู่ 555
เสร็จเรียบร้อย พยาบาลก็เช็ดทำความสะอาด บริเวณที่เปื้อนเจลให้ แล้วให้เราไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดิม
นั่งรอ ผล อัลตร้าซาวด์ประมาณ 15 นาที
คุณหมอผู้ชายคนแรกก็เรียกเข้าไปในห้องตรวจเพื่ออ่านผลให้ฟัง
คุณหมอแจ้งว่า ตรงที่เจ็บนั้นมีก้อนเนื้อ ขนาดราวๆ 2 cm และมีอีกก้อน ข้างซ้ายเหมือนกัน แต่ขนาดเล็กมาก 0.4cm ส่วนข้างขวานั้น มีถุงน้ำเล็กๆ อยู่หลายอันเลย (แอบตกใจ ที่มันเยอะแยะไปหมด)
หมอแจ้งว่า อันที่เจ็บเนี่ย มันใหญ่นะ ต้องผ่าออก
แต่ถามเราว่าจะลองเจาะชิ้นเนื้อออกมาตรวจก่อนมั้ย
ว่าเป็นเนื้อดี หรือไม่ดี แต่ดีไม่ดียังไงหมอก็แนะนำให้ผ่าออก เนื่องด้วยเพราะเราเจ็บมาก
เราเลยถามหมอว่า ถ้าแบบนั้นเราผ่าเลยได้มั้ยคะ
แล้วค่อยเอาชิ้นเนื้อที่ผ่าออกมาไปตรวจ จะได้เจ็บทีเดียว หมอบอกว่า โอเค ได้ แต่มีข้อแม้ว่า ถ้าเกิดผลตรวจออกมาแล้ว เป็นมะเร็ง ต้องมาผ่าตัดใหญ่อีกครั้งนึงนะ เราก็พยักหน้างึกๆ ว่าค่ะ
แล้วหมอก็ถามอีกว่า จะเลือกผ่าแบบไหน
1.แบบฉีดยาชา ไม่ต้องสลบ ไม่ต้องนอน รพ ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ค่าใช้จ่ายถูกกว่า
2.แบบวางยาสลบ ต้องนอน รพ. ค่าใช้จ่ายแพงกว่าแบบ 1 มาก
เราเลยถามหมอกลับว่าหมอแนะนำแบบไหนคะ?
หมอบอกแนะนำแบบวางยาสลบนะ หมอทำงานง่าย คนไข้ไม่เจ็บ และไม่เครียด เพราะไม่รับรู้อะไร ระหว่างผ่าตัด
เราเลยเลือกแบบวางยาสลบค่ะ
นัดวันผ่าตัด ในวันนั้นเลย เราเลือก อีก 2 สัปดาห์ค่ะ
เป็นวันที่ 2 พค
ระหว่างนั้นก็บอกที่บ้าน
และเพื่อนๆใกล้ตัว ลางาน บลาๆๆ เตรียมความพร้อม
ต้องบอกเลยว่าเราไม่มีความกังวลใดๆเลย เพราะอยากเอาเจ้าก้อนมันออกไปเร็วๆแล้ว
วันที่ 2 พค หมอลงเวลา ผ่าตัดไว้ 17.30 น.
หมอสั่งงดน้ำงดอาหาร 8 ชม.
