▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
Backpack
เที่ยวต่างประเทศ
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
บันทึกนักเดินทาง
[CR] 15 วันลุยเดี่ยวเที่ยว ( เกือบ )ทั่ว สวิส ตอน 2
วันนี้เหมือนกันทุกวัน ตื่นมาอากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับยังมีฝนตกเล็กน้อย แต่ว่าในทริปนี้ฝนตกเกือบทุกวันอยู่แล้วครับ ลองขึ้นไปเสี่ยงดูครับว่าข้างบนฟ้าจะเปิดหรือไม่ เช่นเคยมาเริ่มต้นที่ สถานีรถไฟ Lauterbrunnen ขึ้นเคเบิ้นคาร์ ขึ้นรถไฟ ( เปิด App Sbb ดูเส้นทางได้เลยครับ ) ในที่สุดก็มาถึงเคเบิ้นคาร์เพื่อจะขึ้นยอดเขา Schilthorn ก่อนอื่นมาดู เว็บแคม ปรากฎว่าอากาศข้างบนเปิดครับผม ใช้ สวิสพาส ลดค่าขึ้นได้ ครึ่งราคาครับผม
ยอดเขา Schilthorn
ได้เวลาต้องลงกันแล้วครับเพราะที่ต่อไปเราจะเทรคกิ้ง ตามฉบับคนสวิส จาก Murren ไป Gimmelwald ประเทศสวิสถือว่าเป็น สวรรค์ของคนชอบ เทรคกิ้งครับผม
เส้นทาง Murren ไป Gimmelwald
วันที่ 9 Oeschinensee
วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศมาขึ้นเขาชม ทะเลสาบกันครับ ( ทุกวันก็ขึ้นแต่เขา อะ ) โดยเริ่มต้นจากที่พัก Interlaken ไปเปลี่ยนรถที่ สถานีรถไฟ Spiez ที่สถานี Spiez ถ้ามีเวลาพอขอให้เดินย้อนมาด้านหลังของสถานี คุณจะได้เห็นวิวที่สวยงาม ของตัวเมือง Spiez เสียดายที่เวลาไม่พอมิฉะนั้นจะลงให้ถึงตัวโบสถ์ของเมือง Spiez เลยครับ
Spiez
หลังจากนั้นขึ้นรถจากสถานีรถไฟ spiez เพื่อไปลงที่สถานนี Kandersteg ต่อจากนั้นก็เดินอีกประมาณ 2 กม ก็จะถึงสถานีขึ้นกระเช้าเพื่อที่จะไป ทะเลสาบ Oeschinensee ครับ
เส้นทางเดินเท้าไป สถานีกระเช้าขึ้นทะเลสาบ Oeschinsee
เมื่อมาถึงยอดเขา ที่จะไปทะเลสาบ Oeschinsee จะต้องเดินไปต่ออีกประมาณ 3 กม. แต่ถ้าใครไม่อยากจะเดินมีรถบริการ ค่าโดยสารหลักร้อยอยู่ครับ เดินเถอะครับเพราะวิวข้างทางสวยมากครับ
จบทริปไปอีกวันครับผม
วันที่ 10 Bern - lucern
วันนี้จัดเที่ยวข้ามเมือง แต่ไม่ไกลกันมากครับผม เพราะผมพักที่แถว Interlaken ซึ่งจะอยู่กลางๆของสวิสไปเหนือ ออก ตก ก็ไม่ไกลต้นทางเริ่มจาก Interlaken ปลายทาง Bern ใช้เวลาในการเดินทาง 50 นาทีรถไฟก็เทียบชานชาลา เมือง Bern ที่เที่ยวก็อยู่ใกล้ๆกันครับสามารถเดินเที่ยวได้เลยครับผม
ต่อจากนั้นก็ไปต่อที่ Lucern โดยขึ้นรถจาก เมือง Bern ใช้เวลา 1.30 ชม ครับผม ก็มาถึงเมือง Lucern เช่นเดิมอีกเมื่อลงจากสถานีรถไฟ ถ้าเพื่อนๆ จะขึ้นเรือล่องทะเลสาบเพื่อที่จะขึ้นเขา Rigi ก็ทำได้เลยครับ เพราะท่าเรือจะจอดรอ อยู่หน้าสถานีรถไฟ Lucern ครับผม เพียงยื่น swiss pass ก็ขึ้นฟรีได้เลยครับผม แต่ผมขอเที่ยวในตัวเมือง Lucern ก่อนครับแล้วบ่ายๆค่อยล่องเรือเพื่อที่จะขึ้นเขา Rigi ต่อไปครับ
