เรื่องมีอยู่ว่าเราได้ไปทำผมที่ร้านนึง ย่านสาธุประดิษฐ์ เรากะว่าจะไปดัดวอลลุ่ม ตอนแรกได้ส่งสภาพผมทั้งหัวให้ทางร้านดูในเฟสแล้ว แล้วทางร้านก็บอกให้เข้าไปเช็คสภาพผม ซึ่งเราต่อผมอยู่แต่ก่อนเข้าไปที่ร้านเราได้แกะผมต่อออก แล้วไม่ได้สระผม เพราะช่างบอกว่าให้ไปสระที่ร้านจะได้เช็คสภาพผมด้วย พอเราไปถึงเค้าก็สระผมให้เรา พอสระเสร็จเค้าก็เดินมาเช็คสภาพผม ซึ่งตอนแรกเค้าก็บอกว่าผมเราไม่สามารถดัดวอลลุ่มได้ เพราะผมเสีย และทำสี เราก็ไม่อะไร เฉยๆ ต่อมาช่างถามว่าผมเราเคย ฟอก เคยยืด ไหม เราก็บอก 3 เดือนที่ผ่านมาเราทำสีอย่างเดียว แต่ช่างบอกว่ามันไม่ใช่แค่ทำสี มันคือฟอก คือเราไม่ได้ฟอกค่ะ เพราะเราทำกับคนรู้จัก เค้าก็เถียงเราว่าเค้ารู้ เราก็เฉยๆไป ช่างเลยบอกว่าเค้าทำได้แค่ตัดให้มันดูดีได้ เราอยากได้ผมพองๆให้มันมีวอลลุ่ม เพราะผมเราฟู เค้าก็ถามอีกว่าบ้านเรามีไดร์เป่าผมแบบไหน เราก็บอกว่า เป็นไดร์ธรรมดาอันเล็ก ช่างก็บอกมาว่า ไดร์แบบนั้นเป่าเมื่อไหร่จะแห้ง ไปซื้อซะนะ อันใหญ่ ราคาไม่แพงหรอก เราก็ตอบค่ะๆ จุดพีคที่ทำให้เราไม่พอใจก็คือ พอช่างเริ่มตัด เค้าก็เริ่มวิจารณ์หัวเราว่า เนี่ยเป็นผมที่แย่ที่สุดที่เคยเจอเลยนะ ไม่เคยเจอใครที่ผมแย่กว่านี้มาก่อน และก็บอกอีกว่า ถ้าตัดสั้นกว่านี้ก็จินตหราเลยนะ คือเค้าตัดไปเค้าก็วิจารณ์ไปเรื่อยๆ ในใจนี่ทนไม่ไหวอยากจะลุกมามาก แต่ติดที่ยังตัดไม่เสร็จ และอีกอย่างคือตอนที่เค้าพาเราไปสระผมตอนแรก เค้าสระสองรอบแบบไม่ลงครีมนวด แล้วมาเช็คสภาพผม พอดัดวอลลุ่มไม่ได้ เค้าน่าจะให้กลับไปใส่ครีมนวดอีกรอบ แต่นี่ไม่มีค่ะ ตัดเลย ผมก็จะออกมาหยาบๆหน่อย ถามว่า 350 สระ ซอย แบบนี้แพงไหม สำหรับเราไม่แพงหรอกค่ะ แต่การเป็นช่างก็เข้าใจค่ะว่าเราสามารถพูดถึงเรื่องผมของลูกค้าได้ แต่ควรใช้คำพูดดีๆค่ะ ไม่ใช่มาใช้คำพูดให้ลูกค้าเสียความรู้สึกได้ จะเข้าร้านนี้เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายค่ะ ตัดร้านอื่น เข้าร้านอื่น ยังมีมารยาทดีกว่านี้อีกค่ะ
ช่างทำผมควรมีมารยาทมากกว่านี้