เลยได้กินข้าวเช้าไปตอน 9 โมงเช้า
เราไปถึง รพ ที่ศูนย์เต้านมตอน 11 โมง
พยาบาลก็ทำการ วัดไข้วัดความดัน เจาะเลือด
x-ray ปอด
พบคุณหมอคนเดิมอีกครั้ง หมอคลำที่บริเวณก้อนอีกครั้ง แต่หาไม่เจอ!! หมอต้องเปิดดูตำแหน่งก้อนเนื้อจากภาพอัลตร้าซาวด์ แล้วมาคลำดูอีกที ก็เจอ หมอบอกว่า อยู่ลึกมาก เลยคลำยากที่จะเจอ
ดีแล้วนะที่วางยา ไม่งั้นอาจจะเจ็บได้ถ้าฉีดยาชา แล้วชาไม่ถึง
นั่นนี่นี่นั่น เรียบร้อยประมาน 12.30
พยาบาลก็พาขึ้นห้องพัก admit
พอขึ้นห้องพยาบาลก็ให้เปลี่ยนเป็นชุดเตรียมเข้าผ่าตัดทันที นอนรอ จน 16.30 พยาบาลห้องผ่าตัดก็มารับไปห้องผ่าตัด
นอนรอบนเตียงผ่าตัด อยู่ในห้องเตรียมความพร้อม
วิสัญญีแพทย์ก็เข้ามาอธิบายต่างๆนานา
สักครู่หนึ่ง พยาบาลก็มาเข็นไปเข้าห้องผ่าตัด
บรรยายกาศก็เหมือนในซีรีย์ฝรั่งเลยค่ะ
ไฟดวงใหญ่ พยาบาลเยอะแยะ วุ่นวายเตรียมความพร้อมอยู่
มีเสียงหมอคนเดิม เดินเข้ามา สวัสดีค้าบบบบบ
เราก็สวีสดีค่าาาาาาา
มีเสียงผู้หญิง พูดว่า จะแสบแขนหน่อยนะคะ
(เค้าฉีดบางอย่างทางสายน้ำเกลือให้เราค่ะ)
พร้อมกันนั้นมี หน้ากากสีดำๆ ครอบหน้าเราทันที
ได้ยินเสียง หายใจลึกๆจ้า
ยังไม่ทันจะหายใจสุด ก็วาร์ป เลยจ้า ดับสนิท
ตื่นลืมตามาอีกที ได้ยินเสียงพยาบาลคุยกัน
พยายามลืมตา แต่ตาเบลอมาก มองอะไรไม่ชัด
เลยคิดว่านอนต่อดีกว่า 5555
นอนไปซักพัก ไม่รู้นานแค่ไหน พยาบาลก็มาบอกว่าจะพาไปส่งที่ห้องนะคะ แล้วให้เรานอนหลับตา ไปถคงห้องพักเลย
ลืมตามาอีกที อยู่ที่ห้องพักแล้ว
แล้วสายตาก็กลับมาชัดเจนแล้ว เย่ ญาติๆเต็มห้องเลย
คำแรกที่พูดคือ หิววววว
พยาบาลยกข้าวต้มมาให้พอดีค่ะ
กินๆๆๆๆๆๆๆ กินได้เยอะมากกกกก
ก่อนหน้าเข้าห้องผ่าตัดพยาบาลแจ้งว่า
หลังฟื้นจะขมคอ อาเจียนกินไม่ลง บลาๆๆๆ
แต่เราไม่มีอาการเลยค่าา กินๆๆๆ เยอะมากกก
กินจนลืมไปเลยว่าเคยผ่าตัด 555555
พออิ่มก็นึกขึ้นได้ว่า เออ ไม่เจ็บแผลเลยแฮะ
ไม่เจ็บจริงๆอ่ะค่ะ ตอนแรกคิดว่ายายังไม่หมดฤทธิ์รึปล่าว แต่จริงๆ แล้วปล่าวเลยค่ะ คุณหมอเก่งมาก เราไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย
นอน รพ. 1 คืน ช่วงสายๆของวันที่ 3 พค ก็กลับบ้านค่ะ
หมอนัดเปิดแผล และ ฟังผลชิ้นเนื้อ วันจันทร์ที่ 8 พค
ข่าวดีค่ะ เป็นก้อนเนื้อธรรมดา ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนแผลก็ดูดีมากๆ หมอให้ปิดแผลอีก 2 วัน ก็เปิดแผลแล้วใช้ชีวิตตามปกติได้เลยค่ะ
จบแล้วค่ะ พยายามเล่าให้ละเอียดเท่าที่จำได้
หวังว่า ประสบการณ์ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