สะพานไม้ Chapel bridge
อนุสาวรีย์สิงโตร้องไห้ Dying lion of Lucerne Monument
มองดูเวลาถึงรอบเรือที่จะล่องเพื่อขึ้นเขา Rigi แล้วครับผม
ใช้เวลา ชั่วโมงนิดๆ เรือก็มาจอดที่ท่าเรือเพื่อส่งผู้โดยสารไปยังรถไฟที่จอดไว้เพื่อที่จะพาขึ้นยอดเขา Rigi ครับ
วันที่ 11 Interlaken – Locarno
วันนี้นั่งรถไฟยิงยาวไป เปลี่ยนขบวนกันเยอะเอาการอยู่ครับ ใช้เวลาร่วมๆ เกือบ 5 ชม ออกจาก intrlaken ช่วงสายๆ ก็มาถึง Locarno ซึ่งจะอยู่ใกล้กับชายแดนประเทศ อิตาลี ก็ตอนเย็นแล้วครับผม หลังจากนั้นเข้า รร เก็บกระเป๋าก็ต่อรถบัสเพื่อที่จะไปชมทะเลสาบตอนเย็นๆแถว Ascona
วันนี้คงเที่ยวได้แค่ที่เดียวครับเพราะกว่าจะถึง Locarno ก็เย็นๆแล้วครับผม
วันที่ 12 Verzasca Valley
วันท้ายๆของการเที่ยวขอเที่ยวแบบช้าๆ ให้ความรู้สึกไหลไปกับธรรมชาติหน่อยครับผม เพราะก่อนหน้านี้ถือว่าในแต่ละวันเที่ยวหนักมากครับผม เส้นทางที่จะไป Verzasca Vallery ให้เริ่มต้นที่ สถานีรถไฟ Locarno โดยจะเห็นรถบัสคันสีเหลืองจอดอยู่ติดกับสถานีรถไฟเลยครับให้ขึ้นรถบัสหมายเลข 321 สวิสพาสขึ้นฟรีครับ แล้วนั่งรถบัสยาวไปใช้เวลาไม่ถึง ชม ให้ลงที่ป้าย Lavertezzo Paese ลงปุ๊บ ก็เดินเที่ยวได้เลยครับผม
อยู่ที่นี้นานมากครับผม บรรยากาศดีมาก แม่น้ำ ป่าไม้ มีทางให้เดินเลาะริมน้ำ ริมเขา สมแล้วที่เป็นประเทศที่เป็น สวรรค์ของคนรัก เทรคกิ้ง
วันที่ 13 Morcote ( เป็นหมู่บ้านที่เคยถูกโหวตให้เป็นหมู่บ้านที่งดงามที่สุดของสวิส )
เริ่มต้นเส้นทางที่ Locarno ปลายทาง Motcote ต่อรถไฟต่อรถบัสใช้เวลา 1.30 ชม ก็มาถึง Motcote ครับผม
มาขอบชายแดนสวิส อิตาลีต้องลองชิม Pizza ครับทางร้านบอกว่าอร่อยสุดในย่านนี้ครับ
วันที่ 14 Appenzell – Aescher Hotel – seealpsee lake
วันท้ายๆ ของการเที่ยวจะนั่งรถไฟไปแต่ละที่นานมากครับผมอย่างวันนี้กว่าจะถึง Appenzell ก็เกือบ 4 ชม มาถึง Appenzell ก็เที่ยงแล้วครับ คืนนี้ที่พักจะเป็นบ้านซึ่ง เจ้าของบ้านแบ่งห้องไว้บริการซึ่งเป็นคุณป้าวัย เกษียณ ตลอดทริปผมชอบที่พักที่นี้มาก มันเป็นหมู่บ้านชนบทแบบบ้านนอกมีทุ่งหญ้ามีคนรีดนมวัว มีคนต้อนวัวไปกินหญ้า มีแม่น้ำสายเล็กๆขนาบข้างถนน ซึ่งเป็นแม่น้ำที่เกิดจากหิมะละลาย ไม่ต้องพูดถึงความใสความสะอาดครับผม
ต่อจากนั้นก็จับรถไฟเรามีนัดกันเพื่อที่จะขึ้นเขาไป Aescher Hotel – Seealpsee เช่นเคยนั่งรถไฟไปลงที่สถานี wasserauen สถานีขึ้นกระเช้าอยู่ตรงกันข้ามกับสถานีรถไฟเลยครับผม
Aescher Hotel
Seealpsee
หลังจากนั้นก็ได้เวลาต้องเดินลงเนินลงเขาอีกแล้วเพื่อจะมาให้ทันรถไฟกลับ appenzell แต่วิวข้างทางนิซิสวยมากๆครับผม
จบทริปอีกวันครับผม
แล้วค่อยต่อภาค 3 ภาคจบนะครับผม