ปล.ค่าใช้จ่าย วันผ่าตัด 10X,XXX บาทค่ะ
ประกันคุ้มครองทั้งหมด ค่อยยังชั่ว
ไม่งั้นเราหน้ามืดแน่ๆเลยค่ะงานนี้
ปล2.ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ
ประสบการณ์ ผ่าตัดก้อนเนื้อที่เต้านม
เราอายุ 28 ย่าง 29 ปี
อาการเริ่มแรกนั้นคือ เจ็บ จี๊ดๆ ที่เต้านมด้านซ้าย
เบาๆ นานๆ ครั้ง ช่วงแรกๆ คิดว่าคงเกิดจาก
การกดทับของโครงเสื้อชั้นใน
ผ่านไปประมาณสองเดือน เริ่มเจ็บบ่อยขึ้น
จี๊ดๆ แรงขึ้น ราวๆ 2-3 สัปดาห์ จะเจ็บ 1 ครั้ง
ครั้งนึงเจ็บ 1-2 วัน แต่ไม่ได้เจ็บตลอดเวลานะคะ
ภายใน 1-2 วันนั้น นึกจะจี๊ดเวลาไหนก็จี๊ดขึ้นมาแรงๆ
จนบางทีต้องเอามือไปกดไว้ แต่เอามือไปกดก็ไม่ได้จะช่วยให้หายเจ็บซักนิดเดียว (อารมณ์เดียวกับปวดหัวแล้วเอามือกุมหัวอ่ะค่ะ )
จนมาถึงช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา
วันที่ 15 เมษา เกิดเจ็บขึ้นอีก เป็นๆหายๆทั้งวันทั้งคืน
พอคืนวันที่ 16 ก่อนนอนรู้สึกเจ็บมากเป็นพิเศษ
เจ็บจนนอนหลับๆตื่นๆ สะดุ้งตื่นกลางดึกทั้งคืน
เพราะมันเจ็บจี๊ด แบบรุนแรงมาก รู้สึกเจ็บจนระบมไปทั้งเต้านม
เช้าวันที่ 17 คุยกับแฟน ตัดสินใจว่าไปหาหมอกันเถอะ มันเริ่มรบกวนการใช้ชีวิตของเราเกินไปแล้ว
บ่ายวันนั้น ก็ไปพบแพทย์ที่รพ.ชื่อดังในซอยศูนย์วิจัย
เค้าเตอร์ลงทะเบียนที่ รพ.สอบถามอาการเบื้องต้น
จึงส่งเราไปที่ศูนย์เต้านมของ รพ.
ไปถึงที่ศูนย์เต้านม พยาบาลก็วัดไข้วัดความดันตามสเตป แล้วก็แจ้งว่า วันนี้คุณหมอที่ว่างอยู่ เป็นคุณหมอผู้ชายนะคะ เราสะดวกมั้ย เราไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็เลือกคุณหมอ คนที่เร็วที่สุด ไม่ต้องรอนานดีกว่า เอาสะดวกเข้าว่า
เอาล่ะ เจอหน้าหมอ สวัสดีกันเล็กน้อย แจ้งอาการที่เราเป็นมา หมอ ก็ไม่รีรอ บอกให้เราขึ้นเตียงทันที
ก่อนขึ้นเตียงคุณพยาบาลก็บอกให้ถอดตะขอชุดชั้นใน แล้วนอนลงบนเตียง ถลกเสื้อนอกและเสื้อในชั้นไว้ตรงคอ แล้วห่มผ้าให้เรา โดยให้เรานอนชูมือไว้เหนือศีรษะ พอจัดท่าทางเรียบร้อย คุณหมอก็เปิดม่านเดินเข้ามาตรวจ
คุณหมอมีท่าทีสุภาพมา นุ่มนวลและดูเกรงใจเรามากๆ คุณหมอคลำไปรอบๆเต้านม และรักแร้ทั้งสองข้างอย่างละเอียด ใช้เวลาประมาน 10 นาที ระหว่างคลำก็ถามเราไปด้วยว่าตรงนี้เจ็บมั้ย ตรงนี้เป็นยังไง คลำเสร็จ คุณหมอแจ้งว่าคลำไม่เจอก้อนนะ แต่เราเจ็บมากเลยใช่มั้ย หมอขออัลตร้าซาวด์ดูหน่อยนะ
จากนั้นออกจากห้องตรวจ ก็ไปเปลี่ยนเสื้อ เตรียมความพร้อมอัลตร้าซาวด์ รอประมาณ 10 นาที
พยาบาลก็มาเรียกเข้าไป
ห้องอัลตร้าซาวด์เป็นห้องแสงสลัวๆ( น่านอนมากค่ะ เกือบหลับเลย 555) จัดท่านอนเตรียมพร้อมตามที่พยาบาลบอก คุณหมอ อีกคนก็เดินเข้ามา คนนี้เป็นหมอผู้หญิงค่ะ วิธีการ ก็คือ เริ่มแรก หมอถามก่อนเลยว่าตรงไหนที่เจ็บมากๆ เอานิ้วจิ้มให้หน่อย
หมอก็เอาปากกา ทำสัญลักษณ์ไว้
จากนั้น หมอจะเอาเจลเย็น ทาๆลูบๆ ไปทั่วทั้งเต้านมและรักแร้ แล้วก็เอาเครื่องมือ (ที่หน้าตาคล้ายๆ ที่โกนหนวดไฟฟ้า ผสมกับโรลออนแบบแห้ง 555) มาวนๆ ทั้งรักแร้และทั่วบริเวณเต้านม
เราก็นอนดูจอไปด้วย ตรงไหนแปลกๆ หมอก็จะ หยุดถ่ายรูปและวัดขนาดเก็บไว้ ทำแบบนี้วนไป ราวๆ 15-20 นาที ค่อนข้างเพลินเลยทีเดียว นอนสบายมากค่ะ นึกว่านวดน้ำมันอยู่ 555
เสร็จเรียบร้อย พยาบาลก็เช็ดทำความสะอาด บริเวณที่เปื้อนเจลให้ แล้วให้เราไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดิม
นั่งรอ ผล อัลตร้าซาวด์ประมาณ 15 นาที
คุณหมอผู้ชายคนแรกก็เรียกเข้าไปในห้องตรวจเพื่ออ่านผลให้ฟัง
คุณหมอแจ้งว่า ตรงที่เจ็บนั้นมีก้อนเนื้อ ขนาดราวๆ 2 cm และมีอีกก้อน ข้างซ้ายเหมือนกัน แต่ขนาดเล็กมาก 0.4cm ส่วนข้างขวานั้น มีถุงน้ำเล็กๆ อยู่หลายอันเลย (แอบตกใจ ที่มันเยอะแยะไปหมด)
หมอแจ้งว่า อันที่เจ็บเนี่ย มันใหญ่นะ ต้องผ่าออก
แต่ถามเราว่าจะลองเจาะชิ้นเนื้อออกมาตรวจก่อนมั้ย
ว่าเป็นเนื้อดี หรือไม่ดี แต่ดีไม่ดียังไงหมอก็แนะนำให้ผ่าออก เนื่องด้วยเพราะเราเจ็บมาก
เราเลยถามหมอว่า ถ้าแบบนั้นเราผ่าเลยได้มั้ยคะ
แล้วค่อยเอาชิ้นเนื้อที่ผ่าออกมาไปตรวจ จะได้เจ็บทีเดียว หมอบอกว่า โอเค ได้ แต่มีข้อแม้ว่า ถ้าเกิดผลตรวจออกมาแล้ว เป็นมะเร็ง ต้องมาผ่าตัดใหญ่อีกครั้งนึงนะ เราก็พยักหน้างึกๆ ว่าค่ะ
แล้วหมอก็ถามอีกว่า จะเลือกผ่าแบบไหน
1.แบบฉีดยาชา ไม่ต้องสลบ ไม่ต้องนอน รพ ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ค่าใช้จ่ายถูกกว่า
2.แบบวางยาสลบ ต้องนอน รพ. ค่าใช้จ่ายแพงกว่าแบบ 1 มาก
เราเลยถามหมอกลับว่าหมอแนะนำแบบไหนคะ?
หมอบอกแนะนำแบบวางยาสลบนะ หมอทำงานง่าย คนไข้ไม่เจ็บ และไม่เครียด เพราะไม่รับรู้อะไร ระหว่างผ่าตัด
เราเลยเลือกแบบวางยาสลบค่ะ
นัดวันผ่าตัด ในวันนั้นเลย เราเลือก อีก 2 สัปดาห์ค่ะ
เป็นวันที่ 2 พค
ระหว่างนั้นก็บอกที่บ้าน
และเพื่อนๆใกล้ตัว ลางาน บลาๆๆ เตรียมความพร้อม
ต้องบอกเลยว่าเราไม่มีความกังวลใดๆเลย เพราะอยากเอาเจ้าก้อนมันออกไปเร็วๆแล้ว
วันที่ 2 พค หมอลงเวลา ผ่าตัดไว้ 17.30 น.
หมอสั่งงดน้ำงดอาหาร 8 ชม.
เลยได้กินข้าวเช้าไปตอน 9 โมงเช้า
เราไปถึง รพ ที่ศูนย์เต้านมตอน 11 โมง
พยาบาลก็ทำการ วัดไข้วัดความดัน เจาะเลือด
x-ray ปอด
พบคุณหมอคนเดิมอีกครั้ง หมอคลำที่บริเวณก้อนอีกครั้ง แต่หาไม่เจอ!! หมอต้องเปิดดูตำแหน่งก้อนเนื้อจากภาพอัลตร้าซาวด์ แล้วมาคลำดูอีกที ก็เจอ หมอบอกว่า อยู่ลึกมาก เลยคลำยากที่จะเจอ
ดีแล้วนะที่วางยา ไม่งั้นอาจจะเจ็บได้ถ้าฉีดยาชา แล้วชาไม่ถึง
นั่นนี่นี่นั่น เรียบร้อยประมาน 12.30
พยาบาลก็พาขึ้นห้องพัก admit
พอขึ้นห้องพยาบาลก็ให้เปลี่ยนเป็นชุดเตรียมเข้าผ่าตัดทันที นอนรอ จน 16.30 พยาบาลห้องผ่าตัดก็มารับไปห้องผ่าตัด
นอนรอบนเตียงผ่าตัด อยู่ในห้องเตรียมความพร้อม
วิสัญญีแพทย์ก็เข้ามาอธิบายต่างๆนานา
สักครู่หนึ่ง พยาบาลก็มาเข็นไปเข้าห้องผ่าตัด
บรรยายกาศก็เหมือนในซีรีย์ฝรั่งเลยค่ะ
ไฟดวงใหญ่ พยาบาลเยอะแยะ วุ่นวายเตรียมความพร้อมอยู่
มีเสียงหมอคนเดิม เดินเข้ามา สวัสดีค้าบบบบบ
เราก็สวีสดีค่าาาาาาา
มีเสียงผู้หญิง พูดว่า จะแสบแขนหน่อยนะคะ
(เค้าฉีดบางอย่างทางสายน้ำเกลือให้เราค่ะ)
พร้อมกันนั้นมี หน้ากากสีดำๆ ครอบหน้าเราทันที
ได้ยินเสียง หายใจลึกๆจ้า
ยังไม่ทันจะหายใจสุด ก็วาร์ป เลยจ้า ดับสนิท
ตื่นลืมตามาอีกที ได้ยินเสียงพยาบาลคุยกัน
พยายามลืมตา แต่ตาเบลอมาก มองอะไรไม่ชัด
เลยคิดว่านอนต่อดีกว่า 5555
นอนไปซักพัก ไม่รู้นานแค่ไหน พยาบาลก็มาบอกว่าจะพาไปส่งที่ห้องนะคะ แล้วให้เรานอนหลับตา ไปถคงห้องพักเลย
ลืมตามาอีกที อยู่ที่ห้องพักแล้ว
แล้วสายตาก็กลับมาชัดเจนแล้ว เย่ ญาติๆเต็มห้องเลย
คำแรกที่พูดคือ หิววววว
พยาบาลยกข้าวต้มมาให้พอดีค่ะ
กินๆๆๆๆๆๆๆ กินได้เยอะมากกกกก
ก่อนหน้าเข้าห้องผ่าตัดพยาบาลแจ้งว่า
หลังฟื้นจะขมคอ อาเจียนกินไม่ลง บลาๆๆๆ
แต่เราไม่มีอาการเลยค่าา กินๆๆๆ เยอะมากกก
กินจนลืมไปเลยว่าเคยผ่าตัด 555555
พออิ่มก็นึกขึ้นได้ว่า เออ ไม่เจ็บแผลเลยแฮะ
ไม่เจ็บจริงๆอ่ะค่ะ ตอนแรกคิดว่ายายังไม่หมดฤทธิ์รึปล่าว แต่จริงๆ แล้วปล่าวเลยค่ะ คุณหมอเก่งมาก เราไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย
นอน รพ. 1 คืน ช่วงสายๆของวันที่ 3 พค ก็กลับบ้านค่ะ
หมอนัดเปิดแผล และ ฟังผลชิ้นเนื้อ วันจันทร์ที่ 8 พค
ข่าวดีค่ะ เป็นก้อนเนื้อธรรมดา ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนแผลก็ดูดีมากๆ หมอให้ปิดแผลอีก 2 วัน ก็เปิดแผลแล้วใช้ชีวิตตามปกติได้เลยค่ะ
จบแล้วค่ะ พยายามเล่าให้ละเอียดเท่าที่จำได้
หวังว่า ประสบการณ์ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
ปล.ค่าใช้จ่าย วันผ่าตัด 10X,XXX บาทค่ะ
ประกันคุ้มครองทั้งหมด ค่อยยังชั่ว
ไม่งั้นเราหน้ามืดแน่ๆเลยค่ะงานนี้
ปล2.ